Agony Uncle* Hema ลุงเฮม่าตอบปัญหา: ว่าด้วยเพศของเสื้อผ้า และการไปต่างประเทศ

สวัสดีค่ะ ช่วงที่ผ่านมาเสื้อผ้าแนว unisex หรือแฟชั่นที่ไม่แบ่งชายหญิงได้รับความนิยมมากขึ้น จึงอยากถามคุณลุงว่าแฟชั่นไม่มีเพศจริงหรือไม่ – พันช์

ตอบคุณพันช์

อย่างที่รู้กันว่า โลกปัจจุบันไม่ได้มีแค่หญิง/ชาย/เกย์ แต่สเปกตรัม (spectrum) ของอัตลักษณ์ทางเพศกว้างไกลเท่าที่เราจะนึกออก จุดประสงค์ก็เพื่อให้ทุกคนในสังคมต่างมีที่ยืนในเรื่องของอัตลักษณ์ทางเพศ (คือการที่คนนั้นมองตัวเองว่าเป็นเพศไหน) เรามีการรณรงค์สมรสเท่าเทียม เราฉลอง Pride Month กันทุกปี ราวกับกำลังโอบรับโลกใหม่ซึ่งความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องปกติ

ก็อาจจะเป็นแบบนั้น ยกเว้นเวลาที่บางคนต้องกรอกข้อมูลเอกสารราชการ เข้าห้องน้ำสาธารณะ หรือไปเลือกเสื้อผ้าที่ร้าน ถึงตอนนั้นก็จะพบว่า โลกเรายังไกลจากจุดหมายของความหลากหลายทางเพศ

หากสำรวจตามประวัติศาสตร์ก็จะพบว่า โลกตะวันตกเข้มข้นจริงจังในเรื่องการแต่งกายให้ตรงตามเพศสภาพ หากผู้หญิงแต่งตัวอย่างผู้ชายก็กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ขนาดในเมืองใหญ่ๆ อย่างนิวยอร์กช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ถ้าผู้หญิงสวมกางเกงนี่อาจโดนตำรวจจับ เพราะมีกฎหมายชื่อ ‘three pieces clothing law’ ซึ่งระบุว่าผู้หญิงจะต้องสวมเสื้อผ้าที่ระบุไว้สามชิ้น นั่นคือบรา กระโปรงชั้นในและกระโปรง

ขณะเดียวกันในสมัยนั้น ผู้หญิง LGBTQ คนไหนที่ประกาศถึงเอกลักษณ์ทางเพศของตน อย่างคนมีเงินมีอำนาจ (ด้วยการให้จิตรกรมาวาดภาพเหมือน) ก็จะเป็นข่าวใหญ่ ถึงขนาดต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ภาพวาดของราชินีแห่งสวีเดนองค์หนึ่งเป็นตัวท่านสวมชุดเดรสทับเสื้อเชิ้ตผู้ชาย ซึ่งต่อมาท่านก็สละราชย์ฯ ไปใช้ชีวิตซึ่งคบหาทั้งชายและหญิงเป็นคู่รักอย่างสบายใจ

ผู้หญิงฝรั่งเพิ่งมาสวมกางเกงกันเป็นเรื่องปกติในยุค 60 นี่เอง เสื้อผ้าผู้หญิงที่ ‘ยืม’ มาจากเสื้อผ้าผู้ชาย อย่างกางเกง (ไม่ใช่เชิ้ต เพราะผู้หญิงมีเชิ้ตของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว) จะผ่านกระบวนการที่ทำให้สวมใส่แล้วรู้สึกเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง กล่าวคือมีสรีระของหญิง/ชายที่แตกต่างมาเกี่ยวข้อง การกำหนดไซส์เสื้อผ้าของทั้งสองเพศสภาพต้องแยกเป็นสองระบบ ตามทรวดทรงองค์เอวและขนาดตัวตามชีวภาพของผู้สวมใส่

จุดประสงค์หลักของไซส์คือ เพื่อให้สวมใส่เสื้อผ้าได้พอดี สมส่วน ออกมาดูดี และเป็นเรื่องสำคัญขนาดโคโค ชาแนล (Coco Chanel) เองยังเคยบอกว่า “แฟชั่นคือสถาปัตยกรรม ว่าด้วยสัดส่วนต่างๆ เป็นสำคัญ” (Fashion is architecture. It is a matter of proportions)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความพอดีมีผลต่อผู้สวมใส่เสื้อผ้า ในตอนแรกของซีรีส์ตลกอังกฤษชื่อ IT Crowd เกี่ยวกับเนิร์ดสองคนในฝ่ายไอทีของบริษัทแห่งหนึ่งในอังกฤษ (เสียดายที่ Netflix ถอดซีรีส์นี้ไปเสียแล้ว เพราะเป็นซีรีส์ที่ดูทีไรก็ตลก นึกอะไรไม่ออกก็ดู IT Crowds มีคะแนนความชัวร์ว่าสนุกแน่ไม่แพ้ Friends เลย) วันหนึ่งเจ้าของบริษัทเผยความจริงว่า ที่วันนี้รู้สึกคึกคักมั่นใจเป็นพิเศษเพราะเอากางเกงผู้หญิงมาใส่ ชวนให้ผู้ชายในบริษัทหันมาใส่กางเกงผู้หญิงกัน

ประมาณว่าสัดส่วนและฟิตติ้งของเสื้อผ้า มีผลต่อความรู้สึกของคนสวมใส่

นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการใช้งาน คุณผู้หญิงในวันทำงานวันไหนจะต้องไปไซต์งานหรือทำอะไรสมบุกสมบัน ก้มๆ เงยๆ จะเลือกสวมกางเกงไปทำงาน สมัยนี้ไม่มีใครมองว่าไม่เรียบร้อย แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งเสื้อและกางเกงของผู้หญิงไม่มีแต่ผู้ชายมี คือกระเป๋าครับ (จะเถียงว่าก็ผู้หญิงมีกระเป๋าถือแล้วนี่ แต่การที่เสื้อผ้าจะมีกระเป๋านั้นจะไม่ทำให้ใช้งานง่ายกว่าหรือไม่) บางทีเชิ้ตผู้หญิงก็มีกระเป๋าให้ แต่ขนาดเท่ากลักไม้ขีดซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีไปทำไม

เมื่อหันกลับไปดูเสื้อผ้า unisex เท่าที่เห็น มีส่วนหนึ่งที่ออกแบบให้หลวมโคร่ง (เสื้อผ้าสำหรับคนธรรมดา ไม่ใช่ดาราอย่างแฮรี สไตล์ส เนอะ) เพื่อเลี่ยงเรื่องสัดส่วนโดยที่ไม่คำนึงถึงฟิตติ้งเท่าไหร่ มีบางแบรนด์ของฝรั่งเริ่มมาออกแบบเสื้อผ้าสำหรับเลสเบี้ยน ที่มาทางสายบุช แต่ก็ไม่ได้หนีจากความเป็นผู้หญิงโดยสิ้นเชิง แต่ที่แน่ๆ สัดส่วนของเสื้อผ้าน่าจะเหมาะกับผู้สวมใส่ที่มีเพศทางชีวภาพเป็นหญิง เห็นแล้วดูดีอยู่ครับ แต่นี่ก็ไม่ใช่เสื้อผ้า unisex ทว่าเป็นเสื้อผ้าสำหรับอัตลักษณ์ทางเพศหนึ่งโดยเฉพาะ

ลุงว่าเสื้อผ้า unisex เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะเสนอทางเลือกในชีวิตให้แก่อัตลักษณ์ทางเพศ หรือเป็นยุทธวิธีตีหัวระบบเก่าผ่านการเสนอเสื้อผ้าคอนเซ็ปต์ใหม่ แต่ด้วยเรื่องของสัดส่วนตามเพศทางชีวภาพ (โดยไม่ต้องพูดถึงเรื่องของอัตลักษณ์ทางเพศ) ซึ่งมีผลต่อความรู้สึกของผู้สวมใส่ รวมทั้งออกมาแล้วดูดี ลุงคิดว่ายังไม่ใช่เวลาที่เสื้อผ้า unisex จะครองตลาดนะครับ

ผมกำลังหาประเทศเพื่อไปเที่ยวช่วงปลายปี จึงอยากชวนคุณลุงคุยว่า ตั้งแต่ที่คุณลุงเคยไปมา คุณลุงชอบประเทศอะไรที่สุดครับ – โต

ตอบคุณโต

แหม อยากพูดอย่างคุณได้จังว่ากำลังมองหาจุดหมายในการไปเที่ยวต่างประเทศตอนปลายปี ยังไงเที่ยวเผื่อด้วยนะครับ เพราะปลายปีนี้ท่าทางจะยุ่ง ไม่น่ามีเวลาไปไหน (และไม่มีเงินด้วยแหละ)

ถามว่าชอบประเทศอะไรที่สุด ไม่รู้จะวัดจากอะไรได้นอกจากว่าเราไปเที่ยวบ่อยครั้งแค่ไหน ซึ่งก็คงจะไม่พ้นญี่ปุ่น เนื่องจากเดินทางสะดวก บรรยากาศดี อากาศเย็น (แม้ว่าปลายปีอาจหนาวเกินสบายไปหน่อย แต่เราคนไทยไม่รังเกียจเนอะ เรื่องตื่นหิมะขอให้บอก) อาหารอร่อย ค่าเงินเขากำลังตก เงินบาทจึงผงาดงาม โจรผู้ร้ายมีน้อย ผู้คนมีสำนึกหน้าที่พลเมือง ถ้อยทีถ้อยอาศัย ที่เที่ยวมีเยอะ แถมเรายังเป็นเหยื่อของสิ่งที่เรียกว่าซอฟต์พาวเวอร์ของญี่ปุ่น คืออะไรก็ดีและน่าค้นหาไปหมด

แต่ประเทศที่ชอบที่สุดไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศที่เราไปบ่อยที่สุดก็ได้นะครับ

ถ้าจะให้เลือก ลุงขอบอกว่าชอบศรีลังกามากที่สุด ผู้คนใจดีและไม่บุกประชิดตัว อีกทั้งชอบที่ตื่นมาตอนเช้าริมทะเลแล้วเห็นเรือประมงกางใบออกไปจับปลา (ตอนนั้นเขายังไม่ใช้เรือเครื่องกัน) นึกว่าฝันไป ชอบโบราณสถานอย่างเจดีย์ที่หน้าตาเหมือนพระปฐมเจดีย์แต่ใหญ่กว่าสามเท่า (และเก่ากว่าไม่รู้กี่ร้อยปี) ชาซีลอนดื่มอร่อยที่สุดก็ต้องที่ศรีลังกา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ชอบห้างสรรพสินค้าของรัฐซึ่งไม่ติดแอร์และพนักงานทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ชอบพวกมิจฉาชีพสมัครเล่นซึ่งคอยหลอกนักท่องเที่ยว แต่หลอกใครไม่ได้สักที ชอบบ้านเมืองแบบชนบทอังกฤษซึ่งตั้งอยู่กลางป่าเขา ในร้านมีพนักงานเป็นแขกผิวดำนุ่งโสร่งขาวสะอาดตา ชอบสถานีรถไฟชื่อ ‘Great Western’ ชอบงานสถาปัตยกรรมของ เจฟฟรีย์ บาวา (ตกลงนามสกุลของเขาตรงกับคำว่า ‘ภาวะ’ ในภาษาไทยหรือเปล่า) ชอบที่เคยไปดูแค่อาคารซึ่งเป็นออฟฟิศของเขาเพียงแห่งเดียว บ้านแสนสวยและโรงแรมสุดเท่ต่างๆ ซึ่งเขาออกแบบไว้ตั้งแต่หลายสิบปีก่อนก็ยังไม่เคยไป ซึ่งถ้าไปอีกก็คงตามไปดูงานของเขาที่เหลือ

ท้ายที่สุดอาจเป็นเพราะยังค้างคา ยังไม่สุด ถ้าได้ไปดูงานของคุณบาวาจนสุด ลุงคงย้ายไปชอบประเทศอื่นต่อ

ความชอบมันไม่มีเหตุผลหรอกครับ ถึงเราจะพยายามอธิบายที่มาที่ไปของมันยังไงก็เถอะ หวังว่าคุณคงตัดสินใจได้แล้วนะครับ ว่าอยากจะไปที่ไหน


Agony uncle หมายถึง ชายเจ้าของคอลัมน์ให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตทั่วไป ในช่วงแรกๆ ลุงเฮม่าจะเน้นเรื่องกฎเกณฑ์ เพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยให้เราอยู่ร่วมกันได้ในฐานะเพื่อนมนุษย์ แต่หลังจากเขียนคอลัมน์นี้มาได้ปีสองปีก็เริ่มตาสว่าง และที่สำคัญคือ หลังจากโลกรอบตัวมีแต่กฎเกณฑ์และการใช้อำนาจ (ซึ่งส่วนใหญ่มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ออกกฎ) ลุงเลยเปลี่ยนแนวมาเขียนตอบโดยเริ่มที่กฎเกณฑ์ แล้วตามด้วยวิธีหลอกล่อเล่นสนุกกับกฎนั้นๆ แทน  

**ส่งคำถามมาได้ที่ [email protected]

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

26 Mar 2021

ผี เรื่องผี อดีต ความทรงจำและการหลอกหลอนในโรงเรียนผีดุ

เมื่อเรื่องผีๆ ไม่ได้มีแค่ความสยอง! อาทิตย์ ศรีจันทร์ วิเคราะห์พลวัตของเรื่องผีในสังคมไทย ผ่านเรื่องสั้นใน ‘โรงเรียนผีดุ’ วรรณกรรมสยองขวัญเล่มใหม่ของ นทธี ศศิวิมล

อาทิตย์ ศรีจันทร์

26 Mar 2021

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save