เปิดจินตนาการใหม่ของเยาวชนไทย สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้คนรุ่นใหม่ทุกคน

‘สำนึกพลเมือง’ หรือ ‘การมีส่วนร่วมในฐานะพลเมือง’ คือ กระบวนการที่ชุมชนสร้างชุดคุณค่าและเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งจำเป็นต่อการสนับสนุนการทำงานและโครงสร้างของระบอบประชาธิปไตย หากเยาวชนและคนรุ่นใหม่รู้สึกว่าความคิดและเสียงของตนมีความสำคัญ พวกเขาก็จะลงทุนกับระบบการเมือง โครงสร้างและกิจกรรมเพื่อรองรับการมีส่วนร่วมของพลเมือง แต่การที่จะพัฒนาสังคมไปจนถึงจุดนั้นได้ การสร้างแรงผลักดันให้เยาวชนให้มีจินตนาการในฐานะพลเมืองนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมจำเป็นต้องให้ความสำคัญ

งานวิจัย จินตนาการใหม่ของเยาวชนไทยสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคม จึงเน้นทำความเข้าใจความสำคัญของ ‘จินตนาการพลเมือง’ (Civic Imagination) ในการสร้างสำนึกพลเมือง กล่าวคือจินตนาการถึงอนาคตที่เปี่ยมความหวังโดยไม่ติดกับเงื่อนไขในปัจจุบัน สร้างพื้นที่สนทนาระหว่างกลุ่มคนที่แตกต่างหลากหลายเพื่อสร้างสายสัมพันธ์พลเมืองและก้าวข้ามความแตกต่าง และนำจินตนาการดังกล่าวมาใช้ขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงในบริบทจริง ทว่ายังรวมถึงการพัฒนาเครื่องมือจินตนาการพลเมืองเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายดังกล่าวในทางปฏิบัติ

รศ.ดร.ฐิติกาญจน์ อัศตรกุล คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผศ.ดร.กิตติ คงตุก คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผศ.ดร.ธิดา ทับพันธุ์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งใจร่วมกันออกแบบและพัฒนากระบวนการนําจินตนาการใหม่ของเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย สู่การพัฒนานวัตกรรมทางสังคม ตลอดจนนำกรอบแนวคิดและเครื่องมือจินตนาการพลเมืองดังกล่าวมาประยุกต์ใช้เพื่อออกแบบและจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปกับเยาวชนกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี เพื่อทำความเข้าใจประเด็นสาธารณะที่เยาวชนกลุ่มเป้าหมายให้ความสำคัญ และจินตนาการใหม่ต่อประเด็นที่พวกเขาสนใจ รวมถึงศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเยาวชนที่ร่วมโครงการ

หมายเหตุ: เก็บความบางส่วนจากการนำเสนองานวิจัยในงานเสวนาสาธารณะ Research Roundup 2024 “เปิดเส้นทางใหม่ นโยบายเด็กและครอบครัวไทย”  เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ณ ห้อง 201 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ (สสส.)

YouTube video

เปิดโอกาสจินตนาการถึงโลกใหม่

หัวใจสำคัญของการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ผ่านโครงการนี้คือ การนำ ‘จินตนาการพลเมือง’ (Civic Imagination) มาผนวกรวมกับ ‘การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์’ (Creative Communication) กล่าวคือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากจินตนาการใหม่ของเยาวชนกลุ่มเป้าหมายไปสู่การพัฒนานวัตกรรมทางสังคม เพื่อเน้นย้ำให้เยาวชนมีพื้นที่จินตนาการผ่านการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้ และลงมือทำด้วยตัวเอง หรือเรียกได้ว่า ‘การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์’

“หัวใจสำคัญคือการทำงานผ่านประสบการณ์ตรง เราเชื่อว่าในมุมผู้เรียนรู้ โอกาสที่จะสร้างองค์ความรู้ด้วยตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการดึงจินตนาการที่แต่ละคนมีผ่านประสบการณ์ที่แตกต่างกันมาหลอมรวมกัน และตกผลึกเป็นความรู้ต่อยอด […] เราเชื่อว่าจินตนาการอย่างเดียวไม่พอ ต้องลงมือทำด้วย” ธิดากล่าว

นอกจากนี้ งานวิจัยชิ้นนี้เน้นหลักทฤษฎี ‘Vygotsky Scaffolding’ หรือระบบการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญและระบบพี่เลี้ยงโครงการที่มองว่า เด็กทุกคนมีภูมิหลังและความสามารถของตนเองที่สั่งสมมาจากประสบการณ์ส่วนตัว ในขณะเดียวกันก็มีบางเรื่องที่ห่างไกลความสามารถที่เยาวชนมีอยู่ โดยมีพี่เลี้ยงหรือผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่เติมเครื่องมือและร่วมผลักดันให้เยาวชนมีโอกาสทำต่อไปได้มากที่สุด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และสร้างประสบการณ์ด้วยตนเอง รวมถึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชนทุกคน

ในการทำวิจัย กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยเน้นกิจกรรมที่ใช้จินตนาการพลเมืองเป็นความคิดสร้างสรรค์เป็นหลักทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมมองภาพอนาคตอีก 50 ปีข้างหน้า, กิจกรรมตั้งชื่อฮีโร่และพลังวิเศษ, กิจกรรมสร้างละครสถานการณ์สมมติ, กิจกรรมสร้างโลกใหม่ และกิจกรรม problem tree analysis เพื่อให้เยาวชนผู้เข้าร่วมสามารถจินตนาการถึงความเป็นไปได้ในการแก้ปัญหาและร่วมกันคิดหาปัญหา รวมถึงศึกษาหารากของปัญหานั้นเพื่อนำมาต่อยอดการเรียนรู้ต่อไป

จากกิจกรรมร่วมสร้างโลกใหม่ (World Building) พบว่าภายหลังจากที่ให้เยาวชนได้มองภาพอนาคตอีก 50 ปีข้างหน้า กล่าวคือเยาวชนได้เห็นสภาพสังคมในอนาคต และออกแบบฮีโร่ที่มีพลังวิเศษสำหรับแก้ไขปัญหาเหล่านั้นผ่านการปั้นดินน้ำมันแล้ว เยาวชนยังได้ฝึกการใช้เครื่องมือ problem tree เพื่อวิเคราะห์หาราก (สาเหตุของปัญหา) และจินตนาการถึงเมือง หรือสังคมที่ปราศจากปัญหาเหล่านั้นผ่านกิจกรรมร่วมสร้างโลกใหม่ (World Building)

“ตัวอย่างประเด็นที่ได้จากกิจกรรมมองภาพอนาคตอีก 50 ปีข้างหน้าคือ เราพบว่าแม้จะเป็นเยาวชนที่ยู่ในพื้นที่สังคมที่แทบไม่มีความหวังก็ยังมองอนาคตของประเทศไทยในแง่บวก ที่น่าสนใจคือประเด็นที่เขารู้สึกว่าค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของสังคมไทยมีทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม โรคอุบัติใหม่ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การเมืองที่มีความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น

“Creative Imagination เป็นส่วนที่เป็นวิธีการช่วยเหลือเยาวชนให้สื่อสารปัญหาและวิธีการแก้ไขในรูปแบบที่สร้างสรรค์ เราพบว่าถ้ามีพื้นที่ให้เยาวชนจะเป็นการสื่อสารที่ทรงพลังมากๆ” ฐิติกาญจน์เสริม

ต่างบริบท ต่างมุมมอง

ประเด็นน่าสนใจที่งานวิจัยนี้ค้นพบคือ ด้วยจำนวนเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการมาจากหลายบริบทสังคม ตั้งแต่เด็กจากโรงเรียนเอกชนที่ค่าเทอมสูง เยาวชนจากโรงเรียนทางเลือกที่ส่วนใหญ่มีกระบวนการสร้างการเรียนรู้ที่ค่อนข้างหลากหลาย และกลุ่มเยาวชนที่เป็นนักเรียนจากโรงเรียนสังกัดรัฐบาล เมื่อพวกเขาต้องมาทำกิจกรรมร่วมกันพบว่า เยาวชนแต่ละกลุ่มมองปัญหาเดียวกันในมุมมองที่ต่างกัน เช่น กลุ่มที่อยู่ในบริบทเมืองจะมองปัญหาในมุมมองที่ค่อนข้างกว้าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสิ่งแวดล้อม จนไปถึงปัญหามลภาวะในสังคม

ในขณะที่กลุ่มเยาวชนจากแถบชานเมืองสนใจประเด็นใกล้ตัวมากกว่า เช่น ความรุนแรงในสถานศึกษา ช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัวตนเอง ขณะที่เยาวชนจากโรงเรียนนานาชาติสะท้อนผ่านโครงการนี้ถึงความตระหนักถึง social privilege ที่ตนเองมีมากกว่าเยาวชนกลุ่มอื่น

“เยาวชนจากโรงเรียนปริมณฑลบอกว่าจากการเข้าร่วมโครงการ ทำให้เห็นความคิดที่แตกต่างกันระหว่างคนที่อยู่รอบนอก ความคิดของเขากับความคิดของคนที่อยู่ในตัวเมืองไม่เหมือนกันโดยเฉพาะการมองปัญหา”

ต่อมาที่กิจกรรมวงที่สองซึ่งเน้นเรื่อง ‘Social Innovation and Design’ เน้นต่อยอดความคิดของเยาวชนเมื่อได้เรียนรู้ปัญหาจากกิจกรรมช่วงแรก ผ่านการเติมเครื่องมือให้คิดไปไกลมากขึ้นว่าเมื่อมองเห็นปัญหาแล้ว แต่ละคนจะแก้ปัญหาได้อย่างไร และมีวิธีการออกแบบและสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ อย่างไร โดยการชวนให้เห็นตัวอย่างนวัตกรรมต่างๆ ไปจนถึงการหาวิธีแก้ปัญหาในแบบของตัวเอง

“เราเน้นความท้าทายให้เยาวชนนำความรู้เดิมมาใช้และตั้งคำถามกับสิ่งที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อเชื้อเชิญให้เขาลองหาข้อมูลและความเป็นจริงก่อนจะนำมาสู่การสร้างการสื่อสารที่ทรงพลัง เมื่อออกแบบชิ้นนวัตกรรมของตนเองแล้วก็จะนำนวัตกรรมนั้นไปทดลองกับกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองศึกษาไว้ ทำให้เยาวชนได้มีประสบการณ์ใหม่ เช่น สร้างบอร์ดเกมเพื่อเป็นกิจกรรมลดช่องว่างระหว่างวัย” ฐิติกาญจน์อธิบาย

ให้ทุกที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของเยาวชน

จุดสุดท้ายในการเรียนรู้คือ การสร้างพื้นที่ให้เยาวชนได้นำประสบการณ์ที่ได้มาตกผลึกและสะท้อนการเรียนรู้ของตนเองและกลุ่มอื่นๆ รวมถึงระบบพี่เลี้ยงที่คอยประคับประคองใจในวันที่พวกเขาท้อ ทำให้เยาวชนมีแพสชันเพื่อเกาะติดและมีพลังคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ต่อไป ท้ายที่สุดแล้วสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวผลงานที่ออกมา แต่ผลงานจะออกมาได้ดีขึ้นอยู่กับกระบวนการตลอดช่วงโครงการ เพราะจินตนาการใหม่คือมุมมองที่เยาวชนใช้สื่อสารการแก้ปัญหาด้วยความสร้างสรรค์ ซึ่งสะท้อนความคิดและประสบการณ์ที่เยาวชนพบเจอมา

ฐิติกาญจน์เน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดจากงานวิจัยนี้คือมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการมองปัญหาในมุมกว้างมากขึ้น, ความสามารถวิเคราะห์ปัญหาอย่างเฉียบคมขึ้น และความรู้สึกว่าสามารถอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้นได้โดยที่ยังมีพลังสร้างสรรค์นวัตกรรมมาแก้ปัญหาต่อไป

“สิ่งที่เราพบจากกิจกรรมเหล่านี้คือ เมื่อเราโยนโจทย์ไปว่ากติกาในการอยู่ร่วมกันของสังคมคืออะไร สิ่งที่เยาวชนทุกกลุ่มพยายามสื่อสารออกมาล้วนเป็นพื้นฐานของประชาธิปไตย กล่าวคือเคารพในความหลากหลายและรับฟังความเห็นกัน

“มีเสียงสะท้อนจากตัวเยาวชนที่ตั้งคำถามผ่านกิจกรรมเหล่านี้ว่า ทำไมตอนอยู่ที่โรงเรียนเขาถึงไม่มีสิทธิ์พูดหรือแสดงออกแบบนี้ ทำไมเขาถึงไม่สามารถเอาสิ่งที่อยากทำมาสร้างสรรค์แบบนี้ที่โรงเรียนได้บ้าง มันจะดีกว่าไหมที่กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์นี้ต้องเป็นพื้นที่ที่มีทุกโรงเรียน ตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาเดินเข้าไปในห้องเรียน

“เพราะความเป็นประชาธิปไตยไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวิชาหน้าที่พลเมือง แต่มันต้องอยู่ในทุกวิชาที่เยาวชนได้เรียนรู้” ฐิติกาญจน์ทิ้งท้าย

MOST READ

Politics

16 Dec 2021

สิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับและถูกควบคุมตัว (ตอนที่ 1) : เหตุใดจึงต้องพบศาล และต้องพบศาลเมื่อใด

ปกป้อง ศรีสนิท อธิบายถึงวิธีคิดของสิทธิที่จะพบศาลภายหลังถูกจับกุมและควบคุมตัว และบทบาทของศาลในการพิทักษ์เสรีภาพปัจเจกชน

ปกป้อง ศรีสนิท

16 Dec 2021

Politics

25 Jan 2024

ผู้พิพากษาอาวุโสมีไว้มากมาย… ทำไม

‘ใบตองแห้ง’ ชวนสำรวจเงินเดือนของเหล่าผู้พิพากษาอาวุโส ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และชวนตั้งคำถามว่า บทบาทหน้าที่ของผู้พิพากษาอาวุโสเหล่านี้คืออะไร สร้างประโยชน์ใดให้แก่กระบวนการยุติธรรมไทยบ้าง

อธึกกิต แสวงสุข

25 Jan 2024

Social Issues

21 Jan 2025

101 Academy 2025 สมัครเรียนรู้หลักสูตรสื่อ-วิจัย-ครีเอทีฟดีไซน์สไตล์ 101 ได้ที่นี่!

หลักสูตรเรียนรู้การทำสื่อ การทำวิจัยนโยบายสาธารณะ และการทำงานครีเอทีฟดีไซน์ สไตล์ 101

กองบรรณาธิการ

21 Jan 2025

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save