‘อย่าประเมินอิหร่านต่ำเกินไป’ ในไฟสงครามสองขั้วขัดแย้งแห่งตะวันออกกลาง: ผศ.ดร.พรพรรณ โปร่งจิตร

ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านมาถึงจุดแตกหัก เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา อิสราเอลดำเนินปฏิบัติการ ‘สิงห์ผงาด’ (Operation Rising Lion) โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ด้วยข้อกล่าวหาที่ว่าอิหร่านมีแนวโน้มจะผลักดันโครงการนิวเคลียร์อันจะก่อให้เกิดอันตรายตามมา ยังผลให้อิหร่านเปิดฉากตอบโต้ทันทีด้วยการยิงโดรนสวนกลับไปยังอิสราเอล กลายเป็นศึกสงครามแห่งภาคพื้นตะวันออกกลางที่ประชาคมโลกร่วมกันจับตาอย่างหวาดหวั่น

และในโมงยามแห่งความโกลาหลนั้น เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน สหรัฐอเมริกาใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ก็โจมตีฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านสามแห่ง เพื่อระงับ ‘ความทะเยอทะยาน’ ในการสร้างนิวเคลียร์ของอีกฝ่าย และไม่ว่าจะอย่างไร การเคลื่อนไหวนี้ก็สุ่มเสี่ยงและมีแนวโน้มจะบานปลายอย่างปฏิเสธไม่ได้

ในภาพใหญ่ ภูมิภาคตะวันออกกลางคล้ายตกอยู่ในสภาวะแห่งความเดือดดาลและรุนแรง กับแรงหนุนจากประเทศมหาอำนาจที่ยากจะอ่านทางออก นับเป็นห้วงเวลาที่เปราะบาง อ่อนไหวและสุ่มเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่

101 สนทนากับ ผศ.ดร.พรพรรณ โปร่งจิตร จากสาขาวิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ว่าด้วยรากของข้อพิพาทในตะวันออกกลางกับชาติตะวันตก และหนทางที่เป็นไปได้ของความขัดแย้งเหล่านี้ในอนาคต

อาจารย์มองการเปิดหน้าโจมตีอิหร่านของอิสราเอลอย่างไร

เราต้องเข้าใจก่อนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลนั้น เขาไม่ได้เป็นมิตรกันตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ตั้งแต่ปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเมื่อปี 1979 อายะตุลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ โคมัยนี (Ruhollah Khomeini -อดีตผู้นำสูงสุดของอิหร่าน) ประกาศว่า ในการดำรงความเป็นสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน อเมริกากับอิสราเอลคือฝ่ายตรงข้าม และมีคำกล่าวที่อิหม่ามโคไมนีบอกว่า ถ้ามุสลิมทุกคนถือน้ำคนละแก้ว แล้วไปสาดใส่อิสราเอล คนอิสราเอลจะหายไป ความหมายคือคนมุสลิม -ไม่ใช่แค่คนอิหร่านนะ- มีจำนวนมาก เท่ากับว่าชาวมุสลิมต้องร่วมมือกันให้เป็นปึกแผ่น

เดิมที ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลช่วงราชวงศ์ปาห์ลาวี (Pahlavi dynasty -ราชวงศ์สุดท้ายของอิหร่าน) เป็นมิตรที่ใกล้ชิดกันนะคะ เป็นผลเนื่องมาจากการพัฒนาอิหร่านช่วงราชวงศ์ปาห์ลาวีด้วย กล่าวคือราชวงศ์ปาห์ลาวีต้องการทำให้ประเทศเจริญ และความเจริญที่ว่าก็เป็นความเจริญแบบตะวันตก ด้านหนึ่ง พวกเขามองว่าศาสนาหรือรูปแบบวัฒนธรรมเดิมของอิหร่านไม่เป็นตะวันตก ฉะนั้น เขาจึงมีนโยบายบางอย่าง เช่น ยกเลิกการสวมฮิญาบในผู้หญิง หรือนโยบายการปฏิวัติขาว (The White Revolution) ที่เป็นนโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศ แต่เป็นการพัฒนาที่นักการศาสนาหรือประชาชนส่วนหนึ่งมองว่าเป็นการพัฒนาโดยรับอิทธิพลมาจากตะวันตก หรือถูกประเทศตะวันตกหรือสหรัฐอเมริกาสั่งมา 

เมื่อเกิดการปฏิวัติอิสลาม อิหร่านก็บอกว่าอิสราเอลกับอเมริกาคือชัยฏอน หรือคือมารร้าย ต้องทำลายให้หมด ขณะที่อิสราเอลซึ่งอยู่ในพื้นที่ตะวันออกกลางและเพิ่งตั้งประเทศเมื่อปี 1948 บนความสนับสนุนของชาติตะวันตก อ้างเหตุผลต่างๆ ในการเข้าไปอยู่ในดินแดนดังกล่าว เมื่ออิหร่านประกาศเช่นนั้น อิสราเอลก็เห็นว่าอิหร่านเป็นศัตรูเหมือนกัน ดังนั้น เมื่อศัตรูพูดถึงศัตรู ก็ไม่แปลกที่จะเกิดการโจมตีหรือการต่อสู้กัน

แต่การโจมตีแบบซึ่งหน้าในครั้งนี้ เราคิดว่าหลายประเทศประเมินอิหร่านต่ำไป คิดว่าอิหร่านไม่เข้มแข็งจากการเมืองภายในประเทศ ที่มีปัญหาเศรษฐกิจหลังจากถูกหลายชาติคว่ำบาตรมาหลายปี หลายประเทศจึงคิดว่าอิหร่านคงไม่พร้อมที่จะรับศึก รวมทั้งเราจะเห็นว่าในตะวันออกกลาง แต่ละฝ่ายก็มีพันธมิตรเป็นของตัวเอง อย่างอิสราเอลมีพันธมิตรจากตะวันตก ส่วนใหญ่เป็นประเทศมหาอำนาจด้วย ขณะที่พันธมิตรของอิหร่านถูกลดทอนมาตลอด ตั้งแต่ฮามาส, ฮิซบอลเลาะห์, ฮูตี หลายคนจึงประเมินว่าอิหร่านคงรับมือกับการโจมตีไม่ไหว

ที่สำคัญคือพันธมิตรของอิหร่านอย่างประเทศซีเรียนั้นไม่มี บาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad -อดีตประธานาธิบดีซีเรีย) อีกแล้ว ผู้นำใหม่ก็เป็นพันธมิตรของอเมริกา ดังนั้น หากยิงจรวดไปแล้วซีเรียเปิดทางหรือไม่ช่วยสกัด หลายประเทศก็คิดว่าอิหร่านคงเอาตัวไม่รอดแน่ๆ เพราะหากว่ายังมีซีเรียเป็นพันธมิตร อย่างน้อยก็ยังช่วยยิงสกัด และสถานการณ์เหล่านี้แหละที่ทำให้อิสราเอลกล้าเปิดหน้าโจมตี

ถ้าอย่างนั้น อิหร่านอ่อนแออย่างที่ชาติตะวันตกเข้าใจไหม

โดยส่วนตัวเลยนะคะ ไม่คิดว่าอิหร่านอ่อนแอเลย เราอยู่อิหร่านมาเจ็ดปีและเคยตั้งคำถามเรื่องนี้มาเหมือนกัน เราเห็นว่าเวลาเขาละหมาดวันศุกร์หรือวันสำคัญต่างๆ สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลอิหร่านหรือกองทัพอิหร่านทำคือเขาจะแสดงอาวุธที่เขาผลิตได้เองให้ประชาชนเห็น อาจจะไม่ใช่ทุกศุกร์หรอก แต่เขาก็แสดงให้ประชาชนเห็นผ่านโทรทัศน์บ่อยเหมือนกันว่าวันนี้ทำจรวดได้ สร้างปืนได้นะ เขาทำให้คนเห็นว่าเขาพัฒนาเรื่องป้องกันประเทศ และอยากให้คนอุ่นใจว่าเขาพร้อมรับมือจากการกดดันหรือการคว่ำบาตรของชาติต่างๆ 

และการถูกโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งการที่อิหร่านโจมตีกลับ ก็ทำให้เห็นแล้วว่าเขาพร้อมจริงๆ คนจึงประเมินอิหร่านผิดมาก คิดว่าเขาจะต้องขอซื้ออาวุธหรือขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ แต่ไม่ใช่เลย 

เราได้พูดคุยกับเพื่อนชาวอิหร่าน เขาก็บอกว่าถึงที่สุด ประชาชนก็สบายใจว่าเงินภาษีถูกนำไปใช้สร้างอาวุธจริงๆ 

ที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ หรือเครือข่ายของอิหร่านมาเรื่อยๆ สิ่งนี้ทำให้อิหร่านอ่อนแอลงจริงไหม 

เราต้องเข้าใจว่าทั้งฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ เป็นกลุ่มการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งในเลบานอนและในปาเลสไตน์ เขาเป็นกลุ่มการเมือง แต่คนทั่วไปมองว่าเขาคือกลุ่มผู้ก่อการร้าย เห็นว่าภาพลักษณ์เขาคือผู้ก่อการร้ายไปหมด สิ่งหนึ่งที่คนอื่นไม่ทราบ คืออิหร่านมีเครือข่ายมากมาย ไม่ใช่แค่เครือข่ายด้านการเมือง แต่เป็นเครือข่ายทางวัฒนธรรมด้วย กลุ่มฮามาสกับฮิซบอลเลาะห์บางกลุ่มใช้ภาษาฟาร์ซี ซึ่งเป็นภาษาของอิหร่าน อุซเบกิสถานและทาจิกิสถานก็ใช้ ซึ่งนอกจากภาษาแล้ว พวกเขาก็มีวัฒนธรรมร่วมกันด้วย 

ดังนั้น นอกจากมิติการเมือง การทหารแล้ว พวกเขายังมีเครือข่ายด้านวัฒนธรรมที่เหนียวแน่นมาก ชาติตะวันตกอาจคิดว่าถ้าทำลายฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ หรือลอบสังหารผู้นำต่างๆ แล้วอิหร่านจะอ่อนแอ แต่เขาไม่รู้กระบวนการเรื่องเตรียมตัวของอิหร่านและเครือข่ายเหล่านี้ สมมติว่านายทหารหรือแม่ทัพ ถูกลอบสังหาร เขาก็จะมีผู้นำคนใหม่มาแทน นี่คือการเตรียมตัวของเขา เขาเตรียมคนที่พร้อมขึ้นมาทำหน้าที่เสมอ นับเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของนิกายชีอะฮ์ ทุกคนที่ถูกฝึกพร้อมจะเป็นชะฮีด (Shahid) หรือการตายเพื่อศาสนา ดังนั้น จึงไม่มีใครกลัวตาย 

การที่เครือข่ายถูกโจมตีก็ทำให้อิหร่านอ่อนแรงลงก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้อิหร่านหวั่นไหวหรือรู้สึกว่าสูญเสียพันธมิตรอะไร

อะไรทำให้อิหร่านแข็งแกร่งนอกจากอิหร่านเป็นชีอะฮ์ มีวัฒนธรรมหรือวิธีคิดแบบไหนอีก

เราว่าเพราะเขาถูกแทรกแซงมานานมากๆ ต้องอยู่ด้วยตัวเองมาตั้งแต่ปฏิวัติอิสลามจนปัจจุบัน นึกถึงประเทศที่ถูกแทรกแซงมา 46 ปีสิ เขามีน้ำมัน มีก๊าซธรรมชาติ มีทรัพยากรมากมาย แต่ถูกชาติตะวันตกกดดันจนค้าขายไม่สะดวก แล้วเขาต้องอยู่แบบนี้มานานมากๆ 

อีกอย่าง อิหร่านเป็นประเทศขนาดใหญ่ เขาแทบจะเป็นครัวของตะวันออกกลาง ปลูกข้าวได้เอง มีพืชผลทางการเกษตรที่ผลิตได้เอง เขาจึงไม่ขาดแคลนอาหารเลย แล้วยิ่งเขามีน้ำมัน ต่อให้เขาถูกหลายประเทศคว่ำบาตร แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่อยากซื้อจากเขาเหมือนกัน 

อีกอย่าง คนอิหร่านยึดมั่นในศาสนามาก เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาก พวกเขามีศรัทธาต่อพระเจ้าเหมือนกัน ผู้นำสูงสุดของอิหร่านก็เป็นนักการศาสนา ประชาชนก็เชื่อฟังนักการศาสนา และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อิหร่านเข้มแข็ง 

ภาพการโจมตีเหนือน่านฟ้าอิสราเอลในวันที่ 14 มิถุนายน 2025 (ภาพจาก AFP)

การที่นักการศาสนามีตำแหน่งแห่งที่ทางการเมืองและกำหนดทิศทางประเทศ ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวในการกำหนดนโยบายและท่าทีของอิหร่านต่อชาติตะวันตกแค่ไหน

(คิด) จะใช้คำว่าอะไรดี แต่เราคิดว่าพวกเขาคล้ายๆ จอมทัพ 

ถ้าเรามองรูปแบบการปกครองของอิหร่าน ก็จะพบว่าเขาปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐอิสลาม ประธานาธิบดีจึงทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหาร มีนักการเมืองทำหน้าที่ว่าการต่างประเทศ ดูแลกิจการบ้านเมือง เศรษฐกิจและสังคม แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็ต้องมาจากนักการศาสนา เช่น ถ้าจะออกกฎหมาย เมื่อผ่านสภาไปแล้ว การจะประกาศใช้นั้นต้องผ่านสภาสูงของอิหร่านก่อน โดยพวกเขามีหน้าที่ดูแลว่า กฎหมายดังกล่าวถูกต้องตามหลักการศาสนาหรือไม่ สังคมอิหร่านทั้งหมดจึงอยู่ในกรอบของศาสนา 

บทบาทอีกประการของนักการศาสนาที่สำคัญมากคือ เราต้องไม่ลืมว่าความเป็นมุสลิมนั้น ตั้งแต่ก่อนมีการปฏิวัติอิสลาม สิ่งที่ทำให้อิหม่ามโคไมนีชักชวน จูงใจคนให้มาร่วมได้คือการละหมาดวันศุกร์ ข้อความส่งตรงมาจากอิหม่ามโคไมนีและเผยแพร่โดยเหล่านักการศาสนา กล่าวคือ ในการละหมาดวันศุกร์ ประชาชนอิสลามทั้งประเทศก็รับฟังสิ่งเดียวกัน และทุกวันนี้ก็ยังมีการละหมาดวันศุกร์อยู่ นักการศาสนาก็พูดประเด็นสำคัญเดียวกัน ทิศทางเดียวกัน

อิหร่านถูกกล่าวหาว่าดำเนินนโยบายผ่านสงครามตัวแทนมาตลอด คิดว่าเราเรียกกรณีนี้ว่าสงครามตัวแทนได้ไหม หรือมีลักษณะเป็นเครือข่ายมากกว่า

เราคิดว่ามีลักษณะเป็นเครือข่ายมากกว่านะ อิหร่านเขาก็พยายามบอกตัวเองและบอกทุกคนว่า เขาไม่ได้เริ่มสงครามนะ เขาทำเพื่อป้องกันตัวเอง แม้กระทั่งสงครามครั้งนี้ เขาก็บอกว่าการที่ต้องยิงอาวุธออกไปก็เป็นไปเพื่อป้องกันตัวเอง ฉะนั้น เราจึงคิดว่ามันไม่ได้มีลักษณะแบบสงครามตัวแทน แต่ถามว่าเขาสนับสนุนเครือข่ายต่างๆ ไหม ก็ต้องตอบว่าเขาสนับสนุนแน่ๆ เราว่าก็เหมือนที่สหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอลนั่นแหละ 

คนมองว่าอิสราเอลอยากทำลายโครงสร้างการทหารและการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน รวมทั้งการปกครองด้วย มองประเด็นนี้อย่างไร หรือจริงๆ แล้วอิสราเอลแค่อยากตอบโต้อิหร่าน

เราว่าทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างมองว่าอีกฝ่ายคือศัตรู แน่นอนว่ามันก็ต้องเกิดปัญหาขึ้น ข้ออ้างที่อิสราเอลบอกว่าอิหร่านจะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ จึงต้องทำลายโครงสร้างนี้ทิ้ง ก็ต้องถามว่า แล้วประเทศรอบๆ อิสราเอลประเทศอื่นที่เขามีนิวเคลียร์ล่ะ ทำไมอิสราเอลไม่ทำลายทุกประเทศที่มีนิวเคลียร์ ทำไมฉพาะเจาะจงอิหร่าน ในเมื่อประเทศอื่นมีได้ ทำไมอิหร่านจะมีนิวเคลียร์ไม่ได้ ข้ออ้างของอิสราเอลเรื่องอิหร่านกับนิวเคลียร์ จึงมีลักษณะเป็นไปเพื่อกดอิหร่านมากกว่า เราว่ามันคือความไม่ไว้วางใจกันและกันมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อต่างมองกันเป็นศัตรูเช่นนี้ 

ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ในยุคสมัยของ บารัค โอบามา​ (Barack Obama -อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ) ก็มีการตรวจสอบเรื่องนิวเคลียร์ในอิหร่าน ผลก็คือไม่เจออะไร แต่ชาติตะวันตกก็ยังไม่เชื่ออีก แต่ที่สำคัญคือการโจมตีในครั้งนี้ มีลักษณะการใช้นิวเคลียร์ของอิหร่านมาเป็นข้ออ้าง คำถามคือแล้วทำไมกลัวแค่อิหร่าน ไม่กลัวชาติอื่นๆ ที่เขาครอบครองนิวเคลียร์อยู่เหรอ หรือทำไมชาติอื่นมีสิทธิสร้างนิวเคลียร์ได้ แต่อิหร่านไม่มีล่ะ 

นอกจากนี้ ระบบการทหารของอิหร่านนั้น นอกจากทหารเกณฑ์แล้ว หลายคนก็พร้อมเป็นชะฮีด มีใจรักชาติและศาสนา พร้อมตายได้ 

ถ้าอิสราเอลอยากทำลายโครงสร้างที่ประกอบด้วยปัจจัยเหล่านี้จริงๆ เขาจะทำได้จริงหรือ ทั้งยังประเมินระบบการป้องกันประเทศของอิหร่านน้อยเกินไปด้วย ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้

เป็นไปได้ไหมที่เป้าหมายของชาติตะวันตก รวมถึงอิสราเอล อยากล้มระบอบการปกครองของอิหร่านเลย

(คิดนาน) ประเทศสาธารณรัฐอิสลามในโลกมีหลายประเทศนะคะ  

การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน เป็นจุดเริ่มต้นในการนำศาสนามาใช้ในการปกครอง แต่เราจะเห็นว่าประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางก็มีการจัดรูปแบบการปกครองที่ต่างกันออกไป เราไม่ได้คิดว่าศาสนาเป็นประเด็นที่ทำให้ชาติตะวันตกอยากล้มอิหร่านนะ เรามองว่าความคาดหวังของชาติตะวันตกในการเข้าไปยังอิหร่านต่างหากคือเงื่อนไขสำคัญ เพราะในยุคของชาห์ ตะวันตกเข้าไปจัดการทุกอย่างในอิหร่านได้ ถ้าอยากได้ทรัพยากรอะไร เขาก็เอาไปได้หมด เราว่าชาติตะวันตกพยายามอ้างเรื่องระบบการปกครองมาเป็นปัญหา ด้วยการบอกว่าระบอบนี้เป็นอันตรายต่อประเทศอื่น เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ถ้าเราดูดีๆ คำสอนของอิหร่านไม่ได้บอกว่าเขาจะไปรุกรานใคร 

ส่วนตัว เราจึงมองว่าเรื่องระบบการปกครองของอิหร่านเป็นข้ออ้างที่ชาติตะวันตก อ้างเพื่ออยากเข้าไปแทรกแซงประเทศอิหร่านมากกว่า คือชาติตะวันตกมีปัญหาในการไม่สามารถเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ได้อย่างเดิม จากในยุคของชาห์ที่อิหร่านแทบจะไม่ต้องตัดสินใจอะไรเอง เพราะอเมริกาตัดสินใจให้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้อเมริกาทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว

สงครามสงผลต่อการเมืองภายในอิหร่านอย่างไร โดยเฉพาะภายใต้การนำของ มาซูด ปีเซชเคียน (Masoud Pezeshkian) ประธานาธิบดีสายปฏิรูปคนล่าสุด

อันดับแรก คนอิหร่านเลือกมาซูดเพราะอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง เช่น เรื่องการผ่อนคลายการสวมฮิญาบ อันที่จริงก็ผ่อนมาตั้งแต่ช่วงปลายของประธานาธิบดีคนก่อนอย่าง เอบรอฮีม รออีซี (Ebrahim Raisi) แล้วล่ะ อิหร่านจะเป็นลักษณะนี้ตลอด คือมีการเรียกร้องและเกิดการผ่อนปรนขึ้นเป็นระยะๆ 

สำหรับการเมืองภายในอิหร่าน ช่วงนี้เราจะเห็นว่าผ่อนคลายเยอะมาก คนไม่ได้ถูกกดดันขนาดรู้สึกว่าอยู่ไม่ไหว คนแต่งกายเปลี่ยนไปจากเดิม กิจกรรมก็เปลี่ยนไป เช่น เดินห้าง นั่งดื่มกาแฟที่คาเฟ่ ซึ่งเมื่อ 15 ปีที่แล้วไม่มีนะคะ (ยิ้ม) ซึ่งความเปลี่ยนแปลง ความผ่อนคลายที่ว่านี้ไม่ได้มาจากประธานาธิบดีเสียทีเดียว แต่มาจากผู้นำศาสนาด้วย เราต้องเข้าใจว่าการจะเป็นประธานาธิบดีที่อิหร่าน ต้องผ่านการคัดเลือกจากผู้นำศาสนาก่อนด้วย ไม่ว่าจะเป็นสายปฏิรูปหรือสายแข็งกร้าว ก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้นำศาสนามาก่อนทั้งนั้น แล้วประชาชนค่อยเลือก และในช่วงสงครามอย่างนี้ หน้าที่ของประธานาธิบดีคือดำเนินการต่างประเทศ ฝ่ายที่ต้องทำสงครามก็ทำสงคราม

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีสายไหน อิหร่านก็จะดำเนินไปในลักษณะนี้อยู่ดี

โจทย์ยากของอิหร่านในเวลานี้คืออะไร ระหว่างการรับมือกับอิสราเอลภายใต้การนำของ เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu -นายกรัฐมนตรีอิสราเอล) กับอเมริกาภายใต้ทรัมป์

อิหร่านเจอกับเนทันยาฮูมาตลอดนะ และผ่านมาได้ตลอด แต่ทรัมป์นี้ถือว่าเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย อยู่ๆ จะมาเจรจากับอิหร่านซึ่งอิหร่านปฏิเสธ ตรงนี้เราคิดว่าการดำเนินการทางการทูตของอิหร่านแยบยลมาก ถ้าเขาเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เช่น ทรัมป์ เขาก็จะไม่เจรจาด้วย เพราะถ้าเข้าไปเจรจาก็เท่ากับว่าเขากระโจนลงไปในความไม่แน่นอน

คิดว่าความสัมพันธ์ของประเทศในตะวันออกกลางกับอิหร่านเวลานี้เป็นอย่างไร เพราะเท่าที่เห็น หลายประเทศก็เลือกอยู่เฉยเมื่อปาเลสไตน์หรืออิหร่านถูกโจมตี

ถ้ามองว่าการที่อิสราเอลโจมตีปาเลสไตน์ อาจพบว่าชาติอาหรับทั้งหลายจะดูนิ่งเฉย ไม่ช่วยเหลือ ไม่ออกตัวแรงเท่าอิหร่าน ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของแต่ละประเทศด้วย แต่อิหร่านไม่ได้เป็นแบบนั้น ต้องเข้าใจว่าอิหร่านมองอิสราเอลเป็นศัตรูตั้งแต่จุดเริ่มต้นแล้ว 

เป็นไปได้ไหมว่าอิหร่านมองตัวเองเป็นพี่ใหญ่ของหลายๆ ประเทศในตะวันออกกลาง

ไม่ใช่เลย อิหร่านไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นพี่ใหญ่หรือต้องไปสนับสนุนเครือข่ายใดเป็นพิเศษ แต่อิหร่านเขาเห็นเครือข่ายด้านศาสนา คือกลุ่มชีอะฮ์ เขาก็ให้ความช่วยเหลือกลุ่มนี้เพราะเขามั่นคงกว่า แต่ส่วนตัวเราไม่คิดว่าเขาเห็นตัวเองเป็นพี่ใหญ่อะไร

ในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ คิดว่าจีนกับรัสเซียจะเข้ามามีบทบาทในการไกล่เกลี่ยไหม

ไม่ค่ะ (ตอบเร็ว) เพราะพวกเขาไม่อยากเจ็บตัวกันหรอก จีนก็คงอยากรักษาผลประโยชน์การค้าของตัวเองมากกว่า รัสเซียเองก็มีสงครามของตัวเองที่ยังวุ่นวายไม่จบ ถ้าเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะทำให้เกิดช่องว่างให้ชาติอื่นเข้าไปแทรกแซงในสงครามระหว่างเขากับยูเครนได้ 

แต่จีนก็เคยยื่นมือมาไกล่เกลี่ยสมัยความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียกับอิหร่าน เงื่อนไขอะไรที่จะทำให้จีนไม่เข้ามายุ่งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน

อิสราเอลมีอะไรให้จีนบ้าง อย่างซาอุดิอาระเบียเขามีน้ำมันนะ 

อย่างนั้นอาจารย์มองว่า หนทางไปสู่ความสงบมีอะไรบ้าง นับจากนี้

คิดแทนยากมาก เพราะทางสหรัฐฯ เองก็ไม่รู้ว่าเขาใช้ตรรกะอะไรในประเด็นนี้ แต่เราคิดว่าอิหร่านคงอยากได้ความเท่าเทียมกับเสรีภาพ ในการมองให้เขาเท่าเทียมประเทศอื่น หยุดแทรกแซงเขาและยอมรับเขาก็พอ

MOST READ

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

World

17 Jul 2020

ร่วมรากแต่ขัดแย้ง ความบาดหมางระหว่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย

อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ทั้งสองประเทศมีรากเหง้าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกันหลายอย่าง จนนำไปสู่ความขัดแย้งในการช่วงชิงความเป็นเจ้าของภาษาและวัฒนธรรมมลายู

อรอนงค์ ทิพย์พิมล

17 Jul 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save