บทความชวนดูงานศิลปะและนวัตกรรมจากโลกที่หนึ่ง ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้สังคมและชีวิตคน ผ่านสายตานักออกแบบมัลติมีเดียจากโลกที่สามในนามกลุ่ม Eyedropper Fill
Eyedropper Fill เรื่อง
ปทิตตา วาสนาส่งชูสกุล ภาพประกอบ
ช่วงราวๆ สิบห้าปีที่ผ่านมา ‘slow movement’ หรือกระแสนิยมความเนิบช้า แพร่กระจายไปทั่วโลก ต้านทานจังหวะของสังคมที่มุ่งหน้าไปด้วยความเร็ว ซึ่งกำลังส่งผลเสียมากมายกลับมาหาผู้คน เราเริ่มเห็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตอย่างเนิบช้าหรือสโลว์ไลฟ์ของคนรุ่นใหม่, การผลิตอาหารที่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนของโลกและสุขภาพของคนกินเท่าๆ กันอย่างสโลว์ฟู้ด ตรงข้ามกับวัฒนธรรมการบริโภคที่เน้นความเร็วและทำร้ายสุขภาพอย่างฟาสต์ฟู้ด หรือการเคลื่อนไหวของสโลว์แฟชั่น โดยกลุ่มคนที่ไม่ไหวจะทนกับความเร็วและไม่แคร์สิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้า
‘slow sex’ คืออีกหนึ่งการเคลื่อนไหวที่ผุดขึ้นมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แม้จะถูกพูดถึงน้อยกว่ากระแสสโลว์อื่นๆ แต่ก็ถูกให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง และมากขึ้นมากเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่คำนี้ถูกพูดถึง
ในหนังสือ In Praise of Slowness ผู้เขียน Carl Honoré เล่าว่าแนวคิดของเซ็กซ์ที่เนิบช้าถูกจุดขึ้นครั้งแรกที่อิตาลี โดย Alberto Vitale ที่ปรึกษาการตลาด อดีตเสือผู้หญิงที่ผ่านประสบการณ์เซ็กซ์มาอย่างโชกโชนบอกว่า เซ็กซ์ในโลกที่วัดประสิทธิภาพกันด้วยความเร็วทำให้เรามีเซ็กซ์แบบเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เรามักคุ้นกับบทสนทนาเชิงตัวเลข ประเภท ‘กี่คน’ หรือ ‘กี่ครั้ง’ เวลาที่ผู้คนโดยเฉพาะผู้ชายพูดถึงเพศสัมพันธ์ มักให้ความสำคัญกับผลผลิตปลายทางอย่างการเสร็จหรือถึงจุดสุดยอด (orgasm) มากกว่าความรื่นรมย์ทางประสาทสัมผัสที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
แนวคิดที่เป็นรากและมีอิทธิพลต่อเซ็กซ์แบบเนิบช้าโดยตรง คือเซ็กซ์แบบตันตระ ที่ผสมผสานการทำสมาธิและโยคะเข้ากับเซ็กซ์ ตันตระให้ความสำคัญกับ ‘full-body orgasm’ หรือการถึงจุดสุดยอดทั้งร่างกาย โดยมองว่าการ ‘หลั่ง’ เป็นเพียงโบนัส ไม่ใช่ทั้งหมดของเซ็กซ์
ความใส่ใจรายละเอียดของคู่เซ็กซ์และการให้เวลากับความพึงพอใจในร่างกายจึงเป็นหลักสูตรปฏิบัติที่มาพร้อมเซ็กซ์แบบเนิบช้าที่กำลังถูกให้ความสนใจโดยผู้คนมากขึ้น แนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเซ็กซ์โดยตรงอย่าง ‘เซ็กซ์ทอย’ จึงต้องปรับตัวเพื่อสอดรับกับความโรแมนติกของคนที่กำลังเปลี่ยนไป
ONNA คือบริษัทผลิตเซ็กซ์ทอยที่วางจุดยืนของแบรนด์ชัดเจนในเรื่องของความช้า โดยสโลแกนของแบรนด์คือ ‘THE ART OF SLOW PLEASURE’ หรือศิลปะแห่งการดื่มด่ำความอิ่มเอิบเนิบช้า การออกแบบเซ็กซ์ทอยของ ONNA จึงไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การช่วยตัวเองโดยการสอดใส่เพื่อรับใช้การเสร็จเพียงอย่างเดียว แต่เน้นให้ผู้ใช้ได้มีเวลามอบความพึงพอใจให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วย
Vitale บอกว่า อันที่จริงเซ็กซ์แบบรีบร้อนไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคสมัยใหม่ แต่มีรากยาวนานตั้งแต่ยุคก่อร่างสร้างวัฒนธรรมมนุษย์ การมีเซ็กซ์ในช่วงเวลาสั้นเท่าไหร่ ยิ่งลดโอกาสที่จะถูกทำร้ายและโจมตีโดยสัตว์ป่าหรือศัตรูมากเท่านั้น แต่ในโลกปัจจุบันที่คนเราสามารถมีเวลารื่นรมย์กับชีวิตมากขึ้น เซ็กซ์จึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเสมอไป และเซ็กซ์ยังเป็นช่วงเวลาที่คนคนหนึ่งจะได้มีโอกาสสำรวจความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง ในโลกที่เราไม่มีโอกาสเชื่อมต่อกับตัวเองมากนัก
The Rituals of Sexual Pleasure คือชุดผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อทำให้คนได้มี ‘พิธีกรรม’ กับตัวเอง เพื่อค้นหาความสุขในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นคู่หรือใช้คนเดียวก็ตาม นักออกแบบ Coby Huang ออกแบบให้ผลิตภัณฑ์ในเซ็ตทำจากวัสดุที่มอบสัมผัสและน้ำหนักที่แตกต่างกันอย่าง ซิลิโคน ไม้ แก้ว โลหะ และไหมพรม แต่ละชิ้นมีรูปทรงกลมกลึงโค้งเว้าที่สามารถนำไปสัมผัสได้กับทุกส่วนของร่างกาย ไม่ใช่แค่อวัยวะเพศ พร้อมทั้งมี vibrator ที่สร้างแรงสั่นในรูปแบบที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ในเซ็ตยังมีคำแนะนำการจับคู่เซ็กซ์ทอยชิ้นต่างๆ เข้ากับเพลย์ลิสต์และกลิ่นของเทียนหอม
The Future of Sex Lab แล็บที่ค้นหาความเป็นไปได้ระหว่างเซ็กซ์และเทคโนโลยี มองว่าส่วนสำคัญที่ทำให้การใช้เวลาดื่มด่ำกิจกรรมทางเพศเกิดขึ้นได้ยากในยุคสมัยใหม่คือเทคโนโลยีที่รวดเร็วสวนทางกัน แล็บจึงค้นหาวิธีที่จะทำให้เทคโนโลยีช่วยผสานและสร้างความสัมพันธ์ทางเพศที่ดีขึ้น แทนที่จะเป็นตัวสกัดกั้น
อินเตอร์แอคทีฟเว็บไซต์ชื่อ Wheel of Foreplay ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสำคัญให้ห้วงเวลาของการแหย่เย้าเล้าโลมในการมีเซ็กซ์ของคู่รักหรือแม้แต่การช่วยตัวเอง ภายในเว็บมีรูปแบบเป็นเกมหมุนวงล้อเพื่อสุ่มการ์ด ‘ชาเลนจ์’ เช่น ให้ทั้งคู่ถอดเสื้อผ้าเล่นซ่อนหากัน หรือ เปิดรูปอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่รูปโป๊และดูว่าคุณจะมีอารมณ์กับมันอย่างไร
เว็บไซต์นี้ออกมาในช่วงการระบาดของโควิด-19 พอดี นอกจากจะช่วยเพิ่มความสำคัญให้ช่วงเวลาของการเล้าโลม แต่ละชาเลนจ์ยังช่วยจุดประกายให้คนที่กักตัวอยู่ด้วยกัน หรือแม้กระทั่งกักตัวอยู่คนเดียว เริ่มต้นบทสนทนาทางเพศกับคนรักและตัวเองได้ง่ายขึ้น
Kendall McKenzie ผู้สอนเพศศึกษาในนิวยอร์กบอกว่า การพูดคุยกันเกี่ยวกับความพึงพอใจในร่างกายเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่สุขภาวะทางเพศที่ดี การขับเคลื่อนให้เกิดบทสนทนาที่ว่า ฉันชอบให้จับตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน หรือต้องการให้เธอทำอะไร จึงเป็นเรื่องสำคัญ ในการฝึกสอน slow sex แบบตันตระมีแบบฝึกหัดอย่าง Yes-No-Maybe-Please โดยให้คู่รักสัมผัสร่างกายกันและกันอย่างเนิบช้า และบอกกันว่า ตรงไหนใช่, ไม่, เป็นไปได้ หรือแบบไหนใช่เลย! ขอแบบนี้อีก!
ในขณะที่แนวคิด slow sex ช่วยทำให้ผู้คนกลับมาให้ความสำคัญกับความสุขในร่างกาย และโอเคที่จะแบ่งปันความพึงพอใจให้แก่กันมากขึ้น มันยังช่วยขับเคลื่อนอีกแนวคิดที่พัวพันกันอย่างแยกไม่ขาด อย่าง ‘orgasm equality’ หรือแนวคิดที่ว่า ‘ทุกคนมีสิทธิจะเสร็จอย่างเท่าเทียม’
เซ็กซ์แบบรวดเร็วไม่ได้เกิดขึ้นเพราะยุคสมัยที่รีบร้อนเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการให้ความสำคัญกับการเสร็จของผู้ชายเป็นใหญ่เหนือกว่าความสุขและการเสร็จของผู้หญิง หลายสถิติบอกว่า ผู้หญิงครึ่งค่อนโลกไม่เคยไปถึงจุดสุดยอดเลยขณะมีอะไรกับคนรัก ผู้หญิงส่วนใหญ่ใช้เวลานานกว่าจะไปถึงจุดสุดยอด และหลายคนบอกว่าเธอพึงพอใจจากการกระตุ้นในส่วนต่างๆ นอกเหนือไปจากอวัยวะเพศของเธอร่วมด้วย แนวคิด slow sex ที่ปลุกให้คนให้ความสำคัญกับความสุขในร่างกายและสร้างประสบการณ์แบบ full-body orgasm จึงช่วยผลักดันให้เกิดการเสร็จเท่าเทียมมากขึ้น
การเสร็จที่เท่าเทียมไม่ได้ขยายวงไปสู่ผู้หญิงเท่านั้น แต่ผายมือกว้างออกไปสู่คนที่มีความหลากหลายมากกว่าแค่ชายหญิงหรือคนหนุ่มสาว
ผู้ผลิตเซ็กซ์ทอยอย่าง Wild Flower สร้าง Genderless หรือ Gender-Neutral sex toy ที่ออกแบบมาสำหรับเพศที่หลากหลายและลื่นไหล ทำให้เซ็กซ์ทอยชิ้นนี้สามารถอยู่กับคนคนหนึ่งไปได้ในทุกๆ การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย คู่รัก หรือแม้แต่รสนิยมทางเพศ ด้วยการออกแบบรูปทรงที่เหมาะกับการใช้งานแบบปลายเปิด และที่สำคัญ ไม่จำกัดและปิดนิยามทางเพศให้ผู้ใช้งานด้วยรูปทรงเลียนแบบอวัยวะเพศที่เราคุ้นเคย (ไม่ใช่แค่เราใช้ ‘จู๋’ เพราะเป็นผู้หญิง หรือเราใช้ ‘จิ๋ม’ เพราะเป็นผู้ชาย)
‘เซ็กซ์ทอยไร้นิยามเพศ’ จึงเปิดกว้างให้กิจกรรมทางเพศไปจนถึงตัวตนของเรา หรือแม้กระทั่งคู่ของเราเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ
นอกจากความหลากหลายทางเพศ ผู้ออกแบบเซ็กซ์ทอยในปี 2021 ยังคิดถึงความหลากหลายทางอายุอีกด้วย ในขณะที่เซ็กซ์ทอยทั่วไปในตลาดตอบโจทย์ความต้องการของคนในช่วง 18-49 ปีเท่านั้น Dotyk คือชุดเซ็กซ์ทอยที่ออกแบบตามความต้องการของผู้สูงวัย ออกแบบให้เล่นกับผัสสะที่หลากหลายอย่างนอกจากการสัมผัส อย่างกลิ่น หรืออุปกรณ์ที่ใช้ฟังเสียงการเต้นของหัวใจของคู่รัก
ในขณะที่ Ripple คือชุดอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้คนพิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สามารถช่วยตัวเองและมีความสุขทางเพศได้ในรูปแบบของชุดพองลม หน้ากาก และรีโมตคอนโทรลที่สามารถกระตุ้นทั้งการสัมผัส การมองเห็น เสียง และกลิ่น
Hsin-Jou Huang, Szu-Ying Lai และ Chia-Ning Hsu นักออกแบบทั้งสามมองว่า ความต้องการทางเพศของคนพิการคือเรื่องที่ถูกละเลยมากที่สุด มากกว่านั้นบางสังคมมองว่าเรื่องเพศของคนพิการน่าเกลียดและน่าอายโดยเฉพาะในประเทศกำเนิดอย่างไต้หวัน ทั้งที่จริงๆ มันเป็นเรื่องปกติและเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของคนทุกคน
ชุดที่คนพิการจะได้สวมใส่ออกแบบให้สามารถพองลมและมีอุณหภูมิอุ่นๆ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกในบริเวณหน้าอกและบั้นท้าย มีแรงสั่นสะเทือนในจุดที่เป็นอวัยวะเพศ หน้ากากสำหรับปิดตามาพร้อมกลิ่นฟีโรโมน และหูฟังที่มีเสียง ASMR (autonomous sensory meridian response) ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเย้ายวน ถุงลมบริเวณไหล่และหน้าท้องจะพองลมพร้อมเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นเพื่อจำลองความรู้สึกของการถูกกอดยามถึงจุดสุดยอด
หลายคนอาจจินตนาการภาพเซ็กซ์ทอยในปี 2021 ไว้แฟนตาซีเหนือจินตนาการ (ซึ่งอะไรแบบนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มี อย่างเช่น เซ็กซ์ทอยทางไกลที่เชื่อมต่อกับ Virtual Reality) แต่สิ่งที่เซ็กซ์ทอยเหล่านี้สะท้อนออกมาดังกว่า กลับเป็นความพยายามของนักออกแบบที่พยายามจะฟังเสียงความปรารถนาของคนที่แตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรสนิยมทางเพศที่หลากหลายและไม่ได้มีแค่หญิงชาย คนสูงอายุ หรือคนพิการที่บ่อยครั้งถูกมองข้ามความต้องการทางเพศไป ทำให้นึกต่อไปไกลขึ้นอีกว่า ในโลกนี้ยังมีความปรารถนาทางเพศของใครอีกที่ยังไม่ได้ถูกฟังอีกไหม
เซ็กซ์และความโรแมนติกในปี 2021 จึงเป็นเซ็กซ์ที่นับรวมความหลากหลาย และให้เวลารับฟังความปรารถนาที่ไม่เคยถูกฟัง โดยเฉพาะความปรารถนาข้างในของตัวเราเอง
อ้างอิง
In Praise of Slowness, 2004, Carl Honoré
R.O.S.P – Ritual of Sexual Pleasure
Ripple masturbation suit offers sex aid to people with disabilities
