สหรัฐอเมริกา ดินแดนที่ฟุตบอล ไม่ใช่ ‘Football’

ฟุตบอล

พอมานั่งคิดดีๆ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบ ชั่ง-ตวง-วัด ที่ใช้ แกลลอน, ไพนต์, ออนซ์, ปอนด์, นิ้ว, ฟุต, หลา, ไมล์ และ เอเคอร์ และเมินระบบเมตริกแบบที่นานาประเทศใช้กัน หรือหน่วยที่เกี่ยวกับอุณหภูมิ พวกเขาก็เลือกใช้องศาฟาเรนไฮต์แทนองศาเซลเซียส

ไม่ใช่แค่เรื่องของ มาตราชั่ง ตวง วัด หรือหน่วยในการนับคำนวณเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลากหลายอย่างที่อเมริกันชนมักใช้แตกต่างจากชาติอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือเรื่องของกีฬา โดยมีหนึ่งคำถามคลาสสิกที่ว่า “ทำไมในสหรัฐอเมริกา ถึงเรียกฟุตบอลว่า ซ็อกเกอร์?” หรือคำถามในมุมที่ตรงข้ามกันอย่างเช่น “ทำไมอเมริกันฟุตบอล ถึงถูกเรียกว่าฟุตบอล?”

คำถามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความคาใจของผู้คน และเป็นหนึ่งในเรื่องที่นับได้ว่า ‘แปลกแยก’ และ ‘แตกต่าง’ ในสายตาคนที่คุ้นเคยกับการเรียกกีฬาฟุตบอลว่า ‘ฟุตบอล’ อีกทั้งเมื่อลองค้นหาคำตอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าเรื่องราวดังกล่าวกลับซับซ้อนกว่านั้นและเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว โดยน่าจะตอบคำถามที่ใครหลายคนคาใจได้ และอาจทำให้เข้าใจความเป็น ‘อเมริกัน’ มากขึ้นอีกไม่มากก็น้อยด้วย

ต้นกำเนิดของ ‘ฟุตบอล’ ที่ไม่ใช่ ‘Football’

แม้หลายคนอาจคุ้นชินกับคำว่า ‘ฟุตบอล’ (Football) ว่าหมายถึงกีฬาที่ใช้เท้าเตะลูกบอลกลมๆ กันไปมา บนสนามสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อนหาทางยิงเข้าประตูกรอบสี่เหลี่ยมที่อยู่สุดสนามอีกฝั่งให้ได้ แต่ในความจริงแล้วคำดังกล่าวถูกใช้เป็นคำที่ใช้ลงท้ายในกีฬาอะไรสักอย่างที่ต้องใช้ลูกอะไรบางอย่าง เล่นในสนามหญ้า โดยมีผู้เล่นสองฝั่งต่างหาก

แน่นอนว่าด้วยรากศัพท์ของคำดังกล่าวน่าจะหมายถึงกีฬาอะไรที่ต้องใช้ ‘เท้า’ ในการเล่น แต่กีฬาที่เล่นบนสนามหญ้าในยุคนั้นหลายๆ อย่าง ก็มีเท้าเป็นส่วนผสมในการเล่นระดับหนึ่ง มากบ้าง น้อยบ้างแตกต่างกันไป โดยนักประวัติศาสตร์บางส่วนเชื่อว่า คำว่าฟุตบอลอาจเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคกลาง โดยถูกบัญญัติขึ้นเพื่อแยกกีฬาที่ใช้เท้า (Foot) จริงๆ เล่น กับกีฬาที่ต้องขี่ม้าในการเล่น เพราะยุคนั้นม้าเป็นส่วนประกอบสำคัญของกีฬามากมาย เช่น การแทงทวน (Jousting) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีการยืนยันที่ชัดเจน แต่ในครั้งแรกที่มีการใช้คำว่าฟุตบอลในศตวรรษที่ 19 ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่ากีฬาฟุตบอล หมายถึงกีฬาฟุตบอลที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้จริงหรือไม่ เพราะมันถูกใช้กับกีฬาที่มีกฎการเล่นแตกต่างกันไป อีกทั้งไม่มีหลักฐานใดๆ ที่สามารถใช้ยืนยันถึงกฎกติกาที่แน่นอนของมัน และดูเหมือนกีฬาอื่นๆ อาจจะมีกฎที่ชัดเจนใช้มาก่อนฟุตบอลเสียอีก หนึ่งในกีฬาที่ยังคงใช้คำดังกล่าวต่อท้ายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ไม่ใช่กีฬาฟุตบอล นั่นคือ ‘รักบี้ฟุตบอล’ โดยมีเอกสารการใช้คำดังกล่าวมาตั้งแต่ราวปี 1846

จนกระทั่งในปี 1857 สโมสรเชฟฟิลด์ เอฟซี ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก่อตั้งขึ้น ได้ออกกฎเกณฑ์เกี่ยวกับฟุตบอลที่เรียกว่า ‘กฎเชฟฟิลด์’ (Sheffield Rules) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่คำว่า ‘ฟุตบอล’ ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ และภายหลังจากนั้นไม่กี่ปี ราวปี 1860 มีความพยายามเพิ่มมากขึ้นในอังกฤษที่จะรวมและประสานเกมฟุตบอลต่างๆ ที่เล่นในโรงเรียนของรัฐและเขตอุตสาหกรรมทางตอนเหนือภายใต้กฎเชฟฟิลด์นี้ อีกทั้งยังมีการตั้งกฎเกี่ยวกับฟุตบอลขึ้นมาใหม่ๆ อีกหลายกฎ เช่น กฎอัปปิงแฮม, กฎแคมบริดจ์ เป็นต้น จนนำมาสู่การก่อตั้งสมาคมฟุตบอล หรือ FA ในปี 1863 เพื่อกำกับดูแลกีฬาชนิดนี้ที่มีกฎมากมาย ให้มาอยู่ในกฎของสมาคมเพียงกฎเดียวและบังคับใช้กฎดังกล่าวทั่วทั้งประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในยุคนั้นกีฬาที่ใช้เท้าเตะลูกบอลกลมๆ ไปมาเพื่อหาทางยิงประตูนี้ ก็ไม่ได้มีชื่อว่าฟุตบอลตรงๆ แบบที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แต่มันถูกเรียกว่า ‘Association Football’ เพื่อไม่ให้ไปสับสบกับกีฬาฟุตบอลยอดฮิตในสมัยนั้นอย่าง ‘รักบี้ฟุตบอล’ นั่นเอง ดังนั้นแต่เดิมคำว่าฟุตบอลจึงไม่ได้หมายถึงกีฬาฟุตบอลแบบที่หลายคนเข้าใจในปัจจุบัน

คำว่า ‘Soccer’ ก็ไม่ใช่คำศัพท์อเมริกัน

ทุกวันนี้คนอเมริกันเรียกกีฬาที่คนทั้งโลกเรียกว่า ‘ฟุตบอล’ (Football) ด้วยคำว่า ‘ซอคเกอร์’ (Soccer) และมีคนไม่น้อย ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยที่ไปกล่าวหาคนอเมริกันว่าเป็นพวกแปลกแยกและผิดเพี้ยน เนื่องจากพวกเขาไปคิดค้นคำแปลกๆ มาใช้เรียกกีฬาฟุตบอล แล้วเอาคำว่า ‘Football’ ไปเรียกกีฬาของตัวเองที่แทบจะไม่ได้ใช้เท้าเล่น

อย่างไรก็ตาม คำว่าซอคเกอร์ไม่ใช่คำอเมริกัน และพวกเขาก็ไม่ควรจะมีความผิดหากเลือกใช้คำคำนี้ เพราะในความเป็นจริงแล้วคำว่า ‘ซอคเกอร์’ เกิดขึ้นในอังกฤษ!

หากย้อนกลับไปไม่กี่ย่อหน้าข้างบน กีฬาฟุตบอลของอังกฤษในยุคแรกเริ่มเองก็ไม่ได้ถูกเรียกว่าฟุตบอลเช่นกัน แต่มันถูกเรียกว่า ‘Association Football’ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่คุณที่คิดว่า Association Football เป็นคำที่ยาวเกินไปที่จะเรียกมันได้ง่ายๆ แต่หากจะตัดคำว่าฟุตบอลออกเหมือนที่รักบี้ฟุตบอลตัดคำนี้ จนเหลือแค่ ‘รักบี้’ ก็ไม่น่าจะเวิร์ก เพราะจะเหลือแค่คำว่า Association ซึ่งจะสร้างความงงงวยมากกว่าว่ามันคือกีฬาอะไร ดังนั้นคำศัพท์ว่า ‘ซอคเกอร์’ (Soccer) จึงเกิดขึ้นในอังกฤษ เพื่อใช้เรียกแทนกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน

ทั้งนี้ที่มาของคำดังกล่าวมาจากการตัดคำไปเรื่อย โดยเริ่มจากคำว่า Association Football โดยตัดเหลือแค่ ‘Assoc’ ซึ่งก็ยังไม่สามารถสื่อสารความหมายได้ อีกทั้งยังฟังแล้วแปลกๆ จนเหลือแค่คำว่า ‘Soc’ แล้วจึงเติม -er เข้าไป เพราะเชื่อกันว่าวิธีใช้ -er เติมเข้าไปในคำต่างๆ เป็นที่นิยมกันในยุคสมัยนั้น โดยเฉพาะที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดซึ่งเป็นเป็นผู้ยืนยันว่า คำว่า Soccer มีที่มาจากอังกฤษ ไม่ใช่อเมริกัน โดยมีหลักฐานยืนยันคือคำว่า Rugger ที่หมายถึงรักบี้ หรือ Tenner ที่หมายถึง ธนบัตร 10 ปอนด์

ดังนั้น เมื่อคำดังกล่าวแพร่หลายข้ามทวีปไปยังสหรัฐอเมริกา ในยุคที่พวกเขาใช้ศัพท์คำว่าฟุตบอลไปแล้ว ซอคเกอร์จึงกลายเป็นฟุตบอล สำหรับพวกเขาไปโดยปริยาย

เหตุผลที่ฟุตบอลกลายเป็น ‘อเมริกันฟุตบอล’

‘ฟุตบอล’ และ ‘รักบี้ฟุตบอล’ เดินทางมายังสหรัฐอเมริกาในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยไม่มีใครสามารถระบุเวลาที่แน่นอนได้ แต่ต้องเป็นช่วงก่อนปี 1900 อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะมีการบันทึกอย่างเป็นทางการว่า อเมริกันฟุตบอลเกมแรกที่เล่นกันในแผ่นดินสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1869 โดยเป็นการแข่งขันในระดับมหาวิทยาลัยระหว่าง มหาวิทยาลัยรัตเจอร์ส กับ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน แต่ตอนนั้นกฎเกี่ยวกับอเมริกันฟุตบอล ยังไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เป็นอยู่ในตอนนี้ อันที่จริงต้องเรียกว่าห่างไกลกันมาก

จนกระทั่งในปี 1880 วอลเตอร์ แคมป์ ผู้ที่จะถูกเรียกว่า บิดาแห่งอเมริกันฟุตบอล เริ่มต้นใช้การ ‘สแน็ป’ ในการเริ่มเพลย์ และมีการกำหนดกฎเรื่องเส้นแนวปะทะ (line of scrimmage) และเริ่มให้มีการปาบอลไปข้างหน้าในเวลาต่อมา จากจุดนั้นเองทำให้ ‘อเมริกันฟุตบอล’ เริ่มเป็นอเมริกันฟุตบอลอย่างที่รู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าแต่เดิมกีฬาชนิดนี้ก็ไม่ได้ถูกเรีกว่าฟุตบอลมาตั้งแต่แรกเช่นกัน มันถูกเรียกว่า ‘อเมริกันฟุตบอล’ บ้างก็เรียกว่า ‘กริดไอร์ออนฟุตบอล’ (Gridiron Football) ก่อนที่มันจะถูกเรียกแค่ฟุตบอล ตามชื่อหลังของมัน จนเมื่อกีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก ชื่อของฟุตบอลก็ยิ่งเป็นที่แพร่หลายในสหรัฐอเมริกา จนทำให้เมื่อถึงจุดที่กีฬาอย่าง ‘ฟุตบอล’ ซึ่งเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลก แต่กลับไม่เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาก็จำเป็นต้องเรียกมันด้วยชื่ออื่นๆ เนื่องจากคำว่าฟุตบอลสำหรับชาวอเมริกันหมายถึง ‘อเมริกันฟุตบอล’ ไปแล้วนั่นเอง

เรื่องตลกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นตอนที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 1994 ชาวอเมริกันบางส่วนยังเข้าใจว่าพวกเขาจะได้จัดอเมริกันฟุตบอลชิงแชมป์โลกเลยด้วยซ้ำไป เพราะความหมายของคำว่า ‘Football’ สำหรับชาวอเมริกัน ถูกนำไปใช้เป็นอย่างอื่นไปแล้ว และไม่ได้หมายถึงกีฬาฟุตบอลแบบชาวโลกส่วนมากเข้าใจอีกต่อไป

ไม่ใช่เพียงประเทศเดียวที่เรียกว่า ‘Soccer’

แม้คำว่า ‘ซอคเกอร์’ จะเป็นคำที่แฟนบอลส่วนใหญ่ในโลกตั้งคำถามถึงความ ‘อิหยังวะ’ ของมัน แต่อันที่จริงแล้ว สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เพียงชาติเดียวที่เรียกกีฬาฟุตบอลเช่นนั้น ตัวอย่างที่ชัดเจนได้แก่คำว่า ‘ซอคเกอร์รูส์’ (Socceroos) ซึ่งเป็นฉายาฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลีย ก็บ่งบอกว่าในชาติของเขาใช้คำว่า ‘ซอคเกอร์’ เรียกฟุตบอลไม่ต่างจากสหรัฐอเมริกา โดยที่ออสเตรเลีย กีฬาอย่าง ‘ออสซี รูลส์’ (Aussie Rules) หรือ ‘ออสเตรเลียน รูลส์’ (Austraian Rules Football) ซึ่งเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่รวมเอากีฬารักบี้และฟุตบอลมารวมกัน โดยเป็นกีฬาที่ยึดเอาคำว่า ‘ฟุตบอล’ ไปใช้ โดยลีกของ ‘ออสซี รูลส์’ เองก็มีชื่อว่า AFL หรือ Australian Football League

สำหรับที่ออสเตรเลียแล้วคงไม่ต่างจากสหรัฐอเมริกาที่มีกีฬาของพวกเขาเอง และใช้คำเรียกกีฬาชนิดนั้นว่า ‘ฟุตบอล’ จนทำให้กีฬาอย่างฟุตบอลกลายเป็นกีฬาที่เรียกว่า ‘ซอคเกอร์’ ไป

นอกจากคำว่าฟุตบอลที่กลายเป็นของออสซี รูลส์แล้ว ที่ดินแดนแห่งนี้ยังมีคำศัพท์อย่างคำว่า ‘ฟุตตี้’ (Footy) ที่ถูกบัญญัติขึ้นมาเพื่อใช้เรียกกีฬาอย่าง ‘ออสซี รูลส์’ อีกด้วย อีกทั้งในความเป็นจริงฉายาของทีมฟุตบอลทีมชาติออสเตรเลียอย่าง ‘ซอคเกอร์รูส์’ ก็ไม่ได้มาจากคำว่า Soccer+Kangaroos ที่เป็นสัตว์ประจำชาติเพียงอย่างเดียว แต่คำว่า Roos นี้มาจาก Rules (ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงกัน) ที่คล้ายกับ ‘ออสซี รูลส์’ นั่นเอง

นอกจากประเทศออสเตรเลียแล้ว ประเทศอย่างแคนาดาก็เป็นอีกชาติที่เรียกฟุตบอลว่า ‘ซอคเกอร์’ เพราะคำว่าฟุตบอลถูกนำไปใช้กับอเมริกันฟุตบอลเฉกเช่นเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาแล้ว

จวบจนปัจจุบันนี้มีคนบางกลุ่มโดยเฉพาะในประเทศอังกฤษที่พยายามเรียกร้องให้ชาวอเมริกันใช้คำว่า Football เรียกกีฬาฟุตบอลของพวกเขาซึ่งมักจะเห็นได้ในการแข่งขันเกมฟุตบอลที่ทั้งสองชาติพบกัน แน่นอนว่าส่วนมากอาจทำแบบขำๆ เอาสนุกและเป็นสีสันสำหรับการแซวกันเท่านั้น แต่ก็มีบางรายที่จริงจังถึงขั้นยอมรับไม่ได้เลยทีเดียว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ ชาวอเมริกันเองก็น่าจะเปลี่ยนแปลงสิ่งนี้ได้แล้วเพราะภาพจำของคำดังกล่าวถูกผูกกับสิ่งหนึ่งไปแล้ว เหมือนกับการไปบอกว่าหลังจากนี้ห้ามเรียกสุนัขว่า ‘หมา’ แต่ให้เรียกว่า ‘แมว’ แทนนั่นเอง

ดังนั้น ความแตกต่างระหว่างคำว่า ‘ซอคเกอร์’ กับ ‘ฟุตบอล’ ในแต่ละพื้นที่จึงเป็นเรื่องที่ควรทำความเข้าใจมากกว่าไปเข้าร่วมสงความในการแย่งชิงความหมายเหนือคำนั้น เพราะต่อให้ชาวอเมริกันหรือชาวออสซียอมเรียกกีฬาฟุตบอลว่า Football มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรให้โลกใบนี้ดีขึ้นอยู่ดี

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

26 Mar 2021

ผี เรื่องผี อดีต ความทรงจำและการหลอกหลอนในโรงเรียนผีดุ

เมื่อเรื่องผีๆ ไม่ได้มีแค่ความสยอง! อาทิตย์ ศรีจันทร์ วิเคราะห์พลวัตของเรื่องผีในสังคมไทย ผ่านเรื่องสั้นใน ‘โรงเรียนผีดุ’ วรรณกรรมสยองขวัญเล่มใหม่ของ นทธี ศศิวิมล

อาทิตย์ ศรีจันทร์

26 Mar 2021

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save