ก่อนอื่นต้องบอกว่าชื่อบทความประจำเดือนนี้ ‘เท้งทั่วไทย ธรทั่วถิ่น ทิมทั่วโลก’ มีที่มาจากโพสต์ใน X ของคุณใบเฟิร์น @BAIFERN0616 ซึ่งหยิบยกมาจากความเห็นหนึ่งในรายการของคุณสรยุทธ์ทางช่อง 3 ผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวทั้งคุณใบเฟิร์นและเจ้าของความเห็นนี้ ขออนุญาตนำมาเป็นแรงบันดาลใจและขยายเป็นบทความต่อ
ทั้งนี้ขอชื่นชมในความแหลมคมของเจ้าของความเห็น ถ้าอยู่วงการโฆษณาก็เรียกได้ว่าเป็น copywriter แถวหน้าอีกคนและขอขอบคุณทั้งสองท่านไว้ ณ ที่นี้
ฝังผีก้าวไกล ปลุก ‘ภัยคุกคามใหม่’
กลับเข้าประเด็นหลักของบทความ ผมเคยเขียนเรื่องการต่อสู้เพื่อช่วงชิงอำนาจนำในสังคมไทย ระหว่างฝ่ายอำนาจเก่า (อนุรักษนิยม) กับฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ผีคณะราษฎร – ผีคอมมิวนิสต์ – ผีทักษิณ ซึ่งจบด้วยชัยชนะของฝ่ายอำนาจเก่าทั้งไตรภาค
ภาคล่าสุด ‘ผีก้าวไกล’ ศึกแรกจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายอำนาจเก่าเช่นเดิม ด้วยการยุบพรรค ตัดหัวผู้นำและแม่ทัพใหญ่จำนวนหนึ่งพร้อมขึ้นบัญชีรอการลงโทษขุนพลอีก 44 คน
ทว่าสงครามยังมีอีกหลายศึก ‘ผีก้าวไกล’ ถูกจับลงหม้อถ่วงน้ำไปแล้วก็จริง แต่จิตวิญญาณยังดำรงอยู่ ก่อร่างสร้างใหม่ในนามพรรคประชาชน
บทเรียนการยุบพรรค ‘ผีทักษิณ’ และ ‘อนาคตใหม่’ ที่ยุบแล้วยังโต ทำให้ฝ่ายอำนาจเก่าต้องวางกลเกมที่ซับซ้อนและสร้างความเป็นเอกภาพในฝ่ายตัวเองให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องโดดเดี่ยวพรรคประชาชน ทำทุกวิถีทางเพื่อให้สังคมเชื่อว่าพวกเขาคือ ‘ภัยคุกคามใหม่’
แม้ยังไม่ชัดว่าสังคมตอบสนองตามเป้าหมายหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่า การยุบพรรคและตัดหัวผู้นำกับแม่ทัพมีผลอย่างมากต่อการจัดตั้งทัพใหม่และที่สำคัญส่งผลต่ออารมณ์ของมวลชนผู้สนับสนุนพรรค ผู้ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ (ไม่ทุกคน) เมื่อถูกกระทำให้ผิดหวังและเจ็บปวดซ้ำๆ จากความฮึกเหิมจะเริ่มแปรเป็นความทดท้อห่อเหี่ยว
ผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของนิด้าโพลครั้งล่าสุดที่ระบุว่า คะแนนนิยมของแพทองธารมากกว่าณัฐพงษ์ แม้ว่าคะแนนพรรคประชาชนจะยังคงเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย แต่พรรคประชาชนมีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลงเมื่อเทียบกับครั้งเป็นพรรคก้าวไกล ขณะพรรคเพื่อไทยมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น
เหล่านี้คือความจริงที่ต้องยอมรับ แต่ไม่ใช่ยอมจำนน
‘ความหวังใหม่’ หรือ ‘ภัยคุกคามใหม่’
สำหรับผม ‘โอกาสและปัญหา’ หรือจะเรียกอีกอย่างว่า ‘จุดแข็งและจุดอ่อน’ ของพรรคประชาชนคือเรื่องเดียวกัน สิ่งนั้นคืออุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองที่ว่าด้วยความเชื่อ ‘อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน’ และ ‘เจ้านายคือประชาชน’
สำหรับคนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง เชื่อในความเปลี่ยนแปลงว่าจะนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ก้าวหน้ากว่า พรรคประชาชน คือโอกาสของพวกเขา ตรงข้ามกับคนที่พึงพอใจในสถานะ อำนาจ โครงสร้างทางสังคมแและเศรษฐกิจแบบเดิม พรรคประชาชนคือปัญหา (ระดับภัยคุกคามใหม่)
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า คนฝ่ายไหนมีมากกว่ากันและคนในฝ่ายนั้นๆ ถือดุลอำนาจอย่างไรในปัจจุบัน
โจทย์ใหญ่ของพรรคประชาชนและมวลชนที่สนับสนุนจึงอยู่ที่การโน้มน้าวให้คนที่เห็นต่างหรืออยู่ตรงกลางยังไม่ตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งมองให้เห็นว่า อุดมการณ์ จุดยืน และนโยบายที่พวกเขาออกแบบคือ ‘ความหวังใหม่’ ที่จะเปลี่ยนประเทศไทยใหม่ให้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่ภัยคุกคามใหม่ที่จะทำลายล้างใครหรือทำให้ระบบแย่ไปกว่าเดิม
ที่ผ่านมา พวกเขาทำสำเร็จแล้วหลายเรื่อง กระทั่งเรื่องที่ยากที่สุดในการเมืองไทยคือการซื้อเสียง ซึ่งเป็นรากฐานการเมืองที่ด้อยพัฒนา ใครหลายคนต่างยอมจำนนว่าเป็นปัญหาที่แก้ได้ยาก บางคนที่ไม่ปกติถึงกับเชื่อว่าหากแก้ไม่ได้ ทำไมไม่เปิดให้มีการซื้อขายเสียงแบบถูกต้องไปเลย
แต่พรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การลงเลือกตั้งโดยไม่พึ่งการซื้อเสียง นอกจากทำให้พรรคเติบโตได้จริงยังถึงขั้นชนะเป็นพรรคอันดับหนึ่งมาแล้ว
กระทั่งการ ‘รักษาคำพูด’ ในระดับที่เป็น ‘สัญญาประชาคม’ ซึ่งเป็นหัวใจการสร้างความเชื่อถือในหมู่ประชาชน พรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล-ประชาชนก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วเช่นกันว่าพวกเขามั่นคงกับเรื่องนี้
ในทางการเมืองมีคำกล่าวหนึ่งที่พูดกันว่า “การเมืองคือความเชื่อ และความเชื่อทางการเมืองคือความจริง”
พรรคประชาชนทำสำเร็จแล้วในการทำให้คนจำนวนมากเชื่อในอุดมการณ์และจุดยืน เพียงแต่ต้องขยายจำนวนคนให้มากขึ้นไปอีก และต้องทำให้คนเชื่อให้ได้ด้วยว่า เมื่อมีอำนาจในมือจะใช้อย่างสร้างสรรค์จริงๆ
ปรากฏการณ์คะแนนนิยมตกจากผลสำรวจนิด้าโพลเป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับเช่นที่กล่าวข้างต้นและหาทางแก้ไขปรับปรุง ไม่ต่างอะไรกับบริษัทเพิ่งถูกสั่งปิดโรงงาน ปลดซีอีโอและคณะผู้บริหารชุดเดิม เมื่อกลับมาเปิดกิจการใหม่ย่อมมีช่วงสะดุด ไม่ราบรื่นบ้าง แต่ตราบใดที่ ‘จุดขาย’ หรือ ‘core value’ ของบริษัทยังสอดคล้องกับค่านิยมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยอดขาย กำไร และส่วนแบ่งตลาดก็จะกลับมาเติบโตเช่นเดิม
ยุทธศาสตร์สามขา
‘เท้งทั่วไทย ธรทั่วถิ่น ทิมทั่วโลก’ จึงเปรียบเสมือนยุทธศาสตร์สามขาที่จะพาพรรคประชาชนฝ่ากระแสการถูกตีตราว่าเป็น ‘ภัยคุกคามใหม่’ เป็นสินค้า ‘อันตรายและมีพิษร้าย’ ต่อสุขภาพผู้บริโภค (โดยเฉพาะชนชั้นบนของปิรามิด) เป็นเพื่อนทางการเมืองที่ไม่ควรคบหา
‘เท้ง’ ในฐานะผู้นำปัจจุบัน ขับเคลื่อนภาพรวมทั่วประเทศ แม้มีข้อครหาบ้างว่า ‘เท้ง’ มีคาริสมาทางการเมืองไม่มากพอ แต่ในแง่ดีเอ็นเอทางการเมืองแบบอนาคตใหม่และก้าวไกลนั้นเขามีมากพอ คำพูดของคนการเมืองต่างขั้วที่เคยหลุดโดยไม่ตั้งใจว่า “ไอ้เท้งมันเอาตายแน่” คือข้อสรุปบอกตัวตนเขาได้ดี
‘ธร’ ในฐานะผู้ก่อตั้งวางรากฐานและอดีตผู้นำ ลงลึกถึงระดับท้องถิ่นเพื่อพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่า ด้วยจุดยืนและวิธีคิดที่กลั่นกรองเป็นนโยบาย เมื่อลงมือปฏิบัติแล้ว ‘ทำได้จริง’ และ ‘สำเร็จจริง’ เช่นกรณีศึกษาการผลักดันให้ท้องถิ่นบริหารจัดการน้ำประปาดื่มได้ และหากตัวแทนพรรคประชาชนชนะเลือกตั้งนายก อบจ. ได้สักจำนวนหนึ่งจะเป็นกรณีศึกษาที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกระดับเพื่อวัดผลความสามารถในการบริหารนโยบายสาธารณะเมื่อมีอำนาจในมือ
‘ทิมทั่วโลก’ อดีตผู้นำพรรคอีกคน ใช้ความสามารถที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติเป็นโอกาสสร้างและขยายความเข้าใจโครงสร้างการเมืองไทย รวมถึงจุดยืน วิธีคิด และวิถีทางการเมืองแบบอนาคตใหม่-ก้าวไกล-ประชาชนว่าสอดคล้องกับวิถีประชาธิปไตยที่เป็นสากลอย่างไร
ดูเผินๆ เหมือนจะไม่มีอะไรก็แค่เดินสายพูดคุยเสวนา แต่มองให้ลึกไปกว่านั้นในภาวะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญ นี่คือกลยุทธ์โลกล้อมไทยทางอ้อม เพราะหลายเวทีหลายองค์กรที่เชิญเขาไปร่วมแลกเปลี่ยนมีบทบาทในสายตาโลกไม่น้อย ผู้ร่วมแลกเปลี่ยนและผู้ร่วมเวทีหลายคนก็มีบทบาทในแต่ละประเทศทั้งในปัจจุบันและบางคนอาจจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตด้วย
เหลือเวลาอีกเพียงสองปีกว่าจะถึงการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2570 แต่ระหว่างทางยังมีศึกย่อยให้ประลองเป็นระยะ รอดูกันว่า ยุทธศาสตร์สามขาและยุทธวิธีย่อยต่างๆ จะพาพรรคประชาชนก้าวพ้นการถูกตีตราว่าเป็น ‘ภัยคุกคามใหม่’ ไปสู่การโอบรับว่าคือ ‘ความหวังใหม่’ ที่จะเปลี่ยนประเทศให้ดีกว่าเดิมได้หรือไม่