“การรับราชการทหารเป็นหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของความยุติธรรม”
คือคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้ หลังให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นการแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อกรณีการพิจารณาละเว้นการเกณฑ์ทหารกับศิลปินวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งเข้าสู่การประชุมในสภามาแล้ว 5 ปี นับตั้งแต่ BTS วงบอยแบนด์เกาหลีสร้างชื่อเสียงระดับโลก
แม้วัฒนธรรมป็อปเกาหลีจะก้าวหน้าระดับสากล แต่หลายครั้งศิลปินหรือนักแสดงชายที่เป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมเดินไปข้างหน้าต้องหายหน้าหายตาจากวงการไป 1-2 ปีเพื่อปฏิบัติตามข้อบังคับการฝึกทหารที่มีขึ้นมาตั้งแต่ปี 1957 เนื่องจากเกาหลีใต้อยู่ในภาวะสงครามกับเกาหลีเหนือ ซึ่งซ้อมยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกาหลีใต้ยังเป็น 1 ใน 45 ประเทศจากทั่วโลกที่ยังคงต้องบังคับผู้ที่มีเพศกำเนิดชายวัย 18-28 ปีเข้ารับการฝึกทหารเป็นระยะเวลา 18-20 เดือน
อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกก้าวสู่สังคมสมัยใหม่ กองทัพมีการปรับข้อกำหนดการเกณฑ์ทหารอยู่หลายครั้ง เช่น การลดจำนวนปีการเข้าฝึกจากเกือบ 24 เดือนเหลือ 18 เดือนในบางกรม หรือในปี 1973 มีข้อกำหนดละเว้นการเกณฑ์ทหารให้กับนักกีฬา ศิลปินแนวดนตรีคลาสสิก ศิลปินดนตรีดั้งเดิม และนักเต้นบัลเลต์ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศบนเวทีนานาชาติได้
คำถามจึงมีอยู่ว่า เมื่อเคป็อปสร้างประวัติศาสตร์การเป็นศิลปินที่กวาดรางวัลบนเวทีเพลงระดับโลก ทะลวงเข้าไปในชาร์ตเพลงอเมริกันที่เป็นฐานมั่นคงของคนขาวได้สำเร็จ และทำให้ตะวันตกหันมาให้ความสำคัญกับ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ จากเกาหลีได้แล้ว ทำไมข้อปฏิบัติการละเว้นเกณฑ์ทหารจึงไม่ครอบคลุมมาถึงศิลปินป็อปที่สร้างประโยชน์ให้ประเทศบ้าง?
ตลอดการพิจารณา 5 ปี เกิดข้อถกเถียงระหว่างประชาชน รัฐบาล นักการเมือง และกองทัพ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม Big Hit Entertainment ค่ายผู้ดูแล BTS และสมาชิกวง BTS ตัดสินใจประกาศขอยกเลิกผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร เพื่อเข้าระบบการฝึกตามปกติในปีนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะยังขอเวลาจนถึงเดือนธันวาคมเพื่อให้ได้ข้อสรุปอย่างชัดเจน
ท่ามกลางกระแสความนิยมต่อวัฒนธรรมเกาหลีที่มีอย่างต่อเนื่อง ใครเสนอทางออกอย่างไรในดีเบตนี้บ้าง การผลัดเปลี่ยนรัฐบาลเมื่อกลางปีที่ผ่านมาทำให้เกิดจุดยืนต่อเรื่องนี้อย่างไร ทำไมกลาโหมจึงยื่นข้อเสนอให้ BTS สามารถแสดงคอนเสิร์ตระหว่างเข้ารับเกณฑ์ทหารได้ และสังคมเกาหลีมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร บทความนี้จะพาไปสำรวจการดีเบตและมุมมองความเห็นต่างๆ ต่อการเกณฑ์ทหารเกาหลีในโลกสมัยใหม่
ซอฟต์พาวเวอร์กับการรับใช้ชาติ เมื่อศิลปินร่วมสมัยมีศักดิ์ศรีไม่เท่าแขนงอื่น?
ก้าวแรกที่ทำให้เกิดข้อถกเถียงนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2017 ที่ BTS ก้าวเข้าสู่การแสดงบนเวทีบิลบอร์ดและเป็นวงเกาหลีวงแรกที่ขึ้นรับรางวัลในสาขา Top Social Artist Award เอาชนะแชมป์เก่าอย่างจัสติน บีเบอร์ได้ พวกเขากลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สื่อในอเมริกันสนใจความเป็น ‘เคป็อป’ อย่างจริงจังกว่าครั้งไหนๆ
ความสำเร็จในปีนั้น ตามมาด้วยการทำลายสถิติและการก้าวเข้าไปสู่พื้นที่ใหม่ๆ ของ BTS กำแพงอุตสาหกรรมเพลงอเมริกันค่อยๆ ทลายออก วงบอยแบนด์จากเกาหลีคว้าพื้นที่บนชาร์ตบิลบอร์ด เช่น Billboard 200, Billboard Hot 100, Billboard Global Excl. US, Top Album Sales ฯลฯ
การเฉิดฉายของ BTS ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องให้มีการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารให้กับสมาชิกวง เนื่องจาก ‘จิน’ (Jin) สมาชิกที่มีอายุมากที่สุด (ตามการนับอายุของเกาหลี เขาอายุ 26 ปีในขณะนั้น ซึ่งมากกว่าการนับอายุแบบสากล 1 ปี) จะเหลือช่วงเวลาขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารเพียง 2 ปีกว่า เนื่องจากตามกฎแล้วจะต้องเข้าฝึกในช่วงอายุระหว่าง 18-28 ปี
ระหว่างนั้น ปี 2018 มีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ขึ้นที่อินโดนีเซีย ซน ฮึง-มิน นักกีฬาฟุตบอลชาวเกาหลีที่ได้ร่วมสโมสรฟุตบอลอังกฤษอย่างทอตนัมฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspurs) กลับมาร่วมทีมชาติเกาหลีและคว้าชัยชนะเหรียญทองในงานนี้ ทำให้เขาและสมาชิกในทีมฟุตบอลเกาหลีกว่า 40 คน ได้ละเว้นการเกณฑ์ทหาร เนื่องจากคุณสมบัติตรงกับข้อกำหนดสำหรับนักกีฬาที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในเวทีระดับเอเชียนเกมส์และโอลิมปิก
แต่หลังชัยชนะของทีมฟุตบอลเกาหลีเพียง 1 วัน เกิดการตั้งคำถามอย่างร้อนระอุถึงความยุติธรรมในการละเว้นการเกณฑ์ทหารของผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศ เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้ทุกคนทราบดีว่าไม่ใช่เพื่อชัยชนะของเกาหลีเท่านั้น แต่ยังเป็น ‘ความหวัง’ ที่จะเห็นซน ฮึง-มิน นักฟุตบอลดาวรุ่งได้เติบโตในวงการได้ไกล โดยไม่ต้องกังวลใจกับการเข้าเกณฑ์ทหาร ประกอบกับมีข่าวว่าสมาชิกทีมเบสบอลเกาหลี 2 คนมีความสามารถเป็นที่น่ากังขา และพวกเขาอายุ 28 จึงเป็นคำถามว่าหรือพวกเขาต้องการละเว้นการฝึกทหาร หากพวกเขาชนะในเกมนี้ได้ [1]
“ผมเห็นรายชื่อการแข่งขันนานาชาติประมาณ 40 รายการที่จะทำให้ผู้ชายได้รับสิทธิพิเศษในการเกณฑ์ทหารหลังจากพวกเขาชนะการแข่งขัน มันเป็นลิสต์ที่ไม่ยุติธรรมเลย ผู้ชนะรายการเปียโนและไวโอลินอยู่ในลิสต์ แต่ BTS ที่สามารถอยู่บนชาร์ตบิลบอร์ดได้กลับไม่มี ส่วนคนชนะบัลเลต์ก็รวมอยู่ในลิสต์ด้วย แต่คนที่ไปแข่งบีบอยกลับไม่ได้รับสิทธิ” ฮา แท-คยอง ส.ส. จากพรรคบารึนมิแรกล่าวในการประชุมใหญ่คณะกรรมการป้องกันประเทศ และย้ำว่าการแก้ไขกฎเกณฑ์เหล่านี้ควรจะเกิดขึ้นเพื่อให้กฎหมายสะท้อนเสียงของคนรุ่นใหม่
ด้วยแรงกดดันและการตั้งคำถามจากสังคม ทำให้รัฐบาลและกองทัพเริ่มหารือถึงความเป็นไปได้ในการพิจารณาการเกณฑ์ทหารของศิลปินร่วมสมัย พวกเขายอมรับว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นอ่อนไหวจึงต้องมีการพิจารณาจากหลายฝ่ายอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะการหยั่งเสียงคนในสังคม
จนกระทั่งในปี 2019 ก่อนถึงวันเกิดปีที่ 29 ของจิน สภาได้ออกกฎหมายชื่อว่า ‘กฎหมาย BTS (BTS law)’ ขยายการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารสำหรับผู้ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์วัฒนธรรม โดยรางวัลนี้ประธานาธิบดีจะมอบให้กับบุคคลที่ทำประโยชน์และส่งเสริมการพัฒนาประเทศผ่านงานด้านวัฒนธรรม โดยผู้ที่ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์สามารถขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารได้จนถึงอายุ 30 ปี โดยใช้หลักเกณฑ์วัดอายุตามสากล นั่นหมายความว่า BTS จะสามารถทำกิจกรรมวงแบบครบทุกคนได้อีก 2-3 ปี ระหว่างที่สภาจะมีการพิจารณาละเว้นการเกณฑ์ทหารสำหรับศิลปินป็อปใหม่อีกครั้ง
ช่วงเวลาที่ BTS ยืดเวลาการผ่อนผันเข้าฝึกทหาร พวกเขาพาความเป็น ‘เคป็อป’ และ ‘ศิลปินเอเชีย’ ก้าวสู่เวทีโลกได้เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่การคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ศิลปินเอเชียสามารถเอาชนะศิลปินตะวันตกเพื่อขึ้นสู่อันดับ 1 ในชาร์ตนี้ได้, รับรางวัลศิลปินแห่งปี (Artist of the Year) บนเวที American Music Awards, มีชื่อเสนอเข้าชิงรางวัล GRAMMY ทำให้พวกเขาเป็นศิลปินเอเชียกลุ่มแรกที่ยืนอยู่บนเวทีประกวดที่คนขาวครองวัฒนธรรมอย่างแข็งแรงได้
เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ได้เสนอให้ BTS เป็นทูตทางวัฒนธรรมเกาหลีในงานประชุมองค์การสหประชาชาติ (UN) โดยทำการแสดงเพลง Permission to Dance ในห้องประชุม UN และร่วมกล่าวถึงอนาคตและสิ่งแวดล้อมโลกร่วมกับประธานาธิบดีในปี 2021
จนกระทั่งก้าวสู่ปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่สมาชิกที่อายุมากที่สุดจะอายุครบกำหนด 30 ปีในเดือนธันวาคมนี้ สภาก็ยังไม่มีข้อสรุปให้กับการแก้ไขข้อกำหนดดังกล่าว หลังจากเดือนพฤษภาคมที่ BTS ได้รับเชิญจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้เป็นตัวแทนศิลปินเอเชียเพื่อหารือปัญหาการเกลียดชังต่อคนเอเชีย (anti-Asian hate crimes) พวกเขากลับมาปล่อยอัลบั้มครบรอบ 9 ปี พร้อมประกาศพักการทำงานวงเพื่อหันไปโฟกัสโปรเจ็กต์ส่วนตัว หลายฝ่ายมองว่านี่เป็นสัญญาณที่สื่อถึงการวางแผนการเข้ากรมแล้ว
The New York Times มองว่าการประกาศพักงานวงชั่วคราวของ BTS อาจเป็นหนึ่งในจุดที่เกาหลีต้องระมัดระวังตัว เนื่องจาก BTS เป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทางเศรษฐกิจ การสำรวจของสถาบันวิจัยฮุนได (Hyundai Research Institute) พบว่า แม้จะอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ ปี 2020 BTS ยังสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจเกาหลีทั้งหมด 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสถาบันวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเกาหลี (Korea Culture and Tourism Institute) คาดการณ์ว่าเพียงแค่การจัดคอนเสิร์ตออนไลน์ก็สามารถสร้างรายได้ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ สถาบันวิจัยฮุนไดยังเคยคาดการณ์ไว้ในปี 2018 ว่าหาก BTS ยังสามารถรักษาความนิยมไว้ได้ภายใน 10 ปีจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกาหลีประมาณ 41.8 ล้านล้านวอน โดยตัวเลขเหล่านี้ยังไม่รวมกับรายได้ทางอ้อมจากแฟนคลับที่เดินทางมาท่องเที่ยว เรียนภาษา และเรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลี [2]
คำถามของเหล่าผู้สนับสนุนการละเว้นการเกณฑ์ทหารจึงกลับมาอีกครั้งว่า การพักงานวงเริ่มส่งสัญญาณอนาคตทางเศรษฐกิจแล้ว ทำไมการพิจารณาข้อกำหนดสำหรับศิลปินป็อปถึงได้ล่าช้า และมีแนวโน้มที่จะไม่มีความคืบหน้าใดๆ หรือนี่จะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อศิลปินป็อป? [3]
คนเกาหลีคิดเห็นต่อการละเว้นการเกณฑ์ทหารศิลปินป็อปอย่างไร
จากการสำรวจโพลและความคิดเห็นของผู้คนจากหลายสำนักพบว่า ข้อถกเถียงว่าด้วยเรื่องการละเว้นการเกณฑ์ทหารเป็นประเด็นที่เสียงแตกเป็นสองฝั่ง
ผลสำรวจของ Gallup Korea เมื่อต้นปี 2022 ระบุว่า เกือบ 59 % ในคนเกาหลีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,004 คน ต้องการให้ศิลปินเคป็อปมีการรับราชการทหารแบบทางเลือกหรือได้รับการยกเว้น หากพวกเขามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและยกระดับประเทศสู่ระดับโลก ในขณะที่ 33 % คิดว่าไม่ควรให้มีการยกเว้นการเกณฑ์ทหารกับศิลปินเคป็อป และ 8 % ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ส่วนผลสำรวจประชากรจำนวน 500 คนจากทั่วประเทศที่สมัครใจร่วมตอบแบบสอบถามของ Realmeter พบว่า 65.5 % เห็นด้วยที่ BTS จะได้รับการพิจารณาเกณฑ์ทหารทางเลือก โดยอัตราการสนับสนุนสูงในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอายุ 20 และ 50 ซึ่งเกือบ 70 % สนับสนุนแนวคิดนี้
นอกจากนี้ 74.9 % ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า BTS จะสามารถช่วยพัฒนาและยกระดับประเทศสู่ระดับโลกได้ [4]
ในขณะที่การสำรวจความคิดเห็นชายวัย 20 ปีที่มีเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร พวกเขามองว่าการให้ศิลปินเคป็อปละเว้นการเกณฑ์ทหารได้ถือเป็นเรื่องที่ขัดต่อความยุติธรรม บางคนเชื่อว่านักร้องก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ จึงไม่ยุติธรรมที่จะให้ศิลปินละเว้นการทำหน้าที่ระดับชาติ ในขณะที่คนอื่นต้องใช้เวลาหลายปีในการปกป้องประเทศ
บางคนแสดงความกังวลว่าอะไรคือหลักเกณฑ์ในการละเว้นศิลปินเคป็อปจากการฝึกทหาร เพราะถ้าหาก BTS ได้รับสิทธิพิเศษนี้แล้ว แฟนคลับวงอื่นๆ ก็จะเรียกร้องเพื่อให้ศิลปินตัวเองรอดพ้นจากการเกณฑ์ทหาร และไม่ใช่แค่นักร้อง แต่ผู้คนส่วนอื่นๆ ในอุตสาหกรรม เช่น นักแต่งเพลง นักแสดง ผู้กำกับ ก็ต้องได้รับสิทธิเช่นกัน [5]
“คนธรรมดาที่อุทิศตัวช่วงวัยรุ่นเพื่อชาติ ไม่นับว่าสร้างชื่อเสียงให้ประเทศหรือ? นักร้องแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวได้ ในขณะที่พวกเราถูกบังคับให้ยอมแพ้ มันไม่ยุติธรรมและอาจทำให้สังคมขัดแย้งกันในอนาคตได้” ชุน อิน-บอม พลโทกองทัพบกที่เกษียณแล้ว ให้สัมภาษณ์กับ Koreaherald[6]
ปาร์ก มิน-ยอง วัย 20 ปี ผู้ช่วยเยาวชนในการหาเสียงของประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล แสดงความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียว่า การให้สิทธิละเว้นเกณฑ์ทหารกับ BTS โดยไม่มีเหตุผล อาจนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ว่าขัดต่อหลักการ
“ผมสงสัยว่าจะมีสักกี่คนที่เห็นด้วยกับการกำหนดเกณฑ์ใหม่เพื่อปลดคนบางกลุ่มออกจากการเป็นทหาร” ปาร์ก มิน-ยองยังย้ำด้วยว่า BTS ตัดสินใจแล้วที่จะเข้ารับราชการทหาร และแฟนเพลงของพวกเขาก็ไม่พอใจที่นักการเมืองพยายามที่จะให้ BTS เข้าไปมีส่วนร่วมในทางการเมืองกับนักการเมืองด้วย
ส่วนทางการเมือง ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว เนื่องจากความสำเร็จของ BTS เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักการเมืองหลายคนสนใจ โดยเฉพาะล่าสุดนี้ เมืองปูซานเลือกให้ BTS เป็นผู้โปรโมตเพื่อประมูลงาน World Expo 2030 ซึ่งเกาหลีต้องแข่งขันกับประเทศอื่นๆ เช่น ซาอุดิอาระเบีย เม็กซิโก ฝรั่งเศส
ในความคิดเห็นของอี จง-ฮุน ที่ปรึกษาการเมืองของ iGM มองว่ามีแนวโน้มที่รัฐบาลยุนจะหาทางเพื่อให้มีการละเว้นการเกณฑ์ทหารกับ BTS เมื่อพิจารณาถึงผลประโยชน์มหาศาลที่พวกเขาสามารถคาดหวังได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องชั่งน้ำหนักกำไรและการขาดทุนทางการเมือง เนื่องจากมีเสียงคัดค้านในประเด็นการให้สิทธิพิเศษกับศิลปินเคป็อป
แต่หากรัฐบาลอยากทำให้ข้อกำหนดนี้ผ่าน ก็จะต้องรอเสียงจากฝั่งฝ่ายค้าน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลจากหัวก้าวหน้ามาเป็นอนุรักษนิยมแล้ว ฝ่ายค้านคนอื่นๆ อาจจะทบทวนการพิจารณามากขึ้นกว่าเดิม ด้วยปัจจัยที่ว่าอะไรจะตกไปเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองของรัฐบาลปัจจุบันบ้าง [7]
อย่างไรก็ตาม การประชุมในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลับมีท่าทีของ ส.ส. พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยมที่ได้ขึ้นเป็นรัฐบาลครั้งนี้สนับสนุนให้ BTS เข้ากรมอย่างถูกต้องตามเกณฑ์ปกติ แม้ว่าหนึ่งในสมาชิกของพรรคอย่าง ซัง อิล-จงจะเป็นคนยื่นเสนอการเกณฑ์ทหารทางเลือกเอง ในขณะที่ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นพรรคหัวก้าวหน้าเชื่อว่าจะต้องสนับสนุนให้ BTS เกณฑ์ทหารแบบทางเลือกให้ได้
คิม คี-ฮยอน ส.ส. จากพรรคพลังประชาชน ผู้ทำงานเป็นผู้บังคับบัญชาในกองทัพมาก่อน กล่าวว่าแม้แต่ BTS ก็เป็นคนบอกความตั้งใจว่าพวกเขาจะเข้าฝึกทหาร โดยอ้างถึงเนื้อเพลงของ SUGA สมาชิก BTS ที่กล่าวว่า “ฉันจะไปกองทัพด้วยตัวฉันเองเมื่อถึงเวลา”
ในขณะที่สมาชิกร่วมพรรคคิม คี-ฮยอนอย่าง ฮัน คี-โฮ พูดว่า แม้จะมีคนสนับสนุนให้ BTS ได้รับเกณฑ์ทหารทางเลือก แต่ก็ต้องฟังเสียงคัดค้านในเรื่องความเป็นธรรมและอาจทำให้พลทหารอื่นๆ เสียขวัญด้วย
ส่วนฝ่ายค้านก็แย้งว่า BTS ควรได้รับการละเว้นการเกณฑ์ทหาร เพื่อจะได้นำความสามารถที่มีไปใช้ประโยชน์แทนการฝึกทหาร โดยซุน ฮุล ส.ส. จากพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลีมองว่า การเข้าฝึกทหารอาจจะทำให้ BTS ต้องแยกวงและกลายเป็นความสูญเสียของประเทศได้ [8]
BTS ต้องเข้ากรมเพื่อความยุติธรรม แต่ยังสามารถเล่นคอนเสิร์ตไปด้วยได้
จุดยืนหนึ่งที่ชัดเจนของฝั่งกลาโหมคือ ถึงอย่างไร BTS ต้องเข้ากรมเพื่อความยุติธรรม โดยอี คี-ชิก ผู้บัญชาการกองบริหารกำลังพลทหาร กล่าวกับฝ่ายนิติบัญญัติว่า “เป็นเรื่องที่ ‘น่ายินดี’ สำหรับ BTS ในการปฏิบัติหน้าที่ทางทหาร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการรับราชการทหารของประเทศ” [9]
ส่วนปาร์ก โบ-กยูน รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีคนใหม่ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนต่อเรื่องนี้ โดยเขากล่าวว่าจะต้องมีการพิจารณาและทบทวนปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะการถามความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และเขายังกล่าวย้ำว่า การเกณฑ์ทหารเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรม เมื่อ BTS ได้ทำให้โลกได้ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมเกาหลี และความนิยมจากทั่วโลกมีผลทางเศรษฐกิจอย่างมากก็ย่อมมีความสำคัญเช่นเดียวกับความคิดเห็นของชายวัย 20 ปี รวมถึงสมาชิกสภาด้วย [10]
Korea Times กล่าวว่าทุกปีมีจำนวนผู้เข้ารับรับราชการลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันเกาหลีกำลังเผชิญปัญหาอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก โดยสำนักงานสถิติระบุว่า อัตราการเกิดในปี 2022 ลดลงจากปีที่แล้ว เหลือ 260,600 คน ซึ่งเท่ากับประมาณ 0.5% ของประชากร มีการคาดการณ์ว่าประชากรเกาหลีจะลดเหลือ 38 ล้านคนจาก 58 ล้านคนในปี 2070
ในขณะที่ท่าทีการยุติสงครามของทั้งสองฝั่งยังไม่เห็นปลายทางชัดเจน การพิจารณากฎเกณฑ์การเกณฑ์ทหารจึงเป็นเรื่องท้าทายต่อหน่วยงานรัฐมากขึ้น โดยเฉพาะบริบทที่เห็นชัดว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมเคป็อปไม่มีท่าทีแผ่วลงง่ายๆ และหลังหมดยุคประธานาธิบดีมุน ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์จับมือเพื่อสมานฉันท์กับคิมจองอึน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ ต่อจากนั้นไม่ได้ประกอบด้วยความหวังใดๆ เนื่องจากประธานาธิบดีคนใหม่อย่างยุน ซอก-ยอล อยู่ในสายอนุรักษนิยมที่หวังพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศมากกว่าการพัฒนาทางการทูต
อี คี-ชิก ผู้บัญชาการกองบริหารกำลังคนทางทหารกล่าวว่า “ทรัพยากรทางทหารของเรากำลังลดลง ความเป็นธรรมและความเสมอภาคเป็นหลักการสำคัญที่จะนำไปใช้ในการรับราชการทหารภาคบังคับ ดังนั้น ผมคิดว่า BTS ควรรับราชการทหาร”
อี จง-ซอบ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวในสภาว่า ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขโดยไม่ละเมิดหลักการความยุติธรรมและความเสมอภาค โดยเขากล่าวว่า หาก BTS เข้ารับราชการทหารอาจมีวิธีในการอนุญาตให้ BTS ไปแสดงในต่างประเทศในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพได้
“[BTS] ควรเข้ารับราชการทหาร ผมเชื่อว่าจะมีวิธีที่เราจะให้โอกาสพวกเขาได้ฝึกฝน รวมทั้งอนุญาตให้พวกเขาออกจากประเทศและแสดงได้ตลอดเวลาหากพวกเขามีคอนเสิร์ตในต่างประเทศ”
แฟนๆ จำนวนไม่น้อยคิดว่าการให้ BTS ทำงานทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน นับเป็นความไม่ยุติธรรมอย่างหนึ่งต่อศิลปิน เนื่องจากพวกเขาต้องรับใช้ชาติพร้อมกันในสองบทบาท และการฝึกซ้อมคอนเสิร์ตขณะฝึกซ้อมทหารด้วยเป็นงานหนักเกินไป กระทรวงกลาโหมจึงได้พยายามเสนอให้มีการทำประชามติต่อการละเว้นการเกณฑ์ทหารในช่วงกลางปี 2022 สร้างความไม่พอใจต่อประชาชนที่มองว่ากองทัพกำลังผลักภาระให้ประชาชนเป็นคนรับผิดชอบแทนกองทัพ
ราคาที่ต้องจ่ายหากศิลปินรับใช้ชาติในฐานะเคป็อป?
ข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ และอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การพิจารณาเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากมุมมองของสังคมต่อการรับราชการทหารยังคงเป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะในชายวัยที่เข้าเกณฑ์กับการฝึกทหาร
คนเกาหลียังผูกโยงคุณค่าและสร้างความสัมพันธ์ผ่านประสบการณ์ร่วมอย่างการฝึกทหาร ยุน มิน-ซิก นักข่าวจาก Koreaherald กล่าวว่า มีชายวัย 30 ที่มีประสบการณ์ถูกถามระหว่างการสัมภาษณ์งานว่าทำไมเขาถึงได้รับการยกเว้นจากการเกณฑ์ทหาร ทำให้เกิดช่วงอึดอัดใจตลอดอาชีพการงาน เมื่ออีกฝ่ายถามว่า “แล้วคุณประจำการที่ไหนล่ะ”
เจสัน ลิม ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม ความเป็นผู้นำ และการจัดการวัฒนธรรมกล่าวว่า การบังคับรับราชการทหารเป็นสิ่งที่คนเกาหลีเกลียดและพยายามหาทางหนี ในขณะเดียวกันหากมีคนพยายามหนีจริงๆ สังคมก็จะลงโทษคนนั้น ดังนั้น ถ้าหากมีคนต้องทำสิ่งนี้ คุณก็ต้องทำด้วย แม้มันเป็นค่าเสียโอกาสในวัย 20 ของชายเกาหลีที่ต้องเจอเหมือนกันก็ตาม และในมุมของคนที่ประสบความสำเร็จได้รวดเร็วในช่วงวัย 20 พวกเขามีราคาที่ต้องจ่ายสูงกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม หากการละเว้นครั้งนี้เกิดขึ้นจริง เขาคิดว่า BTS จะถูกติดเครื่องหมายสีแดงว่าไม่ได้เกณฑ์ทหารไปตลอดชีวิต รวมถึงแรงกดดันที่พวกเขาต้องประสบความสำเร็จบนเส้นทางที่ไม่อาจยั่งยืนให้ได้ตามตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายจากสังคม
“ที่แย่ไปกว่านั้น ทุกคนในประเทศ โดยเฉพาะชายที่ยอมเข้าเกณฑ์ทหาร จะคิดว่า BTS เป็นหนี้บุญคุณที่ได้รับอนุญาตให้ได้รับสิทธิพิเศษ ดังนั้น ถ้าผมเป็นผู้นำ ผมย่อมอยากให้ BTS ได้ละเว้นการเกณฑ์ทหาร แต่ถ้าผมเป็น BTS ผมจะปฏิเสธ
“ความสำเร็จในระดับนี้เป็นสิ่งชั่วคราวและจะจางหายไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อ BTS ยอมรับการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ภายใต้คำมั่นสัญญาที่ไม่อาจกำหนดได้และไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งผมมองว่าไม่คุ้มค่า เพราะมันจะปล้นเสรีภาพทางสังคมและศิลปะไปจากพวกเขา” ลิมกล่าวสรุปความคิดเห็นของเขา
↑1 | The Korea Times, Exemption from military service |
---|---|
↑2 | The Korea Herald, K-pop’s BTS ‘worth $3.6 billion a year’ to South Korea |
↑3 | The Korea Herald, Clashing ideas on military exemption for BTS |
↑4 | The Korea Herald, 6 out of 10 Koreans support BTS’ alternative military service |
↑5 | The Korea Herald, Clashing ideas on military exemption for BTS |
↑6 | BTS-at-arms: What military service means to S. Korean men |
↑7 | The Korea Times, Military service exemptions for BTS become political football |
↑8 | The Korea Times, Rival parties divided over military exemption for BTS |
↑9 | AP NEWS, K-pop group BTS members face possible military conscription |
↑10 | The Korea Times, Culture minister says will make decision on BTS’ military service issue by December |