fbpx

กิจวัตรลำเค็ญในอวกาศ

นักบินอวกาศเป็นกลุ่มคนพิเศษของโลกที่มีจำนวนจำกัดมาก นับตั้งแต่ผู้การยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) ของสหภาพโซเวียตที่ขึ้นไปโคจรรอบโลกในยานอวกาศวอสต็อก 1 (Vostok 1) ในเดือนเมษายน 1961 จนถึงวันนี้ (กรกฎาคม 2023) ก็ยังมีคนที่มีโอกาสขึ้นไประดับความสูงตามนิยามคำว่า ‘อวกาศ‘ ที่มักกำหนดไว้ที่ 100 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเลเพียงแค่ 628 คนเท่านั้น หากเทียบกับประชากรโลกแล้วก็ต้องบอกว่า มีโอกาสไม่ถึง 1 ใน 10 ล้านเท่านั้นที่จะได้เป็นสมาชิกของคนกลุ่มนี้      

ในจำนวน 628 คนนี้ มีแค่เพียง 24 คน หรือสองโหลเท่านั้นที่ไปไกลเกินกว่าโคจรรอบโลก คือได้โคจรรอบดวงจันทร์และลงไปเดินบนพื้นผิวดาวบริวารของโลกดวงนี้ ขณะนี้ก็มีหลายคนทีเดียวที่มุ่งมั่นเตรียมการเพื่อเป็นนักบินอวกาศกลุ่มแรกที่เดินทางไปดาวอังคาร

ส่วนในประเทศไทยก็มีคนหนุ่มสาวที่สนใจเรื่องอวกาศ ไปจนถึงอยากทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอวกาศหรือแม้แต่อยากเป็นนักบินอวกาศ ซึ่งก็หวังว่าฝันแบบนี้จะเป็นจริงในอนาคตอันใกล้

แต่การขึ้นไปอยู่ในอวกาศมี ‘ราคา’ ที่ต้องจ่ายที่สูงมากทีเดียว พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ การใช้ชีวิตประจำวันของนักบินอวกาศ หลายเรื่องก็ลำบากยากเข็ญมากกว่าบนโลกอย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่บางทีก็ชวนขัน บางทีก็ชวนกลุ้ม บางทีก็ทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน  

จะขอยกตัวอย่างส่วนหนึ่งจากหนังสือ What’s It Like in Space? โดยแอเรียล วัลด์แมน (Ariel Waldman) ที่ทำงานด้านการสื่อสารอยู่ที่นาซา[1] และมีโอกาสพูดคุยซักถามข้อมูลจากนักบินอวกาศ  

ตัวอย่างแรก ในอวกาศ ‘เราเรอไม่ได้’ เมื่ออยู่ในสภาวะไร้ความโน้มถ่วงเช่นนั้น ทำให้อาหารไม่สามารถไหลลงไปยังกระเพาะอาหารโดยอัตโนมัติได้ ทุกครั้งที่คุณผะอืดผะอมพยายามเรอในอวกาศ ผลลัพธ์จะกลายเป็นการอ้วกแทน! ดังนั้นเครื่องดื่มยอดนิยมอย่างหนึ่งที่คุณหาดื่มไม่ได้ในอวกาศก็คือ น้ำอัดลมต่างๆ นั่นเอง ใครติดเครื่องดื่มแบบนี้คงร่ำๆ จะขาดใจแน่นอน

สิ่งที่นักบินอวกาศจำใจต้องยอมรับอีกเรื่องก็คือ การอ้วกในอวกาศจะให้ประสบการณ์ที่คล้ายกับ ‘การโดนตบหน้า’ เพราะเมื่อขาดความโน้มถ่วงเสียแล้ว สิ่งที่อ้วกออกมาจะกระทบกระแทกกับถุงอ้วกและกระดอนกลับมากระแทกใส่หน้าคุณได้ ราวกับตบหน้าคุณนั่นเอง สิ่งที่นักบินอวกาศจำเป็นต้องมีก็คือ ผ้าเช็ดตัวที่เอาไว้คอยตะครุบและทำความสะอาดอะไรต่อมิอะไรในยานที่เลอะจากอ้วก

มีนักบินอวกาศคนหนึ่งคือ จิม นิวแมน (Jim Newman) ค้นพบความลับว่า เมื่อเกิดอาการคล้ายจะเรอ ให้ผลักกับผนังในจังหวะที่เรอนั้น คล้ายกับการสร้างความโน้มถ่วงเทียมขึ้น ทำให้ทั้งก๊าซและอาหารกลับลงกระเพาะไป เรียกวิธีนี้ว่า ‘ผลักและเรอ’ (push and burp)

แน่นอนว่าสิ่งที่คู่กับการเรอ ย่อมต้องมีคนคิดถึงเรื่องการผายลมหรือ ‘ตด’ ด้วย ในเมื่อเราเรอในอวกาศไม่ได้ แล้วเราตดในอวกาศได้หรือไม่?

แม้เราจะเรอไม่ได้ แต่เราตดได้ครับ!

เราจะตดในอวกาศบ่อยขึ้นด้วย เพราะเรอไม่ได้นั่นเอง สิ่งที่นักบินอวกาศจำนวนมากยอมรับว่าได้ลองพยายามทดสอบคือ พยายามตดแล้วดูว่าลมตดจะ ‘ผลักดัน’ แบบไอพ่นให้ตัวเองเคลื่อนที่ไปฝั่งตรงข้ามในสถานีอวกาศนานาชาติหรือไม่

จะเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่แน่ชัดนัก แต่เรื่องนี้สร้างความผิดหวังให้นักบินอวกาศหลายๆ คนแน่นอน เพราะตดในอวกาศไม่มีแรงขับดันมากพอจะทำให้ตัวพวกเขาพุ่งตัวไปอีกทางอย่างที่คิด

อันที่จริงมีความพยายามคำนวณ โดยกำหนดค่าสมมติต่างๆ ขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือแรงขับจากตดน่าจะทำให้นักบินอวกาศเคลื่อนที่ด้วยความเร็วราว 7.7 x 10-6 เมตร/วินาที หรือแปลงให้เป็นภาษามนุษย์ง่ายๆ คือ ในหนึ่งวินาทีจะเคลื่อนที่ได้ 7.7 ไมครอน หรือเท่ากับความยาวของแบคทีเรียในโยเกิร์ตที่เรากินกันซึ่ง…เล็กจนเรามองไม่เห็นตัวมัน

สรุปของสรุปอีกทีก็คือ เราสังเกตไม่เห็นความแตกต่างของตำแหน่งด้วยตาเปล่าหรือจะบอกว่าไม่เคลื่อนที่ก็พอจะได้ครับ

นอกจากการเรอแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะมีคนรู้สึกสงสัยพอกันน่าจะได้แก่ เรื่องการจามหรือสั่งน้ำมูก เราสั่งน้ำมูกในอวกาศได้หรือเปล่า? หากทำได้ จะเป็นอย่างไร?

ในหลักสูตรนักบินอวกาศจะมีสอนวิธีสั่งน้ำมูกด้วยนะครับ เพราะหากต้องออกไปปฏิบัติการ ‘สเปซวอล์ก’ การจามหรือสั่งน้ำมูกออกมา หรืออันที่จริงแล้วอาจรวมไปถึงเหงื่อ น้ำมูก น้ำตา ฯลฯ อาจจะทำให้มองไม่เห็น เพราะสิ่งคัดหลั่งต่างๆ จากร่างกายอาจไปปิดบังภาพภายในหมวกนักบินอวกาศชั่วคราว นักบินอวกาศจะได้รับการฝึกให้สั่งน้ำมูกลงทางด้านล่างของหมวก เพื่อไม่ไปปิดกั้นทัศนวิสัยภายในหมวก

นอกจากสิ่งที่ออกจากร่างกายแล้ว สิ่งต่างๆ เข้าร่างกายก็มีความปั่นป่วน ไม่ปกติอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ยกตัวอย่าง นักบินอวกาศพูดตรงกันว่าการกินอาหารที่เตรียมด้วยวิธีการฟรีซ-ดรายด์ (freeze-dried) ในอวกาศ ให้อารมณ์คล้ายกับการกินแผ่นกระดาษ การกินในอวกาศจึงไม่รื่นรมย์เหมือนกับบนพื้นโลก

การไม่มีแรงโน้มถ่วงยังทำให้ท้องผูกง่ายและมีอาการจี้ดขึ้นหัวบ่อยๆ นักบินอวกาศมักบ่นเรื่องความรู้สึก ‘จมูกตัน’ ไม่ได้กลิ่น ยิ่งทำให้การกินไร้สุนทรีย์มากขึ้นไปอีก ดังที่เรารู้ว่าเรามีความสุขกับของอร่อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยเข้าจมูก อาหารและเครื่องดื่มจำนวนมากบนพื้นโลกจึงใส่แค่ ‘กลิ่น (เทียม)’ โดยไม่จำเป็นต้องหาวิธีใส่ ‘รสชาติ’ จริงๆ ลงในอาหารหรือเครื่องดื่มนั้น

ผลลัพธ์ก็คือนักบินอวกาศต้องอาศัยเครื่องปรุงรสหรือเครื่องเทศรสจัดจำนวนมากตลอดเวลา มีทั้งซอสทาบาสโก้ ซอสพริกศรีราชา วาซาบิ และมัสตาร์ด เป็นตั้งๆ เพื่อช่วยให้กินคล่องคอและทำให้อาหารมีรสมีชาติมากขึ้น

สิ่งที่นักบินอวกาศพร้อมใจกันทำซึ่งขัดใจคุณแม่อย่างแน่นอน นั่นก็คือการเล่นกับอาหารครับ การไล่ตะครุบอาหารเล่นเป็นเด็กๆ ย่อมเป็นกิจกรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะในมื้อแรกๆ ในอวกาศ  

เวลากินอาหารที่ควรจะสบายๆ และมีความสุข ก็อาจเป็นช่วงเวลาแห่งความโกลาหลวุ่นวายได้ไม่น้อย อาหารพื้นๆ อย่างซุปหรือโยเกิร์ต เมื่อบีบออกจากถุงพวกมันก็จะกลายเป็นฟองลอยฟ่องไปทั่ว ซี่งนักบินอวกาศต้องใช้ช้อนตักพวกมันอย่างนิ่มนวล หากทำรุนแรงเกินไป ไม่ว่าจะซุปหรือโยเกิร์ตก็จะแตกออกเป็นฟองที่ก้อนเล็กลงไปอีก อาจจะมากถึง 10 ก้อนจากก้อนตั้งต้นเพียงก้อนเดียว ความโกลาหลย่อมต้องตามมาอย่างแน่นอน

อาหารอวกาศในยุคแรกนั้นมีแค่หั่นหรือสับมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยมกับที่บรรจุใส่หลอดแบบหลอดยาสีฟันเท่านั้น พวกเนื้อจะเตรียมในรูปสับหรือปั่นละเอียดจนคล้ายอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวสำหรับเด็กเล็ก ส่วนพวกซีเรียลและคุกกี้ก็บดอัดจนเป็นก้อนสี่เหลี่ยมก่อนจะเคลือบด้วยแป้งหรือเจลาตินเพื่อไม่ให้แตกเป็นเศษละเอียดได้ง่ายๆ  

นักบินอวกาศ จอห์น ยัง (John Young) และกัส กริสซอม (Gus Grissom) แห่งโครงการเจมิไน 3 (Gemini 3) เคยพยายามทำผิดระเบียบ เอาแซนด์วิชเนื้อผสมข้าวโพดมากินบนยานอวกาศ แต่แค่กัดไปคำแรกเท่านั้น ทุกอย่างก็เหมือนจะเป็นอย่างในโฆษณาชิ้นหนึ่งคือ ระเบิดเป็นโกโก้ครันช์! แตกเป็นเสี่ยงๆ จำนวนมากในทันที สุ่มเสี่ยงจะทำให้อุปกรณ์ในยานอวกาศมีปัญหา เล่นเอาเจ้าหน้าที่นาซาไม่ปลื้ม และนักบินอวกาศทั้งคู่ต้องตามไล่เก็บเศษพวกนี้ให้หมด จนไม่น่าจะเจริญอาหารอีกต่อไปในมื้อนั้น

มีอาหารหรือของกิน ‘วิเศษ’ ที่โดดเด่นจนนักบินอวกาศกล่าวถึงกันอยู่ 2 อย่าง หนึ่งนั้นคือ ‘คุกกี้น้ำตาล’ ที่นักโภชนาการเตรียมให้เป็นพิเศษสดๆ บนพื้นโลกก่อนออกเดินทาง มันพิเศษและดีต่อใจมากจนนักบินอวกาศที่ไปประจำการอยู่ในสกายแล็บ (Skylab) ที่เป็นสถานีอวกาศนานานชาติยุคแรกเริ่ม มอบส่วนของตัวเองให้กับนักบินอวกาศอีกคนเพื่อเป็นของขวัญ

แต่สุดยอดของกินที่นักบินอวกาศลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ว่า เป็นของที่สุดจัดจริงๆ ก็คือ ของกินจากสรวงสวรรค์ที่หาได้บนโลก นั่นก็คือ…ไอศครีม!

มันเป็นของกินที่วิเศษมากเสียจนกระทั่งนาซาต้องยอมให้ยานกระสวยอวกาศมีตู้แช่แข็งไอศกรีมสดๆ ขึ้นไปส่งและยังมีพื้นที่ซึ่งสงวนไว้เพื่อเป็นตู้แช่แข็งเก็บไอศกรีมในสถานีอวกาศสกายแล็บด้วย

นักบินอวกาศบนสกายแล็บถึงกับเคยจัดปาร์ตี้ไอศกรีมบนสถานี นั่งจับกลุ่มกันรอบหน้าต่าง กินไอศกรีมวนิลลาและไอศกรีมสตอร์เบอร์รีไป มองโลกไป นี่คือความสุขสุดยอดแบบหนึ่งของนักบินอวกาศแล้วครับ

เราอาจมีความสุขกับไอศกรีมแบบเดียวกันได้บนพื้นโลก แต่ภาพวิวหลักพันล้านหมื่นล้านแบบบนสถานีอวกาศ คงมีแต่นักบินอวกาศเท่านั้นที่จะมีได้ … ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษจริงๆ!    

References
1 Ariel Waldman (2016) What’s It Like in Space? Stories From Astronauts Who’ve Been There. Chronicle Books.

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

4 Aug 2020

การสืบราชสันตติวงศ์โดยราชสกุล “มหิดล”

กษิดิศ อนันทนาธร เขียนถึงเรื่องราวการขึ้นครองราชสมบัติของกษัตริย์ราชสกุล “มหิดล” ซึ่งมีบทบาทในฐานะผู้สืบราชสันตติวงศ์ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร 2475

กษิดิศ อนันทนาธร

4 Aug 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save