ทำไมการตัด ‘กองทุนอากาศสะอาด’ อาจทำให้ พ.ร.บ.อากาศสะอาดไร้ความหมาย?

กองทุนอากาศสะอาด

ท่ามกลางวิกฤตมลพิษทางอากาศที่รุนแรงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่คร่าชีวิตและบั่นทอนสุขภาพของคนไทยนับล้าน ความหวังของสังคมได้ถูกฝากไว้กับ ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระสองและสาม โดยหนึ่งใน ‘หัวใจสำคัญ’ ของร่างกฎหมายฉบับนี้คือกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นหลักประกันว่าประเทศจะมีงบประมาณเพียงพอและทันต่อการจัดการปัญหามลพิษได้อย่างจริงจัง

แต่กระแสล่าสุดกลับสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคมอย่างมาก เมื่อมีรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอให้ ‘ตีตก’ หมวดที่ว่าด้วยการจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาดออกจากร่างกฎหมาย ข้อเสนอนี้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้เครือข่ายอากาศสะอาดและภาคประชาชนออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยยืนยันว่าหากกองทุนถูกตัดออกไป ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดก็จะกลายเป็นเพียงนโยบายที่ไร้พลัง ขาดเครื่องมือทางการเงินที่จะทำให้มาตรการต่างๆ เดินหน้าได้จริง

คำถามที่ตามมาคือ เหตุใด ‘กองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ’ จึงมีความสำคัญถึงขนาดถูกเรียกว่า ‘กลไกและหัวใจ’ ของร่างกฎหมาย และทำไมการตัดกองทุนนี้ออกจึงอาจทำให้ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดกลายเป็นกระดาษที่ไร้ความหมายที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศได้อย่างที่ตั้งใจไว้จริง

ก่อนจะมาเป็น ‘กองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ

ก่อนที่จะทำเข้าใจเกี่ยวกับ ‘กองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ’ ว่ามีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างไร จำเป็นต้องเข้าใจถึงอีกกองทุนหนึ่งในประเทศไทยที่มีลักษณะในการดำเนินงานที่ใกล้เคียงกัน โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีการจัดตั้ง กองทุนสิ่งแวดล้อม’

‘กองทุนสิ่งแวดล้อม’ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 เพื่อเป็นมาตรการทางการเงินที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ผ่านการให้เงินอุดหนุนแบบให้เปล่าและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการจัดทำระบบบำบัดอากาศเสีย น้ำเสีย และการกำจัดของเสีย รวมถึงการช่วยเหลือกิจกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

ทว่า ในทางปฏิบัติกลับพบข้อจำกัดที่ทำให้กองทุนไม่สามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยงานศึกษาของสุปรียา แก้วละเอียด และนัษฐิกา ศรีพงษ์กุล ที่ศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการปฏิรูปกองทุนสิ่งแวดล้อมชี้ให้เห็นข้อจำกัดของกองทุนที่สำคัญ 3 ด้าน ประกอบด้วย

1. ข้อจำกัดทั้งในด้านโครงสร้างของกองทุนสิ่งแวดล้อม

ตามมาตรา 22 ของพระราชบัญญัติฯ กำหนดให้กองทุนสิ่งแวดล้อมไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล และมีฐานะเป็นส่วนราชการ จึงต้องดำเนินงานตามระบบราชการ ทำให้ขาดความคล่องตัว ทั้งด้านภารกิจ การเงิน การคลัง และทรัพยากรบุคคล อีกทั้งไม่สามารถนำทรัพย์สินไปสร้างผลประโยชน์และไม่สามารถเป็นผู้ฟ้องคดีได้

2. ข้อจำกัดด้านการจัดหารายได้ของกองทุนสิ่งแวดล้อม

กองทุนสิ่งแวดล้อมมีแหล่งรายได้ที่จำกัดซึ่งแต่ละช่องทางต่างต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้วยและความท้าทายด้วยกันทั้งสิ้น ประกอบด้วย

– รายได้จากเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง: ได้รับจัดสรรเพียงครั้งเดียว และขึ้นอยู่กับดุลพินิจฝ่ายบริหาร

– รายได้จากเงินทุนหมุนเวียนเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิต: เคยได้รับเพียงครั้งเดียว ก่อนที่กองทุนนี้จะถูกยกเลิก

– รายได้จากค่าบริการและค่าปรับตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม: จัดเก็บได้ยากและมีจำนวนน้อย

– รายได้จากเงินอุดหนุนรัฐบาล: ไม่ต่อเนื่อง และมีแนวโน้มลดลง

– รายได้จากเอกชนหรือองค์กรภายนอก: ไม่เคยได้รับ

– รายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากหรือเงินกู้: ได้รับรายได้นี้น้อย เนื่องจากกำหนดดอกเบี้ยต่ำ

– รายได้จากแหล่งอื่น: เคยได้รับเพียงค่าเสียหายจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติในปี 2561

อ้างอิงจากรายงานประจำปีของกองทุนสิ่งแวดล้อมที่สะท้อนงบการเงินหมวดกระแสเงินสดพบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) กองทุนมีรายรับเพียง 45.33 ล้านบาท ขณะที่มีรายจ่ายสูงถึง 306.99 ล้านบาท และหากย้อนดูรายงานประจำปีก่อนหน้าจะพบตัวเลขที่ใกล้เคียงกันโดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กองทุนมีรายรับเพียง 37.76 ล้านบาท แต่มีรายจ่ายสูงถึง 584.19 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะทางการเงินของกองทุนสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน

3. ข้อจำกัดด้านการจัดสรรเงินของกองทุนสิ่งแวดล้อม

แม้กองทุนจะจัดสรรในรูปแบบเงินอุดหนุนและเงินกู้ แต่กลับเผชิญปัญหาความล่าช้าในกระบวนการอนุมัติและเบิกจ่าย อีกทั้งการปล่อยกู้แก่เอกชนยังติดปัญหาการตีความทำให้เงินส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเงินอุดหนุนมากกว่าจนทำให้เกิดปัญหาในการหมุนเวียนเงินภายในกองทุน

นอกจากข้อจำกัดที่กล่าวข้างต้นแล้ว ด้วยรายได้ที่จำกัดและต้องพึ่งพางบประมาณรัฐเป็นหลักทำให้ต้องใช้งบประมาณอย่าง ‘จำกัดจำเขี่ย’ อีกทั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมยังถูกใช้งานเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในทุกด้านที่มากกว่ามลพิษทางอากาศ ส่งผลให้ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่ต้องมีการใช้งบประมาณมหาศาลเพื่อแก้ไขปัญหาที่มาจากต้นทาง

อีกทั้งไม่สามารถนำมาเยียวยาประชาชนหรือฟื้นฟูสภาพแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญกองทุนยังไม่ได้ถูกออกแบบให้ใช้เงินเพื่อบรรเทาผลกระทบอย่างเร่งด่วนจากขั้นตอนการเบิกจ่ายมีความซับซ้อน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมื่อมีการผลักดันร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดขึ้นจึงมีความพยายามเสาะหามาตรการทางการเงินที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและทันท่วงทีกว่ากองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งหนึ่งในกลไกที่ถูกเสนอโดยเครือข่ายอากาศสะอาดคือ ‘กองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ’

แนวคิดของ ‘กองทุนอากาศสะอาด’

หากอ้างอิงความหมายของ ‘กองทุนอากาศสะอาด’ จากร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดที่กำลังอยู่ในขั้นการพิจารณานั้นพบว่า ‘กองทุนอากาศสะอาด’ เป็นกองทุนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด

กองทุนดังกล่าวจึงไม่ได้มุ่งแก้ไขผลกระทบเพียงปลายเหตุ แต่เน้น ‘ป้องกันและแก้ที่ต้นตอ’ ผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของทั้งผู้ประกอบการและประชาชน เช่น การสนับสนุนการสื่อสารความรู้และการดำเนินการเพื่อป้องกันและลดมลพิษทางอากาศ พร้อมทั้งมีภารกิจในการบรรเทาความเดือดร้อน เยียวยาผลกระทบ และช่วยเหลือด้านการดำเนินคดีหากเกิดความเสียหายจากมลพิษทางอากาศ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ‘กองทุนอากาศสะอาด’ ถูกออกแบบให้เป็นเครื่องมือเชิงรุกที่ตอบโจทย์ปัญหาฝุ่นและมลพิษทางอากาศโดยตรง ซึ่งต่างจาก ‘กองทุนสิ่งแวดล้อม’ ที่มีภาระงานกว้างขวางและกระจายทรัพยากรไปในทุกด้านของสิ่งแวดล้อม

คำถามสำคัญต่อมาคือ ที่มาของแหล่งรายได้ในกองทุนอากาศมีความแตกต่างอย่างไรกับกองทุนสิ่งแวดล้อม ซึ่งภายในร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดยังระบุถึงแหล่งที่มาของเงินในกองทุนอากาศสะอาด ประกอบด้วย

– เงินทุนประเดิมที่รัฐบาลจัดสรรให้

– เงินค่าธรรมเนียมเพื่ออากาศสะอาดที่จัดเก็บ

– เงินที่ได้รับหรือเรียกเก็บจากเครื่องมือและมาตรการทางเศรษฐศาสตร์เพื่ออากาศสะอาดอื่นใด (นอกจากเงินค่าธรรมเนียมเพื่ออากาศสะอาดที่จัดเก็บ)

– เงินค่าปรับ เบี้ยปรับ หรือค่าปรับเป็นพินัยที่เรียกเก็บ

– เงินค่าสินไหมทดแทนหรือเงินค่าเสียหายที่ได้รับอันเนื่องมาจากการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ

– เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากบุคคล หรือองค์กรอื่นทั้งในและนอกราชอาณาจักร รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ

– ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือรายได้จากการดำเนินการของกองทุน

– เงินจากดอกผลและประโยชน์ใดๆ ที่เกิดจากทรัพย์สินของกองทุน

– เงินอื่นใดที่ได้รับมาเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุน 

ทั้งนี้ เงินและทรัพย์สินของกองทุนถือเป็นเงินนอกงบประมาณแผ่นดิน และไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้ของแผ่นดิน

‘ใครก่อมลพิษต้องเป็นผู้จ่าย’ : หลักคิดสำคัญที่อยู่เบื้องหลังกองทุน

หนึ่งในความแตกต่างสำคัญระหว่าง ‘กองทุนสิ่งแวดล้อม’ และ ‘กองทุนอากาศสะอาด’ คือ แหล่งรายได้ของกองทุนอากาศสะอาดที่มาจากการจัดเก็บ ‘ค่าธรรมเนียมเพื่ออากาศสะอาด’ จากผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษ เช่น การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมัน ก๊าซ หรือถ่านหิน รวมถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มสูงในการระบายสารมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังได้รับเงินจากเงินค่าสินไหมทดแทนหรือเงินค่าเสียหายที่ได้รับอันเนื่องมาจากการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศด้วย เงินที่จัดเก็บได้นี้จะถูกนำกลับมาใช้หมุนเวียนในกองทุนเพื่อนำไปสู่การป้องกันและจัดการมลพิษทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ

หลักคิดดังกล่าวสะท้อนการใช้ มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ เข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อให้ผู้ปล่อยมลพิษตระหนักถึง ‘ต้นทุนในการปล่อยมลพิษ’ และนำไปสู่การลดการปล่อยมลพิษในที่สุด ทั้งยังสอดคล้องกับ ‘หลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย’ (Polluter Pays Principle : PPP)

หลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่ายมีที่มาจากพื้นฐานแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่ว่า หากปล่อยให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้อย่างเสรี ผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะมุ่งหากำไรสูงสุดด้วยการลดต้นทุนการผลิตของตัวเองให้ต่ำที่สุด ผ่านการผลักภาระในการจัดการมลพิษไปสู่สังคม เช่น การเลือกปล่อยน้ำเสียลงสู่ธรรมชาติโดยตรง แทนที่จะติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียก่อน เป็นต้น ดังนั้นจึงเกิดเป็นแนวคิดว่าผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต้องมีหน้าที่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นด้วย เช่น การเก็บภาษีมลพิษ

หากประเทศไทยไม่มีกองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศก็จะยังต้องพึ่งพางบประมาณภาครัฐที่จำกัดและไม่ต่อเนื่อง ทำให้มาตรการต่างๆ ขาดความต่อเนื่องและไม่สามารถรับมือกับวิกฤตฝุ่นควันได้ทันเวลา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็จะไม่มีหลักประกันในการเยียวยาหรือฟื้นฟูสุขภาพ ขณะที่หน่วยงานรัฐและท้องถิ่นก็ขาดทรัพยากรทางการเงินเพียงพอที่จะลงทุนในระบบบำบัดหรือมาตรการเชิงป้องกัน ที่สำคัญคือ การขาดกลไกที่บังคับให้ผู้ก่อมลพิษต้องรับผิดชอบตามหลักการ ‘ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย’ (Polluter Pays Principle: PPP) ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ประกอบการ และเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ตรงเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในอนาคตหากประเทศไทยประกาศใช้ พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่ไม่มีกองทุนควบคู่ กฎหมายก็จะเป็นเพียง ‘กรอบนโยบายบนกระดาษ’ ที่ขาดพลังในการขับเคลื่อน เพราะการตัดกองทุนออกไป ก็ไม่ต่างกับการตัดขั้วหัวใจของกฎหมายฉบับนี้


อ้างอิง

กองทุนสิ่งแวดล้อมมีปัญหาอะไร ทำไมถึงต้องมี ‘กองทุนอากาศสะอาด’

คู่มือเกี่ยวกับกองทุนสิ่งแวดล้อม

ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด

‘กองทุนอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ’ เครื่องมือสู่การแก้ปัญหา PM2.5

กองบริหารกองทุนสิ่งแวดล้อม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเทียบร่างกฎหมายอากาศสะอาด 7 ฉบับ

MOST READ

Politics

16 Dec 2021

สิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับและถูกควบคุมตัว (ตอนที่ 1) : เหตุใดจึงต้องพบศาล และต้องพบศาลเมื่อใด

ปกป้อง ศรีสนิท อธิบายถึงวิธีคิดของสิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับกุมและควบคุมตัว และบทบาทของศาลในการพิทักษ์เสรีภาพปัจเจกชน

ปกป้อง ศรีสนิท

16 Dec 2021

Politics

25 Jan 2024

ผู้พิพากษาอาวุโสมีไว้มากมาย… ทำไม

‘ใบตองแห้ง’ ชวนสำรวจเงินเดือนของเหล่าผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และชวนตั้งคำถามว่า บทบาทหน้าที่ของผู้พิพากษาอาวุโสเหล่านี้คืออะไร สร้างประโยชน์ใดให้แก่กระบวนการยุติธรรมไทยบ้าง

อธึกกิต แสวงสุข

25 Jan 2024

Social Issues

21 Jan 2025

101 Academy 2025 สมัครเรียนรู้หลักสูตรสื่อ-วิจัย-ครีเอทีฟดีไซน์สไตล์ 101 ได้ที่นี่!

หลักสูตรเรียนรู้การทำสื่อ การทำวิจัยนโยบายสาธารณะ และการทำงานครีเอทีฟดีไซน์ สไตล์ 101

กองบรรณาธิการ

21 Jan 2025

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save