อายุษ ประทีป ณ ถลาง เรื่อง
การกลับมาระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 อาจจะทำให้ระบอบปกครองเผด็จการไฮบริด ซึ่งทำงานร่วมกันระหว่างทหารหรือกองทัพและสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โล่งอก กินได้นอนหลับ รู้สึกมั่นคงปลอดภัยจากการลุกฮือขึ้นมาท้าทายอำนาจและผลประโยชน์ โดยเด็กๆ นักเรียน นักศึกษา หนุ่มสาวซึ่งปรารถนาจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย เรียกร้องต้องการประชาธิปไตยอันมีมาตรฐานเป็นสากล
ไม่มีภาพของการระดมสรรพกำลังปราบปรามฝูงชน สร้างแนวรั้วลวดหนามหีบเพลง และตู้คอนเทนเนอร์แบริเออร์ใจกลางเมืองหลวงให้เป็นที่สมเพชเวทนา
บ้านเมืองอาจจะสงบเรียบร้อยภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและเชื้อโรค
แต่อีกด้านหนึ่งนั้น การแพร่ระบาดระลอกสองของ ‘โควิดกระจอก’ ตามลมปากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สร้างความยากลำบากซ้ำซ้อนเดือดร้อนทับทวีให้กับประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศกันถ้วนหน้า
คงมีเพียงข้าราชการ นักการเมืองซึ่งกินเงินเดือนจากภาษีอากรชาวบ้านราษฎร ผู้คนซึ่งสะสมความร่ำรวยมั่งคั่งจากการโกงบ้านกินเมืองเอาไว้จนเพียงพอ หรือพวกเศรษฐีนายทุน ชนชั้นนำซึ่งสมประโยชน์กับระบอบปกครองกึ่งเผด็จการทหารกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์เท่านั้นที่ไม่อนาทรร้อนใจ ทุกข์ยากอะไรด้วย
การระบาดรอบใหม่ซึ่งมีต้นสายปลายเหตุมาจากชายแดน แรงงานข้ามชาติ บ่อนการพนันและสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ประจานให้เห็นไปถึงต้นตอตัวการปัญหาที่แท้จริงของบ้านนี้เมืองนี้ ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ไร้ประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาให้กับประเทศชาติ อันเป็นผลมาจากการทุจริตคอร์รัปชันที่เกาะกินอยู่ทั้งระบอบ
มีการเรียกรับผลประโยชน์ ส่งส่วยขึ้นไปเป็นลำดับชั้น จากล่างถึงข้างบน ทำกันโจ๋งครึ่ม เป็นขบวนการ ทั้งระบบ
จริงเท็จหรือไม่อย่างไร ลองเปิดโทรทัศน์หรือวิทยุติดตามข่าวสารบ้านเมืองดูเอาเถิด
ทั้งฝ่ายรับและที่เอาส่วยไปจิ้มก้อง ล้วนมีเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งสิ้น ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
ไม่มีหรอกของฟรีในโลกนี้
ส่วยซึ่งเกี่ยวพันกันทั้งองคาพยพ อำนาจและผลประโยชน์ ทำให้ประเทศไทยไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้ ไม่สามารถปฏิรูปการเมือง หรือระบบราชการได้อย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือสถาบันการเมือง ฯลฯ แม้จะมีเสียงเรียกร้องต้องการ ปรากฏผลการศึกษาวิจัยว่าจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูป เปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตามที
อ้างค่านิยม ความเชื่อแบบไทยๆ ขึ้นมาขัดขวางพัฒนาการ ความก้าวหน้าของสังคมที่จะส่งผลกระทบต่อสถานภาพของตัวเอง
ล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพ เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ ประชาชนเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติก็จะออกมายืนกรานปฏิเสธเอาไว้ก่อนว่า ไม่มีการกระทำผิดกฎหมาย ไม่มีบ่อน ไม่มีซ่อง ไม่มีหวยใต้ดิน ไม่มีอะไรทั้งหลายที่ห้อยท้ายด้วยคำว่าเถื่อน ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน กินสินบาทคาดสินบนใดๆ ทั้งสิ้น
จวนตัวจนแต้มก็อ้างว่าแม้จะมีการกระทำจริง แต่ก็ไม่มีพนักงานเจ้าหน้าที่คนใดเข้าไปเกี่ยวข้อง
เช่นเดียวกับการแพร่ระบาดรอบสองของโควิด-19 ที่เบื้องแรก ทั้งตำรวจทหารน้อยใหญ่ต่างออกมายืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวว่าไม่มีบ่อน ไม่มีขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ ครั้นจำนนต่อพยานหลักฐาน ความจริงก็ทำเอะอะตึงตัง สั่งย้ายผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าประจำสำนักงาน แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน
ทำเหมือนทุกครั้งที่ดำเนินการกันพอเป็นพิธี ก่อนทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม อันเป็นสูตรสำเร็จในการบริหารราชการแผ่นดินแบบไทยๆ
จะตัดเล็บก็เจ็บเนื้อ ลูบหน้าก็ปะจมูก
ขณะที่ฝ่ายการเมือง ผู้ปกครองบริหารประเทศซึ่งก้าวเข้ามากุมอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จเด็ดขาดด้วยการล้มล้างรัฐธรรมนูญโดยกำลังทหารหรือกองทัพที่ตัวเองเป็นผู้บังคับบัญชา เคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้สารพัดว่าจะปฏิรูปโน่นปฏิรูปนี่ ทำขึงขังจะใช้ความเฉียบขาด ฟันคนนั้นฟันคนนี้ สุดท้ายแล้วเป็นอย่างไร
ปีก่อนเคยขู่ฟ่ออะไรเอาไว้ ปีใหม่มาก็ยังมุกเดิม ได้แต่เป่าปี่ตีฆ้องโหม ออกแขก ขึงขังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการตามสูตรสำเร็จ
หมดท่าขึ้นมาก็กล่าวโทษประชาชน อ้างว่าไม่มีใครทำอะไรได้สำเร็จเพียงคนเดียว ต่อให้ร้อยนายกฯ ก็ทำไม่ได้ ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน มีบ่อนเพราะคนไปเล่น มียาเสพติดเพราะคนยังเสพ ฯลฯ วกไปวนมา ก่อนจะสรุปว่าอย่ามัวแต่โทษกันไปมาเลย
เป็นอย่างนั้นไป
ไม่ใช่เรื่องประชาชนร่วมมือหรือไม่ร่วมมือ หรือโทษใครไปมา แต่เป็นประเด็นการทำหน้าที่และความรับผิดชอบ
ไม่มีใครปฏิเสธความจริง เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะกำจัดสิ่งผิดกฎหมายให้หมดไป ถึงขนาดไม่มีบ่อน ไม่มีซ่อง ไม่มีหวย ฯลฯ แต่ก็สามารถควบคุมหรือจำกัดได้ด้วยการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียในสิ่งที่สามารถทำได้ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องไม่เข้าไปข้องแวะกับผลประโยชน์ใดๆ
ที่ผู้คนก่นด่าเป็นเรื่องตำรวจ ทหารไปรับสินบาทคาดสินบน ปล่อยให้มีการข้ามชายแดน เล่นการพนัน เปิดสถานบันเทิงเถื่อนฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรค นำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกที่สอง สร้างความฉิบหายวายป่วงให้กับประเทศชาติ
ประชาชนต้องเดือดร้อน ลำบากยากแค้นแสนสาหัสไปตามๆ กันจากผลงานการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง
ใคร สีไหนคุมสถานบันเทิง ปล่อยให้มีหวย บ่อน ซ่อง สิ่งผิดกฎหมายทั้งหลายเป็นเรื่องรู้อยู่แก่ใจกันทุกฝ่าย
ที่ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ เป็นประเด็นบ้านเมืองมีระบบบริหารราชการแผ่นดิน มีการปกครองบังคับบัญชาเป็นลำดับชั้น ตั้งแต่เสมียน พลตำรวจ พลทหาร ขึ้นไปจนถึงปลัดกระทรวง ผู้บัญชาการทหารบก เรือ อากาศ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด
ทุกคนกินเงินเดือนมาจากภาษีอากรประชาชน ตำแหน่งใหญ่โตเต็มไปด้วยอภิสิทธิ์มากมายแต่กลับปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต คอร์รัปชัน เรียกรับส่วย หรือผลประโยชน์จากการกระทำผิดกฎหมาย
ประเด็นอยู่ตรงนี้
แต่ก็นั่นแหล่ะ ไม่มีอำนาจก็ไม่มีผลประโยชน์ ขณะเดียวกันไม่มีผลประโยชน์ก็ไม่มีอำนาจ ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรเลยที่บ้านนี้เมืองนี้จะเปลี่ยนแปลง จะปฏิรูปอะไรก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ
ใครจะไปทุบหม้อข้าวตัวเองที่ซุกๆ ซ่อนๆ แอบกิน
เอาหวย บ่อน ซ่องขึ้นมาอยู่บนดิน ทำให้เป็นธุรกิจถูกต้อง เก็บภาษีอากรเข้ารัฐก็อดอยากปากแห้งไปตามๆ กัน จะปฏิรูปการเมือง เปลี่ยนแปลงระบบราชการให้โปร่งใส ยึดโยงกับประชาชนก็ไปกระทบกับระบบส่วย กระเทือนผลประโยชน์ตั้งแต่บนลงล่าง
ภายใต้การปกครองระบอบส่วยจะทำอะไรได้ นอกจากจับเด็ก ดำเนินคดีนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศเพื่ออนาคตของตัวเองในวันข้างหน้า
ปราบปรามหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ซึ่งปรารถนาจะให้บ้านเมืองหลุดจากหล่มพ้นจากปลักความล้าหลัง อยู่กันในสังคมที่ใช้ปัญญา ใช้ความรู้แก้ปัญหาให้กับแผ่นดิน ไม่ใช่เอาอวิชา ความเชื่องมงายไร้เหตุผลรองรับมานำพาชาติ มอมเมาชาวบ้านราษฎร
ในวันที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศต่างต้องเผชิญกับความยากลำบากแสนสาหัสจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกสอง กลับมีข่าวที่สร้างความอึดอัด สะเทือนใจ ไม่สามารถตรวจสอบและทำความโปร่งใสให้เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับปรุงห้องน้ำบนเครื่องบินวงเงิน 54 ล้านบาท, เงินทองที่ใช้จ่ายไปกับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์จำนวนมาก ซึ่งกองทัพและตำรวจจัดหามาใช้ในภารกิจรับรองวีไอพี
ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 เหตุใดจึงต้องจำเพาะเจาะจงลงไปที่บริษัทนั้น ทำไมบริษัทนี้จึงมีชื่อเข้าไปลง
แต่ทีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจะจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ความรับผิดชอบฟรี กลับแสดงความคิดอ่านกันอย่างนั้นอย่างนี้
ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น
ขณะที่แพทย์ พยาบาล บุคลากรในระบบสาธารณสุขตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุ่มเทเสียสละ ทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อหาทางควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งหายนะครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพของฝ่ายความมั่นคง
สำนักข่าวแห่งหนึ่งรายงานว่า ‘ประวิตร วงษ์สุวรรณ’ นั่งหัวโต๊ะ ถกนโยบายความมั่นคงฯ เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการเสริมสร้างความมั่นคงฯ เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการเสริมสร้างความมั่นคง ‘สถาบันหลัก’ ของชาติ มุ่งสร้างจิตสำนึก รัก หวงแหน จงรักภักดี ให้ความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบรมราชวงศ์อย่างถูกต้อง
อีกสำนักรายงานสอดคล้องต้องกันว่า ‘บิ๊กป้อม’ เห็นชอบแผนเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ เน้นสร้างจิตสำนึก ความจงรักภักดีแก่ประชาชน
ไม่มีความคิดเห็นประการใด นอกจากได้แต่คิดคำนึงถึงโคลงโลกนิติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศร ท่านว่า
สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน
กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ
บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป
บาปย่อมทำโทษซ้ำ ใส่ผู้บาปเอง…
