ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์ เรื่อง
ภาพิมล หล่อตระกูล ภาพประกอบ
– 1 –
ฉันเชื่อว่าในชีวิตของมนุษย์อย่างเราๆ ควรจะมีเพื่อนสักหนึ่งคน (หรือมากกว่า) ที่สามารถพูดคุยเรื่องเซ็กซ์กันได้อย่างถึงเครื่อง ในกรณีของฉันเพื่อนเกย์นามว่า ‘ทาม’ หรืออย่างที่กลุ่มแก๊งเรียกกันว่า ‘นางฟ้าเอเชีย’ คือบุคคลที่ได้รับเกียรติดังกล่าว
ฉันกับทามนั้นเติบโตและเดินเตาะแตะในเส้นทางของเซ็กซ์มาพร้อมๆ กัน เห็นกันมาแต่อ้อนออก ครั้นขวบวัยที่เหนียมอายกับเรืองเพศ ยันหยาบโลนและสนุกสนาน (อย่างปลอดภัย) กับเซ็กซ์เช่นปัจจุบัน
‘นางฟ้าเอเชีย’ เปิดตำนานเมื่อเราทั้งคู่ไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ด้วยกันกับเพื่อนพ้องอีกสามสี่คน ทันทีที่เท้าเหยียบผืนดินแดนกิมจิ มือของเราทั้งคู่ก็ออกกำลังด้วยการปัดซ้ายขวาในแอพพลิเคชั่นหาคู่อย่างแข็งขัน
“คนประเทศนี้เขาตรงประเด็นดีนะเธอ” ฉันพูดพร้อมกับยื่นแชทสนทนาที่เด้งขึ้นในแอพให้ทามดู หนุ่มเกาหลีที่บังเอิญแมชกันในทินเดอร์นั้นไม่ประนีประนอมด้วยคำถามแนะนำตัวใดๆ ทั้งสิ้น
“คุณพักอยู่ที่ไหน?” คือคำถามที่ได้รับเป็นประโยคแรกๆ ราวกับว่าเพียงแค่เปลี่ยนดินแดน วัฒนธรรมการใช้แอพหาคู่ก็ปรับตามโดยอัตโนมัติ หากอยู่ในประเทศไทยการเล่นแอพพลิเคชั่นเดียวกันอาจจะให้บรรยากาศแบบจีบกันหวานๆ แตกต่างกับที่เกาหลีใต้อย่างสิ้นเชิง ทามเองก็เจอเรื่องราวทำนองเดียวกันบนแอพ และดูท่าจะฮอตกว่าฉันเยอะ เพราะตลอดการเดินทางไปที่พัก มือของทามก็ไม่เคยว่างเว้นจากการพิมพ์แชทและปัดซ้ายขวาเลย แหม…ก็ฮอตตามฉายานางฟ้าเอเชียนั่นแหละ
อีกเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันนึกสนุกในการเปรียบเทียบความใกล้ชิดของคนหนุ่มสาวระหว่างไทยกับเกาหลี คือเมื่อเราเดินเที่ยวในถนนย่านวัยรุ่นตอนเวลาเลยเที่ยงคืนไปแล้ว (สาบานได้ว่าเราทั้งคู่เพียงต้องการจะออกไปหาซุ้มต็อกบอกกีริมถนนกินกันยามดึกเท่านั้น) ระหว่างที่เราเดินไปเรื่อยๆ มีชายหนุ่มหน้าตาน่ารักสบตาและยิ้มให้ ฉันจึงยิ้มตอบกลับด้วยไมตรี เท่านั้นล่ะคุณเอ๋ย ชายหนุ่มก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาฉันทันที
“เธอ! ที่นี่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป เวลามองหน้าสบตากันมันให้ความหมายว่าเธอเชิญชวนเขาไป ‘ยิ้ม’ นะจ้ะ” ใครจะไปรู้ล่ะ อยู่ที่ไทยการยิ้มให้กันคงไม่ได้ความหมายเดียวกันแบบนี้
วันถัดมาทามกับฉันไปเที่ยวซาวน่าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดปักหมุดตามคำบอกกล่าวของหนังสือเที่ยวเกาหลีหลายเล่ม นั่งรถไฟออกห่างจากตัวเมืองไปสักพักก็มาถึงซาวน่าขนาดใหญ่ ข้างในแยกโซนชายหญิงเสร็จสรรพ และหากจะเข้าแช่น้ำร้อน คุณจะต้องเปลือยล่อนจ้อน เหมือนเข้าไปละลายพฤติกรรมกับคนแปลกหน้านับสิบด้วยการเห็นกันหมดจด
ฉันที่ต้องแยกกับทามก็ใช้เวลาทำกิจกรรมในซาวน่าตามรอยซีรีส์เกาหลี ตั้งแต่แช่น้ำร้อน ขัดตัว ปลอกไข่ต้มกินกับน้ำนมข้าว และนอนแผ่บนลานกว้างๆ ถือเป็นประสบการณ์น่ารักๆ ที่ตรงกันข้ามกับทามอย่างสิ้นเชิง !
คืนนั้นทามเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มน่าหมั่นเขี้ยวว่า ขณะทีแช่น้ำร้อนอยู่ มีชายหนุ่มสองคนมานั่งขนาบข้าง จับมือของทามไปประกบที่ของลับ และประคองมือทามให้ขยับขึ้นลง…ใช่ ทำสิ่งนั้นนั่นแหละค่ะคุณผู้อ่าน
“บ้า! แล้วเขารู้ได้ไงวะว่าเธอจะโอเค จะยอมตามน้ำไป” ฉันถาม
“ฉันสังเกตว่าของเขาตื่นตัวไงเธอ แล้วเขาก็คงสังเกตของฉันเหมือนกัน” …โอเค รู้เรื่อง
นั่นคือการเปิดตำนานนางฟ้าเอเชียในซาวน่าของทาม เพราะหลังจากทริปเกาหลีสักสองสามปี ทามก็บินตรงไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ และบินกลับมาพร้อมเรื่องเล่าจากซาวน่าที่นั่นด้วย
– 2 –
“เธอ ฉันสาบานว่าฉันตั้งใจจะเข้าไปแช่น้ำร้อนจริงๆ แต่ว่ามันไม่มีบ่อสักบ่อเลย!” นั่นคือคำโปรยจากประสบการณ์ซาวน่าที่สิงคโปร์ของทาม
ที่ย่าน China Town ประเทศสิงคโปร์ ท่ามกลางร้านอาหารจีนและร้านค้ามากมาย มีซาวน่าสำหรับเกย์เปิดอยู่ ทามจึงตั้งใจจะลองไปสักครั้ง (ซึ่งปรากฏว่าได้ไปหลายครั้ง)
“เอาตรงๆ นอกจากแช่น้ำร้อนเธอหวังอะไร”
“ฉันก็แค่หวังจะไป หล่องสุ่งหนุ่ม (ส่องหนุ่ม ; ออกเสียงตามไวยากรณ์ ภาษาลู) ตามประสาอ่ะเธอ ไม่มีอะไรเล้ย (เสียงสูง)” ยิ้มอย่างรู้กัน
เมื่อเข้าไปในซาวน่าดังกล่าว พนักงานถามย้ำกับทามว่าคุณรู้ใช่ไหมว่าเป็นซาวน่าสำหรับ ‘Guy’ ทามจึงตอบรับอย่างไม่คิดมาก เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามขั้นตอน “พนักงานเขาบอกว่าวันนี้เป็น Theme ผ้าขนหนู”
ซาวน่าที่นี่มักจะมีธีมการแต่งกายด้วย ครั้งแรกที่ทามไปเป็นธีมผ้าขนหนู ส่วนครั้งต่อๆ มาก็มี ธีมกางเกงชั้นใน เปลือยกาย สับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
“ตอนเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ฉันเริ่มได้ยินเสียงดนตรีดังแว่วๆ เหมือนเพลงที่เปิดในผับ ถึงชั้นสองปุ๊ปจะมีม่านผืนใหญ่ปิดอยู่ พอฉันเปิดเข้าไปนะเธอ ฉันต้องรีบปิดม่านเลย แบบ…ขอตั้งตัวแป๊ป” ทามเล่าว่าภาพทีเห็นทันทีที่เปิดม่านคือชายหนุ่มหลายคนยืนอยู่ด้วยกันอย่าง ‘ใกล้ชิด’ คล้ายอยู่ในคลับ ไม่มีบ่อน้ำ ไม่มีซาวน่า ทามคิดว่าตัวเองอาจจะมาผิดชั้น จึงเดินขึ้นไปที่ชั้นต่อไปและพบว่าบนชั้นสามมีเพียงเตียงสำหรับนอนพัก และเช่นเคย… ไม่มีบ่อน้ำให้แช่
เมื่อทามเริ่มปะติดปะต่อว่าซาวน่าแห่งนี้เป็นสถานที่แบบไหน ทามก็ตัดสินใจกลับไปที่ชั้นสองและเดินผ่านม่านเข้าไปภายใน
ทางเดินยาวลึก ขนาบด้วยห้องเล็กๆ กว่าสามสิบห้องคือสิ่งที่ปรากฏสู่สายตา ทามเลือกเดินเข้าไปสำรวจจนสุดทาง และเล่าว่าระหว่างทางก็ได้ยินเสียงกิจกรรมทางเพศอยู่เรื่อยๆ
“เสียงลางครูง (คราง) ดังระงม บางห้องก็ดังอย่างกับหนังญี่ปุ่นเลยเธอ”
ทามผู้เรียนรู้อย่างรวดเร็ว ก็ทดลองประสบการณ์ใน ‘ซาวน่า’ อย่างไม่รอช้า
“บางคนจะยืนรออยู่เฉยๆ หน้าห้อง เพื่อให้คนอื่นเดินเข้ามาหา บางคนก็บุกเอง เดินหาเองเลย เขาไม่พูดอะไรกันมากหรอก จะสัมผัสตัวกันมากกว่า แล้วก็ถามกันเพียงว่า Are you ‘Top’ or ‘Bottom’ (คุณรุกหรือรับ) เท่านั้นแหละ” เมื่อทามเจอหนุ่มสิงคโปร์ที่ถูกใจ ทั้งคู่จึงพากันเข้าห้อง ในห้องมีขนาดไม่กว้างนัก บางห้องมีเตียง บางห้องก็ไม่มี แต่ทุกห้องจะมีทิชชู่ สารหล่อลื่น และถุงยางวางไว้ให้
– 3 –
“ฉันเจอหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกใจ พา ‘ขึ้น’ มาก ฉันตั้งใจว่าเสร็จกิจจะขอช่องทางติดต่อเขา แต่เขาปฏิเสธฉันแล้วบอกว่า ที่สิงคโปร์การเป็นเกย์ไม่เป็นที่ต้อนรับมากนัก เขาเลยซีเรียสเรื่องความเป็นส่วนตัวมาก และจากที่ฉันไปมาหลายครั้ง ฉันก็เชื่อแล้วว่าไม่ค่อยมีใครติดต่อกันหลังจากนั้นหรอก” ทามเล่า
จากประสบการณ์ไปซาวน่าที่สิงคโปร์หลายครั้ง ทามพบว่าสิงคโปร์มีพื้นที่เพื่อกิจกรรมทางเพศสำหรับเกย์อยู่จำนวนมาก แต่ในพื้นที่สาธารณะกลับไม่มีร่องรอยของเพศทางเลือกให้เห็น เมื่อดูเผินๆ ทุกคนจะแสดงออกเป็นเพศชายและหญิงเท่านั้น
“ฉันคิดว่าเพราะสิงคโปร์เป็นสังคมที่ไม่เปิดเรื่องเพศทางเลือกเลย ก็เลยมีพื้นที่แสดงออกแบบลับๆ อยู่เยอะ” ทามเล่าว่าสังคมสิงคโปร์นั้นมีคนจีนอยู่จำนวนมาก วัฒนธรรมของจีนนั้นยึดถือเรื่องความเป็นชาย การเป็นผู้นำ และระเบียบวินัย ดังนั้นการเป็นเกย์จึงค่อนข้างไม่เป็นที่ต้อนรับนัก
นอกจากนั้น ตามคำยืนยันจากเพื่อนร่วมงานของทามที่เล่าว่า อุปนิสัยการทำงานที่เคร่งครัดและเป็นระเบียบของคนสิงคโปร์ ทำให้ผู้คนไม่ค่อยรีแล็กซ์ และไม่ค่อยมีเพศสัมพันธ์กันสักเท่าไหร่ จึงอาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์มีสถานที่แบบ ‘ซาวน่า’ เพื่อปลดปล่อยความต้องการทางเพศอยู่ เพื่อนหลายคนของทามมองประเทศไทยเป็นสวรรค์ เพราะไทยมีสีลมซอย 2 บาร์เกย์ผับเกย์เปิดกันอย่างเปิดเผย
“แฟนเก่าฉันที่เป็นคนสิงคโปร์เนี่ย ถือเรื่องความใกล้ชิดในที่สาธารณะมาก คือย้ำเลยว่าเวลาอยู่ข้างนอกจะต้องแสดงออกเหมือนเป็นเพื่อนกัน มีครั้งหนึ่งเขาบอกฉันว่า ถ้าหากเราอยู่ด้วยกันที่ประเทศไทยเขาคงจะจับมือถือแขนฉันไปแล้ว” ในขณะที่ทามคิดต่างออกไป
“เอาจริงๆ ถ้าอยู่ประเทศไทยฉันอาจจะเป็นฝ่ายไม่จับมือถือแขนเขาเสียเอง พูดก็พูดเถอะ ที่ไทยเองก็มีซาวน่าหรือโรงหนังสำหรับเกย์เหมือนที่สิงคโปร์นั่นแหละ เรามีที่เที่ยวสำหรับเกย์ที่อาจจะเปิดเผยกว่าหน่อย เห็นกันโจ้งๆ ไปเลยว่า ‘ซอยนี้บาร์เกย์นะจ้ะ’ แต่ไม่ว่ายังไงถ้าเพศทางเลือกไม่เป็นที่ยอมรับจริงๆ ในสายตาคนรอบข้าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตยังเพ้อเจ้อ และสิทธิของเราไม่ได้ถูกรับรองจริงๆ เราก็มองหาพื้นที่เฉพาะเพื่อแสดงออกกันต่อไปนั่นแหละ”
หลังจากคุยกับทาม ฉันก็ได้ลองค้นหาสถานที่ทางเพศสำหรับเกย์ในประเทศไทย ก็พบว่ามีอยู่จริงๆ
มีอยู่อย่างโจ้งแจ้ง แต่ไม่เปิดเผย ไม่ลับตา แต่หากไม่มองหาก็คงไม่เจอ ย้อนแย้งเล็กน้อยคล้ายสิทธิของเพศทางเลือกอย่างที่ทามว่าไว้
โลกของเกย์เอเชียตามคำบอกเล่าของนางฟ้าผู้นี้ ระดับการยอมรับเพศทางเลือกทิ้งห่างกันในระยะที่เบาบางมาก เบาบางเพราะแม้จะเปิดเผยกว่า แต่ถ้าเทียบในแง่สิทธิต่างๆ อาจไม่ต่างกันนัก
ฉันและนางฟ้าเอเชียก็คงได้แต่เฝ้ารอระยะทิ้งห่างอย่างมีนัยยะสำคัญไปเรื่อยๆ และเรื่อยๆ เท่านั้นแหละ
