ความหมายที่ถูกต้องของรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว

บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญที่ถือกำเนิดขึ้นภายใต้ระบอบอำนาจนิยมสามารถจะนำมาซึ่งข้อถกเถียงได้อย่างไม่รู้จักจบสิ้น บุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกฎหมายชั้นนำต่างก็ต้องพยายามขบคิดหา ‘คำตอบที่ถูกต้อง’ ในแต่ละกรณีว่าเอาเข้าจริงแล้วบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญซึ่งถกเถียงกันอยู่นั้นมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร

การถกเถียงเรื่องรักษาการนายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจยุบสภาได้หรือไม่ก็เป็นอีกหนึ่งปมปัญหาซึ่งยังคงมีการให้ความเห็นที่แตกต่างเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ประเด็นดังกล่าวนี้เป็นข้อถกเถียงกันอย่างสำคัญและจะยิ่งทวีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้คุณแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันส่งผลให้รองนายกรัฐมนตรีต้องมาดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี

(กรณีดังกล่าวมิใช่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากการทำหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรีแทนในปัจจุบันเป็นการรักษาราชการแทน อันสืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่อาจทำหน้าที่ได้ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน อันทำให้ผู้ที่รักษาราชการแทนสามารถมีอำนาจเฉพาะในทางการบริหารได้เช่นเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีมีอำนาจ)

นักกฎหมายจำนวนมากมีความเห็นว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง ด้วยการให้เหตุผลว่าการยุบสภาเป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรีอันเป็นไปตามหลักการถ่วงดุลและตรวจสอบระหว่างรัฐบาลและรัฐสภา หากพิจารณาจากระบบรัฐสภาของอังกฤษ นายกรัฐมนตรีคือตำแหน่งที่ได้รับความเห็นชอบมาจากสภาสามัญชน (House of Commons) หากต่อมาเกิดความไม่เห็นพ้องระหว่างกันหรือรัฐสภาไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลอีกต่อไป นายกรัฐมนตรีจะเป็นบุคคลที่มีอำนาจในการยุบสภาแต่เพียงผู้เดียว (หากไม่ลาออกจากตำแหน่ง)

นอกจากนี้ยังมีการให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าการยุบสภามิใช่เป็นการใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน อันหมายถึงการตัดสินใจบริหารสั่งการตามนโยบายกฎหมายต่างๆ ต่อหน่วยงานที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชา แต่การยุบสภาเป็นการกระทำที่กระทบต่อรัฐสภาหรือฝ่ายนิติบัญญัติ อันมีผลให้ต้องสิ้นสุดวาระลงและนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่

ความข้อนี้เป็นจริงอย่างไม่อาจปฏิเสธหากพิจารณาตามหลักการของการปกครองในระบบรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐสภาแบบอังกฤษ (Westminster model) แต่การให้เหตุผลในลักษณะดังกล่าวนี้ ผู้ให้เหตุผลอาจมองข้ามความจริงที่สำคัญประการหนึ่งไปว่ารัฐธรรมนูญของไทยมีความแตกต่างออกไปอย่างไพศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบจัดความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันการเมืองฝ่ายต่างๆ

ในอังกฤษ สภาสามัญชนที่มาจากการเลือกตั้งถือเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนนโยบายการเมือง เมื่อพรรคการเมืองใดได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนก็สามารถรวบรวมเสียงอย่างอิสระในการจัดตั้งรัฐบาล และนำนโยบายที่หาเสียงไปสู่การปฏิบัติเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

แต่ในประเทศไทย สภาผู้แทนราษฎรยังไม่ได้มีสถานะเป็นแกนกลางของการขับเคลื่อนนโยบายทางการเมืองได้อย่างเป็นจริง แม้จะได้รับเลือกตั้งมาเป็นจำนวนมากซึ่งควรนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลและผลักดันนโยบายกลับคืนมาสู่ผู้สนับสนุนทางการเมือง แต่ก็เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนมิใช่หรือว่าในการดำเนินการดังกล่าว สส. จำนวนหนึ่งกลับต้องเผชิญความยากลำบากจากการใช้อำนาจขององค์กรอิสระรวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้สร้างปัญหาและอุปสรรคให้เกิดขึ้นอย่างสำคัญ

พ้นไปจากประเทศไทยแล้ว มีประเทศใดบ้างที่ใช้ระบบรัฐสภาแล้วบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเผชิญกับการสกัดกั้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างรุนแรงและบ่อยครั้งเฉกเช่นที่เกิดขึ้นในประเทศไทย มีศาลรัฐธรรมนูญประเทศใดสามารถใช้อำนาจอย่างล้นพ้นในการตัดสินประเด็นปัญหาทางจริยธรรมของนักการเมือง ทั้งที่ควรเป็นความรับผิดในทางการเมือง

อย่าลืมว่าอังกฤษไม่มีศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระมาคอยเตะตัดแข้งตัดขาสถาบันทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งแต่อย่างใด ดังนั้น คำอธิบายว่าประเทศไทยใช้ระบบรัฐสภาแบบอังกฤษ จึงควรเอาหลักการของอังกฤษมาปรับใช้จึงอาจผิดฝาผิดตัวไปก็เป็นได้

ขณะที่แอบอ้างถึงหลักการแบบอังกฤษ แต่ในแง่มุมอื่นๆ ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบรัฐสภาแบบอังกฤษกลับถูกมองข้ามหรือแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น การจัดวางสถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษภายในความสัมพันธ์ทางการเมืองภายใต้หลัก King can do no wrong ถือเป็นหัวใจสำคัญในห้วงเวลาปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงสถานะอันเป็นกลางในทางการเมือง และมิให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในทางการเมืองในการแสวงหาประโยชน์ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อันอาจกระทบต่อความจงรักภักดีของประชาชนส่วนอื่นๆ ให้สั่นคลอน

ความพยายามในการถวายฎีกาเพื่อให้มีนายกฯ พระราชทาน หรือการเรียกร้องให้ใช้อำนาจเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งหรือถอดถอนนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นในระบบรัฐสภาแบบอังกฤษมาเนิ่นนานแล้ว แต่ภายในสังคมไทย เหตุการณ์ดังกล่าวก็เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้

ส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมลงชื่อเรียกร้องการใช้พระราชอำนาจก็คือผู้ที่อธิบายเรื่องการยุบสภาตามระบบรัฐสภาแบบอังกฤษนั่นแหละ

หากทำความเข้าใจการให้คำอธิบายต่อความหมายอันแท้จริงของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นในข้อถกเถียงหลายเรื่อง ก็จะพบว่าเป็นการมุ่งตอบคำถามแบบเฉพาะเสี้ยวทั้งที่ความหมายทั้งหลายที่เอ่ยอ้างกันมาล้วนวางอยู่บนหลักการที่ใหญ่และกว้างขวางกว่านั้น ระบบรัฐสภาแบบอังกฤษตั้งอยู่บนรากฐานที่หนักแน่นและสืบทอดมาอย่างยาวนานเป็นเวลาหลายร้อยปี (ขึ้นอยู่กับว่าจะนับจากการเกิดขึ้นของ Magna Carta 1215, Petition of Rights 1628 หรือ Bill of Rights 1689) อย่างน้อยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

หนึ่ง สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่เหนือการเมือง อันมีความหมายว่ากิจการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารประเทศจะดำเนินไปตามกลไกของระบบรัฐสภา

สอง สภาสามัญชนหรือสภาผู้แทนราษฎร คือสถาบันทางการเมืองที่มีความสำคัญโดยจะเป็นใจกลางของระบบการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งรัฐบาลและการควบคุมตรวจสอบรัฐบาล การออกกฎหมาย ความเปลี่ยนแปลงในด้านนโยบายหรือทิศทางของประเทศจะมาจากการตอบสนองต่อประชาชนโดยผ่านกลไกระบบการเลือกตั้งเป็นสำคัญ การล้มล้างสถาบันที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่ใช่สิ่งที่จะกระทำได้โดยองค์กรอื่นๆ ของรัฐ

สาม รัฐธรรมนูญแบบไม่เป็นประมวล (uncodified constitution) แต่มีความชัดเจน แม้อังกฤษจะไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษรและนำมาประมวลไว้ในที่แห่งเดียว แต่ก็มีความชัดเจนที่จะทำให้เป็นที่รับรู้กันว่าเมื่อเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ แล้วจะมีผลอย่างไรติดตามมา เช่น เมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาก็จะนำมาสู่การเลือกตั้ง ไม่มีการบอยคอต ไม่มีการรัฐประหาร ไม่มีความพยายามทำให้เกิดสุญญากาศ เป็นต้น จึงทำให้ไม่มีข้อถกเถียงในแบบที่มักจะเกิดขึ้นในสังคมไทย   

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้หมายความว่าจึงไม่จำเป็นต้องสนใจหรือให้ความสำคัญกับหลักการของกฎหมายรัฐธรรมนูญจากประเทศอื่นๆ ความรู้เหล่านั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธอย่างแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันการนำคำอธิบายจากดินแดนอื่นเข้ามาปรับใช้แบบเพียงส่วนเสี้ยวก็อาจเป็นสิ่งที่ต้องรับฟังอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะมาจากปากของนักกฎหมายชั้นนำเพียงใดก็ตาม

เพราะคำตอบบางเสี้ยวที่เลือกมาจากประเทศซึ่งประชาธิปไตยตั้งมั่นอาจกลายเป็นส่วนเสริมให้รัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยวในสังคมแห่งนี้ดำรงความชอบธรรมสืบต่อไป 

MOST READ

Politics

16 Dec 2021

สิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับและถูกควบคุมตัว (ตอนที่ 1) : เหตุใดจึงต้องพบศาล และต้องพบศาลเมื่อใด

ปกป้อง ศรีสนิท อธิบายถึงวิธีคิดของสิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับกุมและควบคุมตัว และบทบาทของศาลในการพิทักษ์เสรีภาพปัจเจกชน

ปกป้อง ศรีสนิท

16 Dec 2021

Politics

25 Jan 2024

ผู้พิพากษาอาวุโสมีไว้มากมาย… ทำไม

‘ใบตองแห้ง’ ชวนสำรวจเงินเดือนของเหล่าผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และชวนตั้งคำถามว่า บทบาทหน้าที่ของผู้พิพากษาอาวุโสเหล่านี้คืออะไร สร้างประโยชน์ใดให้แก่กระบวนการยุติธรรมไทยบ้าง

อธึกกิต แสวงสุข

25 Jan 2024

Politics

23 Feb 2023

จากสู้บนถนน สู่คนในสภา: 4 ปีชีวิตนักการเมืองของอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

101 ชวนอมรัตน์สนทนาว่าด้วยข้อเรียกร้องจากนอกสภาฯ ถึงการถกเถียงในสภาฯ โจทย์การเมืองของก้าวไกลในการเลือกตั้ง บทเรียนในการทำงานการเมืองกว่า 4 ปี คอขวดของการพัฒนาสังคมไทย และบทบาทในอนาคตของเธอในการเมืองไทย

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

23 Feb 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save