อย่าคิดว่าทรัมป์จะหายไปไหน

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแล้วครับว่า ถ้าเขาแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้ เขาจะไม่ลงแข่งรอบหน้าอีกแล้ว

ตามจริงก็ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะรอบหน้าในปี ค.ศ. 2028 ทรัมป์จะมีอายุ 82 ปี ถ้ายังดึงดันจะลงแข่ง ก็จะเหมือนปู่โจ ไบเดน ที่ไม่ยอมเลิก ลงต่อไม่ไหวหรอกครับ

มีคนไม่น้อยหวังว่า ถ้าทรัมป์แพ้เลือกตั้งในครั้งนี้ พรรครีพับลิกันจะกลับมาเป็นพรรครีพับลิกันแบบเดิม เพราะที่ผ่านมา พรรครีพับลิกันเหมือนถูกทรัมป์ยึดไปแล้ว กลายมาเป็นพรรคทรัมป์ ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยม ประชานิยม ต่อต้านการค้าเสรี ต่างกับพรรครีพับลิกันในอดีตที่สนับสนุนการค้าเสรีและไม่ใช่พรรคประชานิยมแบบนี้

แต่ผมมองว่าความเป็นจริงของการเมืองสหรัฐฯ ต่อจากนี้ก็คือ ทรัมป์หรือชุดนโยบายหรือโลกทัศน์แบบของทรัมป์จะไม่หายไปไหน และจะอยู่อีกนานในการเมืองสหรัฐฯ

การตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในทางการเมืองของทรัมป์ในรอบนี้ก็คือ การเลือกเจดี แวนซ์ ซึ่งมีชุดความคิด ชุดอุดมการณ์ และชุดค่านิยม เหมือนกันกับทรัมป์ทุกประการ แต่อายุเพียง 40 ปี เป็นคู่สมัครรองประธานาธิบดี เรียกได้ว่าเป็นทายาทอสูรของทรัมป์

แทนที่ทรัมป์จะเลือกคนจากอีกขั้วของพรรครีพับลิกันที่เป็นตัวแทนของอุดมการณ์ชุดเดิมของรีพับลิกันขึ้นมาเป็นคู่หูเหมือนรอบก่อนที่เขาเลือกไมค์ เพนซ์ เพื่อสร้างสมดุลและสร้างเอกภาพของพรรค แต่ครั้งนี้เขากลับเลือกคนที่คิดเห็นเหมือนกับเขา และเป็นเหมือนเงาตัวตายตัวแทนของเขา

แม้หากทรัมป์จะแพ้ในครั้งนี้ แต่อีก 4 ปี ข้างหน้า หากเขาสนับสนุนและส่งต่อฐานเสียงที่เหนียวแน่นของเขาให้กับเจดี แวนซ์ ชุดนโยบาย ชุดอุดมการณ์ ชุดค่านิยมของทรัมป์ก็ยังคงไม่หายไปจากเวทีการเมืองสหรัฐฯ เขาได้เตรียมตัวตายตัวแทนในทางการเมืองไว้เรียบร้อย

ผมเคยพูดกับเพื่อนชาวสหรัฐฯ ว่า หากในปี 2016 ฮิลลารี คลินตัน ชนะการเลือกตั้ง โลกจะไม่มาถึงจุดนี้ที่จีนกับสหรัฐฯ ไม่เผาผีกัน กลายมาเป็นยุคของสงครามการค้าและการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ ปิดฉากกระแสโลกาภิวัตน์และการค้าเสรีที่ทำให้เศรษฐกิจโลกรุ่งเรืองและการเมืองโลกสงบหลังจากยุคสงครามเย็น

เพื่อนชาวสหรัฐฯ ของผมไม่เห็นด้วย เขาบอกว่า หากคลินตันจะชนะในครั้งนั้น เธอคงดำเนินนโยบายสืบต่อจากยุคบารัค โอบามา ที่คบค้าจีน ทำข้อตกลงทางการค้า TPP (Trans-Pacific Partnership) ยังคงเดินหน้าการค้าเสรีและโลกาภิวัตน์ แต่ย่อมจะทำให้กระแสความไม่พอใจจากการเหือดแห้งของภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ และกระแสความไม่พอใจต่อจีนและการค้าเสรีสูงขึ้นกว่าเดิมอีก สุดท้ายทรัมป์หรือคนที่ชูธงนโยบายหรือชุดความคิดของทรัมป์ที่ต่อต้านการค้าเสรี สนับสนุนแนวคิด American First และเห็นจีนเป็นภัยคุกคาม ก็จะกลับมาชนะการเลือกตั้งในปี 2020 อยู่ดี

นี่จึงอธิบายปริศนาว่า เพราะเหตุใดภายหลังที่ไบเดนชนะการเลือกตั้งในปี 2020 ไบเดนจึงไม่สามารถหวนกลับไปโลกเดิมของโอบามาได้ ไบเดนไม่ได้ยกเลิกกำแพงภาษีที่ทรัมป์ตั้งไว้ต่อสินค้าจีน เขาไม่สนับสนุนการเปิดตลาดและไม่สนับสนุนการค้าเสรี (ไม่ต่างจากทรัมป์) และยังคงมองจีนเป็นภัยคุกคาม เรียกได้ว่าไบเดนคล้ายทรัมป์มากกว่าคล้ายโอบามาเสียอีก

และนี่จึงยังเป็นเหตุผลที่ไบเดนฆ่าทรัมป์ไม่ตายในทางการเมือง ถึงแม้ทรัมป์จะแพ้ไบเดนไปแล้วในปี 2020 แต่ฐานเสียงของเขาที่ไม่พอใจต่อโลกาภิวัตน์ก็ยังคงเหนียวแน่น และทำให้เขายังคงกลับมาชนะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันอีกครั้ง แม้เขาจะโดนคดีมากมายและแผลเป็นเต็มตัว

ดังนั้นิ แม้ครั้งนี้แฮร์ริสจะชนะการเลือกตั้ง เราก็จะไม่หวนกลับไปโลกเก่าของโอบามาอีกเช่นกัน แต่จะเป็นภาคต่อของทรัมป์และไบเดน ซึ่งเอาเข้าจริงก็ยังไม่สามารถตอบสนองความไม่พอใจของประชาชนสหรัฐฯ ที่ไม่พอใจจีนและหวนหาโรงงานสหรัฐฯ ที่ปิดตัวไปจากการย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศได้

ฐานเสียงคนที่ไม่พอใจจีน ไม่พอใจการค้าเสรี ไม่พอใจโลกาภิวัตน์ เป็นฐานเสียงรากหญ้าชาวสหรัฐฯ ในชนบท ซึ่งเป็นผู้ตัดสินแพ้ชนะในรัฐ Battleground States อันหมายถึงรัฐที่เป็นตัวกำหนดผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยหลายรัฐสำคัญเหล่านี้เช่น เพนซิลเวเนีย โอไฮโอ และวิสคอนซิน ได้ฉายาว่าเป็น ‘รัฐสนิมเกาะ’ หรือ ‘Rust Belt States’ คือรัฐที่เคยเป็นฐานการผลิตเป็นฐานอุตสาหกรรมที่สำคัญของสหรัฐฯ แต่บัดนี้โรงงานจำนวนมากได้ปิดตัวและย้ายไปเมืองจีนและเวียดนามกันหมด

เมื่อข้อเท็จจริงทางการเมืองสหรัฐฯ เป็นเช่นนี้ จึงทำให้นโยบายต่อต้านการค้าเสรีและการมองจีนเป็นภัยคุกคามจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง ถึงแม้แฮร์ริสจะชนะก็ตาม และเมื่อผ่านไป 4 ปี เจดี แวนซ์ ที่มีจุดยืนในเรื่องเหล่านี้คล้ายทรัมป์และแรงกว่าแฮร์ริส ก็จะกลับมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเธอ พรรครีพับบลิกันก็จะยังคงเป็นพรรคทรัมป์ที่เน้นชาตินิยมและต่อต้านการค้าเสรีอยู่ดังเดิม

แต่หากสุดท้าย ทรัมป์เกิดชนะศึกการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ ซึ่งตอนนี้นักวิเคราะห์ก็มองว่าสูสีมาก ทรัมป์ในวาระที่สองก็อาจแรงขึ้นกว่าสมัยแรกเพื่อตอบสนองกลุ่มฐานเสียงที่เหนียวแน่นอยู่กับเขา และเขาเองก็จะมีทายาทอสูรที่เตรียมสืบต่อชุดความคิดเขาไปอีกนาน


MOST READ

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

World

17 Jul 2020

ร่วมรากแต่ขัดแย้ง ความบาดหมางระหว่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย

อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ทั้งสองประเทศมีรากเหง้าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกันหลายอย่าง จนนำไปสู่ความขัดแย้งในการช่วงชิงความเป็นเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมมลายู

อรอนงค์ ทิพย์พิมล

17 Jul 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save