fbpx
หลักประกันสุขภาพที่รัก (25) : ใครๆ ก็ทำผิดกฎหมายทั้งนั้น เพียงแต่ไม่ถูกจับได้

หลักประกันสุขภาพที่รัก (25) : ใครๆ ก็ทำผิดกฎหมายทั้งนั้น เพียงแต่ไม่ถูกจับได้

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เรื่อง

Shin Egkantrong ภาพประกอบ

 

พระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ นำมาซึ่งกฎหมายลูกที่มีหลักปฏิบัติเกี่ยวกับการจำแนกผู้ค้า ผู้ติดและผู้เสพ

การครอบครองเกินกว่า 5 เม็ดในขณะจับกุม ถือเป็นผู้ค้า อำนาจเบ็ดเสร็จนี้อยู่ในมือของผู้รักษากฎหมาย เพียงเริ่มต้นความชัดเจนก็สั่นคลอนเสียแล้ว

แต่ถ้าเข้าจับกุมแล้วพบว่าผู้ครอบครองมีไม่เกิน 5 เม็ด จะเป็นเพียงผู้ติด หรือไม่ก็ผู้เสพ ผู้ต้องหาจะเป็นภาระของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด ขั้นตอนต่อไปคือการส่งตัวผู้ต้องหาไปรับการตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลด้วยการตรวจปัสสาวะ

แต่โรงพยาบาลหลายแห่งไม่สามารถตรวจปัสสาวะในระยะแรกเริ่มที่กฎหมายทำงาน ที่ตรวจได้ก็ใช้เครื่องมือตรวจขั้นต้นที่สร้างผลบวกลวงจำนวนพอสมควร ดังที่ทราบกันว่ายาแก้หวัดและ/หรือยาขยายหลอดลมบางประเภท สร้างผลบวกลวงได้ ก่อนที่ยาแก้หวัดบางประเภทนั้นจะถูกถอนออกจากตลาด ร้านขายยา และคลินิกแพทย์ แล้วยกระดับขึ้นไปเป็นยาเสพติดประเภท 2 ในที่สุด สร้างความเดือดร้อนให้แก่กุมารแพทย์และแพทย์หู คอ จมูก เป็นอันมาก สืบมาเพราะไม่มียาจะใช้

กว่าโรงพยาบาล (ขนาดใหญ่) จะมีเครื่องมือตรวจทันสมัยที่สามารถตรวจได้โดยปราศจากผลบวกลวง เวลาก็ผ่านไปเป็นปี หนึ่งปีนั้นมีผู้ต้องหาที่เสียสิทธิอันควรจะมีไปจำนวนหนึ่ง

ยังไม่นับเรื่องการคานอำนาจการตรวจพิสูจน์ หลายท้องที่เรื่องนี้มีปัญหามาก ใครเป็นผู้เก็บตัวอย่างปัสสาวะ ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ ใครควบคุมความถูกต้องของตัวอย่างปัสสาวะ ไปจนถึงใครถือผลตรวจปัสสาวะเอาไว้ก่อนที่แพทย์จะได้อ่านผล น่ากลุ้มใจเป็นอันมาก

จำได้ว่าเวลานั้น มีเทคนิคการเปลี่ยนผลปัสสาวะออกมามากมาย ทั้งนี้รวมถึงเทคนิคการกินสารอะไรบางอย่างเพื่อเปลี่ยนสีน้ำปัสสาวะมิให้ตรวจจับได้ว่าเสพยามา สนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง

และบางครั้งการจับกุมเกิดขึ้นในตอนเย็นวันศุกร์ การตรวจปัสสาวะในตอนเริ่มต้นทำไม่ได้ในวันหยุดราชการ คิดว่าผู้ต้องขังจะไปนอนไหนได้ นอนโรงพักก็ยังดี แต่ความโกลาหลของงานนั้นบางคนลัดขั้นตอนไปนอนเรือนจำได้เลยเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะเบิกตัวออกมาตรวจปัสสาวะในเช้าวันจันทร์ ภายใต้การตั้งสมมติฐานว่าไอ้หมอนี่เสพมาแน่ๆ รับรองไม่ผิดตัว

เมื่อขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ผ่านไป ผลการตรวจจะมาถึงห้องประชุมอนุกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งมีกรรมการ 6 คนดังที่เขียนเอาไว้ในกฎหมาย คืออัยการจังหวัดเป็นประธาน ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติเป็นเลขานุการ มีจิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และตัวแทนภาคประชาชนอีก 2 คน เป็นกรรมการ มีหน้าที่ประชุม อภิปราย แล้วตัดสินว่าใครติดหรือใครเสพ ส่วนใครค้านั้นถูกแยกตัวไปก่อนแล้ว

ผลการตรวจปัสสาวะจะมาพร้อมผลการตรวจทางจิตวิทยาขั้นต้น ซึ่งนักจิตวิทยาไทยควรประท้วงเป็นอันมาก

กรมสุขภาพจิตเวลานั้นได้ออกแบบทดสอบทางจิตวิทยาเป็นข้อคำถาม 20 ข้อ เพื่อให้สำนักงานคุมประพฤติใช้คัดกรองผู้เสพและผู้ติด ภายใต้นิยามว่าผู้เสพไม่ติด และผู้ติดนั้นติด

บางพื้นที่ลงรายละเอียดกันเองมากขึ้นอีกนิด คือผู้เสพไม่มีอาการถอนยา ส่วนผู้ติดมีอาการถอนยา ปัญหาคือผู้ใช้ยาบ้าไม่มีอาการถอนยาทางร่างกายที่เห็นเด่นชัด เหมือนอาการถอนยาแล้วลงแดงในผู้ใช้ผงขาว แม้ว่าจะมีการถอนยาทางจิตใจอยู่บ้าง เช่น กระวนกระวาย แต่อาการนั้นเกิดไม่นาน และไม่มีทางเลยที่ผู้ตรวจจะตรวจจับได้หากผู้เสพไม่บอกเอง

คำถาม 20 ข้อนั้นมีข้อหนึ่งที่ถามว่า ท่านคิดหรือไม่ว่าใครๆ ก็ทำผิดกฎหมาย เพียงแต่ไม่ถูกจับได้

หากตอบว่าใช่ ได้ 1 คะแนน หากตอบว่าไม่ใช่ ได้ 0 คะแนน

ผมพบว่านักเรียนที่มาจากโรงเรียนในเมืองตอบได้ 0 คะแนนกันทุกคน แสดงถึงความมีจริยธรรมที่หลงเหลืออยู่ เมื่อผลรวมคะแนน 20 ข้อไม่ถึงตามที่กำหนด ผู้ต้องหาจะได้รับการตัดสินเพียงแค่ถูกคุมประพฤติ หรือไปรักษาเป็นผู้ป่วยนอกที่โรงพยาบาล แต่ถ้าคะแนนรวมสูงเกินกว่าที่กำหนด จะได้เป็นผู้ติด แล้วเก็บของไปเข้าค่ายบำบัดยาเสพติดนาน 4 เดือน นำไปสู่ปรากฏการณ์เด็กๆ หนีออกจากบ้านเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง

สำหรับผู้ตอบแบบสอบถาม 20 ข้อที่เป็นชาติพันธุ์ เราพบว่าจำนวนมากที่ไม่รู้ภาษาไทย เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติอ่านให้ฟังแล้วรอฟังคำตอบ แต่จำนวนผู้ถูกจับกุมในระยะ 2-3 ปีแรกหลังการประกาศกฎหมายนั้นมีจำนวนมากมายล้นโรงพัก เรือนจำ โรงพยาบาล และสำนักงานคุมประพฤติ เรียกว่าไม่มีที่จะยืน นำไปสู่การที่เจ้าหน้าที่ช่วยตอบให้เสร็จ มิเช่นนั้นงานจะไม่เสร็จ แล้วจะไม่มีรายงานหรือตัวเลขส่งส่วนกลาง

“คุณหมอเขียนตัวเลขอะไรลงไปก็ได้ อย่าอธิบายมาก” ผู้ตรวจจากกระทรวงสาธารณสุขสั่งผมในวันหนึ่ง

มีครั้งหนึ่งที่ผมเข้าไปตรวจผู้ป่วยที่ถูกจับกุมมาใหม่ ที่ฝากขังเอาไว้ในแดนแดนหนึ่งของเรือนจำกลาง นี่เป็นเพียงขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ ทั้งหมดที่เห็นเป็นผู้ต้องหา กฎหมายเขียนให้การตรวจพิสูจน์ต้องแล้วเสร็จใน 48 ชั่วโมง

แต่ละวันมีผู้ต้องหารอผมไปตรวจวันละเกือบร้อย สถิติสูงสุดคือ 400 กว่าคนในวันเดียว

บรรยากาศหนักอึ้ง กลิ่นเหงื่อคละคลุ้ง ครึ่งหนึ่งเป็นชายฉกรรจ์ถอดเสื้อเหลือลายสักเต็มตัว ครึ่งหนึ่งเป็นชาติพันธุ์ มีทั้งวัยหนุ่มและผู้สูงอายุที่คะเนว่าอายุมากกว่า 70 จำนวนมาก และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นนักเรียนนักศึกษา

ทั่วทั้งแดนมีผู้คุมเพียง 2-3 คน คนหนึ่งเป็นสุภาพสตรีในเครื่องแบบกรมราชทัณฑ์ที่สวยงาม เธอสวยมาก และเครื่องแบบดูดีมากด้วย เป็นภาพคอนทราสต์ที่ผมเสียดายจนถึงทุกวันนี้ว่ามิได้วาดเอาไว้ ตั้งใจว่าจะวาดจากความทรงจำสักคราวหนึ่งเวลานั้นก็มาไม่ถึงเสียที

ตนเองมิได้ดีกว่าแบบทดสอบ 20 ข้อที่ออกมาให้สำนักงานคุมประพฤติทำงาน เวลา 3 ชั่วโมงสำหรับการตรวจคน 400 คนแค่พูดสวัสดียังไม่ทันเลย จะให้ตรวจอะไร

เราเป็นดินแดนที่พร้อมจะทำงานตามที่ส่วนกลางสั่งโดยไม่ตั้งคำถาม แม้ทุกคนจะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีมนุษย์คนใดทำงานเหล่านี้ได้ ไม่มีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดใดๆ ที่จะมีตัวเลขผลงานสวยหรูแบบที่เห็นได้ เพราะเราเป็นมนุษย์ที่ต้องนอนวันละ 6 ชั่วโมงเหมือนกัน

แต่เรามีผลงานส่งส่วนกลางและโชว์กันทุกเดือน

MOST READ

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Health

11 Jan 2018

“ล้มคนเดียว เจ็บทั้งบ้าน” ยากันล้ม : คู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

การหกล้มหนึ่งครั้ง คุณอาจไม่ได้แค่เจ็บตัว แต่อาจเจ็บใจ (ที่น่าจะรู้วิธีป้องกันก่อน) และอาจเจ็บลามไปถึงคนใกล้ตัว ที่ต้องเข้ามาช่วยดูแล

จะดีแค่ไหน ถ้าเรามี “ยากันล้ม” ที่มีสรรพคุณเป็นคู่มือป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ

กองบรรณาธิการ

11 Jan 2018

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save