เนื่องในโอกาสที่ ‘เจ้าชีวิต เจ้าสรรพสิ่ง’ ของสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ได้รับการโหวตว่าเป็นหนังสือน่าอ่านด้วยคะแนนสูงสุดจากกิจกรรม ‘ความน่าจะอ่าน 2023 – อ่าน 7 ที ดี 7 หน’ เมาริตซิโอ เปเลจจี ผู้เขียนหนังสือจึงขอส่งคำขอบคุณจากอิตาลี ถึงผู้อ่านชาวไทยทุกคน
“สวัสดีครับ ผมชื่อเมาริตซิโอ เปเลจจี เป็นผู้เขียนหนังสือเรื่องนี้ – ‘เจ้าชีวิต เจ้าสรรพสิ่ง’ แปลไทยจากหนังสือของผมที่เคยตีพิมพ์ปี 2002 ‘Lord of Things: Fashioning of the Siamese Monarchy’s Modern Image’
“ผมรู้สึกขอบคุณ รวมถึงเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล ‘ความน่าจะอ่าน 2023’ โดย The101.world และขอส่งวิดีโอนี้มาแทนตัวเองที่ไม่สามารถไปร่วมงานที่กรุงเทพฯ ได้ ก่อนอื่น ผมอยากขอบคุณสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เพราะพวกเขาเป็นคนเสนอให้แปลภาษาไทยและผมดีใจมากที่มีพวกเขาจัดทำหนังสือให้ พูดได้เลยว่าฉบับภาษาไทยที่ได้รับรางวัลในคืนนี้พิเศษกว่าเล่มต้นฉบับในอเมริกาอีก ในเล่มมีภาพถ่ายจำนวนมากที่ผมไม่สามารถใส่ในหนังสือต้นฉบับได้ ภาษาแปลที่ใช้ก็ลื่นไหลและสละสลวย การออกแบบรูปเล่มก็สวยงามมาก ปกสวยๆ ที่อยู่ตรงนี้ คุณน่าจะได้เห็นภายในงานด้วย ทั้งหมดผมคงพูดได้แค่ว่าขอบคุณสำนักพิมพ์ที่ดูแลการแปลฉบับภาษาไทยให้ครับ
“ถ้าคุณอ่านบทนำในหนังสือ คุณจะเห็นว่าผมพยายามอธิบายบริบทของการศึกษาประวัติศาสตร์ขณะที่ผมเขียนดุษฎีนิพนธ์ ซึ่งต่อมาได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่มนี้ เวลานั้นนักประวัติศาสตร์ตั้งคำถามเรื่องอัตลักษณ์ของชาติกระบวนการสร้างวัฒนธรรม มีหนังสือมากมายที่พูดถึงประเทศอย่างอิตาลี ญี่ปุ่น ทุ่มเทให้กับกระบวนการก่อร่างสร้างความเป็นชาติในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 นั่นคือจุดเริ่มต้นของหัวข้องานเขียนของผม ศึกษาวิธีที่สถาบันกษัตริย์ไทยตั้งใจเปลี่ยนภาพลักษณ์ รูปลักษณ์ ให้ทันสมัย ในขณะเดียวกันก็ปรับโครงสร้างภายในประเทศไปด้วย
“ทุกวันนี้ ถึงความสนใจของนักประวัติศาสตร์เปลี่ยนไปยังหัวข้ออื่นแล้ว — อย่างว่า นักประวัติศาสตร์ก็เหมือนเทรนด์แฟชั่น ทุกๆ สิบปีพวกเขาจะเปลี่ยนหัวข้อความสนใจไปเรื่อยๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้ตลาดวิชาการพัฒนา ยังไงก็ตาม ความสนใจต่อหนังสือของผมในประเทศไทย สะท้อนว่าสิ่งที่ผมเขียนเป็นเรื่องที่คนไทยวงกว้างสนใจอยู่ตอนนี้ ถึงแม้ว่าเพื่อนชาวไทยของผมหลายคนจะมีโอกาสได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษบ้างแล้ว แต่การที่หนังสือเล่มนี้มีฉบับภาษาไทยคงทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้อ่านได้กว้างขึ้น ผมจึงหวังว่าทางสำนักพิมพ์จะช่วยโฆษณาให้คนรู้จักเจ้าชีวิตฯ มากขึ้นนะครับ
“อีกหนึ่งประเด็นสุดท้ายที่ผมอยากกล่าวในคืนนี้ คือเจ้าชีวิตฯ คงแปลไทยได้เฉพาะในห้วงเวลานี้เท่านั้น ผมไม่คิดว่าเราจะมีโอกาสได้ตีพิมพ์ในช่วงรัชกาลที่แล้วเลย บางอย่างถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง และถึงแม้จะไม่เปลี่ยนไปเสียทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็ได้เริ่มเปลี่ยนแล้ว ในไทย เรามีพื้นที่ถกเถียงที่เปิดกว้างขึ้น คนสามารถพูดถึงหัวข้อที่เคยเป็น หรือกระทั่งล่าสุดก็อาจจะยังเป็นสิ่งต้องห้ามอยู่
“กรณีนี้ ผมคิดว่าเจ้าชีวิตฯ ไม่ใช่หนังสือต่อต้านสถาบันกษัตริย์ แต่เป็นหนังสือที่อธิบายว่าสถาบันกษัตริย์ไทยสร้างภาพลักษณ์อันเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติได้อย่างไร ขณะเดียวกันก็สามารถดำเนินการเปลี่ยนความคิดคนในชาติ สร้างความก้าวหน้าตามแบบตะวันตกได้ หลายเรื่องเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสนใจอยู่ในปัจจุบัน ผมดีใจมากที่คนไทย อย่างน้อยก็ส่วนหนึ่งในสังคมสามารถอ่านหนังสือของผมในฉบับภาษาไทยได้ ผมขอถือว่ารางวัลในค่ำคืนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปิดพื้นที่ถกเถียงใหม่ๆ เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และการศึกษาประวัติศาสตร์ของสถาบันกษัตริย์ไทย ขอขอบคุณอีกครั้งกับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ขอให้ทุกคนมีวันที่ดีครับ”
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกในงานเสวนา ‘ความน่าจะอ่าน 2023 Final Round – อ่าน 7 ที ดี 7 หน’ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566
ย้อนอ่านหนังสือ Top Highlights และกิจกรรมความน่าจะอ่าน 2023 – อ่าน 7 ที ดี 7 หน ได้ที่นี่