ใครเป็นเหยื่อ ใครสมัครใจ? รัฐสับสน คัดแยก ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’

สถานการณ์การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติที่สร้างความเสียหายมหาศาล หลังจากที่ชาวต่างชาติ 260 คน ได้รับการช่วยเหลือ และถูกส่งตัวกลับจากเมียวดี เมืองชายแดนที่เป็นแหล่งรวมแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ชาวต่างชาติ 260 คน ถูกหลอกไปมีเพียง 1 คน ส่วนที่เหลือสมัครใจไป

— พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. (16 กุมภาพันธ์ 2568)

ก่อนหน้านี้ ตำรวจไซเบอร์แถลงรายงานความคืบหน้าการปฏิบัติงาน เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2568 โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ระบุว่า ชาวต่างชาติทั้งหมดนี้ มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ข้อมูลนี้ทำให้สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับกระบวนการคัดแยก และการจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่ามีความยุติธรรมแม่นยำเพียงใด

บางคนมองว่า การวิเคราะห์ว่าใครเป็นเหยื่อ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ ไม่เพียงต้องพิจารณาจากหลักฐานที่มี แต่ยังต้องเข้าใจพฤติกรรมและสภาพจิตใจของผู้เกี่ยวข้องด้วย ที่อาจพยายามปกปิดข้อมูล เพราะถูกข่มขู่จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ด้านนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า หากการคัดแยกที่พบเหยื่อค้ามนุษย์เพียง 1 คน เป็นข้อเท็จจริง จะสะท้อนปัญหาในกระบวนการ NRM ของประเทศอย่างร้ายแรง

แม้บางคนจะสมัครใจทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาปลอดภัย การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยง ถูกบังคับ หรือถูกหลอกให้ทำงานเกินกำลังล้วนเป็นรูปแบบของการถูกเอาเปรียบ

อย่าซูเอี๋ยให้ขบวนการค้ามนุษย์สิครับ… ถ้ามีแค่ 1 คนเท่านั้นที่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ผมว่ากระบวนการคัดแยกระดับประเทศ NRM ของประเทศเรามีปัญหาอย่างหนัก!!

— นายกัณวีร์ สืบแสง​ สส.​บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม (16 กุมภาพันธ์ 2568)

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มองว่าการตัดสินว่าใครเป็นเหยื่อหรือผู้ร่วมขบวนการนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละคนอาจเป็นได้ทั้งสองบทบาท แต่สิ่งสำคัญคือกระบวนการตรวจสอบต้องไว้วางใจได้

ส่วนตัวผมไม่อยากจะฟันธงว่าใครเป็นเหยื่อ ใครเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะมีโอกาสได้หมด สำคัญคือกระบวนการของเราต้องเป็นกระบวนการที่ไว้วางใจได้

— นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (16 กุมภาพันธ์ 2568)

ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายชูชีพ พงษ์ไชย ระบุว่าข้อมูลที่ให้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวและการวิเคราะห์เบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่ผู้บริหารระดับสูง ก็ต้องระมัดระวังในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาที่ละเอียดอ่อน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.ต.ท.ไตรรงค์ แถลงข่าวเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2568 สวนทางกับข้อมูลของวันก่อน หลังเผชิญกับกระแสวิจารณ์อย่างหนัก โดยยอมรับว่าจากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่ามีผู้ถูกหลอกลวงจำนวนมาก ส่วนผู้สมัครใจมีเพียง 2-3 คนเท่านั้น พร้อมกับขออภัยที่ข้อมูลคลาดเคลื่อน เพราะได้รับหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือไม่ครบถ้วนจนเกิดความผิดพลาด ซึ่งสร้างความสับสนและความไม่มั่นใจให้สังคมมากยิ่งขึ้นอีก

หลังตรวจสอบครบ พบผู้ถูกหลอกลวงจำนวนมาก แต่สมัครใจไปมีเพียง 2-3 คน… ขออภัยในความผิดพลาด

— พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. (17 กุมภาพันธ์ 2568)

สำหรับปฏิบัติการคัดแยกที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกว่ากระบวนการ National Referral Mechanism (NRM) ซึ่งเป็นกลไกระดับชาติในการคัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์ หลักการทำงานนั้นประกอบด้วยการสัมภาษณ์ การตรวจสอบหลักฐาน และการวิเคราะห์ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของผู้ถูกส่งกลับ โดยการคัดแยกครั้งนี้ มีการเก็บข้อมูลเลขรหัสประจำเครื่อง (IMEI) 107 หมายเลข และข้อมูลจากโทรศัพท์ของผู้ข้ามแดนกลับมา 35 เครื่อง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการวิเคราะห์รูปแบบการหลอกลวง

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการจับกุมและสืบสวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทยและประเทศใกล้เคียง ชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์การหลอกลวงที่หลากหลาย ตั้งแต่การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไปจนถึงการใช้เทคนิคจิตวิทยาสร้างความไว้วางใจ นอกจากนี้การตรวจสอบยังต้องเจอกับข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือถูกทำลาย ทำให้การคัดแยกเหยื่อจากผู้ร่วมขบวนการเป็นเรื่องยากลำบาก 

การคัดแยกยังต้องอาศัยความคิดเห็นจากองค์กรพัฒนาเอกชน นักสังคมสงเคราะห์ และแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และช่วยเหลือเหยื่อ ซึ่งการระบุตัวเหยื่อค้ามนุษย์ ไม่สามารถทำได้จากการสัมภาษณ์เพียงครั้งเดียว ผู้ถูกหลอกลวงมักไม่กล้าเปิดเผยความจริง เพราะความกลัวหรือการถูกข่มขู่ ขณะที่บางคนอาจสมัครใจร่วมงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยแรงผลักดันทางเศรษฐกิจหรือสังคม จำเป็นต้องตรวจสอบหลักฐานทางกายภาพ ประกอบกับการวิเคราะห์พฤติกรรม และการสังเกตเชิงจิตวิทยา 

การจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ควรจบที่การจับกุม แต่ต้องครอบคลุมถึงการปฏิบัติงานที่สร้างความเชื่อมั่นได้ว่า เหยื่อทุกรายจะได้รับการคุ้มครอง โดยคำนึงถึงความยุติธรรม ความถูกต้องทางกฎหมาย สิทธิมนุษยชน และการป้องกันการปะปนระหว่างเหยื่อจริงกับผู้กระทำความผิดไปพร้อมกัน

MOST READ

Social Issues

9 Oct 2023

เด็กจุฬาฯ รวยกว่าคนทั้งประเทศจริงไหม?

ร่วมหาคำตอบจากคำพูดที่ว่า “เด็กจุฬาฯ เป็นเด็กบ้านรวย” ผ่านแบบสำรวจฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม และความเหลื่อมล้ำ ในนิสิตจุฬาฯ ปี 1 ปีการศึกษา 2566

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

9 Oct 2023

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Social Issues

5 Jan 2023

คู่มือ ‘ขายวิญญาณ’ เพื่อตำแหน่งวิชาการในมหาวิทยาลัย

สมชาย ปรีชาศิลปกุล เขียนถึง 4 ประเด็นที่พึงตระหนักของผู้ขอตำแหน่งวิชาการ จากประสบการณ์มากกว่าทศวรรษในกระบวนการขอตำแหน่งทางวิชาการในสถาบันการศึกษา

สมชาย ปรีชาศิลปกุล

5 Jan 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save