การหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: รายจ่ายซ่อนเร้นของรัฐ

การหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: รายจ่ายซ่อนเร้นของรัฐ

อธิภัทร มุทิตาเจริญ เรื่อง

 

เคยสงสัยกันไหมว่า เวลารัฐบาลให้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) หรือทำโครงการช็อปช่วยชาติ ต้นทุนของมาตรการเหล่านี้มีขนาดเท่าไหร่

โดยปกติเมื่อรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางอย่าง ทางเลือกที่เราคุ้นเคย คือการจัดสรรงบประมาณลงไปในรูปของการใช้จ่าย หรือการให้เงินอุดหนุนต่างๆ แต่อีกช่องทางหนึ่งที่รัฐบาลนิยมใช้ แต่เรามักไม่ได้ตั้งคำถามมากนัก คือการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านระบบภาษี

ตัวอย่างของการให้สิทธิประโยชน์ในกรณีของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่น การอนุญาตให้นำเงินลงทุนใน LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ค่าซื้อสินค้าและบริการในช่วงเวลาที่กำหนด มาหักลดหย่อนภาษีได้ การหักลดหย่อนเหล่านี้ส่งผลให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้ลดลง นักเศรษฐศาสตร์เรียกรายได้ของรัฐที่ลดลงนี้ว่า “รายจ่ายภาษี” (Tax expenditure)

แน่นอนว่าการให้สิทธิหักลดหย่อนแต่ละอย่างมีเหตุผลรองรับ เช่น มาตรการ LTF ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุน และส่งเสริมธุรกิจกองทุนฯ หรือมาตรการที่ให้นำค่าที่พักในโรงแรมมาหักลดหย่อนภาษีก็เพื่อส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

แต่จุดอ่อนที่สำคัญของมาตรการเหล่านี้คือ การสร้างต้นทุนซ่อนเร้นให้แก่ภาคการคลังของประเทศ (Hidden fiscal cost) สาธารณชนแทบไม่ทราบว่าต้นทุนของการหักลดหย่อนเหล่านี้มีมากน้อยขนาดไหน และใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์ ทั้งที่ข้อมูลด้านต้นทุนเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการประเมินความเหมาะสมของมาตรการต่างๆ

ประเทศพัฒนาแล้วหลายแห่งมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนถกเถียงอย่างสร้างสรรค์เรื่องนโยบายการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แต่ในประเทศไทย การถกเถียงเรื่องนี้ทำได้ไม่มากนัก เนื่องด้วยความจำกัดของข้อมูล

ในบทความนี้ ผมสรุปข้อค้นพบสำคัญบางส่วนจากงานวิจัยของตัวเอง เรื่อง “การวิเคราะห์รายจ่ายภาษีสำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมสรรพากรให้ใช้ข้อมูลสุ่ม (Random Sampling) ของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งหมดในปี 2555 โดยงานวิจัยนี้เป็นผลงานในชุดโครงการ “แนวทางการปฏิรูปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและวิเคราะห์การกระจายรายได้ของผู้มีเงินได้พึงประเมิน” ซึ่งมี ศ.ดร. ผาสุก พงษ์ไพจิตร เป็นหัวหน้าโครงการ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)

 

ความท้าทายสำคัญของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคือ ฐานภาษีแคบมาก

 

คุณผู้อ่านทราบไหมว่า จำนวนผู้เสียภาษีจริงๆ ของประเทศไทยมีไม่มากนัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของกำลังแรงงานทั้งประเทศ แต่ตัวเลขที่น่ากังวลมากกว่านั้นคือ อัตราภาษีเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำมากเมื่อเทียบกับอัตราภาษีตามกฎหมาย โดยในปี 2555 อยู่ที่ 4.7% เท่านั้นเอง

ถ้าเราแบ่งผู้เสียภาษีออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน จากระดับรายได้น้อยไปมาก (Quintile) โดยกลุ่ม Q1 คือกลุ่มที่มีรายได้น้อยที่สุด 20% ล่าง และกลุ่ม Q5 คือกลุ่มที่มีรายได้มากที่สุด 20% บน งานวิจัยของผมพบว่าอัตราภาษีเฉลี่ยของกลุ่ม Q1 อยู่ที่ 1.5% ส่วนกลุ่ม Q5 อยู่ที่ 10.7%

ข้อค้นพบนี้สะท้อนความท้าทายที่ว่าฐานภาษีของไทยแคบมาก ทั้งนี้เนื่องจากการให้สิทธิการหักค่าลดหย่อน และการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ

 

รูปที่ 1 จำนวนผู้เสียภาษี และอัตราภาษีเฉลี่ยตามกลุ่มรายได้ของผู้เสียภาษี (2555)

 

 

ภายใต้กฎหมายภาษีปัจจุบัน รายจ่ายภาษีทั้งหมดมีขนาดรวมประมาณ 110,000 ล้านบาท หรือ 0.7% ของ GDP ในปี 2560

 

ในหลักปฏิบัติสากลนั้น “รายจ่ายภาษี” มักหมายรวมถึง รายได้ของรัฐที่ลดลงเนื่องจากการให้สิทธิประโยชน์ หรือการดำเนินมาตรการต่างๆ ผ่านระบบภาษี ในบริบทของกฎหมายภาษีไทย ผมกำหนดให้ “รายจ่ายภาษี” หมายถึง รายได้ของรัฐที่ลดลงเนื่องจากการให้สิทธิการหักค่าลดหย่อน และเงินสะสมต่างๆ ออกจากการคำนวณภาษี

ผมสร้างแบบจำลอง Microsimulation โดยใช้ข้อมูลสุ่มของผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งหมดในปี 2555 เพื่อประมาณการรายได้และภาระภาษีของประชาชนภายใต้กฎหมายภาษีปัจจุบัน พบว่า รายจ่ายภาษีรวมมีขนาดประมาณ 110,000 ล้านบาท หรือ 0.7% ของ GDP ในปี 2560 โดยองค์ประกอบที่น่าสนใจคือ การหักลดหย่อนที่เกี่ยวข้องกับการออมและการลงทุน รวมกันแล้วมีขนาดประมาณ 50,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 45% ของรายจ่ายภาษีทั้งหมด ตัวอย่างสำคัญของการหักลดหย่อนในหมวดนี้ คือ LTF RMF และประกันชีวิต

เพื่อให้เห็นภาพขนาดความสำคัญของรายจ่ายภาษี จึงขอเปรียบเทียบรายจ่ายภาษีกับรายได้และรายจ่ายอื่นๆ ของรัฐ ซึ่งพบว่า รายจ่ายภาษีคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ของรายได้จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งหมดในปี 2560 และมีขนาดใกล้เคียงกับงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรให้กับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปีเดียวกัน (123,466 ล้านบาท) ตัวเลขรายจ่ายภาษีที่ค่อนข้างสูงนี้ชี้ว่าสาธารณชนไม่ควรปล่อยปละละเลยเวลาที่รัฐบาลประกาศจะทำมาตรการช็อป-เที่ยวช่วยชาติ หรือแจกสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่นๆ

 

รูปที่ 2 รายจ่ายภาษีภายใต้กฎหมายปัจจุบันและองค์ประกอบสำคัญ (2560)

 

ต้นทุนของการลดหย่อนภาษีส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่คนรวย

 

คำถามสำคัญที่ตามมาคือ ใครคือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการหักลดหย่อนภาษี

งานวิจัยของผมพบว่า กว่า 67% ของรายจ่ายภาษีเป็นของผู้เสียภาษีในกลุ่ม Quintile รายได้สูงสุด (Q5) และ 30% ของรายจ่ายภาษีทั้งหมดเป็นของผู้ที่มีรายได้สูงสุด Top 5% ส่วนหนึ่งของการกระจุกตัวนี้มาจากการที่ผู้มีรายได้สูงจะอยู่บนขั้นบันไดภาษีสูงกว่าผู้มีรายได้น้อย ทำให้การหักลดหย่อนหนึ่งบาทของผู้ที่มีรายได้สูงมีต้นทุนต่อรัฐสูงกว่าของผู้มีรายได้น้อย

อย่างไรก็ตาม ในมิติของการกระจายเม็ดเงินต้นทุนนี้ เราสามารถแบ่งการลดหย่อนได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ

กลุ่มแรก คือ RMF และ LTF มากกว่า 90% ของรายจ่ายภาษีในกลุ่มนี้เป็นของคนรายได้สูงในกลุ่ม Q5

กลุ่มที่สอง คือ การลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินประกันชีวิต และดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน และการบริจาค สำหรับรายจ่ายภาษีในกลุ่มที่สอง คนรายได้ระดับกลางเป็นเจ้าของส่วนแบ่งรายจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ผ่านมา กลุ่มคนรายได้สูงได้รับประโยชน์มากกว่ากลุ่มคนรายได้ปานกลางและต่ำอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกรณีเงินลงทุนใน LTF และ RMF  ความแตกต่างดังกล่าวทำให้การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีส่งผลต่อคนแต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน โดยเฉพาะในมิติการกระจายรายได้

 

รูปที่ 3 การกระจายของรายจ่ายภาษีตามกลุ่มรายได้ของผู้เสียภาษี (2560)

 

รูปที่ 4 การกระจายของรายจ่ายภาษีที่สำคัญตามกลุ่มรายได้ของผู้เสียภาษี (2560)

 

ในปัจจุบัน สังคมไทยหรือแม้กระทั่งรัฐบาลเองมีความรู้น้อยมากเกี่ยวกับต้นทุนของมาตรการทางการคลังต่างๆ  ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนทางการคลังควรจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่คนไทยควรจะได้รับรู้ การเปิดเผยข้อมูลรายจ่ายภาษีจะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนถกเถียงเรื่องนโยบายภาษีกันอย่างสร้างสรรค์ และช่วยเพิ่มความรับผิดชอบทางการคลังให้แก่รัฐบาล

ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องเปิดเผยตัวเลขต้นทุนของการลดหย่อนภาษีต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบกันเสียที

MOST READ

Economy

15 Mar 2018

การท่องเที่ยวกับเศรษฐกิจไทย

พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ตั้งคำถาม ใครได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวบูม และเราจะบริหารจัดการผลประโยชน์และสร้างความยั่งยืนให้กับรายได้จากการท่องเที่ยวได้อย่างไร

พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย

15 Mar 2018

Economy

29 Nov 2023

ถอดบัญญัติธรรมนูญ ‘จิราธิวัฒน์’ ไม่มีวิกฤตใดที่ฝ่าไปไม่ได้ : ทศ จิราธิวัฒน์

สำรวจธรรมนูญ ‘จิราธิวัฒน์’ 76 ปีของอาณาจักรเซ็นทรัลในฐานะหลอดเลือดใหญ่ของภาคธุรกิจไทย 101 สนทนากับ ทศ จิราธิวัฒน์ ทายาทรุ่นที่สามของตระกูล ผู้มุ่งหมายอยากพาเซ็นทรัลและประเทศไทยไปเฉิดฉายบนเวทีโลก

กองบรรณาธิการ

29 Nov 2023

Economy

31 Jul 2023

เปิดเหลี่ยมมุม ‘service charge’ และ ‘ราคาบวกๆ’ เมื่อผู้บริโภคต้องจ่ายค่าบริการที่ไม่ได้บริการ(?)

ราคาบวกๆ มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการอย่างไร ในความเป็นจริงนั้นเรามีสิทธิไม่จ่ายค่า service charge หรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความนี้

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

31 Jul 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save