ภาษีลาเต้กับแก้วกระดาษเจ้าปัญหา

ภาษีลาเต้กับแก้วกระดาษเจ้าปัญหา

กรณิศ ตันอังสนากุล เรื่อง

 

เมื่อปีที่ผ่านมามีการถกเถียงกันอย่างจริงจังเรื่องแก้วกระดาษเจ้าปัญหาในสหราชอาณาจักร  แก้วที่ว่านี้ก็คือแก้วใส่กาแฟที่ทำจากกระดาษแบบเดียวกับที่เป็นภาชนะบรรจุกาแฟร้อนเมื่อเราสั่งแบบ to go นั่นเอง

การศึกษาในประเทศอังกฤษพบว่าตั้งแต่เริ่มศตวรรณที่ 21 หรือไม่ถึง 20 ปีที่ผ่านมานี้ จำนวนร้านกาแฟเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า และกาแฟแบบที่เราสามารถซื้อกลับบ้านได้ก็มีวางขายอยู่ทั่วทุกที่ ทั้งในร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมัน ทำให้แก้วกาแฟประเภทนี้กลายเป็นขยะกว่า 2.5 พันล้านชิ้นต่อปี อันที่จริงแล้วชาวอังกฤษมิได้เพิกเฉยกับการสร้างขยะ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการลดขยะมากทีเดียว แต่เหตุที่แก้วกระดาษกลายเป็นขยะมหาศาลเป็นเพราะความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสามารถในการย่อยสลายและรีไซเคิลเสียมากกว่า

 

นั่นเป็นเพราะว่าแก้วกระดาษที่มองเผินๆ ก็น่าจะย่อยสลายหรือนำไปรีไซเคิลได้ไม่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์กระดาษอื่นๆ แท้จริงแล้วด้านในของแก้วเคลือบด้วยพลาสติกบางๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติสำหรับการบรรจุเครื่องดื่ม ทำให้จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษในการแยกกระดาษออกจากพลาสติกที่ว่านี้ก่อนนำไปรีไซเคิล ขณะที่ในสหราชอาณาจักรเองมีโรงงานที่สามารถทำได้อยู่เพียงสามแห่งเท่านั้น ทำให้แก้วกระดาษชนิดนี้เกือบทั้งหมดผสมปนเปอยู่ในถังขยะตามท้องถนนและอาคารสำนักงานร่วมกับขยะรอการรีไซเคิลประเภทอื่นๆ ยังไม่รวมถึงหลอดกระดาษที่มีการเคลือบพลาสติก ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคและร้านค้าเข้าใจผิดว่าได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้

การสำรวจผู้บริโภคในปี 2011 พบว่าผู้บริโภค 8 จาก 10 คน มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าแก้วกาแฟที่ทำจากกระดาษนี้ถูกนำไปรีไซเคิล และผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็มีความตั้งใจที่ดีในการทิ้งแก้วชนิดนี้ลงถังสำหรับขยะรีไซเคิลอีกด้วย จริงอยู่ที่ในทางเทคนิคแล้วแก้วชนิดนี้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ แต่ทางปฏิบัติกลับตรงกันข้าม แก้วเหล่านี้ถูกนำไปรีไซเคิลเพียง 0.25% (หรือจาก 400 มีเพียง 1 แก้วเท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล)

ขณะที่ผู้ผลิตกระดาษรีไซเคิลรายหนึ่งให้ความเห็นว่าโรงงานของเขามีศักยภาพในการรีไซเคิลแก้วกระดาษ 500 ล้านแก้วต่อปี แต่ขยะชนิดนี้มิได้ถูกจัดเก็บและลำเลียงมาสู่โรงงานอย่างเหมาะสม จึงนับได้ว่าระบบจัดเก็บคือองค์ประกอบที่ไม่สมบูรณ์ของระบบจัดการขยะนั่นเอง บรรจุภัณฑ์ที่ระบุว่าสามารถรีไซเคิลได้แท้จริงแล้ว จะมีประโยชน์เมื่อถูกจัดเก็บไปสู่สถานที่จัดการขยะที่พร้อมไปด้วยเครื่องมือที่เหมาะสมเท่านั้น ด้วยเหตุนี้การโยนแก้วกาแฟลงถังขยะเฉยๆ จึงไม่ช่วยอะไร

ขั้นตอนที่ยากในการรีไซเคิลแก้วกระดาษก็คือการแยกพลาสติกออกจากใยกระดาษ โรงงานส่วนใหญ่มิได้ลงทุนในเครื่องจักรเพื่อแยกเคลือบพลาสติกเป็นการเฉพาะ เนื่องจากแก้วกระดาษนั้นคิดเป็นเพียง 1% ของขยะบรรจุภัณฑ์ในสหราชอาณาจักรเท่านั้น นอกจากนี้โรงงานรีไซเคิลกระดาษทั่วไปมักปฏิเสธบรรจุภัณฑ์ที่ปนเปื้อนอาหารและเครื่องดื่ม ดังนั้นความรู้ในการจัดการขยะเบื้องต้นจึงสำคัญไม่แพ้ระบบการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพ

งานวิจัยเมื่อปลายปี 2016 ทดสอบการส่งเสริมการใช้แก้วแบบนำกลับมาใช้ใหม่ พบว่าการเก็บเงินแก้วแบบใช้แล้วทิ้งเพิ่มขึ้น 25 เพนนี (ราวๆ 10-11 บาท) ทำให้มีการใช้แก้วแบบนำกลับมาใช้ใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่การให้ส่วนลดเมื่อนำแก้วไปเอง (ซึ่งเป็นนโยบายที่ร้านกาแฟอย่าง Starbucks และ Costa ใช้อยู่) กลับไม่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากมายนัก

ผู้บริโภคอย่างเรามักจะอ่อนไหวกับการเสียเงินมากกว่าการได้ส่วนลด ในทางทฤษฎีความทุกข์ใจจากการสูญเสียของสิ่งหนึ่งจะรุนแรงกว่าความสุขใจหากได้ของสิ่งเดียวกันนั้นมาถึงสองเท่า นั่นหมายความว่าหากมีภาษีลาเต้ (Latte levy) เก็บค่าแก้วกาแฟ 25 เพนนีแล้ว ผู้บริโภคจะรู้สึกสูญเสียรุนแรงกว่าการได้รับส่วนลด 25 เพนนี จากการนำแก้วส่วนตัวไปใช้ นอกจากนี้คนเรายังมีความรู้สึกที่ผูกติดกับราคาที่เราคุ้นเคยกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษีที่ทำให้เราต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น เราจะใช้ความพยายามเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกสูญเสียจากการจ่ายแพงขึ้น ซึ่งความพยายามนี้จะมากกว่าความพยายามเพื่อจะได้ส่วนลดในจำนวนเดียวกันถึงสองเท่า ด้วยเหตุนี้การเก็บค่าแก้วกระดาษจึงดูจะมีประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ดีกว่าการให้ส่วนลด โดยงานวิจัยเสนอว่าการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษีแก้วกระดาษจะช่วยลดปริมาณขยะชนิดนี้ลงได้ถึง 300 ล้านชิ้นต่อปี

นอกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในคณะกรรมการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมจะพยายามผลักดันภาษีลาเต้เพื่อลดขยะ ลดมลภาวะ และตอบสนองกับเป้าหมายความยั่งยืนของสหประชาชาติแล้ว ยังเสนอให้รัฐบาลตั้งเป้าหมายในการรีไซเคิลแก้วกาแฟให้ได้ 100% ภายในปี 2023 หากไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ตามเป้าหมายก็สมควรที่จะยกเลิกการใช้แก้วกระดาษเจ้าปัญหาไปเสียเลย ที่มาของข้อเสนอส่วนหนึ่งเป็นเพราะความสำเร็จจากการเก็บภาษีค่าถุงพลาสติกเมื่อปี 2015 โดยการเก็บค่าถุงใบละ 5 เพนนี (ประมาณ 2-3 บาท) ทำให้การใช้ถุงพลาสติกลดลงมากกว่า 80%

อย่างไรก็ดี ทั้งภาษีลาเต้และข้อเสนอให้ยกเลิกการใช้แก้วกระดาษก็ยังไม่ผ่านการเห็นชอบของรัฐบาล ซึ่งภาครัฐให้เหตุผลว่าเป้าหมายที่ดีควรท้าทายแต่เป็นไปได้ การตั้งเป้าหมายรีไซเคิลแก้วกระดาษให้ได้ทั้งหมดคงไม่ใช้เป้าหมายที่จะสามารถทำได้ (ภายในปี 2023) เพราะอย่างไรเสียภาชนะก็ต้องมีการปนเปื้อน ทั้งจากเครื่องดื่มเองหรือจากขยะชนิดอื่นที่รวมกันมา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการนำไปรีไซเคิล

แม้จะไม่ถูกนำมาบังคับใช้ทางกฎหมาย แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks ประกาศมาตรการจัดการกับแก้วกาแฟที่ว่านี้ โดยจะทดลองเก็บค่าแก้วกระดาษ 5 เพนนี ใน 35 สาขาทั่วกรุงลอนดอนเป็นเวลา 3 เดือน โดยเงินที่ได้จากการเก็บค่าแก้วนี้จะบริหารจัดการโดย Hubbub องค์กรการกุศลเพื่อทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคจากการมาตรการเก็บค่าแก้วนี้ ขณะที่ Starbucks เองได้ใช้มาตรการมอบส่วนลดเมื่อนำแก้วไปเองมานานกว่า 20 ปี แต่กลับสร้างการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก มีผู้บริโภคนำแก้วไปเองไม่ถึง 2%

แม้ว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่แห่งนี้จะมิใช่ตัวการเพียงแห่งเดียว แต่มักเป็นเป้าหมายของการเรียกร้องรณรงค์อยู่เสมอ

Starbucks ใช้แก้วกาแฟทั้งกระดาษและพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทั่วโลกคิดเป็น 1% จาก 6 แสนล้านชิ้นต่อปี (หรือ 6 พันล้านแก้ว) ซึ่งเกือบทั้งหมดจบลงที่การฝังกลบหรือปนเปื้อนลงสู่ทะเล Starbucks ประกาศว่ามิได้นิ่งนอนใจกับปัญหานี้ และให้คำมั่นดำเนินการตามเป้าหมายความยั่งยืน ล่าสุดบริษัททุ่มเงิน 10 ล้านดอลลาร์ ร่วมลงทุนกับ Closed Loop Partnersพัฒนาแก้วกาแฟที่สามารถรีไซเคิลได้และย่อยสลายได้ทั้งหมด โดยตั้งเป้านำออกสู่ตลาดภายใน 3 ปี นอกจากนี้ยังสนับสนุนโครงการวิจัยและพัฒนาวัสดุทำจากพืชที่ย่อยสลายได้มาแทนพลาสติกเคลือบด้านในของแก้วอีกด้วย บริษัทเชื่อว่าการพัฒนาวัสดุบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ และการยกระดับกระบวนการรีไซเคิลและโครงสร้างพื้นฐานจะมีผลกระทบอย่างมากและยาวนานขึ้นเมื่อเทียบกับมาตรการอื่นๆ ที่เสนอเช่นการชาร์จหรือเก็บภาษีในแก้วแบบใช้แล้วทิ้ง

 

ระหว่างนี้ คอกาแฟก็คงต้องช่วยกันลดขยะจากการบริโภคกันไปก่อน เช่นเดียวกับการลดการใช้ถุงพลาสติกและหลอดพลาสติก เพราะหากคนส่วนใหญ่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและบอกเลิกความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนกับพลาสติกใช้แล้วทิ้ง การจะมีหรือไม่มีภาษีลาเต้ก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญ อีกต่อไป

 

อ้างอิง

https://www.independent.co.uk/news/business/news/starbucks-5p-coffee-cup-charge-public-reaction-latte-levy-video-a8236826.html

https://www.independent.co.uk/news/uk/politics/latte-levy-disposable-coffee-cups-ban-recycling-government-pollution-plastic-a8246246.html

https://www.independent.co.uk/news/business/news/coffee-cup-charge-plastic-bag-fee-to-cut-use-disposable-cardiff-university-study-recycling-a7657401.html

https://qz.com/1173081/the-behavioral-economics-that-explain-why-we-need-a-tax-on-disposable-coffee-cups/

https://www.nytimes.com/2018/01/05/world/europe/uk-coffee-cup-tax.html

https://www.independent.co.uk/environment/disposable-coffee-cups-how-big-problem-environment-landfill-recycling-incinerate-export-rubbish-a8142381.html

https://www.refinery29.com/2018/03/194206/starbucks-recyclable-coffee-cups

https://www.businessgreen.com/bg/news/3023849/starbucks-teams-up-with-hubbub-to-trial-five-pence-cup-charge

MOST READ

Social Issues

21 Jan 2025

101 Academy 2025 สมัครเรียนรู้หลักสูตรสื่อ-วิจัย-ครีเอทีฟดีไซน์สไตล์ 101 ได้ที่นี่!

หลักสูตรเรียนรู้การทำสื่อ การทำวิจัยนโยบายสาธารณะ และการทำงานครีเอทีฟดีไซน์ สไตล์ 101

กองบรรณาธิการ

21 Jan 2025

Social Issues

29 Apr 2024

‘ไม่เรียน ไม่ทำงาน ไม่มีความฝัน(?)’ ชีวิตที่ผ่านพ้นแบบวันต่อวันของเด็ก NEET

101 ชวนสำรวจชีวิตของเด็กนอกระบบการศึกษา นอกตลาดแรงงาน และไม่ได้รับการฝึกอบรม (NEET) ผู้อาศัยในชุมชนใจกลางเมืองกรุงเทพฯ

ภาวรรณ ธนาเลิศสมบูรณ์

29 Apr 2024

Social Issues

19 Jan 2023

เปิดสถิติเรียนพิเศษนักเรียนไทย: เมื่อโรงเรียนไม่อาจพาเด็กไปถึงฝั่ง

คิด for คิดส์สำรวจสถิติการเรียนพิเศษของนักเรียนไทย จำนวน 12,999 คน จากข้อมูลการสำรวจเยาวชนไทย 2022 ที่มุ่งสำรวจความรับรู้ คุณค่า และทัศนคติของเยาวชนไทย ซึ่งรวมไปถึงประเด็นด้านการศึกษาและการเรียนพิเศษ

สรวิศ มา

19 Jan 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save