fbpx
“รื้อตำรวจ เปลี่ยนการเมืองไทย” กับ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

“รื้อตำรวจ เปลี่ยนการเมืองไทย” กับ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

จาก ‘ตั๋วช้าง’ ‘บ่อนการพนัน’ ถึง ‘การสลายการชุมนุม’ สังคมไทยกำลังตั้งคำถามใหญ่กับตำรวจ

ไม่นับอีกหลายเหตุการณ์ทำให้ข้ออ้างที่ว่า “ทำตามหน้าที่” หรือ “ทำตามกฎหมาย” ดูไร้ความหมาย ความชอบธรรมของตำรวจถูกท้าทาย ท่ามกลางความคับข้องใจว่า เหตุใด ‘คำสั่งนาย’ จึงใหญ่กว่าหลักเหตุผล

101 ชวน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สนทนาว่าด้วยการเมืองของการปฏิรูปตำรวจ และตำรวจกับการปฏิรูปการเมือง

:: ปฏิรูป ‘ตำรวจ’ ฉบับเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ::

จริงๆ การปฏิรูปตำรวจไม่ยาก แต่ทำครั้งเดียวไม่จบ ต้องค่อยๆ ทำ

จะปฏิรูปตำรวจ ต้องปฏิรูปทั้งคนและระบบ ไม่ว่าจะการปฏิรูปส่วนราชการใดหรือการปฏิรูปประเทศชาติก็ตาม ก็ต้องทำทั้งคนและระบบ ประเทศชาตินะ ถ้าคนในชาติดี อยู่ดีกินดี มีความสุข ไม่ซื้อสิทธิขายเสียง เราก็จะได้ผู้แทนที่ดีมาบริหารประเทศ เช่นเดียวกัน สำหรับตำรวจที่ต้องรับใช้พี่น้องประชาชน ถ้าเรายังทำอยู่เหมือนปัจจุบัน ไม่ปฏิรูป ไม่แก้ไข ก็จะไม่มีทางเจริญขึ้น

การปฏิรูปมีอยู่ 2 ส่วนง่ายๆ คือคนกับระบบ ในส่วนของคน จะเห็นว่าตำรวจมียศ มีพลตำรวจ มีสิบตรี โท เอก ร้อยเอก พันตรี พันโท พันเอก นายพล ในปัจจุบัน พลตำรวจต้องจบ ม.6 แต่ให้คนที่จบ ม.6 มาใช้กฎหมายดูแลชีวิตทรัพย์สินพี่น้องประชาชนมันเพียงพอไหม? ในขณะที่พี่น้องประชาชนเขาเรียนไปถึงไหนแล้ว ตำรวจก็ยังรับ ม.6 มาอยู่ ปัญหามันจึงเกิด คือ หนึ่ง ใช้กฎหมายไม่เป็น ดูแลเขาก็ไม่ได้ หรือแม้แต่นายร้อยจบปริญญาตรี ก็มีทั้งจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ หรือจบคณะอื่นๆ มาบ้างมากมายเยอะแยะไปหมด มันไม่มีมาตรฐานเหมือนศาลหรืออัยการ อย่างในกระบวนการยุติธรรม อัยการ ศาลอย่างน้อยก็ต้องจบเนติบัณฑิต เขามีมาตรฐาน ศาลและอัยการมีความรู้เท่าเทียมกัน แต่ตำรวจไม่เป็นอย่างนั้น

การพัฒนาตำรวจไม่จำเป็นต้องเขียนแผนใหญ่โต สมัยที่ผมเป็น ผบ.ตร. ผมใช้วิธีให้ผู้จัดการการศึกษาแก้ใบสมัครรับข้าราชการนายสิบตำรวจจาก ม.6 ให้เป็นปริญญาตรี แล้วมีเขียนหมายเหตุไว้ว่าเมื่อรับราชการแล้ว 2 ปี ให้สอบเป็นนายตำรวจได้ แต่สุดท้าย ตอนนี้ก็โดนเปลี่ยนกลับให้ไปรับ ม.6 เหมือนเดิม ส่วนนายร้อยที่ปกติรับวุฒิปริญญาตรีนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ หรือจบจากนายร้อยตำรวจ ก็เปลี่ยนไปรับวุฒิปริญญาโทหรือเปิดรับเนติบัณฑิตมาเป็นตำรวจ

ส่วนโรงเรียนนายร้อยตำรวจต้องยุบหลักสูตร แทนที่จะรับนักเรียนเตรียมทหารและบุคคลที่มีวุฒิ ม.6 ก็รับวุฒิปริญญาตรีมาเข้าเลย ให้เรียน 2 ปี สมมติว่าจบนิติศาสตร์ คุณต้องเรียนอะไรเสริมล่ะ? ก็เหลือนิติเวชวิทยา อาชญวิทยา พิสูจน์หลักฐาน ฝึกการต่อสู้ป้องกันตัว ฝึกใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ ฝึกรบในป่า ส่วนกฎหมายเรียนมาแล้วเรียบร้อย

พอทำอย่างนี้แล้ว นายตำรวจชั้นประทวนจะมีคุณภาพมากขึ้น นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจะมีคุณภาพมากขึ้น มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น

:: ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ : ช่องทางของตั๋วช้าง (?) ::

ปัญหาเรื่องการใช้เงินซื้อขายตำแหน่ง ถ้าจะแก้ก็แก้ได้

ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจกำลังเข้าสู่วาระสองที่ต้องพิจารณารายละเอียดรายมาตรา ประเด็นหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือตำแหน่งประธาน ก.ตร. (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ที่เขียนไว้ให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก.ตร.

คุณเป็นนายกฯ คุณไม่มีงานทำแล้วเหรอ เป็นทั้งนายกฯ เป็นทั้งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ก.ตร. คุมตำรวจ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เป็นประธานคณะกรรมการต่างๆ อีกตั้ง 40-50 เรื่อง คุณจะเป็นประธาน ก.ตร. ทำไม ถ้าจะกลัวตำรวจปฏิวัติยึดอำนาจ ตำรวจทำไม่ได้หรอก เพราะทหารคุมการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์หมด ทำไมนายกฯ ต้องมาเป็นประธาน ก.ตร. ทำไมถึงให้ ผบ.ตร. เป็นประธาน ก.ตร. ไม่ได้

ฉะนั้นควรจะเปลี่ยนใหม่ได้แล้ว ถ้านายกฯ ไม่ต้องเป็นประธาน ก.ตร. ก็ให้อดีต ผบ.ตร. ที่อาวุโสกว่า ผบ.ตร. ในตำแหน่งและสมัครใจจะเป็นประธาน ก.ตร. ลงสมัครแล้วให้ข้าราชการตำรวจยศพันตำรวจเอกขึ้นไปโหวตประธาน ก.ตร. ได้

อย่างนายกฯ ไม่มีประสบการณ์ ชี้จะเอาแบบนั้นแบบนี้ มีอำนาจจะย้าย จะปลดใครก็ได้ ส่วน ผบ.ตร. ก็ได้แต่รับคำสั่งจากนายกฯ อย่างเดียว ไม่ได้คิดเอง แต่ถ้าเลือกมาจากข้าราชการตำรวจ การเมืองก็ยุ่งไม่ได้ แทรกไม่ได้

จำได้ไหม สมัยคุณประวิตร วงษ์สุวรรณนั่งตำแหน่งรองนายกฯ ควบประธาน ก.ตร. ช่วงนั้นข่าวซื้อขายตำแหน่งมหาศาล มีการเปลี่ยนระบบจากเดิมที่ระดับนายพลขึ้นไป ก.ตร. มีอำนาจพิจารณาเลื่อนตำแหน่งโดยที่ ผบ.ตร. เป็นผู้ทำบัญชีเพื่อเสนอชื่อให้คณะกรรมการ ส่วนยศต่ำลงมาตั้งแต่พันตำรวจเอกพิเศษลงไปเป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการ แต่พอคุณประวิตรมา ลบทิ้งหมด ให้ ผบ.ตร. พิจารณาหมด แล้ว ผบ.ตร. จะรู้เกี่ยวกับข้าราชการตำรวจระดับปฏิบัติการได้อย่างไร แล้วก็มีข่าวซื้อขายตำแหน่งมากมายมหาศาล

อีกหนึ่งข้อในร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ที่เขียนไว้คือ ให้ยกเว้นเงื่อนไขที่กฎหมายระบุได้หาก ก.ตร. เห็นสมควร มีทำไมข้อนี้? ข้อนี้ทำให้เกิดการทุจริตซื้อขายตำแหน่งกันได้ ตั๋วช้าง ตั๋วม้า ตั๋วเฮงซวยอะไรต่างๆ เข้ามาก็ด้วยข้อนี้ถ้า ก.ตร. เห็นสมควร

:: ตำรวจกับคดีการเมือง ::

การทำคดีการเมืองอยู่ที่ใจที่ยึดมั่นในความสุจริต ยุติธรรม และความถูกต้อง แต่อย่างในปี 2535 มีอยู่คดีหนึ่งที่ทหารตำรวจพยายามใช้ประโยชน์จากการทำคดีการเมืองเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจ

ต้องเกริ่นก่อนว่า ทหารมักจะสร้าง story อยู่เรื่อยเวลาจะยึดอำนาจ อย่างล่าสุดที่คุณประยุทธ์เข้ามายึดอำนาจก็สร้างเรื่องสร้างราว มีม็อบ กปปส. ยุคสนธิ บุญยรัตกลินเมื่อปี 2549 ก็กล่าวหาว่ารัฐบาลทุจริต คอร์รัปชัน แล้วก็เข้ามายึดอำนาจ

พอยุค รสช. ปี 2535 ก็ยิ่งหนัก ถึงขั้นมีการกล่าวหาว่าจะมีการลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้า วางแผนอย่างเป็นระบบโดย จปร.5 ที่ต้องการยึดอำนาจ ต้องการเป็นใหญ่ ตอนนั้นมีการวางแผนให้ จปร. ในส่วนที่เป็นตำรวจคือคุณบุญชู วังกานนท์ ทำสำนวนการสอบสวนว่าพลตรี มนูญกฤต รูปขจร วางแผนลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าฯ จนกระทั่งนายกฯ ชาติชายรู้ทันก็ย้ายบุญชูออกไปแล้วให้ผมมาแทน แต่ จปร.5 ตอนนั้นได้รับการสนับสนุนจากพลเอกเปรม พอผมตรวจสำนวน ไม่กี่วันก็ยึดอำนาจแล้วก็ยึดสำนวนการสอบสวนไป สรุปคือ ทหารเป็นคนกุเรื่อง ชงเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมด

กล้าเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาอ้าง กรณีม็อบนักศึกษาก็เหมือนกัน เอาสถาบันมาอ้างอยู่เรื่อย นักศึกษาจะประท้วงขับไล่ประยุทธ์ก็เอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาอ้าง เอา ม.112 มาดำเนินคดีอยู่ตลอด มันไม่ควรมีคดีมากมายขนาดนี้

:: ตำรวจกับม็อบ ::

ตำรวจต้องมีหน้าที่รักษาความสงบภายใน ที่นี้พอมีเหตุเกิดขึ้น มีม็อบ ตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ แต่ทีนี้จะทำหน้าที่ได้ดีอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ตรงนี้สำคัญที่สุด จะใช้อาวุธ แก๊สน้ำตา กระสุนยาง น้ำฉีด ก็อยู่ที่ดุลพินิจผู้บังคับบัญชาตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์ ณ เวลานั้นว่าจะดำเนินการอย่างไร จะสั่งซ้ายสั่งขวา สั่งให้ทำนั่นนี่

ลำพังตำรวจเองทั้งหมดทำไม่ได้หรอก ต้องรอรับคำสั่งผู้บังคับบัญชาการ ที่นี้ผู้บังคับบัญชาล่ะจะทำอย่างไร ถ้าใช้มาตรการที่โอนอ่อนให้กับทางผู้ชุมนุม เดี๋ยวก็โดนสั่งปลด สั่งย้าย

คนเราบางที อายุมากขึ้น มีครอบครัวต้องรับผิดชอบ มันก็มีความเกรงกลัว ยอมทุกสิ่งอย่างเพื่อที่จะให้ตัวเองไม่เดือดร้อน ไม่ถูกย้าย หรือแม้กระทั่งเพื่ออนาคตตนเองที่จะได้ก้าวหน้าในอาชีพ เพราะฉะนั้น ณ ขณะนี้ เวลานี้ ถ้าถามว่าเราจะได้เห็นภาพตำรวจฝ่าฝืนคำสั่งสลายการชุมนุมแล้วไปอยู่ข้างประชาชนแบบในพม่าหรือไม่ ผมว่าคงยาก

::  ความหวัง (?) ในการเมืองไทย ::

พอเข้าไปเป็น ส.ส. แล้ว ต้องบอกตรงๆ ว่าแทบจะไม่มีความหวังเลย มันหนัก เลวร้ายกว่าทุกยุคทุกสมัย อาจจะเพราะสมัยก่อนเราอยู่ภายนอก ยังไม่ได้สัมผัสใกล้ชิด

แต่พอได้เห็นว่าการเลือกตั้งว่าเป็นอย่างไร ซื้อเสียงกันอย่างไร แล้วเป็นอย่างไรล่ะตอนนี้ ปรากฏว่าแทนที่คุณประยุทธ์จะใช้โอกาสที่ตนเองมีอำนาจทำการเมืองให้ดี เปล่าเลย ยิ่งสกปรกมากกว่าเดิมอีก เขียนรัฐธรรมนูญก็โกง

ที่เป็นแบบนี้ เพราะเขาคิดถึงตัวเองเป็นหลัก อยากเป็นนายกฯ นานๆ อยากสืบทอดอำนาจ เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่ผ่านมาเมื่อ 24 มีนา 2562 จึงมีการทุจริต มีการโกงอย่างมาก ก่อนเลือกตั้งก็ใช้กำลังบีบบังคับผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามที่ไม่เอารัฐบาล พอเลือกตั้งก็โกงคะแนน ซื้อเสียง ตอนนับคะแนนบัตรดีก็ขานว่าเป็นบัตรเสีย แล้วยังเลื่อนเวลาปิดหีบบัตรเลือกตั้งจากบ่าย 3 ไปเป็น 5 โมงเย็น พอจะปิดหีบนับคะแนนฟ้ามันก็มืดแล้ว มันโกงง่าย ฟ้อง กกต. ไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้น

ถ้าคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก จะไม่ทำออกมาอย่างนี้หรอก

MOST READ

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

Politics

23 Feb 2023

จากสู้บนถนน สู่คนในสภา: 4 ปีชีวิตนักการเมืองของอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

101 ชวนอมรัตน์สนทนาว่าด้วยข้อเรียกร้องจากนอกสภาฯ ถึงการถกเถียงในสภาฯ โจทย์การเมืองของก้าวไกลในการเลือกตั้ง บทเรียนในการทำงานการเมืองกว่า 4 ปี คอขวดของการพัฒนาสังคมไทย และบทบาทในอนาคตของเธอในการเมืองไทย

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

23 Feb 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save