2024 ช่างเป็นปีที่หนังไทย ‘ทะเยอทะยาน’ เสียจริงๆ

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คำว่า ‘ทะเยอทะยาน’ ให้ความหมายในเชิงลบ ทั้งที่ความหมายตามพจนานุกรมของมันคือ ‘ก. อยากมีฐานะหรือภาวะสูงกว่าดีกว่าที่เป็นอยู่.’

เรื่องนี้จะโยงแนบชิด เป็นเนื้อเดียวกันกับภาวะสั่งสอนให้คนตัวเล็กตัวน้อยเจียมเนื้อเจียมตัว อยู่อย่างเท่าที่มีของสังคมไทยหรือเปล่าก็ตอบยาก แต่ดูเหมือนในหลายบริบท คำว่าทะเยอทะยานดูไม่เป็นที่ปรารถนาในบทสนทนานัก และนัยยะ น้ำเสียงที่ว่านี้ก็ปรากฏตัวขึ้นชัดเจนแทบทุกครั้งในอุตสาหกรรมหนังไทย เวลาที่ใครสักคนพูดว่าอยากเข็นหนังไปให้ถึงเวทีรางวัลใหญ่ๆ ของต่างประเทศ, อยากให้หนังทำเงินให้ได้หลายร้อยล้าน หรือเอาง่ายๆ แค่ว่าอยากทำหนังกู้ศรัทธาคนดูต่อหนังไทย ก็โดนแขวนป้ายกลายเป็นพวกผู้กำกับเพ้อเจ้อ ไม่รู้จักมองความจริงเสียบ้าง ฯลฯ

แต่พูดก็พูด 2024 เป็นปีที่หนังไทย ‘ทะเยอทะยาน’ ในความหมายตามพจนานุกรมทุกประการ กล่าวคือมันมีลักษณะของการอยากไปให้ไกล ให้สูงและให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ มีทั้งหนังที่ฝันใหญ่ หนังที่เต็มไปด้วยลูกบ้า หนังที่พูดประเด็นแหลมคมของสังคม และหนังที่ไปไกลจนเข้ารอบลึกของเวทีใหญ่จากตะวันตกซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยและโดยง่ายนัก -และอะไรแบบนี้ เชื้อเพลิงมันก็มีรากมาจากการหวังอยากจะ ‘ไปให้ไกล’ กว่าที่เป็นอยู่ทั้งนั้น

‘ตาคลี เจเนซิส’ (2024)

‘ตาคลี เจเนซิส’ (2024) น่าจะเป็นหนังไทยประจำปีนี้ที่ถูกแปะป้าย -ไม่ว่าจะด้วยน้ำเสียงแบบไหน- ว่าเป็นหนังที่ ‘ทะเยอทะยาน’ อย่างที่สุด ด้วยการทำหนังไซ-ไฟที่ว่าด้วยการเดินทางข้ามเวลาของตัวละครหลัก ไปยังอดีตเก่าแก่และล่มสลายรวมทั้งโลกอนาคตผุกร่อน ตลอดจนไปเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดไร้ชื่อที่พังเมืองราบเป็นหน้ากลอง

พูดอย่างรวบรัดที่สุด มันเป็นหนังแบบที่หน้าตา ‘ไม่ถูกโรค’ กับคนดูชาวไทยเอาเสียเลย ไล่มาตั้งแต่การเป็นหนังไซ-ไฟอันเป็นฌ็องที่ไกลจากความคุ้นเคยในอุตสาหกรรมหนังไทย, การใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกสร้างฉากกับตัวละคร หรือกระทั่งเส้นเรื่องที่โยงใยกับการข้ามเวลาหรือปริศนาจากนอกโลก 

ทะเยอทะยานไหม ทะเยอทะยานแน่ แต่สิ่งที่ชวนเจ็บใจที่สุดคือการวิพากษ์วิจารณ์หนังตั้งแต่ยังไม่ออกฉาย -อันที่จริงตั้งแต่ปล่อยแค่ตัวอย่างหนัง- มันก็ถูกแขวนป้ายว่าเป็นหนัง ‘ทะเยอทะยาน คิดใหญ่ ไม่เจียมตัว’ โดยที่ยังไม่มีแม้แต่โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองต่อสายตาคนดู หนักหนาไปกว่านั้น แค่ผู้กำกับให้สัมภาษณ์ฝันใฝ่ถึงการทำหนังภาคต่อ ซึ่งปรากฏในลักษณะมองโลกตามความจริงเสียด้วยซ้ำว่า “คงต้องรอผลตอบรับมาก่อน” กลับถูกหลายคนแสดงความเห็นถากถางให้เอาภาคแรกให้รอดก่อน, น่าหมั่นไส้ หรือกระทั่งตรงไปตรงมาว่าไม่เจียมตัวเอาเสียเลย

การแสดงความเห็นต่อหนังโดยที่ยังไม่ได้ดูก็เรื่องหนึ่ง แต่การตัดสินมันก่อนหน้าที่มันจะได้พิสูจน์ตัวเองด้วยการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์นี่ก็ถือเป็นเรื่องยากจะทำความเข้าใจ และก็อย่างที่เรารู้กันดีและพูดประเด็นนี้กันมาโดยตลอดว่า ระบบการฉายหนังของโรงภาพยนตร์ไทยนั้น ‘ใจแคบ’ แทบไม่เปิดโอกาสให้หนังได้ยืนโรงหรือได้หายใจหายคอบ้าง บ่อยครั้งมันถูกเบียดโดยหนังบล็อคบัสเตอร์ หรืออย่างบางกรณี -ก็อาจจะเป็นหนังในเครือของโรงฉายเองที่บ่อยครั้งก็เห็นกันคาตาว่าให้หนังเรื่องไหนได้รอบฉายและยืนระยะนานกว่าปกติ

หากพูดให้ไกลกว่านั้น ด้วยระบบที่ไม่เอื้อให้ความหลากหลายได้เติบโตเช่นนี้ หนังเล็กหนังน้อยทั้งหลายจึงแทบไม่ได้โผล่พ้นน่านน้ำขึ้นมาหายใจหายคอได้เลย 

‘ก๋วยเตี๋ยวเย็น’ (2024)

แต่ทั้งอย่างนั้น ในทะเลเดือดที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่พร้อมทำให้การทำหนังกลายเป็นฝันร้ายทางอาชีพ และในหลายๆ กรณีก็อาจหมายถึงฝันร้ายทางชีวิตของคนทำหนัง ปีนี้เราก็ได้เห็นหนังไทยฟอร์มเล็กเข้าฉายโรงอยู่หลายเรื่อง ที่สร้างปรากฏการณ์พูดถึงแบบปากต่อปากแม้จะไม่ได้ยืนโรงนานนักคือ ‘ตำรวจแต่ง กำเนิดผู้พิทักษ์สันติหลุด’ (2024) หนังเรื่องแรกของ ณัฐพร เพริศแก้ว อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหนังว่าด้วยตำรวจ (กับฉากแอ็กชันเปิดเรื่องที่โครมครามระห่ำแบบลืมไม่ได้) เมื่อสังคมมอมเมา เยาวชนติดยา กลุ่มวัยรุ่นไทบ้านจึงรวมตัวกันเปิดบริษัทตำรวจเอกชนขึ้นมาเพื่อปราบยาเสพติดในหมู่บ้านให้หมดไป พร้อมกับก็ต้องเผชิญปัญหาหัวใจระหว่างเมียรักกับไอ้หนุ่มส่งยา และเหล่าตำรวจที่ทั้งเสพทั้งค้าเสียเอง

ยังมี ‘ก๋วยเตี๋ยวเย็น’ (2024) ของ ธีรภัทร กองรัตน์ ที่เข้าฉายระบบเหมาโรงเหมารอบวันเดียวเมื่อเดือนกรกฎาคม ว่าด้วยหัวหน้านักเลงที่อยากกินก๋วยเตี๋ยว แต่ลูกน้องดันไปก่อเรื่องยิงคนตายในงานแต่งแฟนเก่า เรื่องราววุ่นวายทำให้ทุกคนต้องหาทางช่วยกันแก้ปัญหาจนก๋วยเตี๋ยวเย็น (ฮือ) ซึ่งนี่น่าจะเป็นหนังที่บันทึกคำหยาบไว้มากที่สุดเรื่องหนึ่งของประวัติศาสตร์หนังไทย (สมมติเราออกกฎว่า ให้ดื่มเหล้าทุกครั้งที่ตัวละครสบถ น่าจะมีคนเมาพับตั้งแต่สิบห้านาทีแรกของหนัง -ผู้เขียนเป็นต้น)

แน่นอนว่าหนังเล็กๆ เหล่านี้มีแผล ว่าไปแผลก็ใหญ่โตเทอะทะจนจะหลับตาทำเป็นมองไม่เห็นก็ไม่ได้ ไม่ว่าจะชั้นเชิงการกำกับ การแสดง หรือกระทั่ง ‘สายตา’ ในการเล่าหนัง ทั้งในแง่การฉายภาพตำรวจน้ำดีที่ยึดโยงกับความผ่องแผ้วบางอย่าง หรือการถ่ายฉากลองเทคแล้วนักแสดงหันมาสบตากล้อง (!!) แต่ใครจะปฏิเสธได้ว่าการทำหนังทั้งเรื่อง -เขียนบท, แสดง, ตัดต่อ, เกรดสี ฯลฯ- จนเข็นออกมาฉายโรง นอกจากแรงกายแล้วมันก็อาศัยแรงจากหัวใจกันทั้งนั้น และมันก็มาพร้อมสายตาของการทำหนังบางอย่าง ทั้งฉากเปิดเรื่องสุดอลังการของ ‘ตำรวจแต่ง’ ที่เป็นผลลัพธ์ของการคิดและออกแบบฉากกันมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งอย่างปฏิเสธไม่ได้ รวมทั้งหลายๆ ฉากของ ‘ก๋วยเตี๋ยวเย็น’ ที่เห็นได้ชัดว่าได้อิทธิพลมาจากหนังธริลเลอร์ยุค 80s

หนังที่มีบาดแผล ทว่าเต็มไปด้วยลูกบ้ากับกำปั้นลุ่นๆ เหล่านี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่ายกย่อง มันมีสปิริต มีท่าทีใหม่ๆ มีลูกล่อลูกชนและการทดลองที่เราอาจหาไม่เจอในหนังจากผู้กำกับที่เชี่ยวชาญสนามดีแล้ว และอะไรแบบนี้มันก็มีต้นธารมาจาก ‘ความทะเยอทะยาน’ ทั้งนั้น

ในปีเดียวกันนี้ เราก็มีหนังทำเงินอย่าง ‘ธี่หยด 2’ (2024) ที่กวาดรายได้ไป 284 ล้านบาท นับว่าน่าสนใจในแง่ว่ามันเป็นหนังภาคต่อที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้ภาคก่อนหน้าซึ่งออกฉายเมื่อปี 2023 และอาจพินิจได้ว่ามันเป็นหนังเฮอร์เรอร์ที่จับจุดได้ว่าคนดูอยากดูอะไร หนังก็พร้อม ‘เสิร์ฟ’ ให้ถึงที่ ไม่ว่าจะเรื่องราวการปราบผีที่จริงๆ อาจเป็นการที่คนตัวเป็นๆ สาวหมัดใส่ผีร้ายแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม, การผจญภัยในแดนลี้ลับเหมือนตำนานเรื่องเล่าที่หลายคนโตมาด้วย หรือการที่มันเป็นหนังกึ่งแอ็กชันเพราะคนไม่ยอมเป็นเหยื่อผีอีกต่อไป

ขณะที่ ‘วัยหนุ่ม 2544’ (2024) ที่เข้าฉายช่วงปลายปีก็ทำรายได้เข้าเป้า ทั้งมันยังเป็นหนังยาวลำดับที่สามของ พุฒิพงษ์ นาคทอง กับลายเซ็นการเล่าเรื่องอาชญากรรมและคนชายขอบในแบบของเขา รวมทั้งฉายภาพวัฒนธรรมคนคุกที่เรื่อเรืองขึ้นมาในหมู่วัฒนธรรมกระแสหลัก 

‘หลานม่า’ (2024)

ที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้คือการที่ ‘หลานม่า’ (2024) หนังยาวเรื่องแรกของ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ คว้ารายได้จากการฉายทั่วโลกไปแล้วกว่า 1,925 ล้านบาท ทำลายยอดเก่าที่ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ (2017) เคยทำไว้ และตัวหนังยังไปได้ไกลขนาดสร้างปรากฏการณ์เข้ารอบชิงรางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมรอบ 15 เรื่องสุดท้ายของเวทีออสการ์ ขณะที่โจทย์ใหญ่คือการเข้ารอบ 5 เรื่องสุดท้ายเพื่อจะได้ถูกคัดเลือกให้ได้รับรางวัลในเดือนมีนาคม 2025 ว่าไปมันก็มีลักษณะคล้ายการสร้าง ‘แคมเปญ’ เช่นกัน เพราะขณะที่สื่อตะวันตกและสื่อโลกเริ่มให้ความสนใจหนังที่เข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้ายและทยอยเขียนถึงตีพิมพ์จนเป็นกระแส อีกด้าน มันย่อมต้องอาศัยแรงผลักดันจาก ‘ในบ้าน’ ผ่านรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้เกิดการสัมภาษณ์บนหน้าสื่อใหญ่ หรือฉายรอบพิเศษต่างประเทศเพื่อโหมกระแสโค้งสุดท้าย ซึ่งก็นับเป็นเรื่องน่าจับตา เพราะสื่อหลายแห่งเริ่มพูดถึง ‘หลานม่า’ ในฐานะหนังเรื่องแรกจากประเทศไทยที่อาจมีสิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายของสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม และหากพูดกันต่อในระดับสากล มันยังเป็นปีที่ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง คว้ารางวัลนำหญิงยอดเยี่ยมของเวทีเอ็มมีจากเรื่อง Hunger (2023) อีกด้วย

พร้อมกันนี้ มันก็เป็นขวบปีที่ ‘คนกราบหมา’ (1997) หนังที่ถูกแบนร่วมสองทศวรรษของ สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ได้ฉายในโรงภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ภายหลังตัวหนังเคยถูกกองเซ็นเซอร์สั่งห้ามฉายในราชอาณาจักรด้วยเหตุว่าเป็นหนังที่ดูหมิ่นศาสนาพุทธ และต้องใช้เวลาต่อสู้นานถึง 25 ปีกว่าที่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงผลการตัดสินของกองเซ็นเซอร์ในอดีต ให้ ‘คนกราบหมา’ ได้เข้าฉายโรงได้ภายใต้เรตติ้ง 15+ ว่าไป มันก็อาจเป็นอีกรูปลักษณ์หนึ่งของความทะเยอทะยานของคนทำหนังตัวเล็กๆ ในการตัดสินใจทำหนังและกัดฟันสู้ยิบตาเพื่อให้มันมีสิทธิ์ได้ฉายโรงอย่างที่มันควรจะเป็น

และในปีนี้ ก็เป็นปีที่เทศกาลภาพยนตร์ไต้หวันและเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ หรือ World Film Festival of Bangkok หวนกลับมาจัดเป็นครั้งที่ 16 ที่มองจากภาพใหญ่ เทศกาลหนังได้ทำหน้าที่เชื่อมร้อยคนดู, ผู้กำกับและทีมงานต่างๆ เข้าด้วยกัน และเปิดพรมแดนใหม่ๆ ของการดูหนังด้วยการไปเยือนหนังโลกนอกกระแสที่อาจไม่มีโอกาสได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ระบบปกติบ้านเรา

เหนือสิ่งอื่นใด มันยังเป็นภาพสะท้อนสำคัญที่บอกเล่า -และช่วยผลักดัน- วัฒนธรรมการดูหนังของประเทศนั้นๆ ด้วย

Doc Club & Pub.

แม้ที่สุดแล้ว เราอาจจะมีข่าวคราวที่ชวนใจหายในแวดวงภาพยนตร์ส่งท้ายปี อย่างการประกาศยุติการให้บริการฉายภาพยนตร์จาก Doc Club & Pub. เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ด้วยเงื่อนไขเรื่อง ‘ขาดการอนุญาตเป็นโรงมหรสพ’ ที่ด้านหนึ่ง เราก็อาจพินิจได้ว่ามันอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราต้องหวนกลับมาพิจารณากฎหมายการบังคับใช้ตัวอาคาร และนิยามของการเป็นโรงมหรสพ ในยุคสมัยที่การจัดฉายหนังอาจไม่ต้องขึ้นอยู่กับโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่เป็นสำคัญ นำไปสู่การลงเรี่ยวลงแรง ลงไม้ลงมือเพื่อผลักดันข้อกฎหมายให้เหมาะสมกับยุคสมัยต่อไปในอนาคต

‘ทะเยอทะยาน’ อาจเป็นคำใหญ่ที่ให้ภาพบรรยากาศของอุตสาหกรรมหนังไทยในปีนี้ค่อนข้างชัด แต่ละเอียดไปกว่านั้น ใช่หรือไม่ว่าในคำนี้มันยังแฝงท่าทีของการฝันใหญ่ การกัดไม่ปล่อยของคนทำหนัง การมีลูกบ้าที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่ด้านหนึ่งมันก็เกี่ยวโยง แนบเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อตัว กับจิตวิญญาณคนทำทั้งนั้น 

ผลลัพธ์จะออกมาถูกใจคนดูหรือไม่มันเรื่องหนึ่ง เอาแค่ว่าเข็นและปั้นออกมาเป็นเนื้อเป็นตัว เป็นหนังหนึ่งเรื่อง กระเสือกกระสนได้ออกฉายในระบบอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่แทบไม่มีพื้นที่ให้หนังเล็กๆ ได้แจ้งเกิด ในสายตาคนดูที่จ้องจับผิดและพร้อมโยนกระสุนใส่หนังไทยและคนทำหนังเสมอ เท่านี้ก็เป็นความทะเยอทะยาน ความบ้าพลังในแบบที่คงไม่ได้มีกันทุกคนแน่ๆ

และไม่ว่าคำว่า ‘ทะเยอทะยาน’ จะถูกหยิบมาใช้ในน้ำเสียงแบบไหน หมุดหมายใด ถึงที่สุดก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการฝันใหญ่ก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะหนังมากต่อมากไม่ว่าจะสัญชาติไหน มันก็ต่อยอด รับไม้ต่อมาจากความบ้าพลัง ทำสิ่งที่ใหญ่เกินตัวของคนทำหนังรุ่นก่อนๆ ทั้งนั้น และมันก็ไม่ควรถูกหรี่แสงลงหรือถูกทำลายด้วยคำปรามาสจากใครทั้งสิ้น

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

26 Mar 2021

ผี เรื่องผี อดีต ความทรงจำและการหลอกหลอนในโรงเรียนผีดุ

เมื่อเรื่องผีๆ ไม่ได้มีแค่ความสยอง! อาทิตย์ ศรีจันทร์ วิเคราะห์พลวัตของเรื่องผีในสังคมไทย ผ่านเรื่องสั้นใน ‘โรงเรียนผีดุ’ วรรณกรรมสยองขวัญเล่มใหม่ของ นทธี ศศิวิมล

อาทิตย์ ศรีจันทร์

26 Mar 2021

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save