ไฟล์ลับซินเจียง จีนไม่เคยเปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับอุยกูร์

กรณีรัฐบาลไทยส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน ยังคงมีข้อถกเถียงและสร้างความวิตกกังวลให้กับกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนและองค์กรระหว่างประเทศ 

ในการบรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 ‘ราชาล อับบัส‘ ประธานสภาอุยกูร์โลกออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยต่อชะตากรรมของชาวอุยกูร์ 40 คนที่ทางการไทยส่งกลับประเทศจีน ด้าน ‘ดร.เอเดรียน เซนซ์’ ผู้อำนวยการจีนศึกษาประจำมูลนิธิเพื่อรำลึกเหยื่อในระบอบคอมมิวนิสต์เปิดเผยหลักฐานจาก ‘ไฟล์ตำรวจซินเจียง’ (Xinjiang Police Files) ว่า รัฐบาลจีนยังคงมองชาวอุยกูร์เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง ซึ่งอาจขัดแย้งกับคำยืนยันของทางการไทยที่ว่าการส่งตัวกลับเป็นไปด้วยความสมัครใจ

ขณะที่ประธานสภาอุยกูร์โลกออกแถลงการณ์ล่าสุด เรียกร้องให้ประชาคมโลกยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวอุยกูร์ โดยเฉพาะกรณี 40 ชีวิตที่ถูกส่งกลับประเทศจีน “เรามีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของพวกเขา ทั้งการแยกจากครอบครัวและชะตากรรมที่ไม่อาจคาดเดาในซินเจียง” ประธานกล่าว พร้อมเล่าถึงกรณีพี่สาวของตัวเองที่ถูกคุมขังด้วย

“ดิฉันเข้าใจถึงความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่รักจากการกดขี่ข่มเหงของจีน พี่สาวของฉันซึ่งเป็นแพทย์เกษียณอายุ ถูกลักพาตัวไปในเดือนกันยายนเมื่อปี 2561”

“ในตอนแรก รัฐบาลจีนปฏิเสธ โดยกล่าวหาว่าดิฉันโกหกเกี่ยวกับการหายตัวไปของเธอและขโมยรูปถ่ายของพ่อไป จากนั้นในปี 2563 รัฐบาลก็ยอมรับว่าส่งเธอไปจำคุก 20 ปีในข้อกล่าวหาที่จีนแต่งขึ้น”


ดร.เอเดรียน เซนซ์ ผู้อำนวยการจีนศึกษาประจำมูลนิธิเพื่อรำลึกเหยื่อในระบอบคอมมิวนิสต์ วิเคราะห์ข้อมูลจากไฟล์ของตำรวจซินเจียง (Xinjiang Police Files) ที่รั่วไหลในช่วงปี 2565-2566 พบข้อมูลว่านโยบายการควบคุมและปราบปรามการก่อการร้ายที่เกิดจากชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงยังคงดำเนินอยู่อย่างเข้มข้น แม้ทางการจีนจะบอกว่าสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนดีขึ้นแล้วก็ตาม

เอกสารจากไฟล์ดังกล่าวเผยให้เห็นว่า ทางการจีนมองชาวอุยกูร์ที่เดินทางไปต่างประเทศเป็นภัยคุกคาม โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปยัง 26 ประเทศที่จีนระบุว่าเสี่ยงต่อความมั่นคง ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย มาตรการที่ใช้กับผู้เดินทางกลับคือ “จับกุมก่อน สอบสวนทีหลัง” โดยไม่คำนึงถึงกระบวนการยุติธรรม แค่ติดต่อกับต่างประเทศ เช่น รับโทรศัพท์จากประเทศไทย ก็ถูกจับกุมและส่งเข้าค่ายกักกันทันที

ข้อมูลจากเอกสารยังระบุว่า นโยบายขจัดแนวคิดสุดโต่งยังคงดำเนินอยู่ในซินเจียงตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปี 2567 จากการแถลงของ ‘เฉิน ฉวนกั๋ว’ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ที่ยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการป้องกัน ‘กลุ่มก่อการร้ายและหัวรุนแรง’ ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ พร้อมยกกรณีของอิหม่าน รอส ซึ่งถูกจับกุมและส่งเข้าค่ายกักกันหลังเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยเมื่อปี 2560 โดยไม่ได้ระบุความผิดอื่น

“คำยืนยันของรัฐบาลไทยเรื่องการส่งกลับโดยสมัครใจนั้นขัดแย้งกับข้อมูลที่มี” ดร.เอเดรียนกล่าว พร้อมระบุว่าข้อมูลบางส่วนในเอกสารนี้เคยเผยแพร่แล้วในสื่อทั่วโลก 40 แห่ง และยังมีข้อมูลอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้เปิดเผยพร้อมระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นสิ่งที่บันทึกไว้ในเอกสาร ไม่ได้เกิดจากการคาดเดา “รัฐบาลจีนมองว่าการไปต่างประเทศของชาวอุยกูร์ สนับสนุนแนวคิดแบ่งแยกดินแดน” ดร.เอเดรียนระบุ 

ไทยใส่ใจความสัมพันธ์ที่มีต่อจีน มองข้ามหลักสิทธิมนุษยชน

“การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศต้นทางโดยรัฐบาลไทยครั้งนี้ ละเมิดหลักการไม่ส่งกลับ ซึ่งเป็นบรรทัดฐานสำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ” สุณัย ผาสุข ตัวแทนจากฮิวแมนไรต์วอทช์ กล่าว “รัฐบาลไทยมีพันธกรณีที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของอุยกูร์ทั้ง 40 คน รวมถึงอีก 5 คนที่ยังถูกคุมขังในไทย”

สุนัยเรียกร้องและเสนอแนะให้ดำเนินคดีต่อรัฐบาลไทยฐานละเมิดสัญญาระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน “รัฐบาลละเมิดทั้งกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะหลักการห้ามผลักดันกลับ ซึ่งให้ความคุ้มครองบุคคลทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ” สุนัยเห็นว่า “การส่งกลับครั้งนี้ถือเป็นการก่ออาชญากรรมที่รัฐบาลไทยร่วมมือกับรัฐบาลจีน”

ขณะที่ ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศักยภาพชุมชน มองว่าชะตากรรมของผู้ลี้ภัย 5 คนที่ยังถูกควบคุมตัวในประเทศไทย กำลังเผชิญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง “การควบคุมตัวผู้ลี้ภัยทั้ง 5 คนนี้ขัดต่อหลักนิติธรรม เพราะคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล นอกจากนี้ยังถูกห้ามเขียนจดหมาย หากไม่ปฏิบัติตาม จะตัดสิทธิ์การติดต่อบุคคลภายนอก และถูกปฏิเสธคำขอเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในวันสุดท้ายของการถือศีลอด สะท้อนให้เห็นถึงการจำกัดเสรีภาพและการเลือกปฏิบัติ”

จากการวิเคราะห์การตัดสินใจของรัฐบาลไทย สะท้อนท่าทีที่มุ่งรักษาผลประโยชน์กับจีนเป็นสำคัญ “รัฐบาลเลือกที่จะให้น้ำหนักกับความสัมพันธ์กับจีน โดยไม่คำนึงถึงข้อกังวลจากสหประชาชาติและสหรัฐอเมริกา” ชลิดาเสริมว่าแนวทางเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน แม้จะต้องแลกมาด้วยความน่าเชื่อถือในประชาคมระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงหลักปฏิบัติในอดีตว่า ประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน อาจใช้หลักเขตอำนาจศาลสากลดำเนินคดีกับรัฐบาลไทย เช่นเดียวกับกรณีที่อาร์เจนตินาออกหมายจับผู้บัญชาการกองทัพเมียนมามาแล้ว

ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลจีนและชาวอุยกูร์เริ่มปรากฏชัดเจนในปี 2557 โดยรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่าหลังจากรัฐบาลจีนเริ่มดำเนินนโยบายปราบปรามชาวอุยกูร์ในเขตซินเจียง พบหลักฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งการกักขังหมู่ การบังคับใช้แรงงาน และการทรมาน นอกจากนี้เอกสารยังบันทึกกรณีชาวอุยกูร์ 109 คนที่ไทยส่งตัวกลับจีนเมื่อปี 2557 รวมถึงชาวอุยกูร์ 21 คนจากกัมพูชา ซึ่งศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในปี 2552 ทั้งหมดสูญหายไปไม่ทราบชะตากรรม หลักฐานเหล่านี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คนอาจต้องประสบพบเจอ

ในช่วงท้ายของการบรรยาย ผู้สื่อข่าวตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน โดยสุนัยให้ความเห็นว่า “ประเทศไทยไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย แต่ได้รับความเสียหายต่อภาพลักษณ์และแรงกดดันจากนานาชาติ” พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าการกระทำครั้งนี้เป็นบทเรียนที่รัฐบาลไทยต้องทบทวนอย่างถี่ถ้วน และต้องติดตามสวัสดิภาพของอีก 5 คนที่ยังถูกควบคุมตัวว่าจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้

MOST READ

Thai Politics

6 Jun 2025

101 SUPPORT — ร่วมซัพพอร์ต ร่วมส่งพลัง ร่วมสร้างสรรค์สื่อ

ร่วมซัพพอร์ตให้ ‘วันโอวัน’ ทำงานสื่อความรู้สร้างสรรค์แบบมืออาชีพ เปิดเบื้องหลังเบื้องหลังของปรากฏการณ์รอบตัวอย่างตรงไปตรงมา ชวนสังคมตั้งคำถามที่ ‘ใช่’ ในเรื่องสำคัญต่อชีวิต และเป็นตลาดวิชาคุณภาพให้สังคมไทย

กองบรรณาธิการ

6 Jun 2025

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save