เทย์เลอร์ สวิฟต์: เมื่อเธอคนนั้นที่เคยต่อสู้เพื่อลิขสิทธิ์เพลง เป็นคนเดียวกันกับเธอคนนี้ ที่อาจใช้ AI ในการโปรโมตอัลบั้ม

The Life of a Showgirl (2025) คืออัลบั้มลำดับที่สิบสองของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ศิลปินหญิงชาวอเมริกัน ที่เราอาจต้องห้อยท้ายชื่อของเธอในฐานะหนึ่งในคนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ค่าที่ว่าการขยับตัวของเธอแต่ละครั้ง -ทั้งในและนอกสนามอุตสาหกรรมดนตรี- ส่งผลสะเทือนขนาดใหญ่เสมอ อันจะเห็นได้จากการปล่อยอัลบั้มของเธอในแต่ละครั้ง ไม่เพียงแต่ทำลายสถิติยอดสตรีมมิ่ง แต่ยังส่งผลต่อยอดขายของร้านขายแผ่นเสียงเล็กใหญ่ เมื่อแฟนคลับของเธอมักไปต่อคิวรอตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด เพื่อจับจองแผ่นเสียงไวนิลทุกครั้งที่เธอปล่อยอัลบั้มใหม่ หรือหากจะวัดกันนอกวงการดนตรี การปรากฏตัวของเธอเพื่อดูกีฬาอเมริกันฟุตบอล ก็ส่งผลให้มีผู้เข้าชมที่เป็นแฟนเพลงของเธอ -ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง- ตามมาดูเพิ่มขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดซื้อบัตรเข้าชมกีฬา, เรตติ้งรายการและสินค้าต่างๆ ของลีก เพิ่มขึ้นด้วยเม็ดเงินกว่าสามร้อยล้านเหรียญฯ ในปีเดียว

โดยภายหลังปล่อยอัลบั้ม The Life of a Showgirl มาได้เพียงวันเดียว มันก็ทำลายสถิติด้วยการเป็นอัลบั้มที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดในสหรัฐฯ โดยทำยอดขายไปได้ที่ 2.7 ล้านชุดตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย

และหากคุณพอคุ้นเคยกับ ‘โลกของเทย์เลอร์ สวิฟต์’ ก็คงเข้าใจดีว่าเธอเป็นศิลปินที่มักสอดแทรกคำใบ้ (easter eggs) ผ่านเนื้อเพลง, การให้สัมภาษณ์, มิวสิกวิดีโอ รวมทั้งรูปถ่ายกับคลิปวิดีโอสั้นที่ปล่อยในโลกออนไลน์เสมอ และในกรณีนี้คือประตูขนาดยักษ์สีส้ม (อันเป็นสีหลักของอัลบั้มนี้) ปรากฏตามเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น ลอนดอน, เบอร์ลิน, ปารีส ฯลฯ พร้อมคิวอาร์โค้ดให้สแกน อันนำไปสู่คลิปวิดีโอสั้นที่เต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ให้แฟนคลับได้หาคำใบ้ดังที่พวกเขาคุ้นเคย

ปัญหาคือ เป็นไปได้สูงทีเดียวที่คลิปวิดีโอสั้นเหล่านี้ จะถูกสร้างขึ้นมาด้วยเอไอ (Generative AI) และจะว่าไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากจะสังเกตนัก โดยเฉพาะความบิดเพี้ยนของภาพ เช่น มือคนหายไปดื้อๆ ขณะหยิบผ้าเช็ดหน้า, รูปแบบตัวอักษรเปลี่ยน ตลอดจนงานเคลื่อนกล้องและจัดแสงแปร่งประหลาด และข้อสังเกตเหล่านี้ทำให้แฟนคลับของเธอ ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านสวิฟต์ครั้งใหญ่ผ่านแฮชแท็ก #SwiftiesAgainstAi ทางแอพลิเคชัน X

เหตุผลใหญ่ที่หลายคนไม่พอใจต่อวิดีโอสั้นเหล่านี้ ก็เนื่องมาจากเหตุผลด้านความชอบธรรมของงานจากเอไอ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า เอไอ -ในฐานะเครื่องจักร- หยิบจับเอาสิ่งต่างๆ ในงานจากศิลปินคนอื่นมาจัดเรียงเป็นงานชิ้นใหม่, ความแห้งแล้งไร้จิตใจของงานเหล่านี้ ตลอดจนทางเลือกของสวิฟต์ในฐานะนักดนตรีหญิงที่ได้รับการจัดอันดับว่ามีสินทรัพย์ในครอบครองสูงที่สุดในโลก (ราวหนึ่งพันหกร้อยล้านเหรียญฯ ตามที่นิตยสารฟอร์บส์ประเมิน) เลือกจะมองข้ามการว่าจ้างศิลปินแล้วเลือกใช้เอไอในการสร้างงาน หลายคนจึงรู้สึกราวกับเธอกำลังลดทอนคุณค่าของงานศิลปะ และเมินเฉยเรื่องความมีหัวจิตหัวใจของงานเหล่านี้

สิ่งที่อาจเรียกได้ว่าสร้างความผิดหวังให้แก่แฟนคลับของเธอมากที่สุด คือเรื่องที่ว่า สวิฟต์น่าจะเป็นคนที่ ‘เข้าใจ’ เรื่องจิตวิญญาณของเนื้องานและความมีหัวจิตหัวใจของมันมากที่สุด เธอมีชื่อเสียงจากการเป็นนักแต่งเพลงที่ถักทอเนื้อเพลงจากชีวิตส่วนตัว, เหลี่ยมมุมที่เธอมองโลกตั้งแต่เล็กจนโต ทักษะการเขียนเพลงของเธอแหลมคมและโดดเด่นเสียจนนักวิจารณ์หลายสำนัก ยกย่องให้เธอเป็นหนึ่งในนักดนตรีที่เขียนเพลงได้ดีที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษนี้ และเมื่อหกปีก่อน อัลบั้มเก่าของเธอร่วมหกอัลบั้ม -ที่เธอเขียนเนื้อเพลงเองทุกแทร็ค- ตั้งแต่ปี 2006 เรื่อยมาจนถึง 2017 ถูกขายลิขสิทธิ์ไปอยู่ในมือคนอื่นโดยปราศจากความยินยอมจากเธอ และยังผลให้เธอกัดฟันสู้ยิบตาเพื่อทวงคืนสิทธิ์เพลงเก่าๆ รวมทั้งหยิบเพลงจากอัลบั้มเก่ามาทำใหม่ (re-recording) อีกครั้งเพื่อประกาศการเป็นเจ้าของที่แท้จริง และหลังจากต่อสู้ แถลงเรียกร้องสิทธิในการเป็นเจ้าของผลงานหลายปี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สวิฟต์ก็เพิ่งประกาศว่าเธอซื้อลิขสิทธิ์อัลบั้มเพลงทั้งหกของเธอกลับมาได้ในที่สุด

YouTube video

เธอให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้ว่า “สิ่งที่ฉันต้องการคือการเป็นเจ้าของบทเพลงของตัวเองอย่างสมบูรณ์ ไม่ได้อยากเป็นหุ้นส่วน ไม่ได้อยากถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ฉันอยากเป็นเจ้าของอย่างเต็มตัว แน่ล่ะว่าการขายลิขสิทธิ์เพลงเหล่านี้ก็เป็นการตัดสินใจที่ใหญ่มากๆ ของทุกคน รวมทั้งตัวฉันด้วย

“ฉันจึงคิดว่า แทนที่จะให้การสนทนามันดำเนินไปในรูปแบบของการซื้อขายทางธุรกิจ ฉันอยากใช้หัวใจนำทางดู เพราะสำหรับฉันแล้ว มันไม่ใช่ว่า ‘ฉันต้องการเป็นเจ้าของสิทธิ์เหล่านี้เพื่อหวังเงินปันผล’ ไม่เลย งานเหล่านี้มันสร้างขึ้นจากการเขียนเพลงลงไดอารี่ด้วยมือทั้งชีวิต เป็นบทเพลงที่ฉันเขียนขึ้นเองในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเผชิญกับอะไร นี่คือภาพถ่าย นี่คือมิวสิกวิดีโอที่ฉันร่วมสร้างร่วมทำ มันคืองานศิลปะที่ฉันสร้างมาทั้งหมด

“ดังนั้น แทนที่จะส่งทนายหรือทีมงานกลุ่มใหญ่ไปคุย ฉันให้แม่กับน้องชายไปที่ลอส แองเจลิส คุยกับบอร์ดบริหารที่เวลานั้นถือครองลิขสิทธิ์เพลงฉันอยู่ อธิบายว่าบทเพลงเหล่านี้มีความหมายต่อฉันอย่างไร เล่าให้พวกเขาฟังว่าที่ผ่านมาพวกเราพยายามต่อสู้แค่ไหน ล้มเหลวมากี่ครั้ง คิดหาทางในแบบที่เราคิดว่ามันน่าจะสำเร็จและแพ้เอาในนาทีสุดท้าย

“สักสองเดือนหลังจากจากจบซูเปอร์โบลว์ (รายการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล) แม่โทรศัพท์มาหาฉัน บอกว่า ‘เราทำสำเร็จแล้วนะ ลูกได้เพลงของลูกคืนแล้ว'”

นับเป็นบทสัมภาษณ์ของสวิฟต์ ที่ฉายให้เห็นทัศนคติที่เธอมีต่อผลงานศิลปะ ในฐานะศิลปินที่มองงานเหล่านั้นอย่างมีหัวจิตหัวใจ มีเลือดมีเนื้อมากกว่าเป็นแค่ตัวงาน ดังนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะแสดงทีท่าผิดหวังต่อการใช้เอไอสร้างวิดีโอสั้นหลายต่อหลายคลิป เพื่อโปรโมตอัลบั้ม The Life of a Showgirl ดังที่แฟนคลับของเธอคนหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อนผ่านทาง X ว่า “การได้เห็นวิดีโอที่ทำขึ้นโดยเอไอ ถูกใช้เพื่อเป็นแคมเปญทำการตลาดโดยมหาเศรษฐี ซึ่งใช้เวลาเป็นปีๆ ในการต่อสู้เพื่อทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ของตัวเอง น่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของฉันแล้วจริงๆ” ขณะที่อีกคนวิจารณ์ว่า “จริงๆ ก็พยายามปกป้องเทย์เลอร์มาตลอดนะ แต่เรื่องนี้รับไม่ได้จริงๆ น่าผิดหวังสุดๆ ทำไมเธอถึงเลือกใช้เอไอมาทำแบบนี้นะ เธอเป็นเศรษฐีที่ใช้เวลาร่วมห้าปีในการทวงคืนลิขสิทธิ์ผลงานตัวเองแท้ๆ”

รวมถึงว่า ตัวสวิฟต์เองเคยได้รับผลกระทบจากการถูกตัดต่อโดยใช้เอไออย่างหนัก โดยในเดือนมกราคมปี 2024 เธอเคยถูกผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ใช้โปรแกรมดีปเฟก (deepfake -โปรแกรมสำหรับตกแต่งภาพและวิดีโอ) สร้างภาพปลอมของเธอในกิจกรรมเกี่ยวข้องกับทางเพศ และกลายเป็นไวรัลครั้งใหญ่ถึงขั้นที่ไมโครซอฟต์ต้องพัฒนาโมเดลการใช้ดีปเฟกให้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันการละเมิด -ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือกรณีใดๆ- ในอนาคต หรือเมื่อปลายปี 2024 ก่อนหน้าการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ภาพของสวิฟต์ก็ถูกตัดต่อ ดัดแปลง ชักชวนให้คนอเมริกันเลือก โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แคนดิเดตขวาจัดจากพรรครีพับลิกัน ผู้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาโดยตลอด

“ไม่นานมานี้ ฉันเพิ่งทราบว่าเว็บไซต์ของโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ภาพเอไอที่เป็นรูปฉันเอง สนับสนุนเขาในการลงสมัครประธานาธิบดี ซึ่งเป็นเรื่องไม่จริงเลย” สวิฟต์แถลง “และมันทำให้ฉันหวาดหวั่นต่อการใช้เอไอ รวมทั้งการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ มากขึ้นจริงๆ” และเพื่อประกาศจุดยืน เธอชี้แจงว่าเธอสนับสนุน กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) แคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตให้เป็นประธานาธิบดี

ความลักลั่นย้อนแย้งต่อประเด็นนี้ของสวิฟต์จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์หนาหู หลายคนพิจารณาว่าทีท่าเช่นนี้ทำให้เธอดูจะกลายไปเป็นนายทุนที่มองข้ามฝีมือการสร้างสรรค์งานของมนุษย์ เพื่อเป้าหมายที่ว่าด้วยการลดต้นทุนและทำกำไรเป็นหลัก ซึ่งยิ่งทำให้เธอและการออกอัลบั้มใหม่นี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วง โดยเฉพาะหากมองภาพใหญ่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แผนทำการตลาดของสวิฟต์อิงอยู่กับความภักดีของแฟนคลับ เธอมักออกอัลบั้มหลากรูปแบบให้แฟนคลับตามซื้อเก็บเพื่อสะสมรูปถ่ายหรือของที่ระลึกซึ่งแตกต่างกัน หรือการทยอยปล่อยเพลงหลากเวอร์ชันเพื่อรั้งยอดสตรีมมิงให้อยู่นานที่สุด

จนถึงนาทีนี้ สวิฟต์หรือทีมงานยังไม่ออกมาตอบโต้ต่อการกล่าวหาเรื่องการใช้เอไอ หากแต่เป็นที่แน่ชัดว่าวิดีโอบางคลิปถูกลบหรือซ่อนไว้ ขณะที่สื่อมวลชนฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่ก็ยังไม่รายงานประเด็นนี้ (ทั้งที่ผ่านมา การขยับตัวเล็กๆ น้อยๆ ของสวิฟต์มักได้รับการรายงานเสมอ) ยิ่งทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์เธอเรื่องอิทธิพลของเธอที่มีต่อนักวิจารณ์และสำนักข่าวต่างๆ ด้วย

สิ่งที่น่าจับตาของกรณีนี้คือ นี่เป็นไม่กี่ครั้งที่แฟนคลับของสวิฟต์ -ซึ่งได้ชื่อว่าภักดีและอยู่เคียงข้างเธอเสมอ- พร้อมใจกันออกมาวิพากษ์วิจารณ์และต่อต้านเธอกับทีมงานในประเด็นนี้ ด้านหนึ่งมันย่อมสะท้อนให้เห็นทัศนคติและสถานการณ์ที่คนกลุ่มหนึ่งมีต่อการใช้เอไอ และอีกด้าน หากว่าสวิฟต์และทีมงานใช้เอไอในการสร้างวิดีโอจริง มันย่อมสั่นคลอนต่อจุดยืนเรื่องลิขสิทธิ์และการรังสรรค์งานอย่างมีหัวจิตหัวใจ มีจิตวิญญาณอย่างที่เธอพร่ำบอกเรื่อยมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save