fbpx
เครียดกับทรัมป์ ต้องขอถูกกระทำทางเพศ!

เครียดกับทรัมป์ ต้องขอถูกกระทำทางเพศ!

หลังกระแสต่อต้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของชาวอเมริกันเริ่มซาลงไปจากพาดหัวข่าวและท้องถนน (อาจเป็นเพราะกำลังหาหนทางโค่นผู้นำคนนี้ลงในอีกสี่ปีข้างหน้า – ด้วยระบบประชาธิปไตย) สิ่งที่น่าสนใจคือ พวกเขาจัดการกับภาวะอารมณ์และความเครียดจากสถานการณ์การเมืองอย่างไร ในวันที่ต้อง ‘เอาวะ ทนๆ ไปก่อน’ อย่างตอนนี้

 

ไม่ใช่เรียนแต่งหน้า นั่งสมาธิ ดำน้ำ หรือปลูกปะการัง แต่เป็นการเข้าสู่วงการมาโซคิสต์!

บรรดาเจ้าสำนักดันเจี้ยนแห่งโลก BDSM (ย่อมาจาก Bondage – ความเป็นทาส, Domination – อำนาจที่เหนือกว่า, Sadism และ Masochism) ในสหรัฐอเมริกาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ปริมาณผู้มาติดต่อใช้บริการกิจกรรมโซ่ แส้ กุญแจมือหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งนั้นสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ

แซนดรา ลามอร์เกซ (Sandra LaMorgese) หนึ่งใน Dominatrix หรือผู้รับบท ‘เจ้านาย’ ในนิวยอร์ก ที่พร้อมให้บริการผู้ชอบความเจ็บปวดเพื่อความผ่อนคลายบอกว่า เธอมีลูกค้าหน้าใหม่ๆ เข้ามาติดต่อขอโดนเฆี่ยนเยอะมากในช่วงฤดูกาลเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่น่าสนใจคือเหล่าลูกค้าเก่าๆ ที่คุ้นเคยกันดีก็รีเควสต์ให้เธอ ‘ทำ’ พวกเขาให้รุนแรงมากขึ้นแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อย ท้าทายขอบเขตของตัวเอง

เหมือนว่าความเจ็บปวดแบบเด็กๆ ไม่สามารถทำให้พวกเขาพึงพอใจได้อีกต่อไป บางคนขอให้เธอเล่นจนเลือดออกซิบๆ เลยก็มี!

หรือ Mistress Tiffany แห่งวอชิงตัน ดีซี ก็บอกว่าธุรกิจของเธอโตขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไป โดยเฉพาะหนุ่มๆ วัยไม่ถึง 30 ที่ตบเท้าเข้ามาลองของเป็นครั้งแรก ส่วน Mistress Isis เจ้านายอีกแห่งในแอลเอก็ประหลาดใจกับกลุ่มลูกค้าผู้หญิง ที่นานทีปีหนจะมีเข้ามา แต่หลังจากทรัมป์รับตำแหน่ง พวกเธอก็มาใช้บริการมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ในโลกออนไลน์เอง เว็บไซต์ภาพยนตร์ผู้ใหญ่แนว BDSM ก็มีคนเข้ามาดูเพิ่มมากขึ้นจนเจ้าของเว็บถึงกับประหลาดใจ ที่สำคัญ ประโยคค้นหาหนังโป๊ (หรือบ้างก็ส่งมาขอให้ทำให้ดู) ในเว็บก็รุนแรงมากขึ้น เช่น ‘ตีไข่’ ‘ตบหน้า’ ‘กระทืบ’ พร้อมๆ ไปกับวิดีโอซอฟท์ใสอย่าง ‘ฝึกทาส’ ‘เกมจิตวิทยา’ ที่ก็มีคนมาดูมากขึ้นเช่นกัน

เหล่าผู้ประกอบการตั้งสมมติฐานว่าการที่มีคนเข้ามาลองเป็นทาส โดนใช้ความรุนแรงกับร่างกายของตัวเองในช่วงนี้ เป็นเพราะพวกเขากำลัง ‘ช็อก’ กับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยใช้เซ็กซ์แฟนตาซีนี้เป็นพื้นที่ที่จะปลุกให้ตื่นจากฝันร้าย บางก็เดาว่านี่คือรูปแบบหนึ่งของการประท้วงในระดับบุคคล ที่ยืนยันการเป็นเจ้าของร่างกายของตัวเองมากกว่าจะยอมให้รัฐมาควบคุม ในสังคมที่ดูเหมือนจะถอยหลังลงคลองในความคิด

อย่างไรก็ตาม คำตอบที่เป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งอาจยืนยันได้ด้วยข้อมูลการวิจัยทั้งเชิงจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์

ความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมแบบ BDSM กับระดับความเครียดในร่างกายถูกเปิดเผยในงานวิจัยเชิงข้อมูล Psychological Characteristics of BDSM Practitioners จากวารสารวิชาการ The Journal of Sex Medicine ที่ทำการสำรวจจากคำถามเชิงจิตวิทยากับชาว BDSM เปรียบเทียบกับคนที่มีเซ็กซ์แบบ ‘วานิลลา’ (คือเซ็กซ์แบบใสๆ น่ารักๆ ทั่วไป)

พบว่ากลุ่ม BDSM มีปัญหาด้านอารมณ์และความเครียดน้อยกว่า แถมยังรู้สึกมั่นคงในความสัมพันธ์มากกว่าคนที่มีเซ็กซ์แบบธรรมดา

นอกจากนี้ ในการทดลองเชิงกายภาพ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Northern Illinois ได้ให้แต่ละคนที่รับบทเป็นเจ้านายและทาสในกิจกรรม BDSM มาสุ่มเลือกบทบาท หลังเสร็จกิจ ทีมนักวิจัยให้พวกเขามาทำกิจกรรมทดสอบสมรรถภาพการตอบสนองคำสั่งของสมอง ความจำ ฯลฯ พบว่าคนที่ได้รับบททาสได้คะแนนน้อยกว่าก่อนถูกเชือด แต่คนที่รับบทเป็นเจ้านาย คะแนนจะไม่แตกต่างกัน นั่นหมายความว่าบทบาท ‘ยอมเป็นทาส’ (Submissive) มีผลต่อการตอบสนองของสมอง คล้ายการถูกกระทำความรุนแรงทำให้พวกเขา ‘ขยับ’ ความรู้สึกไปอีกสถานะหนึ่ง ทำให้รู้สึกแฮปปี้ มีความสุขจากการถูกกระทำความรุนแรง

สาเหตุเป็นเพราะกิจกรรมต่างๆ ของ BDSM เช่นการมัดเชือก ปิดตา การตี ล่ามโซ่ ฯลฯ ทำให้เกิดความเจ็บปวด จนเลือดที่ไปเลี้ยงสมองส่วน Frontal Lobe (ส่วนควบคุมการตอบคำถามในการสมรรถภาพสมองที่ว่า) ไม่เพียงพอ บรรดาทาสจึงเกิดความรู้สึก ‘ลอย’ เช่นเดียวกับเวลานักวิ่งรู้สึกลอยๆ ระหว่างการวิ่ง หรือการใช้ยาเสพติดบางอย่างที่มีผลกับสมอง ต่อมานักวิทยาศาสตร์ยังพบอีกว่าระดับฮอร์โมน cortisol ที่ควบคุมเรื่องความเครียดระหว่างกิจกรรมของฝ่ายทาสเพิ่มสูงขึ้น (จากความตื่นเต้นและความกลัว) แต่ก็ลดต่ำลงอย่างมากหลังจบกิจกรรม การเปลี่ยนแปลงที่สูงทำให้ฝ่ายถูกกระทำรู้สึก ‘ลอย’ อย่างที่ว่านั่นเอง

ความรู้สึกแบบลอยๆ ที่ว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บางคนเสพติดเซ็กซ์แฟนตาซีแบบนายและบ่าวแบบนี้ จนไม่น่าแปลกในว่าทำไมในช่วงเวลาที่อเมริกันชนส่วนหนึ่งสุดแสนจะเครียดกับเหตุบ้านการเมือง การหลบหนีความจริงไปทรมานตัวเองเพื่อหาความสุขจึงมี ‘ความสุข’ มากกว่าทนใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่หลายเท่า

ว่าแต่ในประเทศไทย โซ่ แส้ กุญแจมือ และบทบาททาส จะยังช่วยเราได้อยู่หรือเปล่านะ…

 

อ่านเพิ่มเติม

-บทความ Dominatrixes and Porn Sites Report a Huge BDSM Uptick Since Trump Became President ของ Carrie Weisman จาก Vice, March 6, 2017

-บทความ Can Bondage Play Reduce Anxiety? ของ Roni Jacobson จาก Science of Us, February 3, 2015

-งานวิจัย Psychological Characteristics of BDSM Practitioners ของ Andreas A.J. Wismeijer และ Marcel A.L.M. van Assen จาก Wiley Online Library, May 16, 2013

-งานวิจัย Hormonal Changes and Couple Bonding in Consensual Sadomasochistic Activity จาก Springer Science+Business Media, LLC 2008

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

4 Aug 2020

การสืบราชสันตติวงศ์โดยราชสกุล “มหิดล”

กษิดิศ อนันทนาธร เขียนถึงเรื่องราวการขึ้นครองราชสมบัติของกษัตริย์ราชสกุล “มหิดล” ซึ่งมีบทบาทในฐานะผู้สืบราชสันตติวงศ์ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร 2475

กษิดิศ อนันทนาธร

4 Aug 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save