อุทิศ เหมะมูล เรื่อง
เมื่อคุณมีเรื่องอยากเปิดใจกับคนชิดใกล้ คุณพูดในใจตลอดหลายวัน ‘มีเรื่องอยากบอกนะ’ ‘คิดว่าจำเป็นต้องบอก’ ‘คุณควรเป็นคนแรกที่ได้รู้’
คนใกล้ที่ควรได้รู้เป็นคนแรก ก่อเกิดระยะยะเยือกเป็นมวลมหาศาล ห่อหุ้มสิ่งที่คุณอยากบอก ขยายและพองออก แนบเบียดและถ่างความสัมพันธ์คนชิดใกล้ของคุณทั้งสอง
แน่นอก คับใจ อึดอัดจนหายใจไม่คล่อง มีบางสิ่งมาแย่งคุณหายใจ อากาศถูกดูดออกไป ความไม่สัมพันธ์กันระหว่างใกล้และห่าง จังหวะและกาล สร้างพื้นที่มหึมารู้สึกทั้งห่างไกลอ้างว้างและแน่นใกล้เกินไปจนหายใจไม่ออกพร้อมๆ กัน
และนี่คือจุดกำเนิด มวลที่ไร้รูป พลังงานที่มองไม่เห็น พื้นที่ซึ่งโปร่งแสง สังหรณ์ซึ่งทำขนอ่อนคุณลุกตั้ง คุณมองหน้าเธอ อยากทิ้งทอดระยะของเรื่องที่อยากบอก เธอมองหน้าคุณ อยากให้ ‘รีบบอกๆ มา’ หรือ ‘เรามาลืมเรื่องนี้กันเถอะ’ คุณไม่แน่ใจ
ก่อนคลื่นคลั่ง ท้องทะเลเรียบนิ่งผิดสังเกต เมื่อสีท้องฟ้าสวยแปลกกว่าทุกวัน ฝูงมดผุดจากดินย้ายรัง… เป็นเช่นนั้น มีเภทภัยอยู่ลิบไกลแต่กำลังใกล้เข้ามา มีสิ่งที่คุณอยากบอกอยู่ในใจ – เป็นเภทภัยเช่นกัน – กระทำอันตรายต่อความสัมพันธ์ของพวกคุณสองคน
ระหว่างเภทภัยที่ฟาดเปรี้ยงลงมาให้จบๆ ไป กับรั้งหน่วงตั้งเค้ารัดบีบใจทอดระยะไปเรื่อยๆ เหมือนยังไม่เกิดความเสียหาย ระยะยะเยือกอาจกัดกร่อนความสัมพันธ์ของพวกคุณจนแตกเสี้ยว คุณกับเธอกำลังจมลง จมลงอยู่ข้างใน สังหรณ์และตั้งเค้ากระหน่ำใส่ ตั้งมั่นและนิ่งเช่นนั้น หัวเข่าแทบชนกัน ชิดใกล้กันเช่นนั้น แต่คุณเห็นเธอเป็นแผ่นดินและคุณเป็นเกาะ ต่างมองฝ่าม่านมรสุมจากที่แสนไกล ไกลจากกันและกัน
The Atlantic was born today, and I’ll tell you how*
The clouds above opened up and let it out
I was standing on the surface of a perforated sphere
When the water filled every hole
And thousands upon thousands made an ocean
Making islands where no island should go
Oh, no
“เราไม่ใช่ของกันและกันตั้งแต่แรก” คุณเริ่มเช่นนี้ เราต่างเริ่มที่ตั้งมั่นในตัวเอง และขยายความเป็นไปไม่ได้ออกไป ชิดและชนอีกคน ยิ่งอยู่ใกล้ชิดยิ่งต้องการระยะ ตอนไม่เอ่ยปากพูดระยะนั้นเหมือนอากาศ เคลื่อนไหวล่องหนจนไม่ทันสังเกตว่ามี แต่พอพูดกลับกลายเป็นกำแพงโปร่งแสง ถ้อยคำนั้นสร้างกำแพงและแปลงเปลี่ยนความหมายของตัวมันเอง
ตอนที่คุณทั้งสองยังอยู่ห่างกันกว่านี้ ตอนเพิ่งรู้จักกัน ความเป็นไปได้ไหลเวียนเป็นอากาศ การบังเอิญประสบพบกันตามงานและสถานที่ต่างๆ ดูมีความหมายเหลือเกิน ดึงคุณสองคนให้ชิดและแนบ และใช่ไปหมด – สำหรับสองคน
คุณโดยสารรถไฟฟ้าจากอีกฝั่งของเมืองไปยังจุดนัดพบเธอ คอฟฟี่ช้อป ร้านอาหาร ที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งหน้าบ้านเธอ ความพยายามที่แสนเต็มใจ จากห่างไกลเป็นใกล้ ความน่าประทับใจของการทำสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เป็นไปได้
ตัวตนของคุณสองคนเป็น ‘เรา’
นี่คือเรา ของของเรา สถานที่ของเรา ความบังเอิญของเรา
Most people were overjoyed, they took to their boats
I thought it less like a lake and more like a moat
The rhythm of my footsteps crossing flatlands to your door…
ตอนนี้คุณไม่ย่างกรายไปในสถานที่ (ของเรา) เหล่านั้นอีกแล้ว คอฟฟี่ช้อป ร้านอาหาร ที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งหน้าบ้านเธอ ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์หรือเหตุผลใดที่คุณถนอมประคองไว้ จะถูกถามกลับว่า “ทำไปเพื่ออะไร ต้องการอะไร”
ครั้งหนึ่งคุณเคยยืนอยู่ตรงนั้น นานค่อนวัน ตามตารางเวลาที่คุณเคยรู้จักเธอ ไม่มีอีกแล้วความบังเอิญ สังหรณ์ที่เคยต้องตรงกัน เธออยู่ตรงนั้น ใกล้จนชิด แต่คุณไม่อาจเห็น ไกลห่างทั้งๆ ที่ใกล้อย่างแท้จริง
The rhythm of my footsteps crossing flatlands to your door
Have been silenced forevermore
The distance is quite simply much too far for me to row
It seems farther than ever before
คุณฝันถึงเธอเกือบทุกคืน แทรกอยู่ในเรื่องราวร้อยพันในความฝัน เหมือนภาพกะพริบ หยุดชะงัก คุณฝันว่าเธอปรากฏ ทักทายมา ฝันว่าเธอเป็นห่วงคุณ ทั้งๆ ที่คุณเองนั่นแหละเป็นห่วงเธอ ความรู้สึกของคุณย้ายไปอยู่ในตัวเธอ ตัวเธอที่คุณสร้างขึ้น เพื่อปลุกปลอบตัวเอง
ในอีกพื้นที่และกาล ยังคงมี ‘เรา’ ระหว่างแผ่นดินกับเกาะแก่ง คุณชอบคิดและฝัน ว่าอยู่ในกระแส ในห้วงมหรรณพ เดินทางข้ามสมุทรเพื่อจะได้พบเธอ บางทีอาจไม่พบ แต่ขอให้ได้เดินทางข้ามมหรรณพ ฝ่าระยะยะเยือกแข็ง
‘มีเรื่องอยากบอกนะ’ ‘คิดว่าจำเป็นต้องบอก’ ‘คุณควรเป็นคนแรกที่ได้รู้’ คุณพูดในใจระหว่างเดินทาง
และถ้าหากโชคดีได้พบเธอ – เตรียมใจไว้ด้วยนะ – เพราะคุณอาจจังงัง จนถ้อยคำที่เตรียมมาอยู่ดีๆ ก็หายวับ เลือกระหว่างถ้อยคำเนื้อๆ ตรงประเด็น หรือควรรอจังหวะ บรรยากาศที่เหมาะใจกว่านี้ เพราะบางทีคุณอาจฝ่าข้ามมหาสมุทรมา แต่กลับเอ่ยได้แค่ว่า ‘สวัสดี’ แล้วละล่องกลับลำพัง
I need you so much closer
I need you so much closer
I need you so much closer…
จนถึงตอนนี้คุณได้สร้างระยะยะเยือกขึ้นมาเอง และรำพันถึงเธอ ซึ่งห่างไกล ระหว่างทางไปและกลับ
‘ไม่ใช่ว่าอยากยื้อให้เราย้อนกลับ แต่คือการเริ่มต้นใหม่’ ผิวมหาสมุทรราบเรียบว้างไกล
ไม่มีเวลาไหนอยากอยู่ใกล้เธอ เท่าตอนนี้เลย…
*เนื้อเพลง Transatlanticism จากวงดนตรีร็อกอเมริกันนาม Death Cab for Cutie