ราชการไทย ‘โปร่งใส’ ด้วยการทำเว็บไซต์ตอบเกณฑ์วัดผล?

“ก.ก.ต.เป็นองค์กรที่มีคุณธรรมและความโปร่งใสพัฒนาขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มองค์กรอิสระ”
“กรมราชทัณฑ์ได้คะแนนคุณธรรมและความโปร่งใสระดับ AA เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ”
“หน่วยงานที่มีคุณธรรมและโปร่งใสที่สุดในปี 2023 คือเทศบาลตำบลตะกุด จังหวัดสระบุรี”

ตัวเลขเหล่านี้คืออะไรกันแน่? และการจัดอันดับเหล่านี้ส่งผลต่อความโปร่งใส่ของราชการไทยจริงหรือ?

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาทจัด ‘การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส’ (Integrity and Tranparency Assessment) หรือ ITA ขึ้นทุกปี โดยเปิดให้หน่วยงานรัฐทุกประเภทเข้าร่วมแข่งขันกันว่าหน่วยงานใดมี ‘คุณธรรม’ และ ‘ความโปร่งใส’ มากที่สุด ปรากฎว่าคะแนน ITA ของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2023 มีคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 90.2 จากคะแนนเต็ม 100 หน่วยงานราชการสอบผ่านเกณฑ์ (85 คะแนน) ถึง 80.9% เรียกได้ว่าโปร่งใสอย่างน่าทึ่ง

เพื่อหาคำตอบว่าราชการไทยเปี่ยมคุณธรรมและความโปร่งใสดุจดังคะแนน ITA ที่สูงชะลูดจริงหรือไม่ 101 PUB ได้ดึงผลคะแนนย้อนหลัง 5 ปีที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของ ป.ป.ช.มาวิเคราะห์ เจาะเบื้องหลังวิธีคิดคำนวน ในบทความนี้

หน่วยงานสอบผ่านเพิ่มขึ้น 7 เท่าในเวลา 5 ปี

ITA เป็นการประเมินเชิงบวก เน้นส่งเสริมให้กำลังใจหน่วยงานที่ได้คะแนนดี ไม่มีบทลงโทษแก่หน่วยงานคะแนนต่ำ จึงมีการตั้งเกณฑ์ ‘สอบผ่าน’ ไว้สูงถึง 85 จากคะแนนเต็ม 100 รวมถึงไม่บังคับให้เข้าร่วม กระนั้นก็ยังมีหน่วยงานเข้าร่วมเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2023 มีผู้ร่วมรับการประเมินถึง 8,323 หน่วยงาน ในจำนวนนี้เป็นองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไปแล้ว 7,849 แห่ง คิดเป็น 94.3% ของหน่วยงานทั้งหมด ที่เหลือเป็นหน่วยงานระดับกรม องค์กรศาล กองทัพ ราชการส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจและองค์กรอิสระต่างๆ อีก 474 หน่วยงาน

จากเกณฑ์ผ่านที่ตั้งไว้สูงลิ่ว ในปี 2019 จึงมีหน่วยงานสอบผ่านเพียง 11.7% เท่านั้น แต่จะพบว่าหน่วยงานในส่วนกลางสอบผ่านถึง 77.5% และมีคะแนนเฉลี่ย 86.5 คือสอบผ่านมาตั้งแต่ต้น ส่วนที่ทำให้คะแนนภาพรวมต่ำคืออปท. ซึ่งสอบผ่านเพียง 11.0% และมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 65.6  อย่างไรก็ตาม คะแนนของอปท.ได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2021 ทำให้คะแนนเฉลี่ยและร้อยละหน่วยงานที่สอบผ่านทั้งประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเพิ่มขึ้นถึงราว 7 เท่าในเวลาเพียง 5 ปี[1]

การกระจายตัวของคะแนน ITA ย้อนหลัง 5 ปี

ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (2023) คำนวนโดย 101 PUB

คะแนนคุณธรรมและความโปร่งใสที่พุ่งสูงขึ้นฟังดูเป็นเรื่องน่ายินดี ในด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะรัฐไทยให้ความสำคัญกับการต่อต้านคอรัปชันอย่างยิ่ง โดยทุ่มงบประมาณเพื่อการนี้ถึงราวปีละ 3 พันล้านบาท ทว่าในอีกด้านหนึ่ง คะแนนความโปร่งใสในระดับสากลของไทยอย่าง ‘ดัชนีการรับรู้การคอร์รัปชัน’ (CPI) กลับคงตัวอยู่ที่ราว 36 คะแนน (เต็ม 100) มานานถึง 10 ปีแล้ว[2]

วัตถุประสงค์สำคัญประการหนึ่งของ ITA คือการส่งเสริมให้ราชการปรับปรุงวัฒนธรรมการทำงานให้โปร่งใสยิ่งขึ้น โดยหวังว่าจะย้อนกลับมาทำให้คะแนน CPI ของไทยดีขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขชี้ว่า ‘คุณธรรม’ และ ‘ความโปร่งใส’ แบบไทยๆ ที่สูงโด่งไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คอร์รัปชันของไทยดีขึ้นเลยในสายตาของนานาประเทศ

เกณฑ์วัดผลไม่สะท้อนความโปร่งใส

ป.ป.ช.ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานต่างๆ จาก 3 ด้านคือ จากการประเมินโดยข้าราชการภายในหน่วยงานเอง (Internal Intergrity and Transparency) หรือ IIT การประเมินโดยประชาชน (External Intergrity and Transparency) หรือ EIT และการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Open Data Integrity and Transparency) หรือ OIT โดยให้น้ำหนัก 30/30/40 คือให้คะแนนกับการเปิดข้อมูลมากที่สุด

ประเมินภายในประชาชนประเมิน การเปิดข้อมูล
สัดส่วนคะแนน30%30%40%
ผู้ประเมินบุคลากรที่ทำงานมาอย่างน้อย 1 ปี ประชาชนที่เคยรับบริการจากหน่วยงาน ผู้ประเมินที่ว่าจ้างโดย ป.ป.ช.
เกณฑ์การให้คะแนนความโปร่งใสในการทำงาน การใช้อำนาจ การใช้งบประมาณและทรัพย์สินของราชการคุณภาพการให้บริการ และการเผยแพร่ข่าวสารของหน่วยงานระดับการเปิดข้อมูลบนเว็บไซต์ เช่น ข้อมูลผู้บริหาร การจัดซื้อจัดจ้าง ระบบ e-service
จำนวนคำถาม30 ข้อ15 ข้อ43 ข้อ
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (2023)

จากข้อมูลสรุปเกณฑ์การประเมินข้างต้น จะเห็นว่าการประเมินที่เกี่ยวข้องกับความโปร่งใสโดยตรง เช่น การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ การนำทรัพย์สินราชการไปใช้ส่วนตัว ฯลฯ แทบทั้งสิ้นเป็นการประเมินภายในหน่วยงานเอง ประชาชนมีโอกาสประเมินในข้อคำถามเกี่ยวกับการไม่ถูกเลือกปฏิบัติ การทำงานอย่างรับผิดชอบ และการไม่เรียกรับสินบน เพียง 3 ข้อคำถามเท่านั้นจาก 15 ข้อคำถามซึ่งโดยส่วนมากเป็นการประเมินว่าหน่วยงานมีการเผยแพร่ข่าวสารและ ‘มี’ ช่องทางให้ร้องเรียนหรือไม่ กล่าวคือประชาชนได้รับโอกาสให้ประเมินเฉพาะสิ่งที่รับรู้ได้จากด้านนอกของเคาท์เตอร์ให้บริการประชาชนเท่านั้น ส่วนการชี้เบาะแสการทุจริตมีเพียงคำถามเดียว และมีแค่ตัวเลือกใช่/ไม่เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะการประเมินทั้งหมดนี้วางอยู่บนพื้นฐานของการ ‘กระตุ้นเชิงบวก’ มุ่งมองหาด้านที่ดีมากกว่าด้านที่เลว ซึ่งเห็นได้ชัดจากการเลือกใช้คำ ‘คุณธรรม’ ในชื่อของการประเมินนี้

ความโปร่งใส ‘โกง’ ได้

การประเมินสองส่วนแรก เป็นการประเมินจากความคิดเห็นของบุคคลซึ่งไทยนำเค้าโครงมาจากคณะอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตและสิทธิพลเมือง (ACRC) ประเทศเกาหลีใต้ ปัญหาของการประเมินลักษณะนี้คือ ผู้ประเมินภายในมักจะให้คะแนนหน่วยงานของตนเองดีเกินจริง งานวิจัยพบว่าแม้ ป.ป.ช.ยืนยันจะไม่ลงโทษหน่วยงานที่ได้คะแนนต่ำ แต่อปท.มักมองว่าหากคะแนนออกมาน้อยจะทำให้ ‘เสื่อมเสียชื่อเสียง’ และเกรงว่าจะนำมาสู่การตรวจสอบหามูลความผิดโดย ป.ป.ช.ในอนาคต[3] ขณะเดียวกันหน่วยงานก็สามารถหาทางล็อคตัวผู้ประเมินภายนอกให้เป็นผู้ที่มีแนวโน้มจะประเมินให้คะแนนสูงได้ เนื่องจาก ป.ป.ช.กำหนดให้หน่วยงานเป็นฝ่ายจัดส่งรายชื่อผู้ที่เข้ารับบริการเพื่อนำไปสุ่มเลือกผู้ประเมิน

เพื่อที่จะแก้ไขจุดอ่อนของการวัดผล 2 ส่วนแรก ไทยได้พยายามเพิ่มเติมคะแนนที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์เข้าไปในส่วนที่ 3 โดยให้น้ำหนักมากที่สุดด้วย ทว่าในความเป็นจริงเกณฑ์ที่ออกแบบปิดช่องโหว่กลับกลายเป็นช่องโหว่เสียเอง องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุว่าผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลการประเมินขององค์กรมักมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารผ่านกลุ่มไลน์ ลอกแนวทางการทำเอกสารให้ได้คะแนนสูง นอกจากนี้หน่วยงานยังมีแนวโน้มที่จะอ้าง ‘ความมั่นคง’ ออกระเบียบที่กำหนดให้ข้อมูลบางประเภท ‘ปกปิดเป็นความลับ’ เพื่อที่จะไม่ต้องนำมาพิจารณาในเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูล [4]

ภาพประชาสัมพันธ์ผลการประเมิน ITA ของกรมราชทัณฑ์

คะแนน ITA ที่เพิ่มขึ้นทุกปีจึงอาจไม่ได้หมายความว่าราชการไทยมีคุณธรรมและโปร่งใสเพิ่มขึ้น แต่เป็นไปได้ว่าหน่วยงานต่างๆ มีเทคนิคในการ ‘ตอบข้อสอบ’ ได้ดียิ่งขึ้น ถึงที่สุดแล้วการกระตุ้นเชิงบวกในบริบทแบบไทยๆ จึงมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเพียงเครื่องมือให้หน่วยงานราชการใช้แสดงว่าตนเองมีคุณธรรมดีเลิศเพียงใด แต่ปัญหาการทุจริตและการดำเนินงานที่ไม่ตรงไปตรงมากลับไม่ถูกแก้ไข เพียงแต่ถูกนำไปซ่อนไว้ด้านหลังป้ายไวนิลแสดงคะแนนประเมินของหน่วยงาน

แค่ทำเว็บตรงเกณฑ์ก็ได้คะแนนเต็ม

พิจารณาคะแนน ITA รายด้านย้อนหลังจะพบว่าคะแนนประเมินภายในและภายนอกเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่คะแนนในส่วนการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าในห้วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยหน่วยงานที่ได้คะแนนสูงมักได้คะแนนในส่วนนี้เต็ม 100 หรือเกือบเต็ม เนื่องจากเกณฑ์ในการวัดผลพิจารณาจากความสมบูรณ์ของเว็บไซต์เป็นสำคัญ เพียงแค่หน่วยงานส่งลิงก์ขององค์ประกอบต่างๆ ครบ 43 ข้อก็ได้คะแนนเต็มทันทีโดยไม่สนใจว่าข้อมูลเหล่านั้นจัดวางให้เข้าถึงได้ง่ายหรือไม่ รวมถึงมีประชาชนเข้าไปใช้งานจริงหรือไม่ ในทางกลับกันหน่วยงานที่ได้คะแนนลำดับท้ายๆ มักได้คะแนนในส่วนนี้เป็น 0 และโดยมากเป็นอปท.ซึ่งมีทรัพยากรในการจัดทำเว็บไซต์น้อยกว่าหน่วยงานส่วนกลาง 

คะแนน ITA เฉลี่ยรายด้าน ย้อนหลัง 5 ปี

ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (2023) คำนวนโดย 101 PUB

ขณะที่คะแนนประเมินสองส่วนแรกอาจได้มาไม่ยากนัก คะแนนส่วนหลังนี้ต้องอาศัยความชำนาญในการจัดทำเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามเกณฑ์ หน่วยงานขนาดเล็กจึงต้องหันไปพึ่งบริษัทเอกชนเพื่ออุดช่องโหว่นี้ ส่วนบริษัทรับทำเว็บก็นำเอาบริการรับทำ ITA มาเป็นจุดขายมากขึ้น โดยมีทั้งบริการให้คำปรึกษา จัดทำหน้าเว็บ พร้อมรับประกันว่าหน่วยงานจะได้คะแนนถึงเกณฑ์สอบผ่านอย่างแน่นอน 101 PUB รวบรวมข้อมูลพบว่าในปี 2022 บริษัทที่มุ่งทำหน้าเว็บตอบเกณฑ์ ITA ให้หน่วยงานรัฐเพียงแค่ 6 บริษัท รับงานจากรัฐรวมกันมากถึง 1,462 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 37.9 ล้านบาท[5]

ภาพโฆษณาบริการดูแลเว็บไซต์ของบริษัทแห่งหนึ่ง

อีกธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับการทำเว็บไซต์คือการเปิดคอร์ส ‘ติวเข้ม’ ให้เจ้าหน้าที่อปท. พร้อมรับการประเมินและจัดทำข้อมูลลงเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่อาจปรับเปลี่ยนไปในแต่ละปี การอบรมลักษณะนี้มีทั้งในและนอกสถานที่ มีค่าใช้จ่ายราว 3,500-5,000 ต่อหัว โดยบางหลักสูตรมีการเปิดรับผู้เข้าร่วมอบรมจำนวนมากถึง 29 รุ่นต่อปี เบื้องหลังตัวเลขคุณธรรมและความโปร่งใสของไทยที่พุ่งทะยานจึงไม่ใช่การวิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาทางแก้ไขความไม่ซื่อตรงในการปฏิบัติงาน หากแต่เป็นการ ‘กวดวิชา’ เพื่อไปตอบข้อสอบให้ได้คะแนนมากที่สุด

ภาพประชาสัมพันธ์การอบรมความรู้การจัดทำเว็บไซต์ตอบ ITA ของบริษัทแห่งหนึ่ง

ข้อมูลต้อง ‘เปิด’ อย่างมีคุณภาพ

การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานของราชการเป็นพื้นฐานสำคัญของความโปร่งใสที่เอื้อให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากดำเนินการประเมินด้วยวิธีนี้มา 5 ปี เห็นได้ชัดว่าหลักเกณฑ์ที่ออกแบบไว้ไม่ได้ส่งเสริมให้เกิด ‘ความโปร่งใส’ ดังที่คาดหวังเนื่องจากการประเมินการเปิดเผยข้อมูลของ ITA เพียงแค่ตรวจสอบว่า ‘มี’ การเปิดเผยข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ทว่าไม่มีการประเมิน ‘คุณภาพ’ ของข้อมูลที่เปิดเผย เพื่อพัฒนาให้การประเมินนี้ส่งเสริมความโปร่งใสและเปิดเผยของราชการได้ดียิ่งขึ้น ป.ป.ช.ควรพิจารณาร่วมมือกับหน่วยงานที่มีภารกิจและทรัพยากรในการเปิดข้อมูลภาครัฐมากขึ้น

นอกเหนือจากการตรวจเช็คข้อมูลต่างๆ ที่ ‘มี’ ในเว็บไซต์ การประเมินความโปร่งใสควรพิจารณาไปถึงข้อมูลที่ถูก ‘ปกปิด’ ด้วยว่ามีความสมเหตุสมผลเพียงใด และขัดต่อหลักการ ‘เปิดโดยปริยาย’ (open by default) หรือไม่ โดยอาจประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรง

ปัญหาของคุณภาพข้อมูลเปิดประการต่อมา คือแม้ข้อมูลจำนวนมากจะได้รับการประเมินว่า ‘เปิด’ ทว่าอยู่ในรูปแบบไฟล์ pdf ซึ่งสแกนมาจากเอกสารฉบับจริงอีกต่อหนึ่ง ตัวหนังสือบิดเบี้ยว ไม่คมชัด นำไปใช้งานต่อได้ยากและอาจเกิดความผิดพลาดในการอ่านข้อมูล ทั้งยังขาดคำอธิบายชุดข้อมูล (metadata) ปัญหานี้เกิดจากการที่การประเมิน​ ITA กำหนดให้ทุกหน่วยงานต้องจัดทำเว็บไซต์ขึ้นเอง ซึ่งเป็นภาระต่อหน่วยงานขนาดเล็ก โดยเฉพาะอปท.ระดับตำบลซึ่งนอกจากจะเป็นการลงทุนพัฒนาระบบเว็บไซต์แบบเบี้ยหัวแตก ยังส่งผลให้การเปิดข้อมูลไม่เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันทั้งๆ ที่ไทยมีสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว ทว่ายังมีอำนาจในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ไม่มากนัก ป.ป.ช.ควรใช้ความสำเร็จของ ITA เป็นเครื่องจูงใจให้หน่วยงานต่างๆ ใช้งานระบบข้อมูลเปิดของ DGA แทนที่จะต้องจัดทำขึ้นเองทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลมีมาตรฐานเดียวกันรวมถึงสามารถติดตามผลได้ว่าข้อมูลถูกนำไปใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด

References
1 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (2023)
2 บุญญะโสภิต, กษิดิส. “ส่อง ‘งบต้านโกง’ ไทย ใช้ทำอะไร คอร์รัปชันไม่ลด?” 101 PUB (blog), 2566. https://101pub.org/anti-corruption-budge-2023/.
3 วนิดา สมสวัสดิ์. “การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย”. คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, 2564.
4 ไทยรัฐออนไลน์. “เหลี่ยมโกงคะแนน ITA ล็อก-ลอก-บังมูลทุจริต”. www.thairath.co.th, 2566. https://www.thairath.co.th/news/local/2722703.
5 ข้อมูลจากระบบค้นหาข้อมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) คำนวนโดย 101 PUB

MOST READ

Spotlights

14 Aug 2018

เปิดตา ‘ตีหม้อ’ – สำรวจตลาดโสเภณีคลองหลอด

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย พาไปสำรวจ ‘คลองหลอด’ แหล่งค้าประเวณีใจกลางย่านเมืองเก่า เปิดปูมหลังชีวิตหญิงค้าบริการ พร้อมตีแผ่แง่มุมเทาๆ ของอาชีพนี้ที่ถูกซุกไว้ใต้พรมมาเนิ่นนาน

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Aug 2018

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Social Issues

5 Jan 2023

คู่มือ ‘ขายวิญญาณ’ เพื่อตำแหน่งวิชาการในมหาวิทยาลัย

สมชาย ปรีชาศิลปกุล เขียนถึง 4 ประเด็นที่พึงตระหนักของผู้ขอตำแหน่งวิชาการ จากประสบการณ์มากกว่าทศวรรษในกระบวนการขอตำแหน่งทางวิชาการในสถาบันการศึกษา

สมชาย ปรีชาศิลปกุล

5 Jan 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save