ความภาคภูมิใจของคนไทยที่จะได้ปรากฏตัวอยู่บนเวทีโลก เป็นหนึ่งปมที่เราถวิลหาอยู่นานแล้ว อย่างน้อยก็ตั้งแต่รู้จักโลกตะวันตกเมื่อราวร้อยปีที่แล้ว และยิ่งเข้มข้นมากขึ้นในยุคสงครามเย็น การแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาตินับเป็นโอกาสทองที่จะพิสูจน์ฝีมือ บนเวทีแห่งนั้น นักกีฬาทีมชาติเป็นเสมือนนักรบแห่งชาติที่จะเข้าไปแข่งขันในนามตัวแทนของชาติ ความสำเร็จตามมาด้วยชื่อเสียง เงินทอง จากคนที่ไม่มีใครรู้จักกลายเป็นคนสำคัญขึ้นมาภายในเวลาอันสั้น
การแข่งขันโอลิมปิกหลายปีมานี้ มีความเปลี่ยนแปลงของนักกีฬาทีมชาติที่น่าจับตาผ่านเวทีโอลิมปิก ชื่อบทความ ‘สองนครา-ประชาโอลิมปิก’ ก็บ่งบอกให้เห็นถึงกลุ่มนักกีฬาทีมชาติที่มาจากพื้นที่และครอบครัวที่แตกต่างกัน
นักกีฬาสมัครเล่นจะมีโอกาสได้แสดงความสามารถในนามทีมชาติ ผ่านรายการที่รู้จักกันดีอย่างซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์ หากสร้างชื่อเสียงขึ้นมาพวกเขาก็อาจสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตผ่านการประดับยศ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ เช่น สมรักษ์ คำสิงห์ เป็นนักมวยสากลสมัครเล่นสังกัดราชนาวีสโมสรมาก่อน นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาทีมชาติที่สร้างชื่อเสียงระดับซีเกมส์ หรือเอเชียนเกมส์ เช่น นักฟุตบอลทีมชาติไทย อย่าง อุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน, เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ธนา ชะนะบุตร, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ฯลฯ หรือนักตระกร้อชื่อดังอย่างสืบศักดิ์ ผันสืบที่ติดยศตำรวจ ฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้ากัน เกษราภรณ์ สุตา นักยกน้ำหนักดีกรีโอลิมปิกก็ติดยศทหารเรือ กระทั่งนักมวยอาชีพยุคหลังอย่างวิศักดิ์ศิลป์ วังเอก (ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น) ก็ได้ยศตำรวจ[1] แน่นอนว่า ยังมีอีกมากที่กล่าวไม่หมดในที่นี้
การติดยศดังกล่าวเป็นไปได้ว่า มีพัฒนาการมาจากการแข่งขันกีฬากองทัพไทยที่เริ่มต้นเมื่อปี 2510 อันเป็นช่วงสงครามเย็นกำลังขึ้นหม้อ การแข่งขันภายในจึงมีลักษณะประลองกำลังทางการเมืองกันอยู่ในที ว่าใครจะมีนักกีฬาเก่งๆ ในสังกัดได้มากกว่ากัน แต่เดิมการแข่งขันเกิดขึ้นระหว่างกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศเท่านั้น ในเวลาต่อมาถึงรวมกรมตำรวจเข้ามาร่วมแข่งขันด้วยในปี 2527[2] พวกเขาจึงรับใช้ต้นสังกัดดังกล่าว และในเวลาที่มาถึงก็จะได้สร้างชื่อเสียงต่อไปในระดับนานาชาติในนามทีมชาติ
ในบทความนี้จะชวนผู้อ่านสำรวจพัฒนาการของผลงานนักกีฬาทีมชาติไทยในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีชื่อชั้นที่สูงที่สุด ทั้งยังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศนั่นก็คือ ‘โอลิมปิก’ ท่ามกลางกีฬาหลากหลายประเภท
เริ่มต้นจากกีฬาที่เคยเป็นความหวังที่สุดก็คือ กีฬามวยสากลสมัครเล่น เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? นั่นก็เพราะไทยเคยได้แชมป์โลกในฐานะมวยอาชีพมาก่อน นั่นคือ ‘โผน กิ่งเพชร’ โผน เป็นนักมวยสากลแชมป์โลกที่จะทำให้เกิดแชมป์รุ่นหลังๆ ต่อมา เช่น ชาติชาย เชี่ยวน้อย[3], เบิกฤกษ์ ชาติวันชัย[4], เวนิส บ.ข.ส.[5], แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์[6] ส่วนนักชกผู้เป็นที่รู้จักกันดีในระดับตำนานที่ชกแล้วหยุดปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ได้ เพราะคนอยู่ดูถ่ายทอดสดกัน ก็คือ เขาทราย แกแล็กซี่[7] นักกีฬาเหล่านี้ไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือชนชั้นกลางในเมือง แต่เป็นชนชั้นแรงงานที่หาเลี้ยงด้วยลำแข้งมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาส่วนใหญ่มีฐานที่แข็งแกร่งจากมวยไทย หากมีแววก็จะขึ้นไปชกในมวยสากล และหากไปถึงแชมป์ นั่นหมายถึงชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินรางวัลที่รออยู่
ไทยเคยเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกตั้งแต่ปี 2495 ที่ฟินแลนด์ด้วยกีฬาประเภทเดียวคือ กรีฑา แต่กว่าคนไทยจะได้เหรียญโอลิมปิกต้องรอจนถึงครั้งที่ 20 เมื่อปี 2519 ที่แคนาดาเป็นเจ้าภาพ จากกีฬามวยสากลสมัครเล่น โดย พเยาว์ พูลธรัตน์ เป็นผู้คว้าเหรียญทองแดงมาได้ (ต่อมาพเยาว์ยังได้ชกมวยสากลอาชีพ และได้แชมป์โลกในปี 2526-2527) เหรียญที่สองมาจาก ทวี อัมพรมหา ผู้เคยชกมวยไทยมาก่อนในนาม ‘ขาวผ่อง สิทธิชูชัย’ ไปได้ไกลที่สุดถึงเหรียญเงินโอลิมปิกในปี 2527 หลังจากนั้น ไทยก็ได้เหรียญและมีลุ้นจากกีฬามวยสากลสมัครเล่นมาตลอด กีฬามวยสากลสมัครเล่นจึงเป็นกีฬาแห่งความหวัง ทั้งจากกองเชียร์และจากตัวนักกีฬาเองที่ใฝ่ฝันว่าจะช่วยยกระดับชีวิตให้ดีขึ้น จนกระทั่งปี 2539 ความฝันของคนทั้งประเทศเป็นจริง เมื่อสมรักษ์ คำสิงห์ คว้าเหรียญทองได้ที่แอตแลนต้า[8] ผลงานที่ยอดเยี่ยมของสมรักษ์ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ของชาติในช่วงที่เศรษฐกิจไทยเริ่มย่ำแย่ ก่อนฟองสบู่จะแตกกลายเป็นวิกฤตต้มยำกุ้งในปีต่อมา
ไม่เพียงกีฬาชกมวยเท่านั้นที่สร้างผลงานได้ ยกน้ำหนักได้กลลายกีฬาชนิดใหม่ที่เพิ่มเหรียญให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติ และยังเป็นเหรียญแรกของนักกีฬาหญิงไทย นั่นคือ เกษราภรณ์ สุตา ซึ่งคว้าเหรียญทองแดงที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2543 ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้รุ่นต่อมาไปถึงฝั่งฝัน นั่นคือ เหรียญทองของ อร-อุดมพร พลศักดิ์ เจ้าของฉายา ‘สู้โว้ย’ กับ ไก่-ปวีณา ทองสุก เมื่อปี 2547 ที่เอเธนส์ ต้นกำเนิดของโอลิมปิก
อาจถือเป็นปีสำคัญของนักกีฬาหญิง เพราะยังเป็นปีแรกที่มีกีฬาประเภทใหม่ได้เหรียญ คือ เทควันโด เจ้าของเหรียญคือ วิว-เยาวภา บุรพลชัย และยังเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาเหรียญโอลิมปิกเป็นชาวกรุงเทพฯ อีกด้วย ที่ผ่านมา นักกีฬาทีมชาติผู้สร้างผลงานล้วนเป็นคนต่างจังหวัดทั้งสิ้น อาจกล่าวได้ว่า เทควันโดเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ลูกหลานชนชั้นกลางในเมืองที่พวกเขาจะต้องเรียนพิเศษเพิ่มเติมเพื่อฝึกฝนศิลปะป้องกันตัว กีฬาประเภทต่อมาที่มีฐานอยู่กับลูกหลานชนชั้นกลางก็คือ แบดมินตัน ในครั้งนั้น แมน-บุญศักดิ์ พลสนะ ไปได้ไกลที่สุดคือที่ 4 แบดมินตันโอลิมปิก แพ้รอบชิงเหรียญทองแดงไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กีฬาของครอบครัวชนชั้นกลางในเมืองจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น
กระนั้น โอลิมปิกปี 2547 เป็นครั้งที่ไทยกวาดเหรียญรางวัลไปมากที่สุดคือ 8 เหรียญ นับเป็นเหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง 4 อาจกล่าวได้ว่า สำหรับไทย ถือเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวกลับมาแล้ว โดยเฉพาะชนชั้นกลางที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ย้อนกลับไปปี 2546 ตัวชี้วัดสำคัญคือตลาดหุ้นที่กลับมาคึกคักอย่างมาก ดัชนีเพิ่มขึ้นถึง 116.60% จนถือว่าเป็นดาวเด่นของตลาดหุ้นโลก[9]
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วกีฬาทั้งสองกลุ่มมีต้นทุนและรากฐานที่ต่างกันไป นักกีฬามวยและยกน้ำหนักจะมีพื้นเพมาจากบ้านครอบครัวยากจน ถิ่นฐานอยู่ในต่างจังหวัดหรือในต่างอำเภอ พยายามไต่เต้าหาโอกาสด้วยการเข้าสู่เมืองใหญ่ ต่อไปนี้คือ ตัวอย่างภาพดังกล่าว

วิจารณ์ พลฤทธิ์ ชาวอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มีพ่อเป็นควาญช้างลากซุง มีพี่ชายเป็นนักมวย วิจารณ์ได้เดินสายชกมวยจนจบ ม.3 ก็เข้ากรุงเทพฯ จนคว้าแชมป์ราชดำเนิน ค่าตัวจาก 3,500 บาทก็ขึ้นไปถึง 80,000 บาท[10] ส่วนวิชัย ราชานนท์ ก็มาจากครอบครัวยากจน ต้องชกมวยตั้งแต่ชั้น ป.4-5 ต่อมาได้เปลี่ยนไปชกมวยสากลสมัครเล่นในสังกัดโอสถสภา และเข้าสู่กองทัพอากาศ แต่ขณะนั้นเงินเดือนเพียง 1,950 บาทจึงต้องหาทางติดทีมชาติให้ได้[11] บางคนอย่าง พรชัย ทองบุราณ แม้จะเลือกมวยไทยแต่ก็ไม่ใช่เส้นทางที่ประสบความสำเร็จ จนสามารถมุมานะถึงการคว้าเหรียญโอลิมปิกได้[12] เก๋-ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล ชาวนครสวรรค์ พ่อเป็นกรรมกรก่อสร้าง ฝึกยกน้ำหนักกับเจ้าของอู่ซ่อมรถหน้าบ้าน[13] กรณีของ อร-อุดมพร พลศักดิ์ ได้เป็นนักกีฬารุ่นแรกของสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้รับเงินเดือน เดือนละ 10,000 บาท หักค่าข้าวมื้อละ 50 บาท แล้วมีเงินเหลือ 7,900 บาท[14] ส่วนเอ-เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล เป็นชาวทุ่งสง นครศรีธรรมราช พ่อและแม่เป็นเพียงครูอัตราจ้างที่ไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการ การที่เธอได้รางวัลจากการแข่งขันก็ทำให้เธอสามารถช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ในด้านการศึกษาของน้องๆ ได้
สำหรับครอบครัวชนชั้นกลาง แทบไม่มีพ่อแม่บ้านไหนส่งลูกไปเรียนชกมวยและยกน้ำหนักเพื่อเป็นงานอดิเรกหรือสันทนาการ เพราะมันต้องใช้พลังทางกายและอาศัยมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและฝึกอย่างหนักจนร่างกายแทบจะเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเสี่ยงที่จะได้รับอาการบาดเจ็บหนักกว่ากีฬาอื่น เช่น เก๋-ประภาวดี ที่บาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า[15] ทั้งยังมีภาพลักษณ์เป็นกีฬาที่ใช้แรงงานมากกว่า หลายคนเมื่อได้เหรียญรางวัลแล้วก็แทบจะเลิกเล่นในระดับนานาชาติเลย ยิ่งหากได้รับการประดับยศจากเหล่าทัพด้วยแล้ว สำหรับครอบครัวชนชั้นกลางนั้น พวกเขาจะเป็นผู้สนับสนุนและผลักดันพวกเขาในรูปแบบต่างๆ กรณีของบุญศักดิ์ เขาเล่าว่าพ่อแม่สนับสนุนให้เล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก ถึงกับให้เลิกเรียนตอนอายุ 14 แล้วส่งไปซ้อมแบดมินตันที่จีนถึง 2 ปี[16] กรณีของวิว-เยาวภา บุรพลชัย เธอเติบโตในค่ายทหารและได้รับการสนับสนุนให้เล่นกีฬาหลายประเภททั้งบาสเกตบอล แบดมินตัน และวิ่งระยะไกล การฝึกเทควันโดต้องใช้ทรัพยากรมากพอควร เห็นจากแม่เธอที่ตระเวนหาชุดเทควันโดมือสองจากคลองถม พ่อก็เป็นคนเทียวรับเทียวส่งไปที่ฝึกซ้อม[17] หรือกรณีของชนาธิป ซ้อนขำ แม้ว่าจะมาจากพัทลุง แต่มีบ้านอยู่ในตลาด ครอบครัวสนับสนุนให้เธอเรียนเทควันโด เหตุผลของเธอเมื่อครั้งอยู่ชั้น ม.1 คือ “อยากจะลองใส่ยูนิฟอร์มเท่ๆ ดูสักครั้ง” ดังที่เธอกล่าวว่า “ตอนใส่ชุดเทควันโดครั้งแรกมันเท่มาก บอกตรงๆ ว่าใส่เดินกลับบ้านอวดคนทั้งตลาดเลย ก็คิดว่านี่แหละคือทางของเรา”[18] ส่วนวิว-กุลวุฒิ วิทิตศาสตร์ เริ่มเล่นแบดมินตันตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ และมีพ่อเป็นผู้ฝึกสอนแบดมินตัน เดิมตั้งใจเล่นเพื่อรักษาสุขภาพเนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ แต่ในที่สุดก็ได้กลายเป็นแชมป์โลก และวีรบุรุษเหรียญเงิน
หากดูจากภูมิหลังทางด้านการศึกษา จะเห็นว่านักมวยและนักยกน้ำหนัก จะเข้าเรียนด้านกีฬาโดยเฉพาะ อย่างโรงเรียนกีฬา วิทยาลัยพลศึกษา หรือสถาบันพลศึกษา หรือไม่ก็มหาวิทยาลัยราชภัฏ อันเป็นมหาวิทยาลัยชายขอบ ต่างไปจากนักกีฬาเทควันโดทีมชาติที่หลายคนได้โอกาสเรียนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่น เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ, ชนาธิป ซ้อนขำ และ เทวินทร์ หาญปราบ หรือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เช่น บุตรี เผือดผ่อง ทั้งหมดคือนักกีฬาเทควันโด
นี่คือ ข้อสังเกตของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายใต้นักกีฬาทีมชาติไทยในโอลิมปิก
ตารางที่ 1 นักกีฬาไทยผู้ได้เหรียญโอลิมปิกตั้งแต่ปี 2519-2567[19]
ปีที่แข่ง | นักกีฬาที่ได้เหรียญ | กีฬาที่ทำการแข่งขัน | เหรียญที่ได้ | ภูมิลำเนา | อาชีพเดิม/การศึกษา |
2519 | พเยาว์ พูลธรัตน์[20] (เคยเป็น ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ปี 2544) | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | ประจวบคีรีขันธ์ | นักมวยไทย ในนาม ‘เพชรพเยาว์ ศิษย์ครูทัศน์’ |
2527 | ทวี อัมพรมหา[21] | มวยสากลสมัครเล่น | เงิน | ระยอง | นักมวยไทย ในนาม ‘ขาวผ่อง สิทธิชูชัย’ |
2531 | ผจญ มูลสัน[22] | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | นครสวรรค์ | นักมวยไทย ในนาม ‘พุฒ เกียรติลานสาง’ |
2535 | อาคม เฉ่งไล่[23] | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | ตรัง | นักมวยไทย ในนาม ‘อิสระ เกียรติอินทรีดำ’ |
2539 | สมรักษ์ คำสิงห์[24] | มวยสากลสมัครเล่น | ทอง | ขอนแก่น | นักมวยไทย ในนาม ‘พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ’ |
วิชัย ราชานนท์[25] | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | ขอนแก่น | ทหารอากาศ | |
2543 | วิจารณ์ พลฤทธิ์[26] | มวยสากลสมัครเล่น | ทอง | สุโขทัย | นักมวยไทย ในนาม ‘ศรีสัชนาลัย แท็กซี่มิเตอร์’ |
พรชัย ทองบุราณ[27] | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | อุบลราชธานี | นักมวยไทย ในนาม ‘รณยุทร ศิษย์พงษ์ระวี’ | |
เกษราภรณ์ สุตา[28] | ยกน้ำหนัก | ทองแดง | ลำปาง | ลูกสาวเจ้าของโรงสี นักศึกษาวิทยาพลศึกษา เชียงใหม่ | |
2547 | มนัส บุญจำนง[29] | มวยสากลสมัครเล่น | ทอง | ราชบุรี | ไม่มีข้อมูล |
อุดมพร พลศักดิ์[30] | ยกน้ำหนัก | ทอง | นครราชสีมา | นักศึกษาวิทยาพลศึกษา กรุงเทพฯ | |
ปวีณา ทองสุก[31] | ยกน้ำหนัก | ทอง | สุรินทร์ | นักศึกษาวิทยาพลศึกษา เชียงใหม่ | |
วรพจน์ เพ็ชรขุ้ม[32] | มวยสากลสมัครเล่น | เงิน | สุราษฎร์ธานี | นักเรียนโรงเรียกีฬาอุบลราชธานี, นักศึกษา ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม | |
อารีย์ วิรัฐถาวร[33] | ยกน้ำหนัก | ทองแดง | กาญจนบุรี | โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี | |
วันดี คำเอี่ยม[34] | ยกน้ำหนัก | ทองแดง | ศรีสะเกษ | ไม่มีข้อมูล | |
สุริยา ปราสาทหินพิมาย[35] | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | นครราชสีมา | ไม่มีข้อมูล | |
เยาวภา บุรพลชัย[36] | เทควันโด | ทองแดง | กรุงเทพฯ | จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารธุรกิจ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) | |
2551 | ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล[37] | ยกน้ำหนัก | ทอง | นครสวรรค์ | ไม่มีข้อมูล |
สมจิต จงจอหอ[38] | มวยสากลสมัครเล่น | ทอง | นครราชสีมา | นักมวยไทยในนาม ‘ศิลาชัย ว.ปรีชา’ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย | |
บุตรี เผือดผ่อง[39] | เทควันโด | เงิน | กรุงเทพฯ | สำเร็จการศึกษาดับระดับปริญญาตรีที่ ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ | |
มนัส บุญจำนง (ครั้งที่ 2) | มวยสากลสมัครเล่น | เงิน | ราชบุรี | ไม่มีข้อมูล | |
วันดี คำเอี่ยม (ครั้งที่ 2) | ยกน้ำหนัก | ทองแดง | ศรีสะเกษ | ไม่มีข้อมูล | |
เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล[40] | ยกน้ำหนัก | ทองแดง | นครศรีธรรมราช | ไม่มีข้อมูล | |
2555 | แก้ว พงษ์ประยูร[41] | มวยสากลสมัครเล่น | เงิน | กำแพงเพชร | จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต |
พิมศิริ ศิริแก้ว[42] | ยกน้ำหนัก | เงิน | ขอนแก่น | จบการศึกษาจากโรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี และสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี | |
ชนาธิป ซ้อนขำ[43] | เทควันโด | ทองแดง | พัทลุง | จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
2559 | สุกัญญา ศรีสุราช[44] | ยกน้ำหนัก | ทอง | ชลบุรี | ไม่มีข้อมูล |
โสภิตา ธนสาร[45] | ยกน้ำหนัก | ทอง | ชุมพร | จบการศึกษาจากโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร, ระดับอุดมศึกษาจากสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตกรุงเทพ | |
พิมศิริ ศิริแก้ว | ยกน้ำหนัก | เงิน | ขอนแก่น | จบการศึกษาจากโรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี และสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี | |
เทวินทร์ หาญปราบ[46] | เทควันโด | เงิน | ปทุมธานี | จบการศึกษาปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
สินธุ์เพชร์ กรวยทอง[47] | ยกน้ำหนัก | ทองแดง | สุรินทร์ | ไม่มีข้อมูล | |
พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ[48] | เทควันโด | ทองแดง | สุราษฎร์ธานี | คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
2563 | พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (ครั้งที่ 2) | เทควันโด | ทอง | สุราษฎร์ธานี | คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
สุดาพร สีสอนดี[49] | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | อุดรธานี | ไม่มีข้อมูล | |
2567 | พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (ครั้ง 3) | เทควันโด | ทอง | สุราษฎร์ธานี | คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
กุลวุฒิ วิทิตศานต์[50] | แบดมินตัน | เงิน | กรุงเทพฯ | ไม่มีข้อมูล | |
ธีรพงศ์ ศิลาชัย[51] | ยกน้ำหนัก | เงิน | ศรีษะเกษ | ไม่มีข้อมูล | |
วีรพล วิชุมา[52] | ยกน้ำหนัก | เงิน | สุรินทร์ | ไม่มีข้อมูล | |
จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง[53] | มวยสากลสมัครเล่น | ทองแดง | หนองคาย | จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย | |
สุรจนา คำเบ้า[54] | ยกน้ำหนัก | ทองแดง | เชียงราย | ไม่มีข้อมูล |
[1] ไทยรัฐออนไลน์. “แด่ฮีโร่! รวมมิตรนักกีฬาไทยสร้างชื่อเสียง ได้ประดับยศตำรวจ-ทหาร”. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2567 จาก https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/898700 (29 มีนาคม 2560)
[2] กองการกีฬา สำนักสวัสดิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย, การแข่งขันกีฬากองทัพไทย (ม.ป.ท. : ม.ป.พ., 2566), หน้า 2
[3] ณัฐพงศ์ อินต๊ะริด. “ชาติชาย เชี่ยวน้อย : ไฟต์ล้มยักษ์ ก่อนก้าวสู่บัลลังก์แชมป์โลก”. Main Stand.สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://mainstand.co.th/th/features/5/article/3656(24 เมษายน 2566)
[4] ไทยรัฐออนไลน์. “วงการมวยสุดเศร้า สูญเสีย “ปู่เหม็น” เบิกฤกษ์ ชาติวันชัย อดีตแชมป์โลกฟลายเวต WBA ชาวไทยคนที่ 3”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.thairath.co.th/sport/fightsport/muaythai/2335277 (8 มีนาคม 2565)
[5] แนวหน้าออนไลน์. “สยบข่าวลือว่าตาย! ‘เวนิส บ.ข.ส.’อดีตแชมป์มวยโลก เล่าบทเรียนชีวิตจากจุดสูงสุด”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.naewna.com/local/716580 (10 มีนาคม 2566)
[6] ไทยรัฐออนไลน์. “ซุปเปอร์สตาร์ สู่ชายตาบอด! ปิดตำนานนักชกแชมป์โลก ‘แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์'”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1420725 (14 พฤศจิกายน 2561)
[7] MCOT. “31 ปี ไฟต์สุดท้าย เขาทราย แกแล็คซี่ ป้องกันแชมป์โลกครั้งที่ 19”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.mcot.net/view/VHjtoRDG (22 ธันวาคม 2565)
[8] คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. “ทำเนียบนักกีฬา”. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2567 จาก https://olympicthai.org/athletics/
[9] ผู้จัดการออนไลน์. “ย้อนรอยตลาดหุ้นไทยปี 47 (ตอน 3)”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://mgronline.com/stockmarket/detail/9480000000490 (2 มกราคม 2548)
[10] Stadium. “วิจารณ์ พลฤทธิ์ จากมวยแทนสู่ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ปี 2000”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=71&tab=thaispotlight (9 พฤษภาคม 2567)
[11] Stadium. “วิชัย ราชานนท์ ตำนานเหรียญทองแดงโอลิมปิก 1996”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=72&tab=thaispotlight (9 พฤษภาคม 2567)
[12] Stadium. “พรชัย ทองบุราณ ฮีโร่เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่ล้มเหลวจากสังเวียนมวยไทย”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=74&tab=thaispotlight (16 พฤษภาคม 2567)
[13] Stadium. “ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล : จากนักยกข้างถนนสู่แชมป์โอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=83&tab=thaispotlight (6 มิถุนายน 2567)
[14] Stadium. “อุดมพร พลศักดิ์ นักกีฬาหญิงไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=75&tab=thaispotlight (16 พฤษภาคม 2567)
[15] Stadium. “ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล : จากนักยกข้างถนนสู่แชมป์โอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=83&tab=thaispotlight (6 มิถุนายน 2567)
[16] สยามกีฬา. “ “บุญศักดิ์ พลสนะ” ตำนานขนไก่ไทย จากบทบาทผู้รับในอดีตสู่ผู้ให้ในวันนี้”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.siamsport.co.th/other-sports/badminton/1304/ (9 ธันวาคม 2565)
[17] Stadium. “เยาวภา บุรพลชัย : ความสำเร็จที่ทำให้คนไทยหันมาเล่นเทควันโดทั้งประเทศ”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=80&tab=thaispotlight (30 พฤษภาคม 2567)
[18] Stadium. “ชนาธิป ซ้อนขำ : จากนักสร้างความสำเร็จเบื้องหน้าสู่เบื้องหลัง”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=89&tab=thaispotlight (19 มิถุนายน 2567)
[19] คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. “ทำเนียบนักกีฬา”. สืบค้นเมื่อ 13 สิงหาคม 2567 จาก https://olympicthai.org/athletics/
[20] Stadium. “พเยาว์ พูนธรัตน์ ผู้เปิดบันทึกประวัติศาสตร์หน้าแรกของไทยในโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=65&tab=thaispotlight (19 เมษายน 2567)
[21] Stadium. “ทวี อัมพรมหา “เหรียญโอลิมปิกทำให้ผมดูหล่อกว่า วิลลี่ แม็คอินทอช””. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=295&tab=thaispotlight (24 เมษายน 2567)
[22] Stadium. “ผจญ มูลสัน : ก้าวกระโดดของนักชกที่ไม่เคยรู้จัก ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์”. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=68&tab=thaispotlight (2 พฤษภาคม 2567)
[23] Stadium. “อาคม เฉ่งไล่ : “เหรียญโอลิมปิก คือความภาคภูมิใจที่สุดแล้วในชีวิตผม””. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=296&tab=thaispotlight (2 พฤษภาคม 2567)
[24] Stadium. “สมรักษ์ คำสิงห์ ฟื้นความทรงจำเหรียญทองแรกฮีโร่โอลิมปิก””. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=151&tab=thaispotlight (3 พฤษภาคม 2567)
[25] Stadium. “วิชัย ราชานนท์ ตำนานเหรียญทองแดงโอลิมปิก 1996”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=72&tab=thaispotlight (9 พฤษภาคม 2567)
[26] Stadium. “วิจารณ์ พลฤทธิ์ จากมวยแทนสู่ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ปี 2000”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=71&tab=thaispotlight (9 พฤษภาคม 2567)
[27] Stadium. “พรชัย ทองบุราณ ฮีโร่เหรียญทองแดงโอลิมปิก ที่ล้มเหลวจากสังเวียนมวยไทย”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=74&tab=thaispotlight (16 พฤษภาคม 2567)
[28] Stadium. “เกษราภรณ์ สุตา จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ยกน้ำหนักไทยในโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=73&tab=thaispotlight (10 พฤษภาคม 2567)
[29] Stadium. “มนัส บุญจำนงค์ : นักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จมากสุดในโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=77&tab=thaispotlight (22 พฤษภาคม 2567)
[30] Stadium. “อุดมพร พลศักดิ์ นักกีฬาหญิงไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=75&tab=thaispotlight (16 พฤษภาคม 2567)
[31] Stadium. “ปวีณา ทองสุก : จอมพลังเบอร์ 1 ตลอดกาลของวงการยกน้ำหนักไทย”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=76&tab=thaispotlight (17 พฤษภาคม 2567)
[32] Stadium. “วรพจน์ เพชรขุ้ม ความสำเร็จของม้านอกสายตาที่บอกว่ามีโอกาสต้องคว้าให้ได้”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=78&tab=thaispotlight (22 พฤษภาคม 2567)
[33] Stadium. “อารีย์ วิรัฐถาวร : ทั้งชีวิตอุทิศให้ยกน้ำหนัก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=81&tab=thaispotlight (30 พฤษภาคม 2567)
[34] Stadium. “วันดี คำเอี่ยม : จอมพลังไทยคนแรกที่คว้าหรียญรางวัลโอลิมปิก 2 สมัย”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=82&tab=thaispotlight (30 พฤษภาคม 2567)
[35] Stadium. “สุริยา ปราสาทหินพิมาย : มวยรุ่นใหญ่ของไทยไม่เป็นรองใครเช่นกัน”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=79&tab=thaispotlight (24 พฤษภาคม 2567)
[36] Stadium. “เยาวภา บุรพลชัย : ความสำเร็จที่ทำให้คนไทยหันมาเล่นเทควันโดทั้งประเทศ”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=80&tab=thaispotlight (30 พฤษภาคม 2567)
[37] Stadium. “ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล : จากนักยกข้างถนนสู่แชมป์โอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=83&tab=thaispotlight (6 มิถุนายน 2567)
[38] Stadium. “สมจิตร จงจอหอ : อัจฉริยะแห่งวงการกำปั้นไทย”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=84&tab=thaispotlight (6 มิถุนายน 2567)
[39] Stadium. “บุตรี เผือดผ่อง : เหรียญเงินโอลิมปิกความสำเร็จช่วยชีวิตแม่จากโรคมะเร็ง”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=85&tab=thaispotlight (7 มิถุนายน 2567)
[40] Stadium. “เพ็ญศิริ เหล่าศิริกุล กับความสำเร็จที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่าอีกครั้ง”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=87&tab=thaispotlight (13 มิถุนายน 2567)
[41] Stadium. “แก้ว พงษ์ประยูร : ชัยชนะของผู้แพ้บนเวทีมวยโอลิมปิก 2012”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=88&tab=thaispotlight (14 มิถุนายน 2567)
[42] Stadium. “พิมศิริ ศิริแก้ว ฮีโร่ผู้เสียสละที่เห็นความสำเร็จส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=86&tab=thaispotlight (13 มิถุนายน 2567)
[43] Stadium. “ชนาธิป ซ้อนขำ : จากนักสร้างความสำเร็จเบื้องหน้าสู่เบื้องหลัง”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=89&tab=thaispotlight (19 มิถุนายน 2567)
[44] Stadium. “สุกัญญา ศรีสุราช วันที่เป็นแชมป์โอลิมปิก “คู่ต่อสู้ฉันมีแค่ลูกเหล็ก””. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=92&tab=thaispotlight (27 มิถุนายน 2567)
[45] Stadium. “โสภิตา ธนสาร : แชมป์โอลิมปิก ความสำเร็จที่อุทิศให้กับคนบนฟ้า”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=91&tab=thaispotlight (19 มิถุนายน 2567)
[46] Stadium. “เทวินทร์ หาญปราบ : จอมเตะชายคนแรกในประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=93&tab=thaispotlight (27 มิถุนายน 2567)
[47] Stadium. “สินธุ์เพชร กรวยทอง : ยกน้ำหนักชายไทยคนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=95&tab=thaispotlight (27 มิถุนายน 2567)
[48] Stadium. “สำรวจความคิด พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ก่อนความท้าทายโอลิมปิกครั้งสุดท้าย”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=585&tab=thaispotlight (26 กรกฎาคม 2567)
[49] Stadium. “สุดาพร สีสอนดี ผู้เปิดประวัติศาสตร์มวยหญิงไทยในโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/olympic/highlight/detail?id=179&tab=thaispotlight (4 กรกฎาคม 2567)
[50] Sanook. “ประวัติ วิว กุลวุฒิ นักแบดมินตันดาวรุ่งพุ่งแรงของไทย ดีกรีทีมชาติไทย แชมป์โลก 2023”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.sanook.com/campus/1417779/ (5 สิงหาคม 2567)
[51] Sanook. “ประวัติ “ธีรพงศ์ ศิลาชัย” นักยกน้ำหนักเหรียญเงินโอลิมปิกทีมชาติไทย”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.sanook.com/campus/1417779/ (8 สิงหาคม 2567)
[52] ThaiPBS. “เปิดเส้นทางจอมพลังไทย “วีรพล วิชุมา” ตามฝันสำเร็จคว้าเหรียญเงิน โอลิมปิก 2024”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/342897 (9 สิงหาคม 2567)
[53] ประชาชาติธุรกิจ. “เปิดประวัติ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักมวยหญิงไทยคนแรกคว้าเหรียญโอลิมปิก”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://www.prachachat.net/spinoff/sport/news-1623364 (6 สิงหาคม 2567)
[54] Stadium. “”สุรจนา คำเบ้า” สาวหน้านิ่งว่าที่ผู้พิชิตทองโอลิมปิก 2024”. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2567 จาก https://stadiumth.com/columns/detail?id=926&tab=thai (13 มีนาคม 2566)