ก้าวต่อไปของไทย ในวันที่โลก ‘เหวี่ยงซ้ายป่ายขวา’ กับ สมชัย สุวรรณบรรณ

ก้าวต่อไปของไทย ในวันที่โลก ‘เหวี่ยงซ้ายป่ายขวา’ กับ สมชัย สุวรรณบรรณ

เลือกตั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส ซ้าย ขวา

อีกเพียงปีเดียวเท่านั้น โลกจะได้เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมหาศาล และให้บทเรียนราคาแพงแห่งการมีขันติธรรมแก่มนุษยชาติ

แม้ 80 ปีจะไม่ยาวนานเพียงพอให้ผู้คนรุ่นสงครามล้มหายตายจากไปทั้งหมด และไม่เพียงพอจะลบล้างบาดแผลแห่งสงครามในหลายพื้นที่ของยุโรปด้วยซ้ำ กระนั้นกลับดูจะยาวนานเพียงพอให้บางส่วนของสังคมตะวันตกตบเท้ากลับเข้าสู่บรรยากาศก่อนสงครามปะทุอีกครั้ง

101 ชวนอ่านบรรยากาศโลกตะวันตก ผ่านการเลือกตั้งใหญ่ของสองประเทศที่ทรงอิทธิพลยิ่งในยุโรป คือสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ที่ฝ่ายขวาจัดขับเคี่ยวกับฝ่ายซ้ายอย่างดุเดือด ท่ามกลางปัญหาจำนวนผู้อพยพ การล่มสลายของรัฐสวัสดิการ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ภาวะโลกเดือด ศึกแย่งชิงพลังงาน และสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ไม่มีทีท่าจะยุติในเร็ววัน พร้อมหาคำตอบว่าไทยจะก้าวต่อไปอย่างไรในโลกที่เหล่ามหาอำนาจต่างเหวี่ยงซ้ายป่ายขวา กับ สมชัย สุวรรณบรรณ อดีตบรรณาธิการข่าวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วิทยุบีบีซี ลอนดอน และอดีตผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส)

หมายเหตุ : เรียบเรียงเนื้อหาจากรายการ 101 One-on-One Ep.331 – พลิกขั้วการเมือง หลังเลือกตั้งอังกฤษ-ฝรั่งเศส 2024 กับ สมชัย สุวรรณบรรณ ออกอากาศเมื่อวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567  ดำเนินรายการโดย วงศ์พันธ์ อมรินทร์เทวา

YouTube video

อังกฤษหันซ้าย … จริงหรือ?

ความเห็นแรกเกี่ยวกับการเลือกตั้งอังกฤษของอดีตบรรณาธิการข่าวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วิทยุบีบีซี ลอนดอน คือ “อยากชวนกกต. ไทยมาดูงานที่นี่”

สมชัยเล่าว่าการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของสหราชอาณาจักรนั้นกินเวลาไม่เกิน 30 ชั่วโมง โดยเริ่มเปิดหีบเลือกตั้งเวลา 7.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม และปิดหีบเวลา 22.00 น. เมื่อนับคะแนนได้เกินกึ่งหนึ่งและอดีตพรรคฝ่ายค้านมีคะแนนนำ ริชี ซูแน็ก ก็โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่

“พอถึงวันศุกร์ก็ดำเนินการแต่งตั้ง ซูแน็กถวายบังคมลา แล้วเคียร์ก็เข้าเฝ้า ก่อนจะเดินทางไปทำเนียบฯ (บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง) พร้อมประกาศนโยบาย จากนั้นอีกสองสามชั่วโมง เคียร์ก็เริ่มทำงานทันที ไม่นานก็ประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรี ระบบจัดการมีประสิทธิภาพมาก”

หลังการประชุมรัฐสภาในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เคียร์ สตาร์เมอร์ ยังบินไปสหรัฐอเมริกาเพื่อร่วมการประชุมสุดยอดในวาระครบรอบ 75 ปี องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต พร้อมพบปะประธานาธิบดี โจ ไบเดน ซึ่งเป็นผู้นำโลกคนแรกที่โทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับเขา สมชัยบอกว่าโทรศัพท์สายนั้นและการร่วมประชุมของสตาร์เมอร์สะท้อนความสนิทชิดเชื้อระหว่างสองประเทศได้เป็นอย่างดี

กระนั้น คำถามที่เหลืออยู่ท่ามกลางผลการเลือกตั้ง ‘เหวี่ยงซ้าย’ ระดับแลนด์สไลด์นี้ คืออังกฤษ ‘หันซ้าย’ แล้วจริงหรือ

“แม้พรรคแรงงานจะชนะอย่างถล่มทลาย คือมีเสียงในสภา 400 ต่อ 200 เสียง เรียกได้ว่าทำงานง่าย เพราะฝ่ายค้านจะไม่มีพลังเพียงพอ ประเด็นน่าสนใจที่อยู่เบื้องหลังก็คือ พรรคอนุรักษนิยมเสียคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะมีพรรคเกิดใหม่ คือพรรครีฟอร์มยูเค (Reform UK) ของ ไนเจล ฟาราจ (Nigel Farage) ใครติดตามการเมืองอังกฤษจะรู้จักเขาดี เขานี่แหละหัวหอกที่ผลักดันเบร็กซิต มีชื่อเสียงมากในกลุ่มขวาจัด ที่ผ่านมาลงสมัครรับเลือกตั้งหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงจะเคยเป็นสมาชิกรัฐสภายุโรปก็ไม่มีน้ำหนักทางการเมืองมากนัก”

โดยในบางเขตเลือกตั้งนั้น ผู้สมัครจากพรรครีฟอร์มยูเคได้คะแนนเกือบเท่าๆ ผู้สมัครจากพรรคแรงงานและอนุรักษนิยม ซึ่งสมชัยอธิบายว่า “แสดงว่าจริตความนิยมของชาวอังกฤษปีกขวาเทมาทางขวาจัดมากขึ้น พรรครีฟอร์มยูเคนี่ผู้สมัครหลายคนก็แสดงโวหารเหยียดผิวเหยียดเพศด้วย[1] นับเป็นคลื่นใต้น้ำของการเมืองอังกฤษ”

ยิ่งกว่านั้น แม้พรรคแรงงานจะได้ที่นั่งในรัฐสภาจำนวนมาก แต่เมื่อพิจารณาร้อยละของผู้ลงคะแนนเสียงให้แต่ละพรรค (vote share) พรรคแรงงานกลับมีผู้ลงคะแนนเสียงให้เพิ่มขึ้นเพียงน้อยนิด[2]

คลื่นใต้น้ำอีกลูกที่กำลังก่อตัวจึงเป็นการแก้ไขกฎหมายการเลือกตั้งในอนาคต หลังฟาราจวิพากษ์วิจารณ์ระบบการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นระบบแบ่งเขตคะแนนสูงสุด (First Past the Post – FPTP) ว่า “ไม่ยุติธรรม” เพราะพรรคลิเบอรัลเดโมแครตซึ่งมีผู้ลงคะแนนเสียงให้ร้อยละ 12.2 คว้า 72 ที่นั่งในรัฐสภา ขณะที่พรรคของเขาซึ่งมีผู้ลงคะแนนเสียงให้ร้อยละ 14.3 คว้ามาได้เพียง 5 ที่นั่งเท่านั้น

“เคยมีการพูดคุยกันในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการแก้ไข เพราะเป็นระบบที่คุ้นชินกันเป็นร้อยปี ลิเบอรัลเดโมแครตเองก็เคยเสนอให้เปลี่ยนเป็นระบบสัดส่วน (proportional representation – PR) ถ้าเสียงนี้ดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วมีการเสนอให้แก้ไขกฎหมาย ภูมิทัศน์ทางการเมืองของอังกฤษก็จะเปลี่ยนไปทันที”

Britain’s Prime Minister Keir Starmer (C) meets with Britain’s Defence Secretary John Healey (L) and Member of the House of Lords George Robertson (R) at 10 Downing Street, in London, on July 16, 2024. (Photo by BENJAMIN CREMEL / POOL / AFP)

ฝรั่งเศส ป่ายขวาแค่ไหน?

ข้างฝรั่งเศสที่ใช้ระบบสัดส่วนอยู่เดิมนั้น สมชัยชี้ว่าร้อยละผู้ลงคะแนนเสียงให้พรรคขวาจัดไม่ได้สูงขึ้นมากมาย แม้ในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อปลายเดือนมิถุนายนนั้น พรรคเนชั่นแนลแรลลีของ มารีน เลอ แปน ซึ่งมีท่าทีแข็งกร้าวต่อผู้อพยพและบทบาทของสหภาพยุโรป จะได้คะแนนเสียงมากจนเป็นที่จับตา แต่ในการเลือกตั้งรอบที่สองซึ่งเป็นการฟาดฟันเฉพาะระหว่างผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงเกินร้อยละ 12.5 ของจำนวนผู้ลงคะแนน พรรคของเลอ แปนกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน โดยคว้าที่นั่งได้เป็นอันดับสาม

“ที่น่าสนใจคือในรอบที่สองมีการฮั้วกันระหว่างพรรคที่ต่อต้านมารีน เลอ แปน ทั้งแนวร่วมระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับพรรคฝ่ายซ้ายอื่นๆ และกลุ่มกลางๆ ที่สนับสนุนมาครง (พรรคอองซอมเบลอ) ถ้าเขตไหนผู้สมัครของตัวเองไม่มีทางชนะเลือกตั้งได้เลย ก็ร่วมมือกันดึงผู้สมัครที่มาแรงกว่าขึ้นมาเป็นตัวจริง แล้วช่วยกันหาเสียงให้ชนะพรรคขวาจัด จนกลายเป็นโพลช็อก (poll shock) ไป เพราะโพลชี้ว่าพรรคขวาจัดจะได้เสียงข้างมาก กลายเป็นกลุ่มพรรคฝ่ายซ้าย (New Popular Front – แนวร่วมประชาชนใหม่) ได้ที่หนึ่ง พรรคกลางๆ ได้ที่สอง พรรคของมารีน เลอ แปน ได้ที่สาม และไม่มีใครได้เสียงข้างมากในสภา”

สมชัยอธิบายว่าสถานการณ์นี้ “น่าปวดหัวพอสมควรสำหรับมาครง” เพราะย่อมยากต่อการเสนอและบังคับใช้กฎหมายที่พรรคต่างๆ หาเสียงไว้

“กาบรีแยล (Gabriel Attal นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส) เห็นผลแล้วยื่นใบลาออกเลย แต่มาครงขอร้องให้อยู่ต่อจนกว่าจะสิ้นสุดโอลิมปิก คือถูลู่ถูกังไปก่อน ค่อยๆ ดูว่าจะผสมกันยังไง และใครจะเป็นนายกฯ คนใหม่”

ยังไม่กล่าวถึงปัญหาที่ว่ากลุ่มพรรคฝ่ายซ้ายและพรรคที่สนับสนุนมาครงไม่ได้ถูกคอกันนัก ทั้งยังเพิ่งผ่านพ้นการสาดโคลนดุเดือดระหว่างหาเสียงมา

อย่างไรก็ตาม สมชัยเห็นว่าความกลัวที่ว่าฝ่ายขวาในฝรั่งเศสจะเข้มแข็งขึ้นจนกลายเป็นภัยคุกคามต่อเอกภาพของสหภาพยุโรปนั้น ยังเป็นเพียงปัญหาในระยะกลางหรือระยะยาว โดยโจทย์ที่แดนน้ำหอมต้องฝ่าฟันต่อไปคือการป้องกันไม่ให้กระแสนิยมฝ่ายขวาพุ่งสูงขึ้นในอนาคต

Founder of left-wing party La France Insoumise (LFI) Jean-Luc Melenchon (R) and member of the European Parliament Younous Omarjee (L) react during the election night of left-wing party La France Insoumise (LFI) following the first results of the second round of France’s legislative election at La Rotonde Stalingrad in Paris on July 7, 2024. (Photo by Sameer Al-Doumy / AFP)

โลกตะวันตกหันขวาได้อย่างไร

ดูเหมือนปัญหาผู้อพยพจะเป็นพายุกำลังแรงที่พัดพาหลายชาติตะวันตกให้ ‘ขวาหัน’

“สักห้าหรือสิบปีก่อน นโยบายของสหภาพยุโรปจะเน้นการเปิดกว้าง รับผู้อพยพจากประเทศที่เดือดร้อน แต่จำนวนผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนชาวพื้นเมืองผิวขาวในยุโรปเกิดความรู้สึกว่าชาวต่างชาติมาแย่งงานทำ มาถึงแล้วก็มีครอบครัว มีลูกมีหลาน ก็แย่งโรงเรียนอีก แย่งบริการสาธารณสุขในระบบรัฐสวัสดิการ ความไม่พอใจค่อยๆ ก่อตัว ทำให้ในการเลือกตั้ง ใครจับอารมณ์ประชาชนถูกก็จะยกเรื่องคนเข้าเมืองมาเล่น และได้เสียงมากขึ้นๆ นับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ฝ่ายขวาได้คะแนนนิยมมากขึ้น” สมชัยอธิบาย

แม้จะมีประเด็นร้อนร่วมกัน แต่ใช่ว่าฝ่ายขวาในยุโรปจะเห็นพ้องต้องกันทั้งหมด สมชัยยกตัวอย่างฮังการีและอิตาลี ที่ต่างมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคฝ่ายขวา แต่กลับมีท่าทีต่อสงครามรัสเซีย-ยูเครนต่างกันไป วิกเตอร์ ออร์บาน นั้นสนับสนุน วลาดีมีร์ ปูติน แต่นายกรัฐมนตรีหญิงอิตาลี จอร์จา เมโลนี ต่อต้านการรุกรานยูเครน สมชัยเชื่อว่าความไม่ลงรอยนี้จะเป็นอีกหนึ่งรอยร้าวสำคัญในเอกภาพของสหภาพยุโรป ซึ่งถือกำเนิดขึ้นเพื่อธำรงสันติภาพทั้งของยุโรปและโลก นับแต่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดเมื่อเกือบ 80 ปีที่ผ่านมา

เมื่อถามว่าความเบื่อหน่ายพรรคอนุรักษนิยมเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สหราชอาณาจักรยังไม่หันขวาอย่างเต็มที่หรือไม่ สมชัยเห็นด้วย

“หลายปีที่ผ่านมา โทรี (พรรคอนุรักษนิยม) เปลี่ยนนายกฯ ตั้งสามสี่คนให้ชาวโลกหัวเราะเยาะ เพราะมีหลายมุ้งที่ทะเลาะกันเองในพรรค นักการเมืองบางคนก็มีปัญหาเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ซื่อตรง อย่างกรณี บอริส จอห์นสัน ที่ประกาศปิดเมือง แต่ลูกน้องจัดปาร์ตี้ในทำเนียบฯ หลายครั้ง พอถูกจับได้ก็โกหกหน้าตายว่าตัวเองไม่ผิด ปฏิบัติตามระเบียบแล้ว ซึ่งสื่อมวลชนก็ไม่ปล่อย แม้แต่เจ้าที่สนับสนุนพรรค เพราะสื่อมวลชนก็ต้องรักษาฐานผู้ชม ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเชียร์กันไม่รู้เหนือรู้ใต้ พอเห็นว่าทำอะไรผิด พูดไม่จริง ก็ต้องเปิดโปงกัน”

นอกจากนี้ยังมีความล้มเหลวในการส่งมอบนโยบายที่หาเสียง และการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง คือผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่ถูกชะลอการรักษาระหว่างการระบาดใหญ่เนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์นั้นมีจำนวนสูงถึงเจ็ดหรือแปดล้านคน เมื่อผสมกับค่าครองชีพและราคาพลังงานที่สูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน “ประชาชนก็ต้องลงโทษนักการเมืองด้วยการหันไปเลือกพรรคอื่น” สมชัยกล่าว 

ฝรั่งเศสเองก็ประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณและบุคลากรเพื่อรักษาสวัสดิภาพ รวมถึงคุณภาพชีวิตของประชากรเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านการประท้วงต่อต้านการเลื่อนอายุเกษียณจาก 65 ปี เป็น 67 ปี ในปีที่ผ่านมา

อนาคตอังกฤษในยุค เปลี่ยนประเทศของพรรคแรงงาน

แล้วพรรคแรงงานสหราชอาณาจักรที่อยู่ในจังหวะ ‘น้ำขึ้น’ นี้ จะส่งมอบนโยบายที่ตนหาเสียงได้มากน้อยเพียงใด สมชัยเห็นว่ารัฐบาลใหม่ของ เคียร์ สตาร์เมอร์ กำลัง ‘ตักน้ำ’ อย่างรวดเร็วทีเดียว ไม่ว่าจะด้วยการออกนโยบายใหม่ๆ ในระยะเวลาไม่กี่วัน หรือการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกลาโหมเริ่มเดินทางไปพบปะผู้นำยุโรปเพื่อให้คำมั่นว่าสหราชอาณาจักรจะยังเป็นมิตรที่ดีของสหภาพยุโรป และจะสนับสนุนยูเครนต่อไป

ทั้งนี้ พรรคแรงงานยังเริ่มผ่าทางตันในปัญหาการว่างงานและราคาอสังหาริมทรัพย์ สมชัยอธิบายว่าเดิมองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นของสหราชอาณาจักรมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล โรงไฟฟ้า หรืออาคารอยู่อาศัย อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการขาดแคลนที่อยู่อาศัยของประชากรวัยทำงาน เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ขาดแคลนและมีราคาสูง

“ประเด็นนี้ใช้กันมากในการหาเสียง แปลว่าต้องขยายพื้นที่ปลูกบ้าน ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอังกฤษมีเสียงค่อนข้างดังในสภาท้องถิ่น และมักจะระงับโครงการก่อสร้างไว้ได้ เมื่อวานนี้เอง เรเชล รีฟส์ (Rachel Reeves) รัฐมนตรีคลังหญิงคนแรกประกาศผ่อนคลายความเข้มงวดในการขออนุญาตก่อสร้าง นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็จะทำอะไรได้มากขึ้น จะลงทุนก็ทำได้ง่ายขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สุ่มเสี่ยงไม่น้อยคือการผ่อนปรนเงื่อนไขการขออนุญาตสร้างทุ่งกันหันลมบนบก (onshore wind farm) ซึ่งอาจนำไปสู่การต่อต้านของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จะทำให้พรรคสูญเสียความนิยมในระยะยาว

“อีกอย่างที่เห็นคือการเพิ่มจำนวนครู ความหลากหลายทางเพศของบุคลากร และเพิ่มจำนวนพยาบาลที่พรรคหาเสียงไว้ รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ก็ร่วมประชุมกับสหภาพแพทย์ (British Medical Association – BMA) ที่ขัดแย้งกับพรรคอนุรักษนิยมในประเด็นค่าแรงมาตลอด ก่อนช่วงเลือกตั้งนี้มีการนัดหยุดงานด้วยซ้ำ อีกความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือการที่แลมมี (David Lammy รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) ไปพบปะผู้นำยุโรปเพื่อทบทวนข้อตกลงเกี่ยวกับเบร็กซิตที่ทำให้อังกฤษขาดพื้นที่สำหรับส่งออกสินค้าในยุโรป”

สำหรับประเด็นเดือดอย่างปัญหาผู้อพยพนั้น พรรคแรงงานได้ยับยั้งแผนการส่งผู้แสวงหาที่ลี้ภัย (asylum seeker) ไปรวันดาของอดีตนายกรัฐมนตรีซูแน็ก ซึ่งเป็นที่ถกเถียงเสมอมาว่าคุ้มค่างบประมาณหรือไม่ ตลอดจนอาจผิดข้อตกลงระหว่างประเทศ เพราะสหราชอาณาจักรเป็นภาคีหนึ่งของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ อีเวตต์ คูเปอร์ (Yvette Cooper) กำลังระดมความร่วมมือจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ตลอดจนร่วมมือกับรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ที่พัวกันกับการล่องเรือข้ามช่องแคบอังกฤษเพื่อเข้าสู่สหราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมายของผู้อพยพจากแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย

แนวทางจัดการผู้อพยพในที่พักสำหรับผู้ลี้ภัย (asylum hotel) ก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน “บางกลุ่มบางคนก็จะให้ออกไปได้ ไม่ต้องอยู่ในที่พักแล้ว [รัฐบาล] จะหาที่อยู่ ที่ทำกินชั่วคราวให้จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการคัดสรร ไม่อย่างนั้นจะเป็นภาระ จากนั้นใครมีสิทธิอยู่ต่อก็อยู่ต่อไป ใครไม่มี หมายถึงกลุ่มผู้ย้ายถิ่นทางเศรษฐกิจ (economic migrant) ก็ส่งกลับประเทศเดิม” สมชัยกล่าว

ภัยน่าจับตาในโลกที่ป่ายขวาเหวี่ยงซ้าย

แม้โลกตะวันตกจะยังไม่หันขวาเต็มที่ แต่สมชัยเตือนว่า “หากกระแสขวาจัดได้ใจคนมากขึ้น ก็จะมีนักการเมืองขวาจัดในสภามากขึ้น และจะเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเมืองของยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นภัยต่อคุณค่าประชาธิปไตยเสรีนิยม”

สมชัยกล่าวถึงฉากตอนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อพรรคนาซีเป็นใหญ่ในทศวรรษ 1930 แม้จะได้รับอำนาจผ่านการเลือกตั้งส่วนหนึ่ง แต่เมื่อมีอำนาจรัฐในมือแล้วกลับดำเนินนโยบายอำนาจนิยมซึ่งเป็นภัยต่อระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนพร้อมใช้ความรุนแรงเพื่อปราบปรามผู้เห็นต่าง และใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนต่างๆ ภายใต้โวหารชาตินิยม กระแสต่อต้านความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมเช่นนี้เพิ่งผ่านพ้นไปไม่เกินหนึ่งศตวรรษเท่านั้น

“แต่เรากลับต้องมาดูว่าการเมืองยุโรปจะหวนกลับไปเป็นแบบนั้นไหม คือสอดคล้องกับบรรยากาศทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาใต้การนำของทรัมป์ ประเภทที่ปฏิเสธแนวคิดพหุพาคี (multilateral) หันไปหาการตัดสินใจฝ่ายเดียว (unilateral) ถ้าแนวคิดนี้ขยายวงกว้างขึ้นๆ เราก็จะเข้าสู่บรรยากาศเหมือนในทศวรรษ 1930 อีก”

สมชัยเชื่อว่ากระแสนี้สุ่มเสี่ยงจะกลับมา โดยเฉพาะหาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ และนำสหรัฐอเมริกาหวนสู่เส้นทาง ‘มากา’ (Make America Great Again – MAGA) ที่ใช้มติมหาชนและกำลังทหารตัดสินปัญหา ไม่เคารพการตัดสินใจขององค์การสหประชาชาติอีกต่อไป

“หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เราจัดตั้งสหภาพยุโรปขึ้นมาโดยมีอุดมการณ์คือเหล่าคู่แค้นต้องจับมือกันได้ มาแบ่งปันทรัพยากรกันดีกว่า แทนที่จะสะสมอำนาจและแก้ไขปัญหาด้วยการบุกยึดดินแดนของกันและกัน ซึ่งสิ่งที่รักษาสันติภาพให้ยุโรปนี้กำลังถูกพลังฝ่ายขวาที่เพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันคุกคาม คนรุ่นนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่าพรรคนาซีทำอะไรกับชาวยิวบ้าง และคิดว่าชาติพันธุ์ของตัวเองเป็นใหญ่ นักการเมืองท้องถิ่นสายฟาสซิสต์ในเยอรมนีก็ได้คะแนนเสียงมากขึ้นเหมือนกัน เช่นเดียวกับในฝรั่งเศสและอังกฤษ แม้จะยังไม่มากนัก แต่มีแนวโน้มว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นภัยต่อสันติภาพของโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีใครต่อต้านคัดค้าน ยิ่งถ้าประเทศใหญ่อย่างอเมริกาเป็นไปด้วยยิ่งน่าเป็นห่วง”

สำหรับประเทศไทยนั้น สมชัยเห็นว่าต้องมีการทบทวนสถานการณ์โลกอย่างจริงจัง แม้ปัจจุบันจะมีแนวโน้มหันขวาเช่นนี้ให้เห็นเพียงเล็กน้อย ก็ต้องวางแผนแล้วว่าไทยจะวางตัวบนเวทีโลกอย่างไร

“ถ้าเราคิดว่าโลกต้องอยู่กับความหลากหลายและสันติภาพ ก็ต้องช่วยไม่ให้ความรู้สึกแบบ ‘ฉันเป็นใหญ่’ หรือความรู้สึกแบบมากาเกิดขึ้นได้”

และเพื่อยับยั้งความรู้สึกเช่นนั้น สมชัยเห็นว่าไทยต้องพัฒนากลไกทางการเมืองให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ เดินหน้าต่อไปได้ และไม่จมอยู่ในความขัดแย้ง รวมถึงการต่อสู้ระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่ยืดเยื้อ หรือทวีความรุนแรงขึ้นในระยะยาว  

“เราต้องดูว่าจะปรับเปลี่ยนกลไกและสถาบันทางการเมือง รวมถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรให้ประชาชนส่วนใหญ่แสดงความเห็นได้ชัดเจน โปร่งใส ไม่ถูกครอบงำ หรือถูกมือที่มองไม่เห็นรบกวนด้วยความมุ่งหวังบางอย่างที่ไม่ได้ประกาศให้ชัดเจน แต่ใช้กระบวนการข้างหลังผลักดันไป ภาคประชาสังคมในไทยก็ต้องรวมตัวกัน และร่วมกำหนดท่าทีให้ไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงมากกว่าเดิมให้ได้” เขาส่งท้าย

หรือกล่าวอีกอย่างคือ บ่มเพาะความเคารพในกันและกัน สกัดกั้นความรู้สึกแบ่งเขาแบ่งเราที่เป็นเชื้อไฟของการเมืองแบบขวาจัดให้ได้ตั้งแต่ต้นลมนั่นเอง

เลือกตั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส ซ้าย ขวา

เลือกตั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส ซ้าย ขวา

References
1 ข่าวนักกิจกรรมของพรรครีฟอร์มยูเคใช้ถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติโจมตีอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงแสดงความเห็นที่รุนแรงต่อผู้อพยพและผู้มีความหลากหลายทางเพศ: Reform UK activist filmed making racist comments about Rishi Sunak
2 ดูกราฟเปรียบเทียบร้อยละของผู้ลงคะแนนเสียง ระหว่างปี 1918-2024 ได้ที่นี่: Share of votes in general elections in the United Kingdom from 1918 to 2024, by political party

MOST READ

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

World

17 Jul 2020

ร่วมรากแต่ขัดแย้ง ความบาดหมางระหว่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย

อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ทั้งสองประเทศมีรากเหง้าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกันหลายอย่าง จนนำไปสู่ความขัดแย้งในการช่วงชิงความเป็นเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมมลายู

อรอนงค์ ทิพย์พิมล

17 Jul 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save