fbpx
หลักประกันสุขภาพที่รัก (46) : หลักประกันสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ ตอนที่ 3

หลักประกันสุขภาพที่รัก (46) : หลักประกันสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ ตอนที่ 3

นายแพทย์ประเสริฐ  ผลิตผลการพิมพ์ เรื่อง

 

วันที่ 5 กรกฎาคม ปี 1948 อังกฤษเริ่มต้นหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (National Health Security) ด้วยคำพูดของรัฐมนตรีบีแวนที่ว่า “นี่คือก้าวย่างแห่งอารยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศชาติหนึ่งจะทำได้” นับจากวันนี้คนอังกฤษทุกคนได้รับการรักษาโรคฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย “สงครามทำให้พวกเราทุกคนตระหนักว่าเราเป็นเพื่อนบ้านกัน”

ดังที่บันทึกไว้ว่าหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอังกฤษเริ่มต้นขึ้นจากรากฐานของการร่วมทุกข์ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คนรวยคนจนถูกระเบิดพิการและตายได้เท่าๆ กัน ระบบการแพทย์ฉุกเฉินหรือที่เรารู้จักกันวันนี้ในชื่อ EMS และรถ EMS (Emergency Medical Service) ก็เริ่มขึ้นในเวลานั้น โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นายแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ และบุคลากรทุกคนออกจากบ้านไปทำงานในตอนเช้าวันที่ 5 กรกฎาคม ปี 1948 เหมือนทุกวัน แต่ที่ต่างกันคือวันนี้ไม่เก็บเงิน พวกเขาพบในทันทีว่าผู้ป่วยกลุ่มแรกที่หลั่งไหลมาโรงพยาบาลคือชนชั้นกลางซึ่งเคยต้องจ่าย

ประมาณการงบประมาณก่อนเริ่มต้นหลักประกันอยู่ที่ 170 ล้านปอนด์ แต่เพียงปีแรกปีเดียวงบประมาณที่ใช้ไปทั้งหมดเท่ากับ 305 ล้านปอนด์ แพทย์เคยเขียนใบสั่งยาเดือนละ 7 ล้านใบเมื่อปี 1947 ก่อนการเริ่มต้นหลักประกัน พอถึงปี 1951 แพทย์เขียนใบสั่งยาเดือนละ 19 ล้านใบ

มีเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเกี่ยวกับอังกฤษที่น่าแปลกใจ หลักประกันสุขภาพในตอนเริ่มต้นนี้รวมค่าวัดสายตาและตัดแว่นด้วย!

งบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับงานวัดสายตาและตัดแว่นอยู่ที่ 1 ล้านปอนด์ในปีที่หนึ่ง ปรากฏว่ามีการสั่งตัดแว่นจำนวน 5.25 ล้านอัน ใช้งบประมาณไป 32 ล้านปอนด์!

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สุขภาพสายตาของคนอังกฤษอยู่ในมือจักษุกรมากกว่าจักษุแพทย์ด้วยจำนวนจักษุแพทย์ที่มีน้อยมาก ทำให้จักษุกรทั้งหมดยินดีมากที่จะได้เข้าร่วมกับหลักประกันสุขภาพ แม้ว่าพวกเขาจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อสร้างมาตรฐานเพิ่มเติมและมีการควบคุมคุณภาพในระดับเดียวกับนายแพทย์ เมื่อถึงปี 1950 คิวการรอแว่นตาอยู่ที่ 18 เดือนซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้นสายตาของผู้ป่วยเปลี่ยนไปอีก ไม่นับว่าประชาชนจำนวนมากต้องการแว่นตาแม้ว่าสายตาจะเป็นปกติดี งบประมาณด้านนี้อยู่ที่ 22 ล้านปอนด์ต่อปีเมื่อสิ้นทศวรรษ

การวัดสายตาและตัดแว่นฟรีจึงถูกตัดออกจากหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตั้งแต่ปี 1951 สามปีหลังการเริ่มต้นระบบ

ปี 1949 บทวิจารณ์ในวารสารการแพทย์ British Journal of Medicine(BMJ) ทำนายว่าหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะนำมาซึ่งความล่มจมของประเทศ ด้วยเหตุผลว่าหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมิได้คำนวณปัจจัยด้านอายุของคนอังกฤษที่จะยืนยาวขึ้น  และมิได้คำนึงถึงนิยามของคำว่าความเจ็บไข้ อธิบายว่าก่อนหน้านี้ประชาชนจะพบแพทย์ด้วยเรื่องความเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พวกที่ป่วยหนักมักจะไม่มา แต่วันนี้พวกที่ป่วยหนักก็มาถึงโรงพยาบาลได้แล้วด้วย ทำให้การคำนวณงบประมาณผิดความจริงไปมาก

ปี 1948 อายุขัยของชาวอังกฤษสำหรับผู้ชาย 66 ปี ผู้หญิง 71 ปี วันนี้ ปี 2018 ผู้ชาย 79.2 ปี ผู้หญิง 82.9 ปี ความแตกต่างที่มากถึง 10 ปีนี้อธิบายว่าเกิดจากเทคโนโลยีการแพทย์ที่ก้าวหน้าและการเข้าถึงบริการสุขภาพที่เท่าเทียม เหตุที่ใช้คำว่าเท่าเทียมเพราะตัวเลขนี้เป็นค่าเฉลี่ย หากลำพังคนรวยที่เข้าถึงเทคโนโลยีชั้นสูงแล้วคนจนเข้าไม่ถึง ตัวเลขค่าเฉลี่ยย่อมไม่ออกมาในลักษณะนี้

อย่างไรก็ตามความท้าทายใหม่ๆ กำลังเริ่มต้น ในขณะที่หลักประกันสุขภาพยังไม่ครอบคลุมถึงการตรวจและรักษาทางพันธุกรรม เป็นไปได้ว่าคนรวยจะเข้าถึงการดัดแปลงพันธุกรรมได้เร็วกว่าและมากกว่า บางทีในอนาคตเราอาจจะต้องแบ่งตัวเลขอายุขัยนี้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เข้าถึงการรักษาพันธุกรรม กับกลุ่มที่มิได้รับการรักษาพันธุกรรม คือรูปธรรมหนึ่งของ Genetic Divided การแบ่งชั้นทางพันธุกรรม

ปี 1950 นายกรัฐมนตรีแอตลีแต่งตั้งฮิวจ์ เกตสเคลเข้ามาช่วยดูแลงบประมาณ เขาเสนอให้มีการเก็บค่าบริการสำหรับบริการทันตกรรมและบริการด้านสายตา นั่นทำให้บีแวนลาออกจากคณะรัฐมนตรีในทันที การเก็บค่าบริการจำนวน 1 ชิลลิงต่อครั้งเริ่มต้นในปี 1952 และปรับขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามค่าบริการนี้ยกเว้นให้แก่สตรีมีครรภ์ นักเรียนนักศึกษา ผู้รับเงินบำนาญ คนยากจนและผู้ป่วยเรื้อรัง นั่นเท่ากับมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด

ก่อนปี 1948 แพทย์เวชปฎิบัติทั่วไป (General Practitioner, GP) เก็บเงินผู้ป่วยโดยตรงหรือจากหลักประกันสุขภาพส่วนท้องถิ่นที่ ลอยด์ จอร์จ ทำไว้ตั้งแต่ปี 1911 แต่หลังจากปี 1948 แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปขึ้นทะเบียนกับหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้วให้ประชาชนลงทะเบียนกับแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปซึ่งจะทำหน้าที่เป็นด่านหน้าก่อนส่งปรึกษา ระบบส่งปรึกษาระหว่างแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลก็อยู่ในการบริหารของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเช่นกัน

แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปจะได้รับเงินจากรัฐบาลตามรายหัวของประชาชนที่มาลงทะเบียนแต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่แพทย์ต้องจัดการกันเอง หลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีแนวคิดและคาดหวังไปจนถึงส่งเสริมให้แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปทำเรื่องส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้มากกว่าการรักษาด้วย จะเห็นว่านี่เป็นแนวคิดสากล

ซึ่งไม่ง่ายเลยเมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริง

ปี 1948 อัตราการตายของทารกแรกเกิดเท่ากับ 34.5 ต่อ 1000 ลดลงเป็น 3.7 ในวันนี้ อัตราการสูบบุหรี่ร้อยละ 65 ลดลงเป็นร้อยละ 20 ในวันนี้ และเมื่อคำนวณงบประมาณต่อหัวตลอดชีวิต ตัวเลขในปี 1948 เท่ากับ 200 ปอนด์ เพิ่มเป็น 2,106 ปอนด์ในวันนี้

ลูกหมาตัวหนึ่งอายุ 5 เดือน ป่วยด้วยลิ้นหัวใจรั่วได้ยินเสียงฟู่ชัดเจนและจะต้องตายในเวลาไม่เกินสามเดือนนับจากนี้ สัตวแพทย์ในบริเวณใกล้เคียงไม่มีใครมีความสามารถมากพอที่จะผ่าตัดรักษากรณีเช่นนี้ได้ จึงได้ส่งปรึกษาสัตวแพทย์ที่ลอนดอนซึ่งยินดีบินมาเพื่อผ่าตัดด้วยเครื่องมือพิเศษผ่านทางหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขาหนีบ (femoral artery)  การผ่าตัดประสบความสำเร็จด้วยดีเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาด้วยค่าใช้จ่าย 4,500 ปอนด์

มันมีประกัน

MOST READ

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Health

11 Jan 2018

“ล้มคนเดียว เจ็บทั้งบ้าน” ยากันล้ม : คู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

การหกล้มหนึ่งครั้ง คุณอาจไม่ได้แค่เจ็บตัว แต่อาจเจ็บใจ (ที่น่าจะรู้วิธีป้องกันก่อน) และอาจเจ็บลามไปถึงคนใกล้ตัว ที่ต้องเข้ามาช่วยดูแล

จะดีแค่ไหน ถ้าเรามี “ยากันล้ม” ที่มีสรรพคุณเป็นคู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

กองบรรณาธิการ

11 Jan 2018

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save