“ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ ความจริงคือสิ่งแรกที่มนุษย์ทุกคนอยากรู้ แต่ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติ ความจริงจะถูกกำจัดเป็นอันดับแรก”
ในหลักการประชาสัมพันธ์ทั่วโลก กฎข้อแรกเมื่อบริษัทหรือองค์กรเกิดวิกฤติเกิดปัญหาร้ายแรง คือ ต้องพูดความจริงให้สาธารณชนทราบเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา ยิ่งพูดความจริงช้า ความเสียหายก็จะมากขึ้น
เราคงต้องยอมรับว่า แม้จะมีความพยายามในการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ แต่มันสายเกินไปแล้ว คงไม่มีทางกำจัดให้หมดไปได้อีกแล้ว ปลาหมอคางดำจะแพร่ระบาดในประเทศไปตลอด และอาจลุกลามไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ต่างอะไรกับชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน (invasive alien species) ชนิดอื่นๆ อาทิ ปลาซักเกอร์ หอยเชอรี่ ไมยราบยักษ์ ผักตบชวา ที่ยังแพร่ระบาดสร้างความเสียหายมานานแสนนานจนถึงทุกวันนี้ แต่ที่น่ากลัวคือ ปลาหมอคางดำ เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยประสบมา เพราะมันขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วมาก มีความก้าวร้าวสูง และกำลังทำลายล้างสัตว์น้ำชนิดอื่นให้ลดลงอย่างน่ากลัว เพราะเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วมีข่าวพบปลาหมอคางดำเริ่มระบาดในแหล่งน้ำ บริษัทต้นเหตุไม่ยอมออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่ยอมออกมาแถลงข่าวใดๆ นึกว่าปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเอง ขณะที่หน่วยงานที่รับผิดชอบก็ไม่คิดจะแก้ปัญหาอย่างรีบด่วน ทำงานแบบราชการ จนบัดนี้สร้างความเสียหายย่อยยับทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ปี 2553 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับอนุญาตจากกรมประมงนำเข้าปลาหมอคางดำ จำนวน 2,000 ตัว โดยมีศูนย์ทดลองอยู่ที่ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จากนั้นปลาหมอคางดำได้ทยอยตายเกือบทั้งหมดภายในสามสัปดาห์ บริษัทอ้างว่าได้ทำลายและฝังกลบซากปลาโดยการโรยด้วยปูนขาวและแจ้งให้กรมประมงทราบด้วยวาจา แต่ไม่ได้จัดทำรายงานอย่างเป็นทางการและเก็บซากปลาส่งให้กับกรมประมงตามเงื่อนไขการอนุญาต
ปี 2555 เกษตรกรในพื้นที่ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นครั้งแรก แต่ไม่มีหน่วยงานใดสนใจจริงจัง และไม่มีบริษัทใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ มีแต่ความเงียบ
หลายปีผ่านไป ปลาหมอคางดำได้ระบาดไปหลายจังหวัด กัดกินสัตว์น้ำชนิดอื่น ไม่ว่ากุ้ง ปลาชนิดต่างๆ แทบเกลี้ยงในที่มันแพร่กระจายไปถึง ทั้งในแหล่งน้ำธรรมชาติหรือฟาร์มเพาะสัตว์น้ำ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากแทบล้มละลาย จนกลายเป็นข่าวดังในช่วงเวลานี้ และแม้จะมีความพยายามจะคิดค้นวิธีในการกำจัดปลาชนิดนี้ แต่ดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว เพราะมันขยายพันธุ์ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็มได้อย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อ
ผลกระทบของปลาหมอคางดำร้ายแรงกว่าที่คิด เพราะไม่มีใครออกมาพูดความจริงตั้งแต่แรก
ขณะที่เวลาบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลกสร้างความเสียหายให้กับสังคม บริษัทส่วนใหญ่เหล่านี้จะมีวิธีรับมือด้วยการออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง กล่าวคำขอโทษต่อสาธารณชนและแสดงความรับผิดชอบด้วยวิธีต่างๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยบรรเทาความเสียหายที่ไม่อาจคาดเดาได้ และเป็นการระงับความโกรธของสาธารณชนได้อย่างเร็ว ทำให้ชื่อเสียงองค์กรกลับคืนมาในระยะยาว แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
24 มีนาคม 2558 เครื่องบินแอร์บัส A320 ของสายการบินต้นทุนต่ำ Germanwings บริษัทในเครือ Lufthansa ประสบเหตุตกในบริเวณเทือกเขาแอลป์ทางใต้ของฝรั่งเศส ขณะกำลังมุ่งหน้าจากนครบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ไปยังเมืองดุสเซลดอฟ ประเทศเยอรมนี ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งผู้โดยสารและลูกเรือรวม 150 คน สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั่วโลก
ภายในไม่ถึง 24 ชั่วโมง ฝ่ายบริหารของ Germanwings ได้ออกมาพูดความจริง ว่าเป็นความผิดพลาดของนักบินเองและกล่าวขอโทษ แสดงความรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าการพาญาติพี่น้องไปดูที่เกิดเหตุ หรือชดเชยค่าเสียหายให้กับชีวิตของผู้โดยสารอย่างเต็มที่ ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์บริษัทลดลงและไม่นานชื่อเสียงของบริษัทก็กลับคืนมา
แต่ที่ประเทศไทย บริษัทยักษ์ใหญ่เลือกจะใช้วิธีเงียบ ปฏิเสธไปเรื่อยๆ และใช้เงินผูกมิตรกับเจ้าของสื่อ ซื้อโฆษณาในสื่อต่างๆ มายาวนานจนสื่อเหล่านี้ต้องเกรงใจ อีกด้านหนึ่งก็ดูแลข้าราชการระดับสูงและผู้มีอำนาจมาตลอดทุกยุคทุกสมัย อธิบดีคนใดเกษียณอายุราชการ ก็จ้างมาเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้ลูกน้องในกรมกองเกรงใจ คนที่มีอำนาจจึงไม่คิดจะบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างตรงไปตรงมา
บริษัทเหล่านี้เชื่อว่า วิธีการเช่นนี้เป็นเกราะป้องกันได้ดีกว่าการออกมายอมรับความจริง และทำให้เชื่อว่าบริษัทไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยสักครั้งเดียว
27 กรกฎาคม 2556 ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติกรีซ กำลังถ่ายน้ำมันดิบมายังโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด มหาชน ในเครือ ปตท. ได้เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อท่อรับน้ำมันดิบขนาด 16 นิ้วที่อยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร เกิดรอยแตกรั่วขึ้น
น้ำมันดิบกว่า 50,000 ลิตร จึงไหลทะลักออกสู่ท้องทะเล และสองวันต่อมาคราบน้ำมันส่งผลกระทบให้ชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ดเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว สร้างความเสียหายให้กับระบบนิเวศอย่างรุนแรง ถือเป็นเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
แต่ผู้บริหารของ ปตท. หลายคนออกมาแถลงข่าวยืนยันว่าสามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างเรียบร้อย ชายหาดพร้าวไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่ยอมบอกความจริงว่า ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้และเกิดความเสียหายรุนแรง จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ ปตท. ที่ไม่ยอมบอกข้อเท็จจริงให้กับประชาชนทราบ และไม่ยอมขอโทษหรือยอมรับผิดแต่แรก
ภาพลักษณ์ของ ปตท. ในด้านสิ่งแวดล้อมที่ติดลบอยู่แล้วก็ติดลบหนักลงไปอีกในสายตาของคนทั่วไปจนถึงทุกวันนี้
แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้น หลังจากอุบัติเหตุน้ำมันครั้งนั้น ‘กุ้งเคย’ วัตถุดิบที่ใช้ทำกะปิชั้นดีของจังหวัดระยอง ค่อยๆ หายไปจากทะเลระยองตั้งแต่เกิดเหตุน้ำมันรั่วปี 2556 เพราะผลกระทบของน้ำมันดิบรั่วและการใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมัน ด้วยการวิธีฉีดสารเคมี (dispersant) ให้น้ำมันแตกตัวเป็นก้อนเล็กๆ จมลงไปในทะเล ได้ส่งผลกระทบถึงสัตว์น้ำโดยเฉพาะกุ้งเคยจนถึงปัจจุบัน
ความเสียหายที่ทำให้ชาวระยองจำนวนมากต้องสูญเสียรายได้ไป เพราะกุ้งเคยเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในทะเลบริเวณนั้น เนื่องจากในระบบห่วงโซ่อาหาร กุ้งเคยทำให้มีสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ เพิ่มขึ้น เมื่อไม่มีกุ้งเคยก็ไม่มีสัตว์น้ำชนิดอื่น แต่บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไร
บริษัทที่อยู่เบื้องหลังการปล่อยปลาหมอคางดำออกสู่แหล่งน้ำ คูคลองตามธรรมชาติจนระบาดไปหมด ก็คงไม่ยอมรับหรือออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไร ขณะที่นับวันมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมจากปลาชนิดนี้ เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ
หลายสิบปีที่ผ่านมา กาลเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า บริษัทนี้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ผลประกอบการกำไรมหาศาลทุกปี แต่เมื่อเกิดปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหลายครั้งและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ก็ไม่เคยสักครั้งเดียวที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย