fbpx
หลุมหลบภัยของซูเปอร์อีลีต

หลุมหลบภัยของซูเปอร์อีลีต

ใครๆ ก็ไม่แน่ใจในอนาคตกันทั้งนั้น อาจจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามตูมตามขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หรือไม่ น้ำแข็งขั้วโลกก็อาจละลายทำให้น้ำท่วมโลกฉับพลัน หรือเกิดโรคระบาดจาก Superbug ตู้มเดียวตายเป็นล้านๆ คนก็ได้

 

คนอย่างเราๆ ท่านๆ นี่ ถ้าเกิดหายนะอะไรพวกนี้ขึ้นมา คงได้แต่สวดมนต์ภาวนารอความตาย แต่ถ้าเป็นคนในระดับ Top 1% หรือเป็นสุดยอดซูเปอร์อีลีตของโลกล่ะ พวกเขาเตรียมตัวรับมือเรื่องเล่านี้ไว้อย่างไรกันบ้างหรือเปล่า

ถ้าย้อนกลับไปสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เวลาที่ ‘หวอ’ มา (คือเครื่องบินของฝ่ายสัมพันธมิตรมาทิ้งระเบิด) คนไทยต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างวิ่งหนีลง ‘หลุมหลบภัย’ กันหมด แต่ก็อย่างที่รู้กัน หลุมหลบภัยนั้นหาความสะดวกสบายอะไรไม่มีสักนิด มืดก็มืด แคบก็แคบ อับก็อับ ลงไปซุกอยู่ในนั้นก็แค่เพื่อหนีตายเป็นครั้งคราวเท่านั้น

แต่ถ้าเป็นคนรวยจัดๆ ล่ะ ‘หลุบหลบภัย’ หรือ Bunker ที่คนเหล่านี้สร้างขึ้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?

อย่าคิดว่าเขาไม่ทำกันไว้นะคุณผู้อ่าน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น อุกกาบาตอาจจะพุ่งชนโลกเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้ามีหลุมหลบภัยเตรียมเอาไว้ก่อนก็น่าจะดี

บริษัทสำคัญบริษัทหนึ่งที่ทำงานในการสร้างหลุมหลบภัยระดับไฮเอนด์ให้กับเศรษฐีมหาเศรษฐีทั่วโลก คือบริษัทชื่อ Vivos Group บริษัทนี้เป็นของแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งโดยคุณโรเบิร์ต วินซิโน (Robert Vincino) ซึ่งมีรายงานว่า ตอนนี้มีการสร้างหลุมหลบภัยระดับหรูหราไฮเอนด์ เสร็จเรียบร้อยไปแล้วอย่างน้อยก็หนึ่งแห่งที่รัฐอินเดียนา โดยหลุมหลบภัยนี้มีขนาดถึงราวหนึ่งพันตารางเมตร เป็นหลุมหลบภัยใต้ดิน สามารถรองรับคนได้ 80 คน เป็นเวลานานหนึ่งปี โดยไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปอยู่ในหลุมหลบภัยนี้ได้แต่ประการใด คุณต้องสมัครเป็นสมาชิกเสียก่อนถึงจะได้

ที่อาจจะฟังดูน่าหดหู่เล็กน้อยสำหรับคนที่รวยแต่ยังรวยไม่จัดจริงเจ๋งจริง ก็คือตอนนี้มีคนสมัครสมาชิกแล้วมากกว่า 25,000 คน (แน่นอน-เศรษฐีทั้งนั้น!) แต่ในบรรดาเศรษฐีเหล่านี้ ก็ยังต้องแย่งกันจ่ายเงินกันเพิ่มเติมอีก เพื่อให้ได้ ‘สิทธิ’ ที่จะไปอยู่ในพื้นที่ว่างในหลุมหลบภัย ซึ่งในตอนนี้ก็มีคนจ่ายเงินกันแล้วถึง 1,000 คน (โธ่เอ๋ย! แล้วมีที่แค่ 80 ที่!)

เห็นหรือยัง ว่าตอนนี้มี ‘ดีมานด์’ มากมาย (ฝรั่งเรียกว่า Doomsday Demand) จากเหล่า ‘ซูเปอร์อีลีต’ ของโลก แล้วเมื่อมีดีมานด์ขนาดนี้ จะไม่ให้ฝั่งซัพพลายขยับตัวหรือไร

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดบริษัทใหม่ๆ อื่นๆ ขึ้นอีกหลายแห่ง เช่น Rising S Company ที่บอกว่ายอดขายหลุมหลบภัยใต้ดินที่ว่านี้ จากปี 2015 เติบโตขึ้นมาถึง 700% ในปี 2016

โดยแค่ตั้งแต่ได้คุณโดนัลด์ ทรัมป์ มาเป็นประธานาธิบดีนี่ พบว่ายอดขายยอดจองหลุมหลบภัยระดับสูงพวกนี้ เพิ่มขึ้นถึง 300% เลยทีเดียว!

คำถามก็คือ แล้วในหลุมหลบภัยไฮเอนด์พวกนี้มีอะไรอยู่บ้าง

อย่างแรกสุดไม่ใช่ความหรูหรา แต่คืออาหาร!

แน่ละสิ เพราะต่อให้หรูขนาดไหน แต่ถ้าไร้อาหาร ประเดี๋ยวก็ตายหมด เพราะฉะนั้นจึงต้องมีเสบียงเตรียมไว้ให้อยู่ได้นานหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น หลายแห่งมีการเตรียมสวนผักแบบไฮโดรโพนิกเอาไว้ด้วยเพื่อเพิ่มอาหารสด รวมทั้งต้องมีการคิดว่า ในหลุมหลบภัยแต่ละแห่ง สมาชิกที่จะเข้าไปอยู่ได้ควรจะเป็นใครบ้าง เช่น คงไม่ได้ให้ในหลุมหนึ่งมีแต่หมออยู่ทั้งหมด อีกหลุมมีแต่ทนายความอยู่ทั้งหมด แต่ควรจะเกลี่ยกระจายกัน ทำให้เกิด ‘ชุมชน’ ที่คนที่อยู่มีทักษะแตกต่างกัน เวลาอยู่กันจริงๆ จะได้ราบรื่น ไม่ต้องเกิดปัญหาเหมือนในหนังฮอลลีวู้ด

หลุมหลบภัยอีกแห่งหนึ่งของ Vivos (เรียกว่า Vivos xPoint) เป็นระดับเบสิคหน่อย กำลังอัพเกรดจากหลุมหลบภัยของทหาร อยู่ในรัฐเซาธ์ดาโกต้า ที่นี่เคยเป็นบังเกอร์ของทหาร 575 บังเกอร์ที่เชื่อมรวมกัน ทำให้สามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 5,000 คน โดยแต่ละบังเกอร์จะมีการตกแต่งแตกต่างกันไป คนที่จะมาอยู่สามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเงินเท่าไหร่ ตั้งแต่ 25,000 เหรียญ จนถึง 200,000 เหรียญ (อ๊ะ! ขนหน้าแข้งมหาเศรษฐีไม่น่าจะร่วงนะราคานี้) โดยขึ้นอยู่กับว่าต้องการพื้นที่มากน้อยแค่ไหน หรือต้องการที่อยู่ที่หรูขนาดไหน โดยภายในจะมีห้องเรียน โรงหนัง คลินิก สปา และยิม

หรูไปกว่านั้นอีกขั้นหนึ่ง คือ Vivos Europa One อันนี้สร้างขึ้นมาให้เป็น ‘เรือโนอาห์’ ยุคใหม่ โดยขุดลงไปในชั้นหินแข็ง ลึกลงไปหลายชั้น ปรับปรุงจากโกดังในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง อยู่ในเยอรมนี ที่นี่รองรับคนได้ 34 ครัวเรือนเท่านั้น แต่ละครัวเรือนจะมีพื้นที่ 250 ตารางเมตร แต่สามารถเพิ่มพื้นที่ได้อีก (ถ้าเงินถึง) โดยจะไม่มีการตกแต่งอะไรให้ เพราะแต่ละครัวเรือนที่เป็นซูเปอร์อีลีตคงอยากตกแต่งเองให้เหมาะกับรสนิยมยามโลกแตก

โรเบิร์ต วิซิโน บอกว่า ที่นี่จะเหมือนเรือยอชต์ใต้ดิน อาจจะดูแคบนิดหน่อย (250 ตารางเมตรเนี่ยนะแคบ!) แต่คนเหล่านี้ก็คงคุ้นเคยกับการอยู่ในเรือยอชต์อยู่แล้ว เลยไม่น่าเป็นปัญหามากนัก

แต่ถ้าคุณอยาก ‘อยู่ยาวๆ’ ได้แบบสบายๆ ละก็ ต้องไปที่เชค เพราะที่นี่มีสิ่งที่เรียกว่า The Largest Billionaire Bunker in the World เรียกว่า The Oppidum ซึ่งที่นี่จะไม่ได้อยู่ใต้ดิน แต่อยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่ปิดลับ ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน โดยพื้นที่ทั้งหมดมีกำแพงสูงลิบล้อมรอบ พื้นที่ทั้งหมดคือราวสามหมื่นกว่าตารางเมตร แม้จะอยู่บนดิน แต่ก็มีบางส่วนที่ขุดลึกเข้าไปในภูเขาด้วย ทำให้สามารถใช้เป็นบังเกอร์ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าโลกภายนอกไม่ได้โหดร้ายเกินไป ก็สามารถออกมารับลมรับแดดกันได้แบบหรูหรา) แล้วที่ต้องเป็นประเทศเชค ก็เพราะที่นี่ล้อมรอบด้วยภูเขา อยู่ในชัยภูมิที่ดี ปลอดภัยที่สุดในโลก และเชคก็ไม่ได้เป็นเป้าหมายของการก่อการร้ายใดๆ ด้วย ที่นี่สร้างมาตั้งแต่ปี 1984 แล้ว โดยมีเป้าหมายจะให้เศรษฐีมหาเศรษฐีทั้งหลายมาหลบภัยกันได้แบบสบายๆ อยู่ได้ในระยะยาว จึงหรูหรามากกว่าหลุมหลบภัยอื่นๆ แต่ก็ถูกวิจารณ์เหมือนกันว่ามันไม่ได้ปลอดภัยจริงเหมือนที่อื่นๆ เขา

 

จะว่าไป พวกหลุมหลบภัยพวกนี้ดูเหมือนหนังฮอลลีวู้ดเลย

เอาเป็นว่า ขอแนะนำว่า ถ้าใครเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีตัวจริง ก็ควรจะซื้อไว้หลายๆ แห่ง เผื่อเกิดหายนะทางโน้น ก็จะได้หนีไปทางนี้

แต่ถ้าหายนะมันใหญ่จริงระดับโลกแตกดวงอาทิตย์ขยายตัวมากลืนกินโลก ก็ต้องบอกว่าตัวใครตัวมันแหละนะคุณ!

 

อ่านเพิ่มเติม

บทความเรื่อง Billionaire bunkers: How the 1% are preparing for the apocalypse ของ  April 13, 2017

หลุมหลบภัยใต้ดิน (underground shelter)

บทความเรื่อง Inside The World’s Largest Private Apocalypse Shelter, The Oppidum (New Images) ของ Jim Dobson จาก Forbes

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

4 Aug 2020

การสืบราชสันตติวงศ์โดยราชสกุล “มหิดล”

กษิดิศ อนันทนาธร เขียนถึงเรื่องราวการขึ้นครองราชสมบัติของกษัตริย์ราชสกุล “มหิดล” ซึ่งมีบทบาทในฐานะผู้สืบราชสันตติวงศ์ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร 2475

กษิดิศ อนันทนาธร

4 Aug 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save