ตุลาการผู้เชี่ยวชาญ

จะสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกันอีกแล้ว

สังคมฮือฮากับข่าวการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครั้งใหม่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิดชื่อผู้สมัครก็เริ่มมีการเก็งถามทายกันว่าใครได้-ไม่ได้

อันที่จริงการสรรหาตุลาการประจำศาลสูงก็มักเป็นข่าวใหญ่ในนานาอารยประเทศทั้งหลาย เพราะลึกๆ แล้วทุกคนรู้ดีว่ากฎหมายนั้นจะดีแย่ก็อยู่ที่คนใช้ กฎหมายเขียนมาดี แต่คนใช้อ่อนความสามารถหรืออ่อนคุณธรรมก็เท่ากับมีกฎหมายแย่ ในทางกลับกัน แม้กฎหมายจะเขียนไม่ดี แต่หากคนใช้กฎหมายมีเจตนาดี มีความตั้งใจ มีความรู้ความสามารถเชิงนิติศาสตร์ ก็ยังสามารถพลิกแพลงตีความผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แต่ดีที่สุดคือกฎและคนต้องดีคู่กันไปด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ศาลสูงนั้นมักทำหน้าที่เป็นผู้วางบรรทัดฐานให้ศาลล่างตีความกฎหมายตาม การเปลี่ยนสัดส่วนของตุลาการศาลสูงในแต่ละครั้ง จึงมีผลลงไปจนถึงระดับล่างสุดได้ด้วย สำหรับศาลรัฐธรรมนูญแม้จะไม่ใช่ศาลฎีกาที่ทำหน้าที่วางบรรทัดฐานคำพิพากษากฎหมายให้ศาลล่าง แต่รัฐธรรมนูญก็กำหนดให้คำวินิจฉัยผูกพันทุกองค์กร กว้างขวางยิ่งไปกว่าศาลฎีกาเสียอีก

ในบริบทการเมืองไทยนั้น การสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังเป็นเรื่องน่าจับตา เพราะปัญหาเฉพาะของศาลรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายถึงการทำหน้าที่ที่ผ่านมา การสรรหาตุลาการจึงถูกคาดหวังว่า จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ไม่มากก็น้อย

แต่ถ้าอยากจะแก้ไขปัญหาศาลรัฐธรรมนูญจริงๆ เราอาจจะต้องคิดทบทวนเรื่องระบบการสรรหาเสียใหม่ ระบบโควตาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นจุดอ่อนมากกว่าจุดแข็ง เป็นปัญหามากกว่าทางออก

หากพิจารณาโดยละเอียดปัญหาของศาลรัฐธรรมนูญนั้นซ้อนกันอยู่สองเรื่อง

เรื่องแรกคือการถูกครอบงำทางอุดมการณ์ เมื่อตุลาการทุกคนถูกครอบงำด้วยอุดมการณ์เดียวกัน หากต้องตัดสินคดีการเมืองก็มักมีความเห็นไปในทางเดียวกัน ไม่มีผู้ใดขัดหรือแย้ง ทำให้ทิศทางคำวินิจฉัยออกมาเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยความคิดเห็นของสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ

ปัญหาอีกประการคือคุณภาพคำวินิจฉัย ซึ่งอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุดมการณ์ แต่เป็นความรู้ความสามารถของตุลาการแต่ละท่านนั้นเอง เมื่อตีความกฎหมายก็อาจได้ผลแปลกประหลาดต่างออกไปจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญเห็นกัน ก็เป็นที่มาของเสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน อันที่จริงตั้งแต่ตั้งศาลรัฐธรรมนูญมานั้น ประเทศไทยไม่เคยมีผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญขึ้นไปเป็นตุลาการเสียที แน่นอนว่าปัญหานี้อาจบรรเทาลงได้ด้วยทีมงานผู้ช่วยของตุลาการแต่ละท่าน ซึ่งช่วยค้นคว้าและทำความเห็นเสนอขึ้นไป แต่ก็คงจะดีกว่าหากตุลาการนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในตัวเอง

ระบบโควตาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเริ่มใช้มาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งกำหนดให้ตุลาการ 15 คนต้องมีที่มาดังนั้น คือ ผู้พิพากษาในศาลฎีกาห้าคน ตุลาการศาลปกครองสูงสุดสองคน ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ห้าคน รัฐศาสตร์อีกสามคน

ต่อมาในรัฐธรรมนูญ 2550 ลดจำนวนตุลาการลงเหลือแค่เก้าคน โดยกำหนดให้มาจากศาลฎีกาสามคน ศาลปกครองสูงสุดสองคน และผู้เชี่ยวชาญสาขานิติศาสตร์และรัฐศาสตร์อย่างละสองคน

ในรัฐธรรมนูญ 2560 คงจำนวนตุลาการไว้ที่เก้าคน แต่กำหนดให้มาจากศาลฎีกาสามคน ศาลปกครองสูงสุดสองคน และผู้เชี่ยวชาญสาขานิติศาสตร์และรัฐศาสตร์อย่างละหนึ่งคน โควตาอีกสองที่ที่เหลือเป็นของผู้ที่เคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดี

การกำหนดโควตาผู้พิพากษาศาลฎีกามากถึงสามคนนั้นน่าประหลาดใจ หากคำนึงถึงว่าการศึกษาอบรมของศาลยุติธรรมนั้นเน้นที่กฎหมายเอกชน คือกฎหมายแพ่งและอาญาเป็นหลัก อ่อนในด้านกฎหมายมหาชน จู่ๆ การกำหนดให้ผู้พิพากษาที่ไม่ได้ทำงานด้านกฎหมายมหาชนมาตลอดชีวิตไปเป็นตุลาการด้านกฎหมายมหาชนก็ชวนตั้งคำถามว่าจะทำงานได้ดีเพียงใด กฎหมายสองสาขานี้มีนิติวิธีที่แตกต่างกันในเรื่องการตีความเกี่ยวกับการใช้อำนาจ หลักการพื้นฐาน ไม่สามารถนำนิติวิธีกฎหมายเอกชนเข้ามาใช้กับกฎหมายมหาชนได้

ผู้ทรงคุณวุฒิเองก็เป็นปัญหา ถึงแม้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 จะพยายามบัญญัติให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์นั้นคือผู้ดํารงตําแหน่งหรือเคยดํารงตําแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ ส่วนผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์นั้นคือผู้ดํารงตําแหน่งหรือเคยดํารงตําแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์

ปัญหาก็คือ นิติศาสตร์นั้นแบ่งเป็นสองสาขาใหญ่ๆ คือกฎหมายเอกชนและกฎหมายมหาชน แน่นอนว่าในสาขากฎหมายเอกชนนั้นก็มีกฎหมายที่เข้าไปในพรมแดนของกฎหมายมหาชนอยู่บ้าง เช่น กฎหมายอาญา หรือภาษีอากรในแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับการคลัง ไม่ใช่ภาษีธุรกิจ แต่การไม่ระบุความเชี่ยวชาญเฉพาะ ระบุแค่เพียงว่าเป็นศาสตราจารย์ทางนิติศาสตร์นั้น เปิดช่องให้คณะกรรมการสรรหาเลือกผู้ทรงคุณวุฒิที่อาจจะไม่เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญ แต่มีอุดมการณ์สอดคล้องกันได้

ด้านรัฐศาสตร์หรือรัฐประศาสนศาสตร์ก็คงไม่ต่างกัน ด้วยขอบเขตของเนื้อหาวิชาความรู้นั้นกว้างขวาง ทั้งเกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ การเปิดช่องเช่นนี้อนุญาตให้คณะกรรมการสรรหาเลือกผู้ไม่เชี่ยวชาญด้านวิชาการ แต่ชำนาญเกมการเมืองเข้าสู่ตำแหน่งได้

เสียงวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่เรียกร้องให้ศาลนั้นเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ด้วยการยึดโยงกับประชาชน แต่ที่ต้องคิดไม่แพ้กันคือ ศาลนั้นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาได้อย่างรัดกุมเป็นธรรม และให้เหตุผลการตีความกฎหมายที่ดี น่าเชื่อถือ ศาลรัฐธรรมนูญต้องเป็นมืออาชีพ แต่ถ้าจะเป็นมืออาชีพ การสรรหาจะต้องถูกทบทวนเสียใหม่ ระบบโควตาเช่นนี้ถ้าพิจารณาให้ดีไม่น่าจะเป็นคุณกับการสร้างความเป็นมืออาชีพในศาล

ถ้าอยากได้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน กฎหมายรัฐธรรมนูญ บางทีการเขียนชัดๆ ว่าผู้ดำรงตำแหน่งจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญ อาจจะตรงเป้ากว่า ข้อถกเถียงเดียวที่สังคมต้องจับตาก็คือ การตรวจสอบว่าบุคคลนั้นมีผลงานด้านรัฐธรรมนูญและการเมืองการปกครองเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ นั่นคือหัวใจที่สำคัญสุดของการเป็นตุลาการ

MOST READ

Politics

16 Dec 2021

สิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับและถูกควบคุมตัว (ตอนที่ 1) : เหตุใดจึงต้องพบศาล และต้องพบศาลเมื่อใด

ปกป้อง ศรีสนิท อธิบายถึงวิธีคิดของสิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับกุมและควบคุมตัว และบทบาทของศาลในการพิทักษ์เสรีภาพปัจเจกชน

ปกป้อง ศรีสนิท

16 Dec 2021

Politics

25 Jan 2024

ผู้พิพากษาอาวุโสมีไว้มากมาย… ทำไม

‘ใบตองแห้ง’ ชวนสำรวจเงินเดือนของเหล่าผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และชวนตั้งคำถามว่า บทบาทหน้าที่ของผู้พิพากษาอาวุโสเหล่านี้คืออะไร สร้างประโยชน์ใดให้แก่กระบวนการยุติธรรมไทยบ้าง

อธึกกิต แสวงสุข

25 Jan 2024

Politics

23 Feb 2023

จากสู้บนถนน สู่คนในสภา: 4 ปีชีวิตนักการเมืองของอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

101 ชวนอมรัตน์สนทนาว่าด้วยข้อเรียกร้องจากนอกสภาฯ ถึงการถกเถียงในสภาฯ โจทย์การเมืองของก้าวไกลในการเลือกตั้ง บทเรียนในการทำงานการเมืองกว่า 4 ปี คอขวดของการพัฒนาสังคมไทย และบทบาทในอนาคตของเธอในการเมืองไทย

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

23 Feb 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save