ผมเคยเขียนถึงการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจนำในประเทศเรา ระหว่างปีกอนุรักษนิยมกับปีกเสรีนิยม หลังทักษิณและเพื่อไทยทำสัญญาขายวิญญาณให้ซาตาน (ขออนุญาตยืมถ้อยคำของ Time ที่เขียนไว้ในบทวิเคราะห์ ฉบับที่นายกฯ เศรษฐาขึ้นปก) ย้ายข้ามขั้วมาอยู่กับปีกอนุรักษนิยมใหม่ๆ
เมื่อมองสงครามต่อสู้ทั้งสามไตรภาคคือ ผีคณะราษฎร-ผีคอมมิวนิสต์-ผีทักษิณ ชัยชนะตกเป็นของปีกอนุรักษนิยม (คลิกย้อนอ่านบทความได้ที่นี่)
แต่หลังผลการเลือกตั้ง 2566 พรรคก้าวไกลพลิกล็อกชนะเป็นอันดับหนึ่ง สงครามภาคใหม่ ‘ปราบผีก้าวไกล’ ก็อุบัติขึ้นทันที จนถึงวันนี้ปีกอนุรักษนิยมนำโดยพรรคเพื่อไทย พร้อมกองทัพหลักที่ประกอบด้วยภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาชาติ ห้ำหั่นรุมสกรัมก้าวไกลมาแล้วกว่าหกเดือน
ถึงเวลาตรวจสถานการณ์แนวรบในศึกแรกว่าผลเป็นอย่างไร และเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ผมขอเปรียบเทียบศึกนี้กับการชกมวยไทย
เพื่อไทย คือ มวยเก๋าเจนสังเวียน เหลี่ยมมวยแพรวพราว เคยเป็นแชมป์มาแล้วหลายรุ่นหลายเวที
ส่วนก้าวไกล คือ มวยดาวรุ่งมาแรง ฟอร์มสด ห้าวสุดขีด ลีลาสวยงาม บู๊สะบั้น ถอยหลังไม่เป็น
ยกหนึ่ง ทั้งคู่ปะทะกันผ่านเวทีแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เพื่อไทยโชว์ความเก๋าและความเขี้ยวทางการเมือง เลี่ยงที่จะรับปากทำตามนโยบายหาเสียงในบางเรื่อง เช่น ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
แต่พอถูกก้าวไกลจ้วงหมัดตรงทวงถามเข้าไปเต็มหน้า ก็ตีกรรเชียงแก้เกี้ยว แถลงเพิ่มเติมนอกสภาว่าจะรีบทำภายในสิ้นปี 2566 แต่เฉพาะบางสาย กลายเป็นอีกเรื่องที่ถูกจับโป๊ะว่า โฆษณาเกินจริง ไม่ตรงปก
เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เป็นอีกดอกที่ถูกก้าวไกลสาดแข้งเข้าก้านคอ แต่โชคดีที่เป็นจังหวะก้มหน้าเก็บคาง และยกการ์ดสูง เลยผ่อนหนักเป็นเบา อ้างว่าเดินหน้าแก้แน่ แต่เพื่อความรอบคอบ ขอเพิ่มขั้นตอนรับฟังความเห็นให้รอบด้าน จะได้ไม่ถูกคว่ำ ใช้แท็กติกยื้อเวลาอีกเช่นเคย
ยก 1 ผ่านไป ในสายตาคนดูส่วนใหญ่ให้คะแนนก้าวไกลเหลื่อมนิดๆ เพราะแม้จะเห็นว่าก้าวไกลออกอาวุธได้จะแจ้งกว่า แต่ธรรมชาติของเวทีมวยไทย ถ้าไม่เหลื่อมกันมาก มักจะให้เสมอไว้ก่อน เพราะเพิ่งเริ่มต้น
การเมืองก็เช่นกัน สองเดือนแรก ประชาชนจะยังไม่ค่อยคาดหวังผลงานจากรัฐบาลมากนัก เพราะต้องการให้เวลาปรับจูน
ยก 2 เริ่มเข้าคลุกวงใน จับคอตีเข่า ล็อกเหวี่ยงกันไปมาว่าด้วยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตและซอฟต์เพาเวอร์ สองเรือธงที่เพื่อไทยขายฝันไว้ใหญ่โต
ดิจิทัลวอลเล็ตจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ เกิดนวัตกรรมทางการเงินที่ต่างชาติต้องมาดูงาน
ซอฟต์เพาเวอร์จะสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล สร้างงานในประเทศเพิ่ม 20 ล้านตำแหน่ง คนไทยจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000บาท/เดือน/ครอบครัว
คลุกวงในกันไปสักพัก ก้าวไกลจับไต๋ได้ว่ามีแต่ราคาคุย เลยกระทุ้งเข่าเข้ายอดอก ทั้งเรื่องปัญหาที่มาของเงินที่จะเอามาแจก ข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย เทคโนโลยีที่คุยว่าจะใช้บล็อกเชน
ส่วนซอฟต์เพาเวอร์เพียงแค่เริ่มต้นอธิบายความหมายให้ผู้คนเข้าใจก็เข้ารกเข้าพงไปไกล ชกไปหันไปมองพี่เลี้ยงเป็นระยะว่าจะให้ออกอาวุธอย่างไรดี
สรุปยกนี้ กรรมการสุดจะฝืนใจลำเอียง เพราะกลัวคนดูโห่เหมือนกัน เนื่องจากก้าวไกลออกอาวุธจะแจ้งเหลือเกิน ดิจิทัลวอลเล็ตจนวันนี้หกเดือนกว่าแล้ว ไม่มีวี่แววจะคลอด มีแต่สัญญาณ ‘แท้ง’
คะแนนก้าวไกล 10 – เพื่อไทย 9
ยก 3 อภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ผ่านไปสองยก ก้าวไกลมวยหนุ่มฟอร์มสด พละกำลังเหลือเฟือ ออกลีลาบดขยี้ด้วยข้อมูล ประเด็นที่คม ชัด ลึก แสดงผ่านกราฟิกที่เข้าใจง่าย เห็นภาพชัดว่าการจัดทำงบประมาณไม่ตอบโจทย์การแก้วิกฤตที่เพื่อไทยอ้าง เช่น วิกฤตเศรษฐกิจปากท้อง วิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตความขัดแย้ง วิกฤตด้านการศึกษา วิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม
ที่สำคัญคือ เคยหาเสียงตัดลดงบประมาณกลาโหม แต่ถึงเวลากลับเพิ่ม 2% (เพื่อไทยโต้ว่า “เพิ่มในสัดส่วนที่ลดลง”)
การโรมรันผ่านอภิปรายงบประมาณ แม้ในที่สุดรัฐบาลชนะโหวตตามธรรมชาติเสียงข้างมาก แต่ฝ่ายค้านก็ชนะใจคนดูในสนามและถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน
สส. หลายคนของก้าวไกลแจ้งเกิดเป็นที่ยอมรับในความสามารถการอภิปราย เช่น ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, พนิดา มงคลสวัสดิ์, ภคมน หนุนอนันต์, ณรงเดช อุฬารกุล, ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์, ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์
ไม่นับที่เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว เช่น ศิริกัญญา ตันสกุล, พริษฐ์ วัชรสินธุ, รังสิมันต์ โรม
ยก 4 การตอบกระทู้สดและการผลักดันร่างกฎหมายต่างๆ ผ่านสภาฯ การต่อสู้ในยกนี้พรรคก้าวไกลได้คะแนนขาด ระดับ 10 – 8 เพราะรัฐมนตรีเพื่อไทยส่วนใหญ่และโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีเลี่ยงการมาตอบกระทู้สภาฯ อ้างว่าติดภารกิจ ทั้งๆ ที่นี่คือหนึ่งในภารกิจสำคัญของการทำงานการเมืองในระบบรัฐสภา
ยิ่งหันไปดูการผ่านร่างกฎหมายฉบับต่างๆ ก้าวไกลแสดงถึงการฟิตซ้อมเตรียมพร้อมเต็มพิกัด ออกหมัดเป็นชุดรัวๆ ทั้งหมัดตรง ฮุค อัปเปอร์คัต สารพัดร่างกฎหมายที่ผลักดันความก้าวหน้าของประเทศ ก้าวไกลชิงยื่นร่างไปแล้ว 39 ฉบับ
ขณะที่เพื่อไทยคิดว่าตัวเองมวยเก๋า ไม่ต้องฟิตซ้อมหนัก อาศัยเหลี่ยมมวย ปัดตก, ขอยกร่างไปศึกษาก่อนส่งร่างรัฐบาลประกบ, นายกฯ ไม่เซ็นรับรอง
ความขี้เกียจในการศึกษาและยกร่างกฎหมายของพรรคเพื่อไทยถึงขนาดรองประธานสภาฯ ที่มาจากเพื่อไทยเอง (พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน) เคยออกโรงตำหนิ สส. เพื่อไทยผ่านสื่อและชมเชยความขยันทำงานนิติบัญญัติของ สส. ก้าวไกล
ยก 5 ก้าวไกลเดินออกจากมุมในยกสุดท้าย กะปิดจ็อบศึกแรกด้วยการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้
แต่ยังไม่ทันได้แตะนวม ก่อนเริ่มชกในยกสุดท้าย กรรมการข้างเวทีส่งสัญญาณให้หยุดชกชั่วคราว พร้อมเรียกกรรมการบนเวที เดินเข้าห้องประชุม ท่ามกลางความงุนงงของคนดูทั้งสนาม
หลังทุกฝ่ายรอด้วยความอึดอัดใจ คณะกรรมการก็ประกาศว่าจำเป็นต้องยุติการแข่งขัน เนื่องจากนักมวยฝ่ายก้าวไกลถูกร้องเรียนว่าเคยเสนอให้แก้ไขกติกากำกับดูแลผู้ชมในสนามที่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์เจ้าของสนามมวย จึงถือว่าเข้าข่ายเซาะกร่อนบ่อนทำลายความมั่นคงของสนามและเจ้าของสนาม จำเป็นต้องนำเข้าที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการ เพื่อพิจารณาโทษต่อไป
สิ้นเสียงกรรมการประกาศ ทั้งสนามเงียบกริบได้ 3 วินาที ก่อนเกิดเสียงไชโย ปรบมือดีใจ จากฝ่ายกองเชียร์นักมวยเพื่อไทย เพราะเห็นแล้วว่าคะแนนตามหลังอยู่ ขืนชกต่อจนจบคงแพ้แน่นอน
ขณะที่ฟากกองเชียร์ก้าวไกลต่างโห่ร้องตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว บ้างก็ร่ำไห้ด้วยความคับแค้นที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างโจ๋งครึ่ม
เพราะตลอดการชกที่ผ่านมา 4 ยก กรรมการบนเวทีส่ออาการลำเอียง คอยช่วยเหลือฝ่ายเพื่อไทยเมื่อทำท่าเพลี่ยงพล้ำ บางครั้งแอบขัดขานักมวยก้าวไกลดื้อๆ ก้าวไกลชกด้วยสันหมัดตามกติกา ก็ถูกเตือนว่าอย่าใช้นวมตบ
ตรงข้าม บางทีเพื่อไทยแอบชกต่ำกว่าใต้เข็มขัดจนก้าวไกลสะดุ้งเฮือกออกอาการจุก กรรมการกลับมองไม่เห็น บอกให้ชกต่อไป
ส่วนกรรมการตีระฆังข้างเวทีก็ไม่น้อยหน้า เห็นเพื่อไทยโดนหมัดชุดโอนเอนไปมา หมดปัญญาป้องกันตัว รีบตีระฆังหมดยกทันที ทั้งที่เหลือเวลาอีกร่วม 10 วินาที
พี่เลี้ยงและกองเชียร์ฝ่ายก้าวไกลพยายามประท้วงก็ไม่เป็นผล อดทนหวังว่าครบยกแล้วผลการชกที่จะแจ้งจะตบหน้าความพยายามเอาเปรียบ
แต่ทุกอย่างก็จบลงเช่นที่เห็น แม้คณะกรรมการชุดใหญ่จะยังไม่ตัดสิน เพราะต้องใช้เวลาวินิจฉัย แต่คนส่วนใหญ่ก็คาดเดาว่า ก้าวไกล มวยดาวรุ่งฟอร์มสด อนาคตไกล จะถูกตัดสินให้แพ้ฟาวล์ (ยุบพรรค+ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคและ 44 สส.) โทษฐานคิดล้มล้างสนามและเจ้าของสนาม
สรุปผลการตรวจแนวรบสงครามปราบผีก้าวไกลผ่านเวทีมวย ศึกแรกปีกอนุรักษนิยมมีแนวโน้มชนะแบบค้านสายตาคนดู เพราะมีกรรมการรุมช่วย แต่นี่ไม่ใช่ศึกสุดท้าย สงครามยังยืดเยื้อยาวนาน มีอีกหลายศึกให้ประลอง ก้าวไกลยังหนุ่มสาวมีเวลาให้เอาคืน
วันนี้อาจแพ้ศึก แต่ระยะยาวถ้าไม่ท้อถอย หมั่นฝึกซ้อม เตรียมความพร้อมเสมอ วันข้างหน้าพวกเขาจะชนะสงคราม
เรื่อง: ประทีป คงสิบ
