ลลิตตา สุริยาอรุณโรจน์ เรื่อง
กฤตพร โทจันทร์ ภาพประกอบ
จากเหตุการณ์กองทัพลิงปะทะกันเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่ใจกลางเมืองลพบุรี อันเป็นผลมาจากอากาศร้อน นักท่องเที่ยวลดลง และขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะปัจจัยอย่างหลังที่เป็นประเด็นให้เกิดการปะทะกันเพื่อแย่งชิงอาหาร สะท้อนให้เห็นว่า ในปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาประชากรลิงหนาแน่นในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงทางสุขภาพต่อมนุษย์
นอกจากเชื้อโรคจากลิงอาจถูกส่งต่อมาสู่คนแล้ว การที่แหล่งอาศัยของลิงทับซ้อนกับคนก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่คนจะถูกลิงกัด ข่วน ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อจากทั้งคนสู่ลิงและจากลิงสู่คน ดังนั้น ข้อแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับการปฏิบัติตนต่อลิง จึงอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันและบรรเทาปัญหา
1. อย่าให้อาหารลิง
เช่นเดียวกับสัตว์จรจัดอื่นๆ การให้อาหารลิงจรจัด ลิงวัด ลิงตึกอาจจะดูเหมือนเป็นการทำทาน แต่ในขณะเดียวกันนั้นส่งผลร้ายอย่างยิ่งในระยะยาว ด้วยลิงได้รับอาหารเพียงพอ จึงขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วผลนั้นก็สะท้อนกลับมายังมนุษย์ (ในทางตรงกันข้าม เราควรจะมีการสนับสนุนให้ควบคุมและลดจำนวนประชากรของสัตว์จรจัด)
นอกจากนี้ การให้อาหารลิงยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะถูกลิงทำร้าย และอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้ลิงเริ่มทำร้ายกันเองเพื่อแย่งชิงอาหารนั้น ดังนั้น การให้อาหารสัตว์จรจัดนอกจากจะไม่ช่วยให้ความเป็นอยู่ของสัตว์ดีขึ้นแล้ว ยังส่งผลเสียต่อคนที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่นั้นๆ อีกด้วย
2. อย่าจ้องตาลิง
อย่าจ้องตาลิง รวมถึงยิ้มหรือหัวเราะ (ที่ทำให้เห็นฟัน) เนื่องจากลิงมีพฤติกรรมในการขู่ผู้รุกรานหรือคู่ต่อสู้ด้วยการจ้องตา อ้าปาก และยิงฟัน ซึ่งในมุมมองของมนุษย์จะเข้าใจผิดได้ว่าลิงกำลังยิ้ม แต่หากเราจ้องตาและยิ้มให้ลิง ลิงจะตีความว่าเรากำลังท้าทายและอาจจู่โจมเรากลับมาได้ ดังนั้น จึงควรที่จะหลีกเลี่ยงการสบตากับลิงที่ไม่คุ้นเคยโดยตรง อย่าโชว์ฟัน และอย่าส่งเสียงดัง ซึ่งเป็นการรุกรานและท้าทายลิง
3. อย่าแกล้งหยอกล้อหรือท้าทายลิง
ลิงเป็นสัตว์ป่าและมีสัญชาตญาณป้องกันตัว หากเจอคนที่ไม่คุ้นเคย หรือตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในอันตราย ลิงจะปกป้องตัวเองและตอบโต้ที่ทำให้เราบาดเจ็บถึงชีวิตได้
4. อย่าขยับตัวบ่อยและเร็วเกินไป
การขยับตัวอย่างรวดเร็วและบ่อยจนเกินไปจะทำให้ลิงรู้สึกไม่ปลอดภัยและทำให้เราเป็นจุดสนใจ พยายามเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และมั่นคง ในจังหวะที่ทำให้ลิงสามารถค่อยๆ มองตามได้ และไม่รู้สึกว่าถูกรุกรานมากเกินไป
5. อย่าแสดงท่าทีหวาดกลัว
ด้วยขนาดของร่างกายของมนุษย์ที่ตัวใหญ่กว่าลิง ทำให้ลิงรู้สึกประหม่าโดยธรรมชาติอยู่แล้ว (แต่ลิงที่คุ้นชินกับคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิงที่เคยทำให้คนกลัวได้ จะเป็นข้อยกเว้น) ลิงจะสัมผัสได้ถึงความกลัว ความมั่นใจของเรา ดังนั้น อย่าแสดงท่าทีหวาดกลัว ทำตัวให้ใหญ่ อกผายไหล่ผึ่ง เคลื่อนไหวอย่างมั่นคง
ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์จำเป็น สามารถตะโกนกลับด้วยเสียงดังและทุ้ม ยกมือขึ้นด้วยก็ได้ (หรือถ้ามีไม้หรือวัตถุที่เป็นด้ามยาวๆ ยิ่งดี) หากมีอาหารในมือ ให้โยนไปไกลๆ เพื่อดึงความสนใจ แล้วรีบหาจังหวะค่อยๆ หลบออกมา (แต่อย่ากรี๊ดแล้วหันหลังวิ่งหนีเด็ดขาด)
6. ลิงพยักหน้าอาจจะหมายถึงการ say no
ลิงบางชนิดแสดงการไม่ยอมรับด้วยการพยักหน้า หากเห็นลิงพยักหน้า อย่าเพิ่งตีความว่าลิงตอบรับข้อเสนอของคุณ
หากโดนลิงกัด ข่วน หรือสัมผัสโดนสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระ ให้ล้างบริเวณแผลหรือบริเวณที่สัมผัสสารคัดหลั่งด้วยน้ำสบู่ (ใช้แบบที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อยิ่งดี) เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที และพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที แบคทีเรียหรือไวรัสที่ได้รับจากลิงอาจส่งผลถึงชีวิตได้
ด้วยความห่วงใย จากศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อ.แก่งคอย จ.สระบุรี)
อ้างอิง
[1] นักวิจัยทางด้านประสาทวิทยาศาสตร์และพฤติกรรมลิง
https://www.tripsavvy.com/staying-safe-around-monkeys-1458522
https://www.livescience.com/15309-humanlike-behaviors-primates.html
https://slate.com/news-and-politics/2007/10/what-to-do-if-you-re-attacked-by-monkeys.html