ในบทความที่แล้ว ผมได้พูดถึงคนเชื้อสายอิตาเลียนในบราซิล ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนเชื้อสายอิตาเลียนที่ใหญ่มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกที่อาศัยอยู่นอกประเทศอิตาส่วนในบทความนี้ ผมมาเล่าถึงคนเชื้อสายอิตาเลียนในอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นกลุ่มคนเชื้อสายอิตาเลียนที่ใหญ่มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกที่อาศัยอยู่นอกประเทศอิตาลี
ในระหว่างคริสต์ทศวรรษที่ 1850 และคริสต์ทศวรรษที่ 1950 มีคนเชื้อสายอิตาเลียนมากกว่า 3.5 ล้านคนอพยพมายังอาร์เจนตินา ส่งผลให้ในปัจจุบันมีการประมาณการว่ามีคนอาร์เจนตินาเชื้อสายอิตาเลียนราวๆ 25-30 ล้านคนในประเทศ คิดเป็นร้อยละ 62.5 ของจำนวนประชากรของอาร์เจนตินาทั้งหมด ถือเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทต่อสังคมอาร์เจนไตน์สมัยใหม่เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทางด้านวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ภาษา หรือแฟชั่น โดยเราจะพบว่าอาหารอิตาเลียน เช่น พิซซ่า พาสตา หรือแม้กระทั่งการใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงอาหาร ล้วนเป็นสิ่งที่ผสมผสานเข้ากับสังคมอาร์เจนไตน์ได้เป็นอย่างดีจนถือเป็นเรื่องปกติทั่วไป
ยิ่งไปกว่านั้นคนเชื้อสายอิตาเลียนในอาร์เจนตินายังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ที่โด่งดังของประเทศ มีการพูดในทำนองหยอกล้อโดย ฆอร์เฆ ลุยส์ บอร์เกส นักเขียนชาวอาร์เจนไตน์นามอุโฆษว่า “คนอาร์เจนตินาคือคนอิตาเลียนที่พูดภาษาสเปนเป็นภาษาหลัก” โดยคนอาร์เจนตินาเชื้อสายอิตาลีในปัจจุบันมักจะถือทั้งสองสัญชาติคือทั้งสัญชาติอาร์เจนตินาและสัญชาติอิตาลีเป็นเรื่องปกติ
สาเหตุหลักที่คนอิตาเลียนอพยพไปยังอาร์เจนตินาในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 ก็เพราะความยากจน ซี่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในอิตาลีในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะเดียวกันอาร์เจนตินาในขณะนั้นก็ต้องการแรงงานชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าอิตาลีถึงเก้าเท่า แต่ในปี 1850 กลับมีประชากรเพียงแค่ 1.1 ล้านคน ยิ่งไปกว่านั้นอาร์เจนตินายังได้พื้นที่เพิ่มเติมจากสงครามสามเส้า (War of the Tripple Alliance) ระหว่างปี 1864-1870 ที่อาร์เจนตินาร่วมมือกับอุรุกวัยและบราซิล รบชนะปารากวัย โดยสงครามครั้งนี้ยังถือว่าเป็นสงครามระหว่างประเทศที่นองเลือดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลาตินอเมริกา ก่อนที่ในปี 1876 อาร์เจนตินาออกกฎหมายที่จะยกพื้นที่ว่างเปล่าจำนวน 25 เฮกเตอร์ให้กับครอบครัวผู้อพยพชาวต่างชาติโดยเฉพาะที่มาจากยุโรป
ช่วงเวลา | ผู้อพยพทั้งหมด | คนอิตาเลียน | คิดเป็นร้อยละ |
1861–1870 | 159,570 | 113,554 | 71 |
1871–1880 | 260,885 | 152,061 | 58 |
1881–1890 | 841,122 | 493,885 | 59 |
1891–1900 | 648,326 | 425,693 | 57 |
1901–1910 | 1,764,103 | 796,190 | 45 |
1911–1920 | 1,204,919 | 347,388 | 29 |
คนอิตาเลียนที่อพยพมาอาร์เจนตินาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่มาจากทางตอนเหนือของประเทศ แตกต่างจากในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ที่ส่วนใหญ่อพยพมาจากทางตอนใต้ของอิตาลี คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรซึ่งขาดแคลนพื้นที่ทำกินในประเทศจึงตัดสินใจอพยพมาหาโอกาสในการทำกินในอาร์เจนตินาซึ่งมีพื้นที่ทางการเกษตรที่กว้างใหญ่คือที่ราบปัมปัส (Pampas) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีและธัญพืชที่สำคัญของโลก โดยคนอิตาเลียนเหล่านี้ส่วนใหญ่อพยพมาตั้งหลักปักฐานในเมืองหลวง คือจังหวัด Buenos Aires และกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ อาทิเช่น Santa Fe, Entre Ríos, Córdoba, La Pampa, Tucumán, Santiago del Estero และ Corrientes
จากที่ได้กล่าวไปตอนช่วงต้นของบทความ อิทธิพลของการที่มีคนอิตาเลียนอพยพมาเป็นจำนวนมากทำให้อาร์เจนตินาซึมซับวัฒนธรรมอิตาเลียนเป็นอย่างมาก ภาษาอิตาเลียนกลายเป็นภาษาพูดหลักเป็นลำดับที่สามของประเทศรองจากภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ ทั้งยังเริ่มมีการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ภาษาอิตาเลียนเผยแพร่ในอาร์เจนตินาตั้งแต่ปี 1840 และขยายตัวเพิ่มมากขึ้นตามลำดับเมื่อมีคนอิตาเลียนอพยพเข้ามาเรื่อยๆ ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 รัฐบาลของอาร์เจนตินายังบังคับให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศทุกคนต้องเรียนภาษาอิตาเลียน นอกจากนี้ภาษาอิตาเลียนยังได้เข้ามาผสมผสานกับภาษาสเปนซึ่งทั้งสองภาษาต่างก็มีความคล้ายคลึงกันในหลักไวยากรณ์ และต่างก็มีรากฐานมาจากภาษาลาตินเหมือนกัน ส่งผลให้ภาษาสเปนที่ใช้ในอาร์เจนตินาถูกมองว่ามีความแปลกแยกเป็นอย่างมากจากภาษาสเปนที่ใช้เป็นทางการทั่วไปไม่ว่าจะเป็นในประเทศสเปนเองก็ตามหรือประเทศอื่นๆ ในลาตินอเมริกาที่ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาหลัก ถึงกับมีความเชื่อที่บอกต่อๆ กันมาในหมู่นักเรียนต่างชาติที่สนใจจะเรียนภาษาสเปนว่า ถ้าไปเรียนภาษาสเปนในอาร์เจนตินา จะได้ของแถมเป็นภาษาอิตาเลียนกลับมาด้วย
นอกจากนี้กฎหมายของอาร์เจนตินายังกำหนดให้วันที่ 3 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันแห่งผู้อพยพเชื้อสายอิตาเลียน (ในขณะที่ไม่มีการกำหนดวันในทำนองเดียวกันให้กับผู้อพยพเชื้อสายอื่นๆ เช่น สเปน หรือโปรตุเกส ยิ่งไปกว่านี้ การกำหนดวันแห่งผู้อพยพเชื้อสายอิตาเลียนยังมีแค่ในประเทศอาร์เจนตินาประเทศเดียวในโลกเท่านั้น) เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของพวกเขาที่มีต่ออาร์เจนตินา โดยถือเอาตามวันเกิดของนายพลมานูเอล เบล กราโน วีรบุรุษทางการเมืองของอาร์เจนตินาที่มีส่วนร่วมในสงครามประกาศอิสรภาพจากสเปนระหว่างปี 1810-1818 และเป็นผู้ออกแบบธงชาติอาร์เจนตินาเป็นคนแรกในปี 1812 ซึ่งบิดาของเขาเป็นนักธุรกิจชาวอิตาเลียนที่อพยพเข้ามาตั้งแต่สมัยที่อาร์เจนตินายังตกอยู่ภายใต้การปกครองของสเปน
สำหรับคนอาร์เจนตินาเชื้อสายอิตาเลียนที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น นายพลฆวน เปรอน อดีตประธานาธิบดีของประเทศ ผู้นำนโยบายประชานิยมมาใช้ (โดยได้รับการสนับสนุนจากภริยาคนที่สองของเขา เอบา เปรอน) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนอาร์เจนตินาในขณะนั้นจนทำให้เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีถึงสามสมัยมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศ และนโยบายประชานิยมได้กลายเป็นแม่แบบให้ผู้นำทางการเมืองประเทศอื่นๆ นำไปใช้ รวมถึงไทยเราด้วย
อีกคนหนึ่งก็คือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส อดีตประมุขแห่งพระศาสนจักรคาทอลิก และอดีตประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ซึ่งท่านเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่มาจากลาตินอเมริกา และเป็นพระองค์แรกที่มาจากซีกโลกใต้ โดยท่านประสูติในกรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินาจากครอบครัวที่อพยพมาจากอิตาลี
นอกจากนี้นักฟุตบอลชื่อก้องของโลก ไม่ว่าจะเป็น ดิเอโก มาราโดนา (นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในคริสต์ศตวรรษที่ 20 คู่กับเปเล่ ของบราซิล) หรือ ลิโอเนล เมสซี (นักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์โดยชนะเลิศถ้วยรางวัล 45 รายการ) ต่างก็เป็นคนอาร์เจนตินาเชื้อสายอิตาเลียนเหมือนกัน