วันนี้ (28 มีนาคม 2568) เวลาประมาณ 13.20 น. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่ประเทศเมียนมา สะเทือนถึงหลายพื้นที่ในประเทศไทย และสร้างความเสียหายให้กับอาคารหลายแห่ง



แผ่นดินไหวส่งผลกระทบให้อาคารย่านจตุจักรถล่ม โดยอาคารดังกล่าวคืออาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รายงานว่ามีคนงานก่อสร้างประมาณ 320 คน ขณะนี้สูญหาย 70 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 50 คน เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และยังมีผู้ติดอยู่ในอาคารโดยไม่ทราบจำนวนแน่นอน (ข้อมูลเมื่อ 16.20 น.)
ไม่ใช่แค่อาคารย่านจตุจักรเท่านั้น สพฉ. รายงานว่ามีหน่วยงานอื่นที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวด้วย อาทิ โรงพยาบาลเลิดสิน กรุงเทพฯ และโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ นครปฐม เป็นต้น
อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่คืออาคารสูง 30 ชั้น มีมูลค่างานก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท ทั้งยังเป็นโครงการก่อสร้างที่ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามปัญหาการทุจริต กับกิจการร่วมการค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด



นอกจากการตั้งข้อสังเกตต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่ออาคารหน่วยงานราชการแล้ว ประชาชนไม่น้อยตั้งคำถามต่อระบบจัดการภัยพิบัติของประเทศไทย โดยเฉพาะประเด็นข้อความแจ้งเตือนภัยพิบัติและแจ้งอพยพจากภาครัฐ ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน


