ทางรอดเพื่อไทย อนุรักษนิยมใหม่ ปลาไหลสองน้ำ

ความตายทางการเมือง

คอลัมน์ My Voice เดือนที่แล้ว ผมวิพากษ์บทบาทเครือข่าย ‘ทักษิณนิยม’ ในวาระย่างเข้าสู่สามทศวรรษ นับแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2541

บทวิพากษ์ประจำเดือนนี้จะขอขยายความต่อเนื่อง มองไปในอนาคต เพราะไม่ว่าผลการวินิจฉัยคดีของทักษิณและแพทองธาร ชินวัตรจะเป็นลบหรือบวกต่อทั้งคู่ แต่ผมคิดว่าสองพ่อลูก โดยเฉพาะแพทองธาร ได้ ‘ตายทางการเมือง’ ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่คลิปเสียงคุยกับฮุน เซนถูกเปิดเผย

แล้วอะไรคือ ‘ความตายทางการเมือง’ สำหรับผม มันคือการปิดประตูแห่งโอกาสในการกลับมาเป็น ‘ผู้นำประเทศ’ ที่ได้รับความเชื่อถือและเชื่อมั่นจากคนส่วนใหญ่

ต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ‘รอด’ แต่ก็จะ ‘รอด’ ในทางกฎหมาย ส่วนทาง ‘กฎแห่งกรรม’ ทางการเมือง แพทองธารไปไม่รอดจนครบวาระสมัยนี้ และสมัยหน้ายิ่งไม่มีโอกาสกลับมา

เช่นเดียวกับที่ผมเชื่อว่า ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ ตายทางการเมืองไปแล้วจากเหตุการณ์เมษา-พฤษภา 53

ทักษิณ คือ ระเบิดเวลา

แพทองธาร คือ ขีปนาวุธ

ไม่ว่าจะอ้างทำไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์แค่ไหน แต่ ‘คลิปเสียง’ ดังกล่าวเปรียบเสมือน ‘ขีปนาวุธ’ ที่แพทองธารกดปุ่มยิงทำลายล้างตัวเอง-รัฐบาลเพื่อไทย-พรรคเพื่อไทย-ครอบครัวชินวัตรโดยเบ็ดเสร็จอย่างไม่ตั้งใจ

วิญญูชนโดยทั่วไปที่ได้ยินเสียงสนทนาในคลิปต่างมีฉันทมติว่า นี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ ‘แพทองธาร’ สูญสิ้นความเชื่อถือจากประชาชนในฐานะนายกรัฐมนตรีโดยสิ้นเชิง หลังก่อนหน้านี้เธอสะสมความน่ากังขาในวุฒิภาวะ ความคิดอ่าน และความสามารถบริหารประเทศมาเกือบหนึ่งปี

ข้อมูลจากผลสำรวจ ‘นิด้าโพล’ ไตรมาสที่สอง (ก่อนเกิดการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา) ปี 2568 ระบุว่า คะแนนนิยมแพทองธารหล่นวูบเหลือเพียง 9.20% ขณะที่ไตรมาสหนึ่งได้รับ 30.90% ส่วนคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยก็ตกเหลือเพียง 11.52% จาก 28.05%

นั่นแค่ผลลัพธ์จากคลิปเสียง เมื่อเกิดการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชาติดต่อกันหลายวัน นำมาซึ่งความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินทั้งสองฝ่าย ผู้คนได้รับผลกระทบเดือดร้อนจากความไม่สงบ เศรษฐกิจชายแดนย่ำแย่ แพทองธารและรัฐบาลเพื่อไทยสร้างภาพจำฝังใจใหม่ว่า ‘เปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบ’ เกิดขึ้นในยุคนี้และนี่จะเป็นโบดำติดตัวตลอดไป สวนทางกับที่รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ได้โบแดงและภาพจำจากนโยบาย ‘เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า’ เมื่อ 37 ปีที่แล้ว

ลองจินตนาการดูว่าหากมีการสำรวจรอบใหม่กันวันนี้คะแนนนิยมจะเหลือเท่าไหร่ เลือกตั้งครั้งต่อไปนอกจากสร้างผลงานโบดำอันใหญ่ ไร้ผลงานโบแดง ที่แซวกันขำๆ ว่า ‘พรรคเพื่อไทยไม่สูญพันธุ์แต่ต่ำร้อย’ จะไม่ใช่แค่วาทกรรม 

ส่วนทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้มีเส้นทางการเมืองที่โลดโผนขึ้นสุดลงสุดมาหลายรอบ ก่อนหน้านี้ในช่วงที่กลับไทยโดยได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกเพียงหนึ่งปี ผมเคยบังอาจแนะนำ ‘ราชสีห์’ อย่างทักษิณ (ผ่านการโพสต์และวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อ) ว่าอย่าทำตัวเป็น ‘ระเบิดเวลา’ แต่ต้องเป็น ‘พลุส่องสว่าง’ นำทางรัฐบาลเพื่อไทย

ความหมายคือทักษิณควรรับโทษจำคุกตามที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ทุกคนเข้าใจดีว่าที่มาของโทษเกิดจากความไม่ชอบธรรม อันเป็นผลสืบเนื่องจากรัฐประหาร 2549 แต่เมื่อทักษิณยอมรับผิดก็ควรเคารพกระบวนการยุติธรรม หากทักษิณยอมรับโทษจำคุกจริงและบางช่วงอาจขอไปรักษาตัวข้างนอกตามสิทธิและความจำเป็น จากนั้นก็กลับมาเรือนจำต่อจนถึงวันพักโทษ ผมเชื่อว่าทักษิณจะไม่กลายเป็น ‘ระเบิดเวลา’ ของรัฐบาลเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทย เช่นที่นับถอยหลังรอวันระเบิดในเดือนหน้า

ตรงกันข้ามเมื่อถึงวันที่ทักษิณพักโทษและพ้นโทษ จะได้รับการยอมรับและชื่นชมในความเป็น ‘สุภาพบุรุษนักสู้ทางการเมือง’ เป็น ‘พลุส่องสว่างนำทาง’ รัฐบาลเพื่อไทยแก้ไขปัญหาประเทศตามความสามารถและประสบการณ์อันเอกอุ

ความผิดพลาดในเรื่องคลิปเสียงของแพทองธารมาจาก ‘ความไม่ประสีประสา’ ในเรื่องบริหารบ้านเมืองภายใต้หมวกนายกรัฐมนตรี ขณะที่ความผิดพลาดนำพาตัวเองเป็น ‘ระเบิดเวลา’ ของทักษิณมาจาก ‘ความประสีประสาที่มากล้น’ เพราะมั่นใจใน ‘ดีล’

แม้แตกต่าง ‘ที่มา’ แต่ ‘ที่ไป’ กลับเป็นจุดหมายเดียวกัน (โดยไม่ตั้งใจ) นั่นคือ ‘ความตายทางการเมือง’

ทางรอดเพื่อไทย

เช่นนี้แล้วพรรคเพื่อไทยควรทำอย่างไร ลำดับแรกคือ ‘ทำใจ’

ทำใจให้ได้ว่า ความตายทางการเมืองจะส่งผลให้พรรคเพื่อไทยหมดโอกาสเป็น ‘พรรคอันดับหนึ่ง’ อย่างน้อยสุดอีกหนึ่งสมัยจากนี้ไป (ไกลกว่านั้นยังพอมีโอกาสเล็กๆ กลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ภายใต้การนำของแพทองธารแน่นอน)

เพราะด้วยคุณูปการต่อประเทศที่ทักษิณและเครือข่ายพรรคสร้างไว้ ในช่วงปี 2544-2548 มีมากมายมหาศาล จนอาจกล่าวได้ว่ามากกว่าแทบทุกพรรคการเมืองไทยในอดีตเคยทำมา

บุญเก่าเหล่านี้ แม้กาลเวลาที่ผ่านมาจะถูกผลาญและขาดการสร้างใหม่ชดเชย แต่ผมเชื่อว่ายังช่วยประคับประคองสถานการณ์พรรคให้อยู่ในระดับท็อปทรี (มีเปอร์เซ็นต์ได้ลำดับสามสูง) แม้จะหืดขึ้นคอ

‘ทำใจ’ ได้แล้ว ขั้นต่อไปคือสร้างตำแหน่งพรรคหรือจุดยืนพรรคใหม่ (ตำแหน่งผลิตภัณฑ์) ให้ชัดและแตกต่าง สอดคล้องกับความเชื่อและความมุ่งมั่นของคนในพรรคและกองเชียร์

สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยหลังการดิสรัปต์ตระบัดสัตย์ข้ามขั้วในปี 2566 จากพี่ใหญ่ฝ่ายเสรีประชาธิปไตย เป็นหัวแถวฝ่ายอนุรักษนิยม จนถึงวันนี้พิสูจน์แล้วว่า ‘ยังไม่เนียน’ เข้าทำนองฝ่ายอนุรักษนิยมเดิมไม่ไว้ใจ ฝ่ายเสรีประชาธิปไตยไม่เชื่อถือ

เพราะสองปีที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยแสดงตัวตนว่าจุดยืนที่แท้จริงคือ ‘ทักษิณนิยม’ ไม่ใช่ ‘อนุรักษนิยม’ แต่ละเรื่อง แต่ละท่าทีการเคลื่อนไหว ล้วนมุ่งตอบสนองแนวทาง ‘ทักษิณนิยม’ หลักการแปรเปลี่ยนได้ตลอด จนฝ่ายอนุรักษนิยมเดิมที่ตัวเองพยายามไปขอเข้าพวกมองว่า ‘หน้าไหว้หลังหลอก’

ยิ่งแพทองธารหลุดคำพูดในคลิปเสียงว่า “แม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม” จึงยิ่งทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมเพิ่มความไม่ไว้ใจ

อนุรักษนิยมใหม่ – ปลาไหลสองน้ำ

ทางรอดของเพื่อไทยจึงต้องสร้างตำแหน่งแห่งที่ของตัวเองใหม่ เป็นพรรคทางเลือกที่สาม มีจุดยืนความคิดอ่านทางการเมืองเป็น ‘อนุรักษนิยมใหม่’ ไม่ใช่ ‘ทักษิณนิยม’ เช่นทุกวันนี้ อยู่ระหว่างกลางสองขั้ว อนุรักษนิยมเดิม (ภูมิใจไทย) กับเสรีประชาธิปไตย (ประชาชน)

การประกาศตนเป็น ‘อนุรักษนิยมใหม่’ ยังสอดคล้องกับแนวโน้มสังคมไทยยุคใหม่ที่แวดวงวิชาการกำลังถกเถียงด้วยระคนสงสัยว่าไฉนสังคมไทยส่งสัญญาณ ‘ขวาหัน’ มากขึ้น

อนุรักษนิยมใหม่ที่มีความทันสมัย (อยู่บ้าง) ต่อหลักการสากลทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกจากเป็นทางรอดที่ถูกจังหวะ มองในแง่ดี นี่อาจทำให้เพื่อไทยได้สร้างคุณูปการครั้งใหม่ ด้วยการฉุดรั้งสังคมไทย ไม่ขวาหันจนเกินไป

และถ้าเชื่อในตรรกะเรียลโพลิติกแบบที่คนเพื่อไทยชอบสั่งสอนพรรคและผู้คนที่เพ้อเจ้อเรื่องอุดมการณ์ การปรับมายด์เซ็ตเพื่อเป็นพรรคอันดับสามยังมีข้อดีคือ ได้อยู่ร่วมรัฐบาลแน่นอน ไม่ว่าฝ่ายเสรีประชาธิปไตย หรือฝ่ายอนุรักษนิยมชนะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง (กรณีชนะไม่เกินกึ่งหนึ่ง) 

เพราะด้วยจุดยืน แนวคิด และนโยบาย โดยทั่วไปอนุรักษนิยมใหม่มีความยืดหยุ่นปรับตัวลื่นไหลเข้าได้กับทั้งสองขั้ว เปรียบเสมือน ‘ปลาไหล’ ที่ใช้ชีวิตได้สองน้ำ ทั้งน้ำจืดและน้ำกร่อย

ที่ผ่านมาพรรคการเมืองที่เคยได้รับฉายาว่า ‘พรรคปลาไหล’ คือพรรคชาติไทย (ชาติไทยพัฒนาในปัจจุบัน) เพราะยืดหยุ่นเข้าร่วมรัฐบาลได้ตลอด แต่พรรคเพื่อไทยมีขีดความสามารถอัปเกรดที่สูงกว่า ด้วยพื้นฐานบุคลากรและบุญเก่าที่ยังหลงเหลือ เปลี่ยนตำแหน่งแห่งที่ได้ลงตัวเมื่อไหร่ ผมเชื่อว่าจะไม่ใช่ปลาไหลเวอร์ชันเก่า แต่เป็นเวอร์ชันใหม่

‘ปลาไหลไฟฟ้า’

MOST READ

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

Politics

24 Jul 2025

“ในสงคราม สิ่งแรกที่ถูกฆ่าตายคือความจริง” สถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา เรารู้อะไรอย่างเป็น ‘ทางการ’ แล้วบ้าง?

วันโอวัน สรุปข้อมูลการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จากทางการทั้งสองฝ่าย พร้อมความเห็นจากนักวิชาการ ผู้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

กองบรรณาธิการ

24 Jul 2025

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save