สถานการณ์ใน ‘สงครามการค้า’ ระหว่างรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประเทศคู่ค้า เริ่มสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อเศรษฐกิจโลก หลังมาตรการปรับขึ้นภาษีกับแคนาดา เม็กซิโก และจีน มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2568
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก อัตราร้อยละ 25 กับสินค้าทุกประเภท แต่หลังจากเจรจากับผู้นำทั้งสองประเทศ และได้รับแรงกดดันจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้ทรัมป์ประกาศเลื่อนขึ้นภาษีสินค้าในกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลง USMCA ออกไปก่อนหนึ่งเดือน ซึ่งจะมีผลในวันที่ 2 เมษายน 2568
ส่วนมหาอำนาจคู่แข่งสำคัญอย่างประเทศจีน ทรัมป์เพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเพิ่มอีกเป็นร้อยละ 20 หลังจากขึ้นภาษีไปแล้วในอัตราร้อยละ 10 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ทำให้จีนโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ และควบคุมการส่งออกแร่หายากที่ใช้ในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งใช้มาตรการทางกฎหมาย ตรวจสอบบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เช่น Google เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
สรุปมาตรการขึ้นภาษีตามประเทศ
ประเทศ | วันที่ | รายละเอียด | อัตราภาษี |
---|---|---|---|
จีน | 4 ก.พ. 2025 | ขึ้นภาษีสินค้าทั่วไป | 10% |
จีน | 4 มี.ค. 2025 | เพิ่มอัตราภาษีหลังจีนตอบโต้ | 20% |
แคนาดา & เม็กซิโก | 4 มี.ค. 2025 | ขึ้นภาษีสินค้าทั่วไปยกเว้นพลังงานจากแคนาดา | 25% |
ปฏิกริยาของแคนาดาต่อสหรัฐฯ นั้น นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ออกมาตรการตอบโต้ด้วยการประกาศเก็บภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าสหรัฐฯ มูลค่ารวม 107,000 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งออกเป็นสองระยะ ระยะแรกขึ้นภาษีสินค้ามูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์ และระยะที่สอง มูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะมีผลในอีก 21 วันต่อมา นอกจากนี้นายกฯ แคนาดาได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการละเมิดกฎการค้าภายใต้ข้อตกลง USMCA กับสหรัฐฯ ด้วย
สรุปมาตรการขึ้นภาษีตามประเภทสินค้า
ประเภทสินค้า | วันที่ | รายละเอียด | อัตราภาษี |
---|---|---|---|
เหล็ก & อลูมิเนียม | 12 มี.ค. 2025 | ขึ้นภาษีทุกประเทศ | 25% |
รถยนต์ & ชิ้นส่วน | 2 เม.ย. 2025 | ขึ้นภาษีทุกประเทศ | 25% |
เกษตร & พลังงาน | 2 เม.ย. 2025 | ขึ้นภาษีทุกประเทศ | 25% |
พลังงาน (แคนาดา) | 4 มี.ค. 2025 | ขึ้นภาษีน้อยกว่าประเทศอื่น 15% | 10% |
ในส่วนของเม็กซิโก ดูเหมือนจะตอบโต้สหรัฐฯ แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีแบบขั้นบันได ตั้งแต่ร้อยละ 5 ถึง 25 แตกต่างไปตามประเภทสินค้า และอยู่ระหว่างพิจารณาออกมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น จำกัดการใช้ท่าเรือกับเรือขนส่งสินค้าของสหรัฐฯ
สถานการณ์หลังมาตรการภาษีมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นหลักของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 มีนาคม 2568 ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยดาวโจนส์ตกร้อยละ 1.5 และ S&P 500 ลดร้อยละ 1.8 ส่วนแนสแด็กร่วงถึงร้อยละ 2.6 ขณะที่ค่าเงินเปโซของเม็กซิโกและดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม หลังจากทรัมป์ออกประกาศเลื่อนเก็บภาษีสินค้ายานยนต์ภายใต้ข้อตกลง USMCA หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง Ford, GM และ Stellantis ปรับตัวขึ้น 5-9% ส่วนราคาน้ำมัน WTI ลดลง 3.2% ทันทีในวันที่ 5 มีนาคม 2568
สรุปมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ
ประเทศ | วันที่ | การตอบโต้สหรัฐฯ | อัตราภาษี |
---|---|---|---|
จีน | 10 มี.ค. 2025 | ขึ้นภาษีสินค้าเกษตร | 10-15% |
แคนาดา | มี.ค.-เม.ย. 2025 | ขึ้นภาษีสินค้าทั่วไป | 25% |
เม็กซิโก | มี.ค.-เม.ย. 2025 | ขึ้นภาษีแบบขั้นบันได | 5-25% |
หลายฝ่ายมองว่าการที่ทรัมป์ตัดสินใจเลื่อนการเก็บภาษีสินค้ายานยนต์แสดงถึงความโอนอ่อนต่อแรงกดดันจากภาคอุตสาหกรรม และเปิดทางให้เกิดการเจรจาทบทวนข้อตกลง USMCA เพื่อปรับปรุงเงื่อนไขทางการค้า ซึ่งกำหนดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2568
ทั้งนี้ ทรัมป์ให้เหตุผลในการขึ้นภาษีว่าต้องการให้ประเทศต่างๆ แก้ปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะเฟนทานิลที่ลักลอบเข้ามาในสหรัฐฯ และต้องการให้ควบคุมผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน อย่างไรก็ตาม คาดว่าเบื้องหลังเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของทรัมป์ คือการผลักดันนโยบาย “America First” รวมทั้งดึงดูดให้บริษัทต่างชาติย้ายฐานการผลิตกลับสู่สหรัฐฯ
ประเด็นสำคัญที่เราต้องติดตามดูต่อไปคือผลกระทบระยะยาวต่อระบบการค้าโลก และการปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของบริษัทต่างๆ ที่อาจย้ายฐานการผลิตมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน
สงครามการค้าครั้งนี้อาจนำไปสู่การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ ระหว่างกลุ่มประเทศที่มุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองกับกลุ่มที่สนับสนุนระบบการค้าแบบพหุภาคี ซึ่งหลายๆ ประเทศต้องอาศัยความร่วมมือและพึ่งพากันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม