อรอนงค์ ทิพย์พิมล ชวนพินิจการเมืองอินโดนีเซียซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า อันจะเป็นเลือกตั้งชี้ชะตาประเทศหลัง โจโก วีโดโด ลงจากตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ก็น่าจับตาอย่างยิ่งว่าบทบาทของทหารและกองทัพนับจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร
อรอนงค์ ทิพย์พิมล ชวนสำรวจภาคต่อของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอินโดนีเซีย ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหากมองในโลกอนาคตที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะมีบทบาทมากขึ้นนับจากนี้
สำรวจอุตสาหกรรมยานยนต์ในอินโดนีเซียที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีตลาดขนาดใหญ่และทรัพยากรมหาศาลจนสามารถประกาศเป้าหมายได้ว่าจะเป็นศูนย์กลางการผลิตของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
แน่นอนว่าโจทย์ของความสำเร็จและความมุ่งมั่นเช่นนี้ ย่อมมีประวัติศาสตร์จากรัฐบาลแต่ละชุดเป็นสำคัญ
อรอนงค์ ทิพย์พิมล ชวนรู้จัก มาเรีย อุลฟะฮ์ อดีตรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอินโดนีเซีย ผู้ผลักดันความเท่าเทียมทางเพศผ่านการร่างกฎหมาย จนกลายเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของอินโดนีเซียจวบจนเวลานี้
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับ พระอภัยมณี วรรณคดีโดย สุนทรภู่ ที่ว่าด้วยตัวละครสุดแฟนตาซีในเกาะแก้วพิสดาร ซึ่งภายหลัง นักวิชาการก็ออกมาวิเคราะห์ว่าสถานที่ต่างๆ ในพระอภัยมณีนั้น เป็นได้ตั้งแต่เกาะเสม็ด ไปจนถึงแหลมพรมเทพ เรื่อยไปจนเกาะเว้แห่งอินโดนีเซีย!
ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงบรรยากาศการเลือกตั้งและการทำงานของ กกต. ในอินโดนีเซีย ที่สร้างปรากฏการณ์อื้อฉาวทั้งคอรัปชัน ทั้งไปดูงานต่างประเทศ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ครั้งใหญ่
อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีของอินโดนีเซียที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2024 กับ ‘ตัวเต็ง’ อันของเกมการเมือง ที่มีทั้งผู้เล่นหน้าใหม่น่าจับตา และผู้เล่นหน้าเก่าเก๋าเกม
อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงเพลงดังดุต (Dangdut) หรือเพลงลูกทุ่งอันเป็นแนวเพลงที่นิยมในอินโดนีเซีย กับบทบาททางการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม
อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงบทบาทอันน่าจับตาต่อไปของอินโดนีเซีย ที่เพิ่งได้รับการส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนสำหรับปี 2023 อย่างเป็นทางการ หลังเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มประเทศ G20 เมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา
อรอนงค์ ทิพย์พิมล ชวนสำรวจประเด็นร้อน เมื่อสภาของประเทศอินโดนีเซียผ่านร่างแก้ไขกฎหมายอาญาห้ามมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส ที่ดูเหมือนว่าจะมีอิทธิพลของศาสนาอิมลามด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้
หลังจากรัฐบาลไทยกำหนดให้ ‘นาค’ เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ
อรอนงค์ ทิพย์พิมล จึงชวนสำรวจความเชื่อเรื่องนาคในอินโดนีเซีย ผ่านตำนานและเรื่องเล่าที่ส่งต่อกันมาหลายร้อยปี
อรอนงค์ ทิพย์พิมล เล่าถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งใหญ่ที่อินโดนีเซียในปี 1965-1966 ซึ่งยังผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 500,000-2,000,000 คน โดยหน้าที่ชำระสะสางประวัติศาสตร์เลือดตกเป็นของประชาชนเมื่อรัฐเมินเฉยต่อหน้าที่ดังกล่าว
วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา คือวันครบรอบ 17 ปีสันติภาพที่อาเจะห์หลังรัฐบาลอินโดนีเซียและขบวนการอาเจะห์เอกราชตัดสินใจยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นมานานร่วมสามทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายฝ่ายที่มองว่าประวัติศาสตร์จะยังไม่ได้รับการชำระให้เรียบร้อยตราบใดที่เหยื่อจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับการถูกพูดถึง
ในวาระทีเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเป็นเดือนแห่งเทศกาลไพรด์ (Pride Month) อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนเล่าถึงบทบาทของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT+) ในอินโดนีเซีย ที่ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับในอินโดนีเซียทั้งด้านสังคมและกฎหมาย นำมาซึ่งการต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชนต่อประเด็นนี้ที่ยาวนานกว่าสี่ทศวรรษ
อรอนงค์ ทิพย์พิมล เขียนถึงการก่อกำเนิดยุค ‘ระเบียบใหม่’ ภายหลังการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของซูฮาร์โต และแม้ยุคดังกล่าวจะล่มสลายไปกว่าสองทศวรรษ หากแต่มันก็ได้มอบมรดกบางอย่างให้แก่อินโดนีเซียจนถึงปัจจุบัน
ระบบ Recommend จะคัดสรรบทความและสื่อสร้างสรรค์ต่างๆ ที่คุณสนใจ มาให้คุณเลือกในหน้าโปรไฟล์ส่วนตัวของคุณ ให้คุณไม่พลาดทุกเนื้อหาที่คัดมาสำหรับคุณโดยเฉพาะ
คุณสามารถบันทึกบทความแบบ Read Later โดยคลิกที่ปุ่ม Bookmark Icon หรือจะเก็บบทความที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวไว้ในหมวด Favorite โดยคลิกที่ปุ่ม Favorite Icon เพื่อกลับมาอ่านในภายหลัง
เพียงคุณลงชื่อเข้าใช้ ระบบจะจดจำตัวเลือกฟอนต์และธีมสีที่คุณเคยเลือก ให้คุณอ่านและรับชมทุกเนื้อหาอย่างเต็มที่ สบายตาและเพลิดเพลินใจในแบบที่เหมาะกับคุณ ไม่ว่าจะใช้งานบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ตโฟน
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
