fbpx

ควรปิดโรงเรียนหรือไม่

เรื่องปิดโรงเรียน ถ้ารัฐบาลทำงานดีกว่านี้ได้ก็ไม่ควร

ปิดโรงเรียนก็เหมือนปิดร้านอาหาร มิใช่ทุกคนจะรับผลตามมาที่เกิดขึ้นได้ มีคนไทยจำนวนมากมายที่มีรายได้รายวันจากร้านอาหารที่ทำเป็นอาชีพ เราควรบริหารจัดการร้านอาหารได้ดีกว่าที่เป็นอยู่มากกว่าที่จะปิดทั้งหมด

ปิดโรงเรียนก็เหมือนปิดโรงพยาบาล มิใช่ทุกคนจะรับผลตามมาที่เกิดขึ้นได้ มีคนป่วยจำนวนมากที่กำลังเดือดร้อนเพราะโรคประจำตัวกำเริบแต่ไม่สามารถพบแพทย์ เราควรบริหารจัดการแผนกอื่นของโรงพยาบาลได้ดีกว่าที่เป็นอยู่มากกว่าที่จะปิดทั้งหมด

เราอาจจะให้เหตุผลว่าเพราะจำนวนผู้ป่วยโควิดมีมากเกินไปทำให้การจัดการร้านอาหาร โรงพยาบาล หรือโรงเรียนทำไม่ได้ คำตอบจะเลื่อนไปที่ ‘เลเวล’ ถัดไป นั่นคือเราควรบริหารจัดการการระบาดของโควิด-19 ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่

สมมติว่าท่านที่รับผิดชอบตรงนี้ไม่มีความสามารถทำได้ เราจะเลื่อนไปที่เลเวลถัดไปอีกนั่นคือควรเปลี่ยนคนทำงาน แล้วให้รางวัลแก่คนที่ทำงานได้มากกว่าปกติ  

สมมติว่าไม่มีงบประมาณหรือทรัพยากรที่จะให้รางวัลคนที่ทำงานได้ดีกว่าหรือมากกว่าปกติ เราจะเลื่อนไปที่เลเวลถัดไปคือลดเงินเดือนคนที่ทำงานไม่ได้ แล้วเอาเงินเดือนของเขาเหล่านั้นมาให้คนที่ทำงานได้  

เหล่านี้เป็นมาตรการมาตรฐานที่ควรทำ แต่เราไม่ทำอะไรเลย เหตุหนึ่งเพราะรัฐราชการและรัฐรวมศูนย์ไม่เปิดช่องให้ทำอย่างที่ว่าได้ เราจึงจำเป็นต้องรื้อระบบที่เป็นอยู่อย่างน้อยก็หลังวิกฤตการณ์โควิดนี้ นั่นคือรัฐราชการสามารถทำโทษหรือไล่คนออกได้ง่าย และให้รางวัลพิเศษแก่คนเก่งได้ตามที่เป็นจริง

กลับมาที่ปิดโรงเรียน 1 ปี มีงานวิจัยจากต่างประเทศซึ่งน่าจะหากันได้ไม่ยากที่แสดงให้เห็นว่าเด็กในบ้านที่มีฐานะยากจนกว่าจะได้รับผลกระทบจากการปิดเทอมฤดูร้อนมากกว่า เหตุเพราะเด็กๆ เหล่านี้ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ที่มีเวลาและคุณภาพมากพอจะดูแล ไม่มีหนังสือในบ้าน ไม่มีห้องสมุดสาธารณะ และไม่มีพ่อแม่ที่รักการอ่านเป็นแบบอย่างมากพอที่จะช่วยให้เขาอ่านหนังสือตลอดเวลาที่ปิดเทอม

มีงานวิจัยอีกจำนวนหนึ่งจากต่างประเทศซึ่งน่าจะหาได้ไม่ยากที่บอกว่า เด็กที่อ่านหนังสือมากกว่าตอนปิดเทอม นอกเหนือจากจะป้องกันการถดถอยของพัฒนาการได้ดีกว่าแล้วยังมีพัฒนาการรุดหน้ามากกว่าด้วย

โดยไม่ต้องวิจัย เราเชื่อว่าประเทศไทยมีครอบครัวที่ไม่พร้อมจะจัดการศึกษาเด็กเองมากกว่าครอบครัวที่พร้อมมากกว่ามาก มากเท่าไรท่านที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงก็ควรสำรวจตัวเลขโดยเร็ว

ครอบครัวที่พร้อมอาจจะพูดได้ว่าเราพร้อมจัดการศึกษาเอง 1 ปี ซึ่งจะว่าไปก็ควรทำจริงๆ นั่นแหละ อย่างไรก็ตามพึงระมัดระวังว่าแม้ลูกของเราจะได้รับการเตรียมความพร้อมดีเพียงใดก็ตาม แต่เขาต้องอาศัยอยู่ในสังคมร่วมกับเด็กที่มีพัฒนาการถดถอยจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว นี่คือสภาพสังคมที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าหา แล้วเรื่องจะดำเนินไปแบบการระเบิดของเชื้อโควิด-19 ในแคมปัสแรงงานต่างด้าวที่สมุทรสาคร กล่าวคือ

“จะไม่มีใครปลอดภัย ถ้าทุกคนไม่ปลอดภัย”

เวลาเด็กถดถอยรวมหมู่ ระบบจะลากทั้งหมดถอยหลังตามไปด้วยเสมอ

การจัดการโรงเรียนในยุคโควิดเป็นเรื่องจัดการได้แน่ๆ ปัญหาอยู่ที่ผู้บริหารระดับสูงจัดการไม่เป็นหรือไม่ยอมจัดการเสียมากกว่า แน่นอนว่าการจัดการนั้นย่อมกระทบครูประจำการจำนวนหลายแสนคนแต่นั่นก็เป็นเรื่องควรจัดการได้อยู่ดี ทั้งนี้เพราะโนว์ฮาวการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการมิใช่ว่าเป็น 0 ในวันนี้เรามีคู่มือ หนังสือ และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมายที่เรียกใช้ได้ แต่การเรียกใช้ย่อมต้องมีงบประมาณ และงบประมาณนั้นต้องมากพอ

ซึ่งมิใช่ปัญหาอีกเพราะประเทศเรามีเงิน

สมมติพูดว่าไม่มีเงินจะจัดการ เราจะไปถึงเลเวลถัดไปนั่นคือหาผู้บริหารระดับสูงคนใหม่ที่ทำงานได้ เป็นที่รู้กันทั่วไปว่างบประมาณการศึกษามีจำนวนมากกว่าทุกกระทรวง

อันที่จริง มองในแง่ดีนี่เป็นโอกาสทองที่จะปฏิรูปครูประจำการจำนวนหลายแสนคนนั้น ด้วยสมมติฐานที่ว่าครูไทยจำนวนไม่น้อยก็อยากถูกปฏิรูป การสอนหนังสือที่ไม่มีนักเรียนฟัง การสอนออนไลน์ที่ทำร้ายนักเรียนมากกว่าช่วยเหลือ เหล่านี้ครูไทยจำนวนมากก็อยากหลุดพ้นจากบ่วงนี้เพื่อทำสิ่งที่ดีกว่าและมีคุณค่ามากกว่า เพราะนั่นเท่ากับเป็นการยกระดับจิตวิญญาณความเป็นครูของตนเอง ซึ่งมันดีต่อใจมาก ปัญหาคือท่านๆ ทำไม่เป็น หรือไม่กล้าทำ หรือไม่มีเสรีภาพที่จะทำเท่านั้นเอง

นี่เป็นโอกาสทองที่จะปลดโซ่ตรวนให้แก่ครูไทยครั้งใหญ่ ส่วนใครไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็สมควรให้เงินแล้วออก

ตลอดช่วงการระบาดของโควิดที่ผ่านมา ผมได้แอบมองผู้บริหารโรงเรียนทางเลือกหลายแห่งที่มีใจและมีแรง พยายามช่วยเหลือการศึกษาของชาติในช่องทางต่างๆ ทั้งการแก้ไขกฎหมาย การถ่ายทอดเทคโนโลยีในรูปแบบคู่มือและตำรา ไปจนถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเรียนการสอนแบบบูรณาการผ่านออนไลน์ พวกท่านเหล่านี้ทำโดยมิได้มีค่าตอบแทนพิเศษแต่อย่างไรด้วยซ้ำไป หากเราจัดการให้ดี ลงงบประมาณให้ถูกต้อง เราจะมีพันธมิตรที่พร้อมช่วยเหลือคุณครูและคุณพ่อคุณแม่จำนวนมากได้โดยไม่ต้องปิดตายโรงเรียน

จนถึงวันนี้ผมยังมีความเชื่อส่วนตัวโดยสุจริตใจว่า การปฏิรูปการศึกษาประเทศไทยมิใช่เรื่องยาก เป็นเรื่องทำได้ เราเปลี่ยนครูไทยให้เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ได้ถ้าให้ ‘เสรีภาพ’ แก่ทุกท่านมากพอ การเรียนรู้ของเด็กๆ มิใช่เรื่องซับซ้อนหรือยากเกินทำความเข้าใจ เป็นพวกเรากันเองที่ทำให้มันยาก ลึกลับ ซับซ้อน ไม่เก่งจริงทำไม่ได้ซะงั้น แน่นอนว่าเราเปลี่ยนมิได้ในชั่วข้ามคืน แต่เราเริ่มต้นได้แน่ถ้าอยากจะเริ่มต้น

สั่งปิดโรงเรียน 1 ปีนั้นไม่ยาก แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจจะยากมากขึ้นไปอีก เปลี่ยนรัฐบาลน่าจะดีกว่า

MOST READ

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Social Issues

21 Nov 2018

เมื่อโรคซึมเศร้าทำให้อยากจากไป

เรื่องราวการรับมือกับความคิด ‘อยากตาย’ ผ่านประสบการณ์ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า คนเคียงข้าง และบทความจากจิตแพทย์

ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์

21 Nov 2018

Social Issues

22 Oct 2018

มิตรภาพยืนยาว แค้นคิดสั้น

จากชาวแก๊งค์สู่คู่อาฆาต ก่อนความแค้นมลายหายกลายเป็นมิตรภาพ คนหนุ่มเลือดร้อนผ่านอดีตระทมมาแบบไหน ‘บ้านกาญจนาฯ’ เปลี่ยนประตูที่เข้าใกล้ความตายให้เป็นประตูสู่ชีวิตที่ดีกว่าได้อย่างไร

ธิติ มีแต้ม

22 Oct 2018

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save