โกวิท อัศวนนท์ : นายแพทย์ผู้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ในชีวิตของมนุษย์ คนส่วนใหญ่อาจเห็นความสำเร็จอยู่ที่การได้เป็นบอส ครอบครองทรัพย์สินราคาแพง หรือร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี แต่กับบางคน อาจจะอยู่ที่ความรักความอบอุ่นในครอบครัว ดังเช่นนายแพทย์โกวิท อัศวนนท์ หัวหน้าครอบครัวที่ทำงานเลี้ยงครอบครัวให้มีโอกาสและมีความสุข แม้จะจากไปแล้ว ก็ยังเป็นความทรงจำที่ดีให้ลูกหลานได้ระลึกถึง และที่สำคัญไปกว่านั้น เขายังเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์การเมืองไทย ผ่านการเป็นหลานเขยของรัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ อีกด้วย


โกวิท อัศวนนท์
(24 มีนาคม 2461 – 4 ธันวาคม 2542)


กำเนิด


โกวิท อัศวนนท์ เป็นบุตรของพระยาราชายสาธก (ง่วนสุน) กับคุณหญิงถนอม เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2461 (ปฏิทินเก่า) ณ บ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดสมุทรปราการ สำหรับชื่อ ‘โกวิท’ นั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2464


พระราชทานชื่อ ‘โกวิท’
คุณหญิงราชายสาธก (ถนอม อัศวนนท์)


สำหรับพระยาราชายสาธกมีภริยาหลายคน เป็นต้นว่า กับคุณหญิงฟอง (สกุลเดิม บุนนาค) ผู้เป็นธิดาพระอภัยบริบาล (เปีย) และเป็นหลานเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (แพ) นั้น มีหลวงวรพากษ์พินิจ (วินท์) และหลวงประเจิดอักษรลักษณ์ (สมโภช) เป็นบุตร

ครั้นเมื่อคุณหญิงถนอมถึงแก่กรรมด้วยการคลอดบุตรเมื่อ พ.ศ.2465 (ปฏิทินเก่า) พระยาราชายสาธกก็ได้คุณหญิงถนิม น้องสาวคุณหญิงถนอม มาเป็นภริยาอีกคนหนึ่ง ซึ่งคุณหญิงถนิมก็ได้อุปการะเลี้ยงดูบุตรธิดาของพี่สาวทั้ง 5 คน ตั้งแต่เยาว์วัยจนมีอาชีพที่มั่นคง โดยเฉพาะเมื่อเจ้าคุณราชาถึงแก่อนิจกรรมในปี 2477 แล้ว คุณหญิงถนิมได้สร้างตนเองขึ้นมาจนเป็นปึกแผ่น มีบริษัทก่อสร้างราชา จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ และโรงเลื่อย ที่จังหวัดชลบุรี


ครอบครัวพระยาราชายสาธก เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2471


การศึกษา


โกวิทเรียนประจำที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เมื่อสำเร็จชั้นมัธยม 8 แล้ว คุณหญิงถนิมก็แนะนำให้เขาเรียนแพทย์ จนจบปริญญาแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รุ่น 14 ด้วยเหตุผลว่า เขาเป็นเด็กที่ผอม เรียนหมอจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งโกวิทเองเห็นว่าเรียนอะไรก็ได้ เว้นแต่กฎหมายกับอักษรศาสตร์ เพราะเขาชอบคำนวณกับวิทยาศาสตร์

โกวิทผูกพันกับสถานศึกษามาก ทุกครั้งที่นั่งรถผ่านโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ก็จะให้ลูกกราบพระธรรมนูญ องค์สักการะของโรงเรียนตามที่เขาปฏิบัติ พร้อมสอนว่านี่คือโรงเรียนที่สอนเขามา กับเพื่อนฝูงเองก็ได้พบปะสังสรรค์กันอยู่เสมอ


นักเรียนแพทย์ศิริราช
ยุวชนทหาร พ.ศ.2483


ชีวิตคู่


เมื่อปี 2487 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณหญิงเพ็ง ชัยวิชิตวิศิษฎ์ธรรมธาดา เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช จึงทำให้นายแพทย์หนุ่มได้พบกับหลานยายของคุณหญิง

คุณหญิงเพ็งเป็นมารดาของท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ ภริยาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในขณะนั้น นายแพทย์โกวิทเป็นแพทย์ที่เอาใจใส่คนไข้ สุภาพ และมีมารยาทเรียบร้อย จึงได้ไปมาหาสู่ที่ทำเนียบท่าช้าง ซึ่งทางราชการจัดให้เป็นที่พักของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และ ‘วิสวาท’ หลานน้าของท่านผู้หญิง ก็พักอยู่ที่นั่น จนในที่สุดโกวิทกับวิสวาทได้สมรสกันเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2488 โดยปรีดี พนมยงค์ ประกอบพิธีให้

สำหรับวิสวาทเป็นธิดาของพระอดิศักดิ์อภิรัตน์ (เต็ม สุริยวงศ์ บุนนาค) กับพิศ พี่สาวคนโตของท่านผู้หญิงพูนศุข โดยนัยนี้โกวิทจึงเป็นหลานเขยของปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส


กระดาษในสมุดบันทึกเก่าของโกวิทที่เขียนถึงภริยา

สามีภริยา


เมื่อแต่งงานกันแล้ว โกวิทกับวิสวาทได้มาอยู่ที่บ้านเลขที่ 91 ถนนสุรวงศ์ ตรงข้ามกับบ้านสุริยาศัยของพระอดิศักดิ์อภิรัตน์ เดิมเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ (โต บุนนาค) ได้ให้บ้านทั้งสองหลังนี้เป็นมรดกแก่พระอดิศักดิ์อภิรัตน์ บุตรชาย แต่ต่อมาคุณพระต้องจำนองกับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อนำเงินไปทำเหมืองแร่ ครั้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โกวิทก็ได้ถือสิทธิเข้าจับจอง จนในเวลาต่อมาเมื่อมีตึกสูงมาใกล้บ้านจึงเปลี่ยนมือไป

ปัจจุบันบ้านสุริยาศัยยังคงอยู่ ส่วนบ้านของโกวิท บัดนี้เป็นธนาคารกรุงไทย


บ้านเลขที่ 91 ถนนสุรวงศ์ กรุงเทพฯ


การทำงาน


เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว โกวิทรับราชการเป็นแพทย์ประจำสำนักพระราชวังอยู่ 2 ปี (2488-2490) ตำแหน่งนี้ไม่เคยมีมาก่อน โกวิทได้ถวายการรักษาเจ้านายฝ่ายในหลายพระองค์ และเป็นที่พอพระทัยมาก แต่เมื่อเกิดความผันผวนทางการเมืองในปี 2490 แล้ว โกวิทก็พ้นจากตำแหน่ง

หลังจากนั้นประกอบอาชีพอิสระมาโดยตลอด ได้ร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัทเวชการ จำกัด โพลีคลินิกแห่งแรกของไทย ซึ่งเป็นคลินิกเอกชนรักษาคนไข้ทั่วไป ต่อมาได้รับการแนะนำจากนายแพทย์เฉลิม บูรณะนนท์ จึงได้ไปทำงานเป็นแพทย์ดูแลพนักงานบริษัทเชลล์ จำกัด ประจำที่ห้องพยาบาลของบริษัทวันละ 2 ชั่วโมง เป็นเวลากว่า 30 ปี

โกวิททำงานมาก เช้าและเย็นอยู่ที่คลินิกส่วนตัวข้างวัดไตรมิตร สายบ่ายทำงานที่บริษัทเชลล์ และสหการแพทย์ (ภายหลังย้ายมาสุรวงศ์เวชการ) เวลากลางคืนก็มีคนไข้อาการมากตามไปรักษาที่บ้าน ทั้งนี้เพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงดูและให้การศึกษาบุตรธิดาทั้ง 4 คน คือ พรทิพย์ พิมสวาท อภิรัตน์ และกฤษณ์ จนเมื่อมีอายุมากขึ้นจึงเหลือคงทำที่สุรวงศ์เวชการเพียงแห่งเดียว


บุตรธิดาทั้ง 4 คน


หลานเขยของรัฐบุรุษอาวุโส


กลางปี 2490 เมื่อรัฐบุรุษอาวุโสต้องเดินทางไปประชุมเรื่องดินแดนที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ก็ได้ให้โกวิทติดตามไปด้วยในฐานะแพทย์ประจำตัว

ครั้นเกิดการรัฐประหาร 2490 แล้วปรีดีพยายามกลับมาฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในปี 2492 แต่ประสบความล้มเหลวนั้น ฝ่ายรัฐบาลพยายามจับกุมทำลายล้าง ท่านผู้หญิงพูนศุขได้ขอให้ปรีดีพักที่บ้านถนนสุรวงศ์ของโกวิทอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปแหล่งพักพิงอื่น แม้จะเป็นการเสี่ยงอันตรายมาก แต่ทั้งโกวิทและวิสวาทก็เต็มใจอย่างยิ่ง

เมื่อท่านผู้หญิงพูนศุขถูกจับกุมในคราวกบฏสันติภาพ พ.ศ.2495 โกวิทก็ได้เข้าไปตรวจรักษา ณ ที่คุมขังกองตำรวจสันติบาลปทุมวัน เนื่องจากท่านผู้หญิงพูนศุขป่วยเป็นโรคความดันต่ำและโลหิตจาง ท่านผู้หญิงพูนศุขเขียนถึงเหตุการณ์นี้ไว้ว่า “เป็นความกล้าของหมอโกวิท ที่เปิดเผยว่ามีความสนิทสนมกับข้าพเจ้า เพราะในขณะนั้นบางคนยังไม่กล้าไม่เยี่ยม

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อครอบครัวของปรีดีพำนักในประเทศจีนซึ่งเวลานั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย โกวิทและวิสวาทก็ยังเคยลอบไปเยี่ยมครอบครัวปรีดี ณ เมืองกวางโจว อีกด้วย

หลานของโกวิทบันทึกความผูกพันที่เขามีต่อรัฐบุรุษอาวุโสเอาไว้ว่า “เมื่อเคารพรักคุณทวดปรีดีและคุณทวดพูนศุขเสมือนบุพการี คุณตาจึงให้ความรักลูกๆ ของคุณทวดทั้งสองเสมือนญาติผู้น้อง และเฝ้าดูแลคุณยายลิตา (ลลิตา พนมยงค์) ในยามที่ต้องพรากจากคุณทวดทั้งสอง…เมื่อมีโอกาส คุณตาได้ทำสิ่งที่มีความสุขและสมปรารถนา คือพาลูกของคุณตาทุกคนไปกราบเท้าคุณทวดทั้งสองที่บ้านอองโตนี ประเทศฝรั่งเศส


ที่บ้านอองโตนี ประเทศฝรั่งเศส

(จากซ้าย) วิสวาท อัศวนนท์, พิศ บุนนาค, ปรีดี-พูนศุข พนมยงค์, โกวิท อัศวนนท์


คุณตาที่รักของหลาน

โกวิทถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็งลำไส้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2542 และอุทิศร่างกายให้เป็นประโยชน์ในการศึกษาแก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

นอกจากชีวิตที่สัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยแล้ว โกวิทยังเป็นสามีที่ดีของภริยา เป็นพ่อที่ดีของลูก และเป็นคุณปู่คุณตาที่รักของหลาน โดยเฉพาะหลานตาอย่าง ‘น้ำหวาน’ ที่เขียนบันทึกถึงโกวิทอย่างจับใจว่า

คุณตาขา ตั้งแต่เกิดมา หวานก็เคยมีคุณตาอยู่ด้วยมาตลอด คุณตาเคยเป็นส่วนหนึ่งในทุกช่วงของชีวิตหวาน เมื่อคุณตาจากไป หวานใจหายและเสียใจอย่างที่คนที่ยังไม่เคยเสียคนที่เขารักมากไป จะเข้าใจได้…ถึงแม้คุณตาจะจากไปแล้วเกือบสามปี คุณตายังอยู่กับหวานเสมอ สิ่งที่คุณตาเคยสอน คำพูดที่คุณตามักจะพูด หน้าตาใจดี รอยยิ้มอันนิ่มนวลแต่เยือกเย็นของคุณตา ยังชัดเจนอยู่ในหัวของหลานตลอดเวลา ไม่มีใครจะมาเอาความทรงจำเหล่านี้ไปจากใจของหวานได้…โชคดีได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่กับคุณตา โดยเฉพาะหลานรุ่นโตอย่างหวาน ได้ใช้เวลาอยู่กับคุณตาหลายปี ทำให้มีความทรงจำมากมายให้นึกถึง


น้ำหวานนั่งตักโกวิท คุณหญิงถนิม และวิสวาท ปี 2520


และกล่าวถึงสิ่งสำคัญเอาไว้ว่า “สิ่งสำคัญและดีที่สุดที่คุณตาเคยให้ไว้กับหวาน คือ การดำเนินชีวิตของคุณตาเอง ง่ายๆ คือการเป็นคนดี คิดดี คุณตาพอใจกับสิ่งที่มี ใช้ชีวิตเรียบง่าย จากที่คุณตาเคยบอกและหวานก็ได้เห็นเองนั้น คุณตาเลือกเป็นหมอด้วยเหตุผลสำคัญประการเดียวคือ อยากช่วยคน คุณตาไม่เคยคิดจะร่ำรวยจากการทำอาชีพนี้ แต่คุณตาขยันและประหยัด รักยายมาก และรักครอบครัว จึงทำให้ครอบครัวของคุณตา ถึงแม้ไม่มีเงินเหลือใช้ แต่มีพอ ไม่เคยขาด ลูกทุกคนได้รับโอกาสที่ดีและมีความสุขไม่น้อยหน้าใคร มาถึงรุ่นหลานก็เช่นกัน


ความสุขของชีวิต นอกจากการอยู่กับครอบครัวแล้ว คือการเล่นเรือเร็ว

หลังจากบ้านเมืองเข้าสภาวะน้ำมันแพง จึงหันมาสนุกกับการถ่ายรูป


บรรณานุกรม

  • เล่าเรื่องคุณตา. อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายโกวิท อัศวนนท์ ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 8 มิถุนายน 2545.
  • อนุสรณ์งานฌาปนกิจศพ คุณหญิงถนิม ราชายสาธก 11 เมษายน 2534.
  • พระธรรมปาโมกข์ (แจ่ม). หนังสือเทศน์ จาตุรงคสันนิบาต  คือโอวาทปาติโมกข์คาถา. อำมาตย์เอก พระยาราชายสาธก พิมพ์ในงานปลงศพ คุณหญิงราชายสาธก (ถนอม  อัศวนนท์) ผู้ภรรยา เมื่อปีฉลู พ.ศ. 2468.

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

4 Aug 2020

การสืบราชสันตติวงศ์โดยราชสกุล “มหิดล”

กษิดิศ อนันทนาธร เขียนถึงเรื่องราวการขึ้นครองราชสมบัติของกษัตริย์ราชสกุล “มหิดล” ซึ่งมีบทบาทในฐานะผู้สืบราชสันตติวงศ์ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร 2475

กษิดิศ อนันทนาธร

4 Aug 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save