ไฟดับสเปน, โปรตุเกส, ประเทศไทย, กฟผ., ระบบไฟฟ้า, ความมั่นคงทางพลังงาน, โครงข่ายไฟฟ้า, ไฟฟ้าดับภาคใต้ 2556, การจัดการวิกฤต, การโจมตีไซเบอร์

ปริศนาไฟดับสเปน-โปรตุเกส ถ้าเกิดที่ไทย จะรับมือไหวไหม?

ทั่วโลกกำลังพูดถึงเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในสเปนและโปรตุเกส หลังความมืดปกคลุมเมืองใหญ่ทั้งมาดริด บาร์เซโลนา และลิสบอน ส่งผลให้ผู้คนติดค้างในรถไฟ สายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินนับร้อยเที่ยว และเดือดร้อนถึงโรงพยาบาลที่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟสำรองเพื่อดูแลผู้ป่วย

สถานการณ์นี้ทำให้นึกถึงคำพูดคนรุ่นก่อนที่ว่า “สมัยก่อนไม่มีไฟฟ้า เราก็อยู่กันได้” แต่โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว ไฟดับเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้ชีวิตหยุดชะงัก ทั้งการทำงาน การเดินทาง และการกินอยู่ประจำวัน แทบทุกอย่างต้องการพลังงานไฟฟ้า

เหตุการณ์นี้เตือนให้เราควรเตรียมพร้อมรับมือ ถ้าไฟดับทั่วประเทศไทย เราจะรับมือไหวไหม? เมืองใหญ่ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต คงวุ่นวายโกลาหลไม่น้อย

โลกทั้งใบหยุดหมุนในพริบตา

เหตุโกลาหลเกิดขึ้นที่สเปนและโปรตุเกสในช่วงเที่ยงของวันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568 ระบบไฟฟ้าแสดงความผิดปกติเมื่อ 11.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไม่กี่นาทีต่อมา กำลังการผลิตไฟฟ้าลดลง 15 กิกะวัตต์ภายใน 5 วินาที ทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งสองประเทศตัดขาดจากโครงข่ายไฟฟ้ายุโรป

ผู้ประกอบการระบบส่งไฟฟ้าของสเปน (Red Eléctrica de España – REE) รายงานว่า เหตุการณ์เริ่มจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 400 กิโลโวลต์หยุดเชื่อมต่อที่สถานีไฟฟ้ากิเยนา (Guillena) และบัลเดกาบาเยรอส (Valdecaballeros) ทางภาคใต้ จากนั้นสายส่งระหว่างกิเยนาและอัลมาราซ (Almaraz) ก็หยุดทำงาน ทำให้เกิดความล้มเหลวแบบลูกโซ่ทั่วระบบ

เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายวงกว้างหลายเมือง ทั้งมาดริด ลิสบอน บาร์เซโลนา ปอร์โต เซบียา และบาเลนเซีย นอกจากนี้ยังมีรายงานผลกระทบระยะสั้นในพื้นที่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส และอาจส่งผลต่อการเชื่อมต่อเครือข่ายในโมร็อกโกและกรีนแลนด์ด้วย

ในสเปน ระบบรถไฟความเร็วสูง เอวีอี (AVE) งดให้บริการทั่วประเทศ สนามบินหลักอาดอลโฟ ซัวเรซ มาดริด-บาราคัส ยกเลิกการเดินทาง 200 เที่ยวบิน รถไฟใต้ดินในมาดริดและบาร์เซโลนาหยุดวิ่งทันที ทำให้ผู้โดยสารหลายพันคนติดค้างในอุโมงค์ใต้ดิน

ในโปรตุเกส ผู้ประกอบการระบบส่งไฟฟ้า อาร์อีเอ็น (REN) รายงานว่า ไฟฟ้าดับครอบคลุม 90 เปอร์เซ็นต์ ของประเทศ กระทบผู้คนกว่า 9 ล้านคน ระบบขนส่งในลิสบอนต้องงดให้บริการ สัญญาณไฟจราจรดับสนิท ทำให้รถติดอย่างหนัก

โรงพยาบาลส่วนใหญ่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ บางแห่งประสบปัญหาเครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ขณะที่โรงพยาบาล ลา ปาซ (La Paz) ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ดูแลผู้ป่วยวิกฤตได้ด้วยระบบไฟฟ้าสำรอง แต่ต้องเลื่อนการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วน

ร้านค้าและธุรกิจต่างๆ ปิดชั่วคราว เพราะระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ใช้งานไม่ได้ ตู้เอทีเอ็มหยุดให้บริการ ทำให้ไม่สามารถถอนเงินสดเพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉิน

บริษัทโทรคมนาคม เทเลโฟนิกา (Telefónica) รายงานว่า เครือข่ายโทรศัพท์มือถือยังใช้งานได้ด้วยระบบแบตเตอรีสำรองในช่วงแรก แต่หลังผ่านไป 4 ชั่วโมง เสาสัญญาณหลายแห่งเริ่มหยุดทำงาน ทำให้ติดต่อสื่อสารยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แก้ไขระบบให้กลับมาภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง พื้นที่ส่วนใหญ่กลับมามีไฟฟ้าใช้ตามปกติ สะท้อนการปฏิบัติตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉินและการประสานงานระหว่างหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ไขปริศนา ทำไมไฟถึงดับ?

เหตุการณ์ไฟฟ้าดับทั่วประเทศเช่นนี้เกิดขึ้นได้ยาก ทำให้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่ผู้เกี่ยวข้องของสเปนตั้งข้อสันนิษฐานไว้หลายทฤษฎี และอยู่ระหว่างสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง

ทฤษฎีแรกที่น่าจะเป็นไปได้คือปัญหาเชิงเทคนิคจาก ‘ระบบไฟฟ้าขัดข้อง’ โดยกระแสไฟฟ้าที่จ่ายออกมาขาดความเสถียร ทั้งระดับกำลังไฟและความถี่ที่แกว่งตัวผิดปกติ ประกอบกับวงจรไฟฟ้าอย่างน้อยสองส่วนตัดการเชื่อมต่อในเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้ปัญหาลุกลามรวดเร็วแบบลูกโซ่ (Cascading Failure) ทั่วเครือข่าย เร็วเกินกว่าระบบป้องกันจะแยกส่วนที่เสียหายได้ทัน

รายงานเบื้องต้นของ REE ระบุว่า สายส่งไฟฟ้าแรงสูงทางภาคใต้ของสเปนขาดการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งในวันเกิดเหตุ พลังงานหมุนเวียนมีสัดส่วนสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในสเปน จึงอาจทำให้ระบบรับมือกับความผันผวนหรือเหตุขัดข้องได้น้อยลง

นอกจากนี้ ก่อนเกิดเหตุ ทางการปิดซ่อมบำรุงสายส่งไฟฟ้าแรงสูงบางเส้นตามแผนงาน ทำให้ระบบขาดความยืดหยุ่น และเมื่อสายส่งหลักที่ยังใช้งานอยู่เกิดปัญหา ระบบจึงรองรับภาระที่เพิ่มขึ้นไม่ได้

ผู้เชี่ยวชาญยกทฤษฎีอีกข้อคือ ’ปรากฏการณ์ธรรมชาติ‘ ที่เกิดขึ้นได้ยาก และอาจเชื่อมโยงกับสภาพอากาศที่ผันผวน แต่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสเปน (AEMET) ปฏิเสธแนวคิดนี้ ยืนยันว่าไม่พบปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาที่ผิดปกติในวันเกิดเหตุ แม้ช่วงแรกผู้เชี่ยวชาญจะคาดการณ์ว่าอาจเกิดจากพายุสุริยะ (solar storm) แต่องค์การอวกาศยุโรป (ESA) ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกัน

ทฤษฎีที่สามซึ่งสร้างความกังวลมากที่สุดคือ ‘การโจมตีทางไซเบอร์’ แม้ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป และศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติของโปรตุเกส ต่างออกมาปฏิเสธ โดยระบุว่าไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ไฟดับเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์หรือการก่อวินาศกรรม

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ศาลสูงแห่งชาติของสเปนมีคำสั่งให้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการ เพื่อหาความเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดจาก ‘การก่อการร้ายทางไซเบอร์’ (cyber terrorism) หรือ ‘การก่อวินาศกรรมทางคอมพิวเตอร์’ (computer sabotage) ต่อโครงสร้างพื้นฐานหรือไม่ แม้ในทางเทคนิคอาจจะดูมีความเป็นไปได้น้อยกว่าสาเหตุอื่น

‘เทเรซา ริเบรา’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนผ่านทางนิเวศวิทยาของสเปน แถลงว่า “เรายังไม่สามารถตัดสมมติฐานใดๆ ได้ในขณะนี้” ขณะที่นายกรัฐมนตรีเปโดร ซันเชซแสดงท่าทีตอบอย่างระมัดระวัง และย้ำว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

มองประเทศไทย พร้อมแค่ไหน?

เมื่อกลับมามองที่ประเทศไทย ระบบไฟฟ้าของเรามีโครงสร้างแตกต่างออกไป ประกอบด้วยรัฐวิสาหกิจหลัก 3 แห่ง คือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งแต่ละแห่งรับผิดชอบงานเฉพาะด้าน โดย กฟผ. ดูแลการผลิตและระบบส่งไฟฟ้าแรงสูง ขณะที่ กฟน. และ กฟภ. รับผิดชอบจำหน่ายไฟฟ้าให้ผู้ใช้ในเขตเมืองและภูมิภาคตามลำดับ

ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเคยเผชิญเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่มาแล้ว ใน พ.ศ. 2521 ไฟฟ้าดับทั่วประเทศนานกว่า 9 ชั่วโมง เพราะสายส่งไฟฟ้าแรงสูงหลายเส้นขัดข้องพร้อมกัน และใน พ.ศ. 2556 ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ใน 14 จังหวัดภาคใต้นานประมาณ 3-5 ชั่วโมง

เหตุการณ์ปี 2556 เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ สาเหตุเกิดจากปัจจัยทางธรรมชาติ บวกกับปัญหาเชิงเทคนิค ที่ทำให้ระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงทำงานผิดพลาด 

เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 เวลาประมาณ 19.00 น. ไฟฟ้าดับทั่วภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไปจนถึงนราธิวาส กระทบประชาชนกว่า 9 ล้านคน โรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ตและเกาะสมุยต้องใช้เครื่องปั่นไฟสำรอง โรงพยาบาลหลายแห่งต้องเลื่อนการผ่าตัด ธุรกิจและร้านค้าต้องปิดให้บริการชั่วคราว

สุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการ กฟผ. ในขณะนั้น เปิดเผยว่า สาเหตุหลักเกิดจากสายส่ง 500 kV จากจังหวัดราชบุรีไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เส้นหนึ่งอยู่ระหว่างบำรุงรักษาตามแผน ขณะที่สายส่งอีกเส้นเกิดขัดข้องจากฟ้าผ่า ทำให้ต้องพึ่งสายส่ง 230 kV ในการส่งไฟฟ้า แต่เนื่องจากปริมาณไฟฟ้าที่ต้องส่งมีมากเกินกว่าที่สายส่ง 230 kV จะรับไหว จึงเกิดโอเวอร์โหลดและขัดข้องตามมา

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น กฟผ. เร่งสร้างสายส่ง 500 kV เส้นที่ 3 เพื่อเชื่อมระหว่างภาคกลางและภาคใต้ ซึ่งแล้วเสร็จในปี 2565 โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้

หากเปรียบกับระบบจราจรในเมืองใหญ่ เมื่อถนนสายหลักปิดซ่อมแซม แล้วเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายหลักอีกเส้น การจราจรทั้งหมดต้องเบี่ยงไปใช้ถนนสายรอง ซึ่งไม่สามารถรองรับปริมาณรถยนต์จำนวนมากได้ทั้งหมด ผลลัพธ์คือการจราจรติดขัดหนัก และการเดินทางหยุดชะงักในที่สุด

จุดแข็ง จุดอ่อน สิ่งที่ควรปรับปรุง

ประเทศไทยมีกรอบการจัดการภาวะวิกฤตด้านพลังงานที่ค่อนข้างเป็นระบบ การไฟฟ้าทั้งสามแห่งมีแผนปฏิบัติการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดย กฟผ. มีแผนและระเบียบปฏิบัติชัดเจนในการกู้คืนระบบไฟฟ้าดับ (Black Start) ซึ่งฝึกซ้อมเป็นประจำทุกปี

กุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เคยให้ข้อมูลว่า ประเทศไทยมีศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน (Energy Emergency Operation Center – EEOC) ทำหน้าที่ประสานงานและบริหารจัดการในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ (National Control Center – NCC) ของ กฟผ. รวมถึงศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟของ กฟน. และ กฟภ. อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องโหว่ที่ระบบไฟฟ้าของไทยยังคงต้องดูแลจัดการให้ทั่วถึง เช่น

  • การพึ่งพาสายส่งระยะไกล: แม้จะสร้างสายส่ง 500 kV เส้นใหม่เชื่อมภาคกลาง-ภาคใต้แล้วเสร็จ แต่ภูมิภาคอื่นๆ อย่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจยังมีความเสี่ยงจากการพึ่งพาสายส่งหลักเพียงไม่กี่เส้น
  • การเชื่อมต่อระบบไฟฟ้ากับต่างประเทศ: ไทยรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำจำนวนมาก หากเกิดปัญหาในระบบไฟฟ้าของประเทศนั้น ก็อาจกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานของไทยได้
  • การบูรณาการด้านพลังงานหมุนเวียน: แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1) ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2580 ทำให้เห็นว่า สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป คือการพัฒนาเทคโนโลยีที่สร้างเสถียรภาพให้ระบบ เช่น ระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อลดปัญหาไม่ให้โครงข่ายการส่งไฟฟ้าต้องเจอความเสี่ยงในสถานการณ์สุดขั้ว
  • ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์: ภัยคุกคามทางไซเบอร์เป็นความเสี่ยงระดับสากลที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น แม้ในปี 2564 กฟผ. จะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Security Operation Center – SOC) เพื่อเฝ้าระวังภัยคุกคามตลอด 24 ชั่วโมง แต่บทเรียนจากภัยคุกคามที่พัฒนารูปแบบใหม่ๆ เสมอ ก็อาจทำให้เกิดเหตุไม่คาดคิดได้
  • การตัดสินใจในภาวะวิกฤต: ความชัดเจนของสายการบังคับบัญชาและการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในช่วงวิกฤตสำคัญมาก อย่างที่ทราบว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ประเทศไทยมักมีปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างหน่วยงานราชการที่ยังต้องปรับปรุง
  • โครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมสภาพ: ระบบไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน อย่างในเขตเมืองเก่าที่มีสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่อาจเสี่ยงต่อการชำรุดหรือขัดข้องได้ง่าย

หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ระบบไฟฟ้าก็คล้ายกับร่างกายมนุษย์ สายส่งไฟฟ้าคือเส้นเลือดที่ลำเลียงพลังงานไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย โรงไฟฟ้าคือหัวใจที่สูบฉีดพลังงาน และศูนย์ควบคุมคือสมองที่คอยสั่งการและควบคุมการทำงานทั้งหมด เมื่อส่วนใดส่วนหนึ่งล้มเหลว ระบบส่วนอื่นๆ อาจยังทำงานต่อไปได้ชั่วคราว แต่หากความล้มเหลวนั้นเกิดที่สมองหรือหัวใจ ร่างกายก็อาจหยุดทำงานพร้อมกัน เช่นเดียวกับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่มักเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แต่ลุกลามจนทำให้ทั้งประเทศจมอยู่ในความมืดได้ จึงจำเป็นต้องรักษาให้แข็งแรงอยู่เสมอ

แล้วสังคมควรเตรียมพร้อมอย่างไร?

เหตุการณ์ไฟดับในสเปนเผยให้เห็นภาพความโกลาหล ผ่านปฏิกิริยาของผู้คนในพื้นที่ต่างๆ เช่น มีคนติดอยู่บนรถไฟชานเมือง เล่าผ่านสื่อถึงสภาพที่ผู้คนต่างหิวและเหนื่อยล้า ขณะที่บรรยากาศบนท้องถนน ชาวบาร์เซโลนาคนหนึ่งลุกขึ้นมาช่วยโบกรถแทนตำรวจจราจร และตะโกนออกมาว่า “ต้องมีใครสักคนทำสิ นี่อะไรกัน” ส่วนนักท่องเที่ยวชาวดัตช์ที่ติดค้างในสนามบินลิสบอนบ่นว่า “รอ 50 นาที ไม่เห็นมีเครื่องบินขึ้นหรือลงจอดเลย” ด้านนักศึกษาที่ออกมาซื้อของในร้านค้า ก็ยอมรับว่า “ไม่รู้ว่าไฟจะดับอีกนานแค่ไหน” และหลายคนวิจารณ์หน่วยงานรัฐว่า “ไม่ให้ข้อมูล” จนทำให้สังคมรู้สึกไม่แน่นอน หวาดกลัว และคาดเดาไปต่างๆ นานา เช่น บางคนเชื่อว่า “เรื่องนี้เกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์” ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน

ผู้คนยังมีปฏิกิริยาต่างกันไปตามประสบการณ์ส่วนตัว ชาวโดมินิกันในมาดริดเล่าว่า “เขาซื้อทุกอย่างที่เป็นกระป๋อง แต่บางคนซื้อของเหมือนเสียสติ เพราะไม่ชินกับเรื่องแบบนี้” และยังพูดถึงเพื่อนบ้านชาวสเปนว่า “แตกตื่น เพราะไม่เข้าใจ” ซึ่งต่างจากตัวเขาที่เคยเจอเหตุการณ์ไฟดับมาก่อนจึง “ไม่รู้สึกกลัวเลย” 

นอกจากสภาพความวุ่นวายแล้ว ก็ยังพบเห็นการช่วยเหลือและเคารพซึ่งกันและกัน อย่างชายคนหนึ่งที่กำลังเดินกลับบ้าน สังเกตเห็น “ผู้คนช่วยกันและต่อคิวอย่างเป็นระเบียบ”

เหตุการณ์ไฟดับยังให้ข้อคิดกับสังคมที่พึ่งพาเทคโนโลยีจนเกินขอบเขต โดยนักเขียน เปเรซ เรเวร์เต ออกมาวิจารณ์สังคมว่า “มีความเชื่อโง่ๆ ว่าจะมีปลั๊กไฟช่วยแก้ปัญหาชีวิตได้เสมอ” สอดคล้องกับมุมมองของชาวสเปนรายหนึ่ง ที่บอกว่าสังคมสมัยใหม่ “ติดต่อถึงกันมากเกินไป” จนอาจพังลงได้เมื่อระบบพื้นฐานล่มสลาย การเตรียมพร้อมรับมือที่ดี จะช่วยให้เราผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ เช่น

  • จัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟฉายพร้อมถ่านสำรอง, พาวเวอร์แบงค์ที่ชาร์จไฟแล้ว วิทยุที่ใช้ถ่าน น้ำดื่มสะอาด อาหารแห้งที่เก็บไว้ได้นาน ยาประจำตัวและเวชภัณฑ์พื้นฐาน และเงินสดจำนวนหนึ่ง
  • ชาร์จแบตเตอรี่สำรองให้เต็ม เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารหรือขอความช่วยเหลือได้ในยามจำเป็น
  • จัดหาแหล่งพลังงานสำรอง คนในพื้นที่เสี่ยงอาจลงทุนจัดหาเครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก หรือติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์สำรองไว้
  • วางแผนล่วงหน้า ใครที่อยู่ในอาคารสูง ยิ่งครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ควรรู้เส้นทางหนีไฟและเตรียมแผนอพยพลงจากอาคารในกรณีที่ลิฟต์ไม่ทำงาน 
  • เรียนรู้ระบบไฟฟ้าในบ้าน รู้จักตำแหน่งของตู้เบรกเกอร์ และวิธีตัดไฟกรณีฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย
  • สำรองข้อมูลสำคัญ จัดเก็บข้อมูลดิจิทัล หรือทำสำเนาเอกสารสำคัญเก็บไว้หลายชุด เพื่อป้องกันการสูญหาย
  • สร้างสัมพันธ์กับคนรอบตัว การพูดคุยและสร้างสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านจะเป็นประโยชน์ในยามวิกฤต ยิ่งผู้ที่พักอยู่คนเดียว อาจต้องการความช่วยเหลือมากเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ในอนาคต ระบบไฟฟ้าทั่วโลกอาจเจอปัญหายุ่งยากและรุนแรงกว่าเดิม ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้การขยายตัวของเทคโนโลยีดิจิทัลและอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น 

บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ เชื่อว่าหลายประเทศจะวางแผนพัฒนานวัตกรรม เช่น ระบบกักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยให้คาดการณ์และบริหารจัดการพลังงานได้ดีกว่าเดิม แต่ในระหว่างนั้น การทำให้คนในสังคมมีความพร้อมเพื่อรับมือต่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่นนี้ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเช่นเดียวกัน

ข้อมูลอ้างอิง:

MOST READ

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

World

18 Oct 2022

รัฐสวัสดิการเกิดขึ้นได้อย่างไร?: จากสงเคราะห์คนยากไร้ สู่สิทธิสวัสดิการที่ขาดไม่ได้

โกษม โกยทอง เขียนถึง เส้นทางการกำเนิดรัฐสวัสดิการในโลกตะวันตกและข้อถกเถียงในการสร้างรัฐสวัสดิการในแต่ละรูปแบบ

โกษม โกยทอง

18 Oct 2022

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save