fbpx
การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย: Scandinavian Design

กูไม่ใช่หญ้าในรองเท้ามึง!: สุภาษิตจากเลียบขั้วโลก

ปรีดี หงษ์สต้น เรื่อง

ภาพิมล หล่อตระกูล ภาพประกอบ

 

ศูนย์อำนาจของภูมิภาคสแกนดิเนเวียสองแห่งคือ โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก และ สตอกโฮล์ม สวีเดน ต่างเป็นเจ้าอาณานิคมมาก่อนทั้งสิ้น

เดนมาร์กถือว่าเป็นเจ้าอาณานิคมตามตัวแบบมาตรฐานก็ว่าได้ เพราะมีอาณานิคมของตนเป็นจุดๆ เรียงรายตามทวีปต่างๆ ตั้งแต่ โกลด์ โคสต์ ในทวีปแอฟริกาตะวันตก, (ปัจจุบันคือบริเวณประเทศกานา) ทรันคีบาร์ ศรีรัมปูร์ และหมู่เกาะนิโคบาร์ ในทวีปเอเชีย, เวสต์ อินดีส์ ในทวีปอเมริกา, ไปจนถึงประเทศกรีนแลนด์บนมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ฯลฯ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเดนมาร์กเป็นอำนาจขนาดกลางหนึ่งในหลายอำนาจยุโรปอื่นๆ ยุคอาณานิคม ภายใต้การขยายตัวของทุนนิยมโลกที่มียุโรปเหนือเป็นศูนย์กลางอย่างน้อยๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีบทบาทของการค้าบนทะเลบอลติกเป็นตัวหนุนอย่างสำคัญ

ส่วนสวีเดนนั้นมีฐานะเป็นชายขอบของภูมิภาคยุโรปกว่าเดนมาร์ก มีอาณานิคมอยู่จำนวนน้อยกว่า อาทิ นิวสวีเดน หรือ แซง บาร์โธโลมี ในทวีปอเมริกา เคป โคสต์ ในทวีปแอฟริกา ซึ่งสุดท้ายก็ต้องขายให้กับเจ้าอาณานิคมอื่นไป

 

อาณานิคมภายในของสวีเดน

 

กิจกรรมอาณานิคมของสวีเดนซึ่งมักจะไม่มีการอภิปรายถึงนัก คือการควบรวมเอาดินแดนทางเหนือของสแกนดิเนเวียที่เรียกว่าเฟนโนสแกนเดีย (Fennoscandia) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตน เขตดินแดนฟินโนสแกนเดียปัจจุบันเป็นพื้นที่ของหลายประเทศคือ นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ รวมทั้งรัสเซียด้วย

ในดินแดนทางเหนือเลียบขั้วโลกนี้ เป็นดินแดนภูมิศาสตร์ซัปมี (Sápmi) เป็นแห่งที่อยู่ของชนพื้นเมืองซามี (Saami) ซึ่งเมื่อสวีเดนรวมเข้ามาก็จะเรียกพื้นที่เหล่านี้ว่าลัปลันด์ (Lapland)

กระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 – 16 แล้ว โดยดินแดนทางเหนือของสวีเดนนี้ (นอร์เวย์และฟินแลนด์) แม้จะหนาวเหน็บ แต่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อการค้าในตลาดโลก ยิ่งมีการขุดค้นพบแร่เงินในต้นศตวรรษที่ 17 ยิ่งทำให้ลัปลันด์เป็นบริเวณสำคัญต่อเศรษฐกิจของสตอกโฮล์มอย่างมาก เพราะฉะนั้นตั้งแต่ช่วงเวลานั้นเป็นต้นมา ดินแดนของชาวซัปมีก็ถูกสำรวจ ตรวจวัด ทำแผนที่ แตกแยกแบ่งเป็นเขตแพริช (เขตวัด) จังหวัด และพื้นที่ตามทะเบียนภาษี ฯลฯ

แต่ปัญหาของเจ้าอาณานิคมคือ เมื่อจัดการกับดินแดนซัปมีแล้ว จะปกครองชาวซามีอย่างไรเล่า

 

เขตภูมิศาสตร์ซัปมี ดินแดนของชาวซามี ที่มา : en.wikipedia.org

คริสต์ศาสนาเป็นเครื่องมือการจัดการ

 

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 สวีเดนเริ่มพุ่งเป้าไปที่โจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไรจะให้ชาวซามีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการปกครอง เพราะชาวซามีมีระบบวัฒนธรรมและความเชื่อเป็นของตนเอง เช่น การมีหมอผีและคนทรงเจ้า ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเป็นภัยต่อเสถียรภาพ จึงจัดการศึกษาสำหรับเด็กชาวซามีโดยมีคริสต์ศาสนาเป็นแก่นแกนการจัดทำหลักสูตร

ล่วงเข้าศตวรรษต่อมา การจัดตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กชาวซามีก็แทบจะเรียบร้อยสมบูรณ์ การเรียนการสอนมุ่งเน้นไปที่การขัดเกลาให้เด็กชาวซามีหันมานับถือพระเจ้า มุ่งสำรวจเข้าไปในภายในจิตวิญญาณของตนเองว่าได้กระทำบาปใดๆ หรือไม่แม้แต่น้อยนิด ปรัชญาศาสนาและปรัชญาการศึกษารวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

นักเรียนจะได้รับการดูแล (หรือถูกจับตาดู) อย่างใกล้ชิด พวกเขาจะถูกจับแยกกันเพื่อให้มีเวลาสำรวจตรวจตราเข้าไปในความคิดและวิญญาณของตนเองว่า ได้ผิดออกไปจากเส้นทางของพระเจ้าแม้แต่น้อยหรือไม่

การเรียนการสอนจะเน้นบ่มเพาะนักเรียนให้ขยัน ว่านอนสอนง่าย โดยหลีกเลี่ยงการใช้ไม้เรียวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่น่าพึงประสงค์ และนักเรียนจะรักษากิจวัตรในการสวดมนต์และอุทิศชีวิตให้กับศาสนาอย่างเคร่งครัด

 

ครอบครัวชาวซามี ที่มา : wikimedia.org

 

นี่คือคริสต์ศาสนาแบบไพอาทิสม์ (Pietsim) ของนิกายลูเธอแรนซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเยอรมนี และแพร่ขยายไปยังสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศกลุ่มบอลติก ประเทศสแกนดิเนเวีย (รวมทั้งไปถึงสหรัฐอเมริกาผ่านกลุ่มผู้อพยพจากดินแดนเหล่านี้ ซึ่งไปก่อตั้งคริสต์ศาสนานิกายอีวันเจลิคอล ซึ่งนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก)

นี่เป็นการเปลี่ยนให้ชาวซามีกลายมาเป็นชาวสวีเดนลูเธอแรนอย่างถึงจิตวิญญาณ

 

คริสต์ศาสนากลุ่มไพเอทิสม์ มุ่งไปที่ความเรียบง่ายและความเคร่งครัดต่อจิตวิญญาณ นี่เป็นตัวอย่างจากนอร์เวย์ ที่มา : wikimedia.org

 

การต่อต้านผ่านสุภาษิต

 

แต่กระบวนการนี้ไม่ได้เป็นไปในทางเดียว หรือไม่ได้สำเร็จสมบูรณ์เสมอไป แม้เราจะไม่ได้เห็นการต่อต้านในลักษณะก่อการลุกฮือเสียทีเดียว (ซึ่งมีอยู่ แต่ไม่มาก) แต่เราจะเห็นการต่อต้านด้วยวิธีแบบ ‘อาวุธของคนยาก’ (weapons of the weak) อยู่มากมายไปหมด เช่น นักเรียนซามีบางแห่งก็ทำทีว่าตนเองนั้นซาบซึ้งและหลงใหลไปกับการนับถือคริสต์ศาสนา หรือการยืนยันจะปฏิบัติตามประเพณีของชาวซามีต่อไปโดยไม่เปลี่ยนแปลง เช่นการยืนยันจะตีกลองพื้นเมืองของตนต่อไป แม้จะอยู่ภายใต้สายตาอันเคลือบแคลงสงสัยของรัฐ เป็นต้น

 

การต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวซามี โดยชาวซามีนั้นพัฒนามาตามลำดับ รูปคือสภาซามีของนอร์เวย์ของปี ค.ศ.1989 ที่มา : wikimedia.org

 

หากแต่สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นการต่อต้านแบบอาวุธของคนยาก ปรากฏอยู่ในสุภาษิตของชาวซามีหลายสุภาษิตด้วยกัน ซึ่งปราชญ์ชาวบ้านได้รวบรวมเอาไว้ ในที่นี้ขอยกมาสักสามสี่สุภาษิต

 

Once a Norwegian, always a Norwegian – ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกนอร์เวย์แล้ว อย่างไรก็เป็นพวกนอร์เวย์อยู่วันยังค่ำ

สุภาษิตนี้ชาวซามีใช้กับทั้งชาวนอร์เวย์ ชาวสวีเดน และชาวฟินน์จากส่วนกลาง (เปลี่ยนกรรมไปตามที่อยู่ของชาวซามีว่าอยู่ในเขตประเทศอะไร) เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้อย่างไรก็ไม่เข้าใจว่าชาวซามีคิดหรือเห็นโลกอย่างไร

 

A Sami heart never warms up to that of a Norwegian – ชาวซามีไม่เคยใจอ่อนให้กับพวกนอร์เวย์

เช่นเดียวกันกับสุภาษิตข้างต้น สุภาษิตนี้แสดงให้เห็นว่าชาวซามีแสดงความเป็นปฏิปักษ์กับพวกสแกนดิเนเวียที่มาล่าอาณานิคม มาขูดรีดเอาทรัพยากรของพวกเขาไป

 

A wolf crosses nine valleys in one evening – หมาป่าข้ามเก้าหุบเขาได้ในเย็นวันเดียว

สุภาษิตนี้มีนัยถึงคริสต์ศาสนา โดยในเรื่องเล่าของชาวซามีนั้น เมื่อพระเยซูเดินทางเข้าไปในดินแดนของชาวซามี เขาต้องการเรือเพื่อเดินทางข้ามแม่น้ำ จึงขอความช่วยเหลือจากหมาป่า แต่หมาป่ากลับปฏิเสธ บอกว่าตนต้องออกไปหาอาหาร พระเยซูจึงโกรธและลงโทษหมาป่าว่า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นไปหมาป่าจะต้องข้ามหุบเขาถึงเก้าหุบเขากว่าจะได้เจออาหารที่ตนต้องการ ต่อจากนั้นพระเยซูขอความช่วยเหลือจากหมี ซึ่งหมีก็ช่วยอย่างว่านอนสอนง่าย พระเยซูจึงให้รางวัลโดยบัญชาว่า ต่อแต่นั้นเป็นต้นไปในทุกหน้าหนาว หมีไม่ต้องออกไปหาอาหารอีกเลย สามารถนอนจำศีลได้ตลอดฤดู สุภาษิตนี้แสดงให้เห็นว่าชาวซามีเคารพหมาป่าผู้ต่อต้านบัญชาจากสวรรค์ แม้จะต้องถูกสาปให้เหน็ดเหนื่อย แต่พวกเขาก็ไม่อินังขังขอบ

 

I am not a grass in your boots – กูไม่ใช่หญ้าในรองเท้ามึง!

ปกติแล้วชาวซามีจะนำหญ้าแห้งใส่ไว้ในรองเท้าสำหรับทำงาน สำหรับฤดูอันหนาวเหน็บ และใช้หญ้าปรับเข้ากับขนาดเท้าของผู้สวมใส่ หญ้าจึงเป็นของต่ำเท่านั้น ชาวซามีอาจจะใช้สุภาษิตนี้เปล่งกับเหล่าชาวสแกนดิเนเวียคริสต์ลูเธอแรนผู้มาล่าอาณานิคมดินแดนซัปมีของพวกเขา เหล่าคนยากในที่ใดๆ ก็ตามสามารถเปล่งสุภาษิตนี้ต่อผู้ที่มากดขี่พวกเขาเช่นกัน

สุภาษิตในความหมายแบบนี้ตรงไปตรงมา แถมยังมีให้เห็นอยู่ทั่วโลก

 


อ้างอิง

Daniel Lindmark, “Colonial Encounter in Early Modern Sápmi” in Magdalena Naum and Jonas M. Nordin (eds.), Scandinavian Colonialism and the Rise of Modernity (New York: Springer, 2013), 131-146.

กรพินธุ์ พัวพันสวัสดิ์, “แนวคิดทางการเมืองเรื่องการขัดขืนต่อต้าน (Resistance)” 

Harald Gaski (ed.), Time is a Ship that Never Anchor: Sami Proverbs (Karasjok: ČálliidLágádus, 2017)

MOST READ

World

1 Oct 2018

แหวกม่านวัฒนธรรม ส่องสถานภาพสตรีในสังคมอินเดีย

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก สำรวจที่มาที่ไปของ ‘สังคมชายเป็นใหญ่’ ในอินเดีย ที่ได้รับอิทธิพลสำคัญมาจากมหากาพย์อันเลื่องชื่อ พร้อมฉายภาพปัจจุบันที่ภาวะดังกล่าวเริ่มสั่นคลอน โดยมีหมุดหมายสำคัญจากการที่ อินทิรา คานธี ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก

1 Oct 2018

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save