ออเจ้ากับความลับหลังการแต่งงาน The Miniaturist (ปริศนาช่างจุลศิลป์)

ผมตัดสินใจเลือกเขียนแนะนำเรื่อง The Miniaturist ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มหยิบจับมาอ่าน ไม่รู้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับตัวนิยาย ด้วยความเชื่อมั่นในสำนักพิมพ์ไลบรารี่ เฮ้าส์

ผลก็คือลุ้นระทึกเร้าใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อลงมืออ่านไปได้ราวๆ 100 หน้า แล้วพบว่าทุกอย่างในหัวผมมีแต่ความว่างเปล่า ไม่รู้ว่าสนุกหรือน่าเบื่อ มีคุณภาพดีพอต่อการหยิบมาแนะนำหรือไม่ คาดคะเนไม่ถูกว่าเรื่องราวจะมุ่งหน้าไปในทิศทางใด รวมทั้งไม่พบประเด็นอันใดให้หยิบจับมาเล่าสู่กันฟัง

ข่าวร้ายสูงสุดคือ ด้วยเวลาบีบกระชั้น ผมไม่สามารถละเลิก กลับลำไปอ่านนิยายเล่มอื่นได้อีก

อย่างไรก็ตาม การเสี่ยงโชควัดดวงนี้ก็จบลงด้วยความโล่งอก หลังจากผ่านสายตาไปได้ครึ่งเล่ม ผมรู้แน่ชัดตั้งแต่ตอนนั้นว่า เจอะเจอ ‘ของดี’ เข้าให้แล้ว

The Miniaturist เป็นนิยายปี 2014 ผลงานการเขียนเรื่องแรกของเจสซี เบอร์ตัน ซึ่งกลายเป็นนิยายฮิตขายดิบขายดีไปทั่วโลก และได้รับการนำมาดัดแปลงเป็นมินิซีรีส์ 3 ตอนจบ (รวมความยาวทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง) เมื่อปี 2017 โดยมีอันยา เทย์เลอร์-จอย รับบทเนลลา นางเอกของเรื่อง

The Miniaturist เป็นนิยายพีเรียดย้อนยุค ฉากหลังคืออัมสเตอร์ดัมในปี 1686-1687 (ตรงกับช่วงปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ปี 1686 เนลลา ออร์ตมันหญิงสาววัย 18 ปี เข้าพิธีแต่งงานกับพ่อค้าฐานะร่ำรวยวัย 39 ปี ชื่อโยฮานเนส บรันต์ โดยพิธีจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้านของฝ่ายหญิง หลังจากเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวก็เดินทางกลับอัมสเตอร์ดัมในวันนั้นทันที ทั้งสองจึงเป็นสามีภรรยากันแค่เพียงทางนิตินัย

หนึ่งเดือนต่อมา เนลลาย้ายถิ่นฐานตามมาสมทบยังบ้านของสามีที่อัมสเตอร์ดัมด้วยอารมณ์ความรู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้า ทั้งต่อสภาพแวดล้อมใหม่ ในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองตรงข้ามกับหมู่บ้านชนบทเงียบสงบที่เธอจากมา ผู้คนคับคั่งเนืองแน่น มีชีวิตความเป็นอยู่หรูหรา รวมทั้งบรรดาสมาชิกในครอบครัวใหม่ ประกอบไปด้วย มาริน น้องสาวของสามี ออตโต คนรับใช้ผิวสี และคอร์นีเลีย สาวใช้

เมื่อแรกมาถึง โยฮานเนส ผู้เป็นสามีไม่อยู่บ้าน เพราะออกไปล่องเรือยังแดนไกลเพื่อทำการค้า เนลลากับบรรดาผู้คนในบ้าน จึงเริ่มต้นทำความรู้จักกันในบรรยากาศประดักประเดิดไม่เป็นมิตร ไม่ว่าจะเป็นมาริน ซึ่งมีทีท่าเย็นชา วางอำนาจ และพูดจาทิ่มแทงทำร้ายความรู้สึกผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา คอร์นีเลียสาวใช้คนสนิทของมาริน ซึ่งทำตัวขานรับเจ้านายอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ขณะที่ออตโต ผู้มีท่าทีอ่อนโยนกว่าใครอื่น ก็ดูจะระมัดระวังตัวแจ ด้วยการหันเหไปหมกมุ่นกับงานของตน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องข้องแวะกับความขัดแย้งทั้งหลายที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า

แม้เมื่อโยฮานเนสกลับมา สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นจากเดิม เขาเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน พบปะภรรยาเฉพาะเพียงแค่บนโต๊ะอาหาร พูดจาทักทายต่อกันแต่เพียงน้อยเท่าที่จำเป็น

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เวลาล่วงเลยผ่านไป การแต่งงานก็ยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วนในทางพฤตินัย

โยฮานเนสชดเชยความสัมพันธ์อันเหินห่างในฐานะสามีภรรยา ด้วยการมอบของขวัญราคาแพงให้แก่เนลลา เป็นบ้านตุ๊กตาจำลองย่อส่วนจากบ้านหลังจริงที่ทั้งสองพำนักอาศัย ในรูปลักษณ์ตึกสามชั้นขนาดประมาณตู้เสื้อผ้า ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ รวม 9 ห้อง แต่ยังปราศจากข้าวของเครื่องประดับตกแต่ง

เรื่องราวถัดจากนั้นคือเนลลาพบที่อยู่ของช่างจุลศิลป์ในสมุดรวบรวมรายชื่อของช่างฝีมือ ซึ่งระบุข้อมูลสรรพคุณเอาไว้ค่อนข้างคลุมเครือ เธอจึงติดต่อจ้างวานให้ประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ในขนาดย่อส่วนเล็กจิ๋วเพื่อใช้ตกแต่งบ้านตุ๊กตา

และแล้วปริศนาชวนฉงนก็ทยอยปรากฏออกมา ไม่ว่าจะเป็นช่างจุลศิลป์ ซึ่งทำตัวลึกลับไร้ร่องรอย ไม่เคยเปิดเผยแสดงตัว (การสื่อสารติดต่อในเบื้องต้นดำเนินไปผ่านทางจดหมายของผู้ว่าจ้าง และมีชายหนุ่มชาวอังกฤษชื่อแจ็ก ฟิลิปส์ เป็นผู้นำส่ง), หญิงสาวผมสีซีดซึ่งจ้องมองเนลลาตามถนนหนทาง แต่เมื่อเธอพยายามเข้าใกล้ถึงตัว หญิงสาวเจ้าของสีผมเป็นเอกลักษณ์ กลับเร้นกายหายไปอย่างไร้ร่องรอย, พร้อมกับสิ่งของที่นำมาส่ง ช่างจุลศิลป์แนบจดหมายสั้นๆ ด้วยเนื้อความเหมือนเป็นปริศนาธรรม (เช่น สตรีทุกนางคือผู้สรรค์สร้างชะตาของตน), ความเหมือนจริงของสิ่งประดิษฐ์ทุกชิ้น จนชวนให้นึกเคลือบแคลงสงสัยว่าช่างจุลศิลป์ล่วงรู้รายละเอียดปลีกย่อยของวัตถุต้นแบบได้อย่างไร

ประการสำคัญคือ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งของที่ช่างจุลศิลป์นำมาส่ง เริ่มมีมากเกินกว่าคำสั่งว่าจ้าง และบ่อยครั้ง สิ่งของนั้นดูเหมือนการทำนายเหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

พูดอีกแบบคือ ช่างจุลศิลป์เหมือนมีอำนาจเวทมนตร์วิเศษ ไม่เพียงแค่หยั่งรู้ถึงรายละเอียดในบรรดาสิ่งของ ผู้คน แล้วนำไปประดิษฐ์ย่อส่วนจนเหมือนและสมจริงเท่านั้น แต่ยังล่วงรู้ความในใจของทุกคนในบ้านเนลลา และเหตุการณ์ความเป็นไปที่กำลังจะเกิดขึ้น

พร้อมๆ กับที่ทิ้งปมชวนสงสัยต่างๆ นานา บทแรกของนิยายก็จำแนกแจกแจงให้เห็นถึงสภาพทางสังคมในอัมสเตอร์ดัมยุคนั้นอย่างถี่ถ้วน (ซึ่งจะมีความเกี่ยวพันโยงใยกับเรื่องราวในบทต่อๆ มา) ทั้งความเจริญรุ่งเรืองในการเดินเรือทำการค้าไปทั่วโลกของฮอลันดา, อิทธิพลของการยึดถือศาสนาอย่างเคร่งครัดที่มีผลใหญ่หลวงต่อชีวิตของผู้คน (และความขัดแย้งระหว่างโปรเตสแตนต์กับคาทอลิก), การเป็นสังคมที่ตัวบทกฎหมายผลักดันให้ผู้คนสอดส่องเฝ้าระวังซึ่งกันและกัน ว่าใครจะละเมิดฝ่าฝืนข้อห้าม เป็นผู้กระทำความผิด, ทัศนะเหยียดผิวค่อนข้างหนักหน่วง รวมถึงสภาพสังคมที่ผู้หญิงไร้สิทธิไร้เสียงใดๆ โดยสิ้นเชิง

ทั้งสามส่วนอันประกอบไปด้วย ปริศนาลึกลับจากช่างจุลศิลป์และการเติมเต็มบ้านตุ๊กตา ชีวิตสมรสไร้ความสุขของเนลลา และความสัมพันธ์ขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างเธอกับสมาชิกทุกคนในบ้าน ตลอดจนสภาพความเป็นไปทางสังคม ทุกอย่างเล่าดำเนินไปเคียงคู่กัน (พร้อมๆ กับการแนะนำตัวละครสำคัญอื่นๆ) จนนำไปสู่บทสรุปคือเนลลาได้ค้นพบความลับสำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งทุกคนที่เกี่ยวข้องพยายามปกปิดซ่อนเร้น

นิยายเรื่อง The Miniaturist แบ่งออกเป็น 4 บท (ไม่นับรวมบทเกริ่นก่อนเริ่มเรื่อง และบทสรุปทิ้งท้ายในตอนจบ) เนื้อเรื่องเหตุการณ์เท่าที่พอจะบอกกล่าวเล่าได้โดยไม่กระทบกระเทือนต่อการเปิดเผยใจความสำคัญ น่าจะขีดวงจำกัดอยู่แค่ในบทแรกเท่านั้นนะครับ

เรื่องราวถัดจากนี้ไปจนจบ อุดมไปด้วยความลับชวนตระหนกตกใจและสะเทือนอารมณ์อีกหลายวาระ และกล่าวได้ว่าเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ จนกระทั่งถึงจุดไคลแมกซ์ที่ติดตรึงจนอ่านแล้ววางไม่ลง

ในแง่ของความบันเทิง บทแรกของนิยายเรื่องนี้เริ่มต้นอย่างเรียบง่าย ใจเย็น ค่อยเป็นค่อยไป มุ่งปูพื้นฐานให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้อ่าน มากกว่าจะเน้นความสนุกบันเทิง

ตลอดช่วงดังกล่าว ผมอ่านด้วยความเคว้งคว้าง ไม่รู้เหนือรู้ใต้ดังที่เกริ่นไว้ตอนต้นบทความ รวมทั้งเกิดความรู้สึกแรงชัดอย่างหนึ่งว่าไม่สนุก ไม่น่าเบื่อ และจับสังเกตไม่เห็นถึงความดีงามในชั้นเชิงลีลาการเขียน ทุกอย่างแลดูปกติกลางๆ ไปหมด ไม่มีอะไรโดดเด่นสะกดตรึงดึงดูด แต่ก็ไม่มีตรงไหนจุดใดเลวร้ายย่ำแย่ ชวนให้นึกอยากเลิกอ่านกลางคัน

หนึ่งเดียวที่เร่งเร้าชวนให้อยากติดตามด้วยความกระหายใคร่รู้ คือปริศนาลึกลับทั้งหลายประดามีเกี่ยวกับช่างจุลศิลป์ ซึ่งวิธีบอกเล่าในนิยายก็มีความแปลกอีก ตรงที่ว่านอกจากชวนฉงนสงสัยว่าความจริงแท้เบื้องหลังคืออะไรแล้ว ในแง่ของจังหวะวิธีการก็มีลักษณะอ้อยอิ่งค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้หวือหวากระชับฉับไวตามแบบฉบับของงานเขียนจำพวกลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน

จังหวะจะโคนในบทต่อๆ มา หรือจะกล่าวระบุให้ชัดว่าตลอดทั่วนิยายทั้งเรื่อง ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่ผมกล่าวมาข้างต้น ทว่าข้อแตกต่างคือเมื่อเรื่องราว เหตุการณ์ ความลับ ค่อยๆ เผยแสดงออกมา ลีลาแบบค่อยเป็นค่อยไป ก็กลายเป็นจังหวะอันเหมาะเจาะลงตัว เกิดส่วนผสมทางเคมีบางอย่างในการเขียน กลายเป็นความสนุกบันเทิงครบรสได้อย่างน่าทึ่ง

พล็อตและรายละเอียดทั้งหมดของ The Miniaturist เหมือนนิยายเน้นความบันเทิงทั่วไปจำนวนมาก ว่าด้วยหญิงสาวที่พลัดหลงเข้าไปใช้ชีวิตผจญภัยอยู่ในโลกอีกใบ ซึ่งแตกต่างจากความคุ้นเคยเดิมๆ แบบตรงข้ามเป็นคนละขั้ว

ความพิเศษของนิยายเรื่องนี้อยู่ที่การประกอบรวมของรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งมุ่งไปสู่การเผยความลับที่พยายามปกปิดซ่อนเร้นของตัวละครหลักๆ ทั้งหมด (พูดอีกแบบหนึ่งคือมันสะท้อนให้เห็นว่าทุกๆ คนล้วนมีความลับ) และความลับเหล่านี้ เมื่อวางทาบลงบนฉากหลังทางสังคม บวกรวมกับความเป็นไปต่างๆ ของยุคสมัย ก็ส่งผลสะเทือนสร้างแรงกระเพื่อมไปได้กว้างไกล

แรงกระเพื่อมแรก คืออรรถรสด้านความบันเทิง ซึ่งมีรสพิเศษเฉพาะตัว มีลีลาชั้นเชิงไม่เหมือนใคร ปลอดพ้นห่างไกลจากความเป็นสูตรสำเร็จ

ประการต่อมา ผมคิดว่า The Miniaturist เป็นนิยายที่สามารถอ่านกันได้หลายแบบหลายระดับ ตั้งแต่อ่านเอาความสนุกบันเทิงแบบนิยายดรามาสะเทือนอารมณ์ อ่านแบบจับประเด็นทางเนื้อหา อ่านแบบเจาะลึกพฤติกรรมนิสัยใจคออันสลับซับซ้อนของตัวละคร อ่านเพื่อถอดรหัสตีความสัญลักษณ์ต่างๆ ว่า สิ่งนั้นสิ่งนี้สะท้อนนัยยะแฝงความหมายอย่างไรบ้าง (เช่น บ้านตุ๊กตา หรือความลึกลับต่างๆ ของช่างจุลศิลป์) ฯลฯ

ผมคิดว่าส่วนที่โดดเด่นมากและมีน้ำหนักทรงพลัง คือการอ่านเพื่อจับประเด็นทางด้านเนื้อหาสาระ ซึ่งมีแง่มุมให้จับต้องขบคิดต่อได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจำลองภาพย้อนอดีตของสังคมอัมสเตอร์ดัมในศตวรรษที่ 17 ได้อย่างมีชีวิตชีวา, บรรยากาศเกี่ยวกับการค้าและแสวงหาอำนาจในต่างแดน, การเสียดสีสังคมมือถือสากปากถือศีล เคร่งศาสนา แต่ก็เคารพบูชาเงิน อยากได้ใคร่มี, การแสวงหาอิสรภาพในท่ามกลางสภาพชีวิตที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยจารีต กฎหมาย ค่านิยม ความเชื่อ และศีลธรรม, การช่วงชิงอำนาจระหว่างชาย-หญิง (แง่มุมนี้ค่อนข้างชัด ในความสัมพันธ์แบบรักและขับเคี่ยวกันอย่างซับซ้อนระหว่างคู่พี่น้องโยฮานเนสกับมาริน), การเหยียดผิว, อคติต่อคนรักเพศเดียวกัน

ที่ผมชอบมากคือแง่มุมเกี่ยวกับการเป็นผู้เฝ้ามองจับจ้อง ขณะเดียวกันก็ตกเป็นเป้าสายตา ถูกผู้อื่นสอดส่องอย่างใกล้ชิด ผ่านรายละเอียดสารพัดสารพันตลอดทั้งเรื่อง และสะท้อนผ่านเกือบจะทุกตัวละคร ทั้งการแอบดูแอบฟังอย่างตรงไปตรงมา, การแพร่กระจายของข่าวลือซุบซิบนินทาในหมู่ชาวบ้าน, บ้านตุ๊กตาอันเป็นของประดับตกแต่งที่มีไว้สำหรับดูด้วยความชื่นชม ในความละเอียดวิจิตรพิสดารและขนาดเล็กจิ๋วย่อส่วน ก็ถือกำเนิดขึ้นจากการจับสังเกตบ้านต้นแบบของจริง ฯลฯ

ผมยังไม่มีโอกาสพิจารณาไตร่ตรองแง่มุมนี้อย่างถี่ถ้วนและนำมาเชื่อมโยงให้ได้ใจความเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เท่าที่พอจะนึกออกและจดจำได้ The Miniaturist มีแง่มุมเรื่องการมองและถูกมอง พาดพันเกี่ยวเนื่องกันหลายชั้น และเล่าไว้อย่างเป็นเอกภาพมากๆ

ประเด็นเนื้อหาสำคัญอีกอย่างใน The Miniaturist ได้แก่ ส่วนที่เป็นบทเฉลยเกี่ยวกับปริศนาของช่างจุลศิลป์ ซึ่งไม่ได้อธิบายแบบชัดกระจ่างหมดจด เพียงแค่เฉลยให้ผู้อ่านพอจับเค้าได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ความหมายอันถ่องแท้ยังคงต้องนำไปคิดต่อและตีความกันตามอัธยาศัย

แง่มุมนี้ ขอสารภาพแบบยืดอกไว้ ณ ที่นี้ว่า ผมยังไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร และขอติดค้างไว้ล่วงหน้า 5 ปีกับ 6 เดือนเป็นอย่างต่ำ

ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับการขีดๆ เขียนๆ สิ่งหนึ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษขณะอ่านนิยายเรื่องนี้ก็คือลักษณะลีลาและชั้นเชิงทางวรรณศิลป์ ซึ่งหมายรวมครอบคลุมไปถึงการคิดพล็อตวางโครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง ความสวยงามคมคายทางด้านการใช้ภาษา รวมถึงการเขียนบรรยายฉาก สิ่งของ ผู้คน ให้ผู้อ่านนึกภาพคล้อยตาม

ทั้งหมดมีอยู่ครบถ้วนในงานเขียนชิ้นนี้ ผมคิดว่าพล็อตและการดำเนินเรื่อง การนำพาผู้อ่านไปสู่ความลับ ฉากไคลแมกซ์ และการเร้าอารมณ์ เป็นส่วนที่จับต้องมองเห็นได้ง่ายและชัดสุด ขณะเดียวกัน ความคมคายสวยงามในการใช้ภาษาเป็นส่วนที่จับต้องมองเห็นได้ยากสุด ต้องสังเกตกันละเอียดจึงจะพบเห็น ด้วยเหตุผล 2 ประการ (ตามความเข้าใจของผมเองนะครับ ไม่ยืนยันความถูกต้อง) คือหนึ่ง เจสซี เบอร์ตันโชว์ความเฉียบคมและความงามทางภาษาเฉพาะเท่าที่จำเป็น สอง คือความคมหรือจังหวะสวยๆ ที่มีอยู่ เป็นภาษาสวยในแบบที่หากอ่านผ่านๆ แล้วไม่รู้สึกเอะใจ ต้องค่อยๆ ละเลียดจึงตระหนักสัมผัสได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่ออ่านเจอแล้ว ยังต้องคิดเพิ่มอีกชั้นจึงค่อยรู้สึกว่าเขียนดีจังเลย

ในบรรดาทั้งหมดอันเกี่ยวกับทักษะฝีมือในการเขียน ผมประทับใจการพรรณนาฉาก สิ่งของ ผู้คน ในนิยายเรื่องนี้มากที่สุด เจสซี เบอร์ตันเก่งฉกาจฉกรรจ์ ไม่ใช่ในระดับขั้นทำให้ผู้อ่านเกิดจินตนาการนึกภาพได้อย่างแจ่มชัดเท่านั้น แต่แทบจะได้กลิ่นสรรพสิ่งทั้งที่น่าอภิรมย์และระคายเคืองรูจมูก รสต่างๆ ของอาหาร ขนม เครื่องดื่ม และความรู้สึกหนาวเยือกของดินฟ้าอากาศเลยทีเดียว

มีฉากทำคลอด ซึ่งผมขออนุญาตไม่ระบุว่าอยู่ตรงไหนช่วงใดของเรื่องหรือเกี่ยวพันกับตัวละครใด ในฉากดังกล่าวเขียนบรรยายได้วิเศษมาก จนเสมือนว่าผู้อ่านแทบจะหลุดเข้าไปอยู่ในหน้ากระดาษ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับตัวละครอย่างใกล้ชิด

มีศิลปินที่ผมเคารพนับถือท่านหนึ่งเคยสอนผมเกี่ยวกับการวาดรูปทิวทัศน์ ท่านกล่าวไว้ว่าภาพเขียนประเภทนี้ จะดีหรือด้อย ไม่ได้วัดกันที่การเขียนต้นไม้ ใบไม้ ภูเขา แม่น้ำให้ออกมาเหมือนกับแบบชนิดตรงเป๊ะ แต่ตัดสินกันตรงที่ว่าสามารถวาดให้ในภาพนั้นๆ มีอากาศได้หรือไม่

ถ้าเปรียบเป็นภาพวาด นิยายเรื่อง The Miniaturist ก็เป็นภาพทิวทัศน์ที่มีอากาศ และวาดอากาศออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นที่สุด

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

4 Aug 2020

การสืบราชสันตติวงศ์โดยราชสกุล “มหิดล”

กษิดิศ อนันทนาธร เขียนถึงเรื่องราวการขึ้นครองราชสมบัติของกษัตริย์ราชสกุล “มหิดล” ซึ่งมีบทบาทในฐานะผู้สืบราชสันตติวงศ์ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร 2475

กษิดิศ อนันทนาธร

4 Aug 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save