จุดดับสื่อสังคมยักษ์ใหญ่?: เมื่อ The Guardian สื่อดังอังกฤษถอนตัวจาก X

เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา วงการสื่อมวลชนในสหรัฐและยุโรปต่างส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ฮือฮาหลังจากหนังสือพิมพ์ The Guardian สื่อที่มีอายุยืนยาวเกือบสองร้อยปีและมีมาตรฐานจริยธรรมจนได้รับความเชื่อถือมากฉบับหนื่งในยุโรป ประกาศถอนตัวและยกเลิกการตีพิมพ์คอนเทนต์ทุกรูปแบบของตนในแพลตฟอร์ม X (ชื่อเดิม Twitter)

นอกจากนี้ The Guardian ยังจุดประทัดป่าวร้องว่า สื่อสังคมออนไลน์อย่าง X กลายเป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมแพร่ขยายทฤษฎีสมคบคิดขวาจัดและปลุกอารมณ์เหยียดสีผิว (far-right conspiracy theories and racism) อีกทั้งยังส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและสร้างความเกลียดชังระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมา จนอาจกล่าวได้ว่าการประกาศดังกล่าวได้สร้างเสียงฮือฮาอย่างมาก

คำแถลงของกองบรรณาธิการ The Guardian ระบุว่า “เห็นได้อย่างชัดจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่าสื่อสังคมออนไลน์อย่าง X ได้กลายเป็น ‘สื่อมีพิษ’ (toxic media platform) และนายทุนเจ้าของกิจการอย่าง Elon Musk ได้ใช้ X เพื่อควบคุมการสื่อความทางการเมือง”

ตลอดสองปีที่ผ่านมาทั้งประเทศในกลุ่มอียูและกลุ่มรณรงค์ต่อต้านโวหารสร้างความเกลียดชัง (Anti-hate speech campaign) ต่างวิพากษ์และตำหนิ Elon Musk ซึ่งปัจจุบันเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เกี่ยวกับนโยบายการปล่อยให้มาตรฐานจริยธรรมสื่อ X ตกต่ำด้วยการปล่อยให้นักเผยแพร่ทฤษฎีสมคมคิด สร้างข่าวลวง และฝ่ายขวาจัดใช้โวหารความเกลียดชังเหยียดสีผิวเข้าไปใช้พื้นที่ใน X โดยอ้างถึงเสรีภาพในการแสดงออก (free speech)

ทั้งนี้ The Guardian ไม่ใช่องค์กรสื่อรายแรกที่เลิกสังฆกรรมกับ X แต่ National Public Radio (NPR) และ PBS ซื่งเป็นสื่อสาธารณะของสหรัฐฯ และ Financial Times ต่างก็ประกาศถอนตัวออกจาก X เช่นกัน อีกทั้งยังมีหน่วยงานสาธารณะหลายแห่งของสหราชอาณาจักรค่อยๆ ทยอยแยกตัวออกมาด้วยเหตุผลคล้ายๆ กันเพราะ X กลายเป็นแพลตฟอร์มที่เผยแพร่เนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับค่านิยมขององค์การของตน (“no longer consistent with our values”)

ด้าน Elon Musk เองก็มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น เมื่อกลางปีที่ผ่านมาเกิดการจลาจลหลายแห่งในสหราชอาณาจักร เนื่องจากมีการปั่นข่าวปลอมจากกรณีเกิดเหตุสังหารเด็กหญิงสามคนที่เมือง Southport ซึ่ง Elon Musk ได้รีโพสต์ข้อความที่เป็นข่าวปลอมและสร้างความร้าวฉานในสหราชอาณาจักรหลายครั้ง โดยเมื่อถูกสอบทวนว่าเป็นข่าวลวง Musk ก็เพียงแต่ลบข้อความดังกล่าวออกจากหน้าเพจของตน แต่ไม่มีการแก้ข่าวหรือประกาศยอมรับความผิดพลาดของตน

ยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น Musk ยังโพสต์ข้อความตอกย้ำและสร้างความเข้าใจผิดในสหราชอาณาจักรผ่านการกล่าวหามาตรการรับมือเหตุจลาจลของนายกรัฐมนตรี Kier Starmer ว่าสองมาตรฐานและใช้ความรุนแรงจับกุมผู้ก่อการจลาจล และปล่อยปละละเลยกลุ่มคนผิวสี ซึ่งประเด็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะส่วนใหญ่ตำรวจไปตามจับตัวผู้ก่อเหตุที่บ้านโดยการใช้หลักฐานจากวิดีโอและมีจำนวนน้อยที่ใช้กำลังจับกุมขณะก่อเหตุ

กรณีการปั่นข่าวปลอมของนาย Musk ในแพลตฟอร์ม X ทำให้มี สส. พรรคหลายคนต้องการเชิญตัวเพื่อมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่สภาในลอนดอน แต่เขาปฏิเสธ และเมื่อมีนักข่าวของบีบีซีติดต่อนัดสัมภาษณ์ เขาก็ไม่ตอบกลับ แต่ลงข้อความรังควานนักข่าวคนนั้น

ถ้าหากคนไทยยังจำกรณีทีมฟุตบอลหมูป่าที่ติดค้างอยู่ในถ้าหลวง จังหวัดเชียงราย คงจำได้ว่า Elon Musk บินมายังประเทศไทยเพื่อเสนอให้ใช้เรือดำน้ำยางขนาดเล็กเข้าไปช่วยเด็กออกมาจากถ้ำ แต่เจ้าหน้าที่ไทยประเมินและเลือกใช้วิธีการของนักประดาน้ำชาวอังกฤษดีกว่า ท้ายสุดก็ประสบความสำเร็จนำทีมหมูป่าออกจากถ้าหลวงได้สำเร็จ แต่ Musk ออกป่าวประกาศในสื่อฯ ว่านักประดาน้ำชาวอังกฤษนั้นเป็น pedophile (ชายแก่ที่ชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก) จนกลายเป็นคดีฟ้องร้องกัน

มาตรฐานทางจรรยาบรรณที่ตกต่ำของ X และพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่สุจริตของ Musk ทำให้บุคคลดังๆ ทางสังคมหลายคน รวมทั้งนักวิชาการ ดารา นักร้อง สื่อฯ และหน่วยงานสาธารณะหลายแห่งค่อยๆ ทยอยกันลบบัญชีของตนออกจากแพลตฟอร์มของ X เพราะการร่วมสังฆกรรมกับ toxic media platform อาจทำให้พวกเขาเสีย brand values ไปด้วย

ขณะที่ความน่าเชื่อถือของ X ถดถอยลงจากกรณีที่สมาชิกค่อยๆ ถอนตัวออกไป ก็เกิดแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาแข่งขัน เช่น Thread ของ Facebook และ Bluesky เป็นต้น ทั้งนี้ Bluesky กำลังกลายเป็นขวัญใจของสมาชิกเก่าที่ถอนตัวออกจาก X ตั้งแต่เปิดบริการมาไม่ถึงสองปีโดยมีสมาชิกแล้ว 16 ล้านคน นอกจากนี้เพียงในช่วงหลังเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เพียงวันเดียวก็มีคนสมัครเพิ่มสัปดาห์ละล้านกว่าคน

ผู้พัฒนา Bluesky เป็นอดีตผู้บริหารของ Twitter ที่ต้องลาออกไปหลังจาก Elon Musk เข้ามารวบซื้อกิจการและปรับเปลี่ยนนโยบายกับระบบการบริหารใหม่ ในขณะนี้ต้องยอมรับว่า Bluesky ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีขนาดเล็กและมีจำนวนสมาชิกน้อย กล่าวคือมีเพียง 20 ล้านคนในขณะที่ X มีสะสมมากกว่า 300 ล้านคน แต่ Bluesky มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นหลังจากที่ Elon Musk เข้าไปมีตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้สถานะภาพของ X กลายเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลทรัมป์และผลประโยชน์ทางการค้าของ Musk เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดเดาได้อย่างชัดเจนว่าจะเกิดอะไรต่อไปกับแพลตฟอร์ม X ในระยะยาว บางคนพยากรณ์ว่า X อาจล้มพังไปเพราะสมาชิกถอนตัวไปใช้แพลตฟอร์มคู่แข่ง หรือบางคนอาจมองว่า X จะพลิกผันกลายเป็นสื่อปรปักษ์กับโดนัลด์ ทรัมป์ หากเจ้าพ่อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ไม่สมหวังแล้วออกมาปะทะกันเอง

สื่อในยุโรปและในสหรัฐรายงานต่อเนื่องว่า Musk มีวาระทางการเมืองในการทุ่มเทให้โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง กล่าวคือเขาเป็นนักธุรกิจที่มุ่งค้าหากำไรสุงสุดแบบมือใครยาวก็สาวได้สาวเอา โดยสิ่งที่ขวางทางเขาคือระบบกำกับดูแลและกลไกตรวจสอบธุรกิจเอกชนที่รัฐบาลต่างๆ กำหนดออกมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ผู้บริโภค

หลังจากชนะเลือกตั้งโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมาเรียกว่า Department of Government Efficiency (Doge) โดยตั้งใจว่าจะให้ Musk เป็นเจ้ากระทรวงเพื่อตอบแทนที่ช่วยสนับสนุนให้เขาจนสามารถชนะการเลือกตั้งได้ วงการเมืองในสหรัฐต่างเชื่อว่า Musk คงใช้อำนาจยกเลิกมาตรการกำกับดูแลและตรวจสอบธุรกิจเอกชน โดยอ้างว่าระบบราชการขัดขวางการเติบโตของนวัตกรรมและธุรกิจเอกชน

ไม่ใช่เพียงในสหรัฐที่นักธุรกิจอย่าง Musk มีปัญหากับระบบกำกับดูแลอันเป็นมาตรการเพื่อปกป้องผู้บริโภค แต่ในยุโรปเขาก็ปะทะกับเจ้าหน้าที่ของอียูที่ใช้มาตรการตรวจสอบธุรกิจที่เรียกว่า ‘big tech’ ของเขา โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสของอียูท่านหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า Musk เป็นเจ้าของกิจการ big tech ที่ไม่สามารถแยกแยะความถูกต้องดีงามกับความชั่วร้าย และเขาใช้แพลตฟอร์ม X เพื่อขยายความเกลียดชังและสร้างความร้าวฉาวในสังคม

กระแสสังคมทั้งในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปต่างมีแนวโน้มเชี่อว่า แม้ว่าเจ้าของค่ายสื่อสังคมทั้งหลายจะพยายามอ้างว่าพวกตนไม่ได้เป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ที่เป็นพิษดังกล่าวก็ตาม แต่บรรดาค่ายสื่อสังคมทั้งหลายจะต้องมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบต่อสาธารณะในลักษณะเดียวกับการเป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณา (publisher) ทั้งในเรื่องการปกป้องเยาวชนจากคอนเทนต์ที่เป็นพิษ อีกทั้งยังต้องไม่เป็นลำโพงเพิ่มความเกลียดชัง ขยายความแตกแยกในสังคม ดังจะเห็นได้จากการประกาศใช้มาตรการกำกับดูแลออกมาเป็นระยะๆ ดังนั้นชัยชนะของโดนัล ทรัมป์ และการแต่งตั้ง Elon Musk ขึ้นมาดำรงตำแหน่งสำคัญดังกล่าวคงทำให้เกิดริ้วรอยความขัดแย้งแนวใหม่ในด้านความสัมพันธ์สหรัฐและยุโรป

MOST READ

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

Social Issues

21 Jan 2025

101 Academy 2025 สมัครเรียนรู้หลักสูตรสื่อ-วิจัย-ครีเอทีฟดีไซน์สไตล์ 101 ได้ที่นี่!

หลักสูตรเรียนรู้การทำสื่อ การทำวิจัยนโยบายสาธารณะ และการทำงานครีเอทีฟดีไซน์ สไตล์ 101

กองบรรณาธิการ

21 Jan 2025

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save