“เวลาคนถามว่าเราเป็นคนอะไร เรารู้สึกว่าถูกแบ่งแยกจากเรื่องชื่อและสัญชาติจากบัตรประชาชนใบเดียวเลย ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปที่ไหน เอาเรื่องง่ายเลยๆ ตอนอยู่ไทย พอเห็นเป็นคนพม่าก็ถูกแบ่งแยกแล้วว่าเป็นพม่า ไม่เข้าใจว่าทำไม ก็เป็นคนประเทศข้างๆ ก็อยู่ด้วยกันได้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทำไมต้องแบ่งแยก ทั้งที่ก็เป็นคนเหมือนกัน”
“เรื่องง่ายที่สุดที่อยากให้เกิดกับทุกพื้นที่คือคนมีอิสรภาพ ไม่ควรมีใครอยู่ภายใต้การกดขี่ของผู้มีอำนาจ“ถ้าเราไม่ได้รับอิสรภาพตั้งแต่แรก ความหวังความฝันของเราก็แทบไม่มีความหมาย เราจะไปทำตามสิ่งที่เราหวังไว้ไม่ได้เลย ถ้าไม่มีเสรีภาพ”
เชอร์รี่-ประภาพร ปรียาภัสวรสกุล มีพ่อเป็นคนมอญ แม่เป็นคนทวาย แต่เกิดและโตที่ทองผาภูมิ กาญจนบุรี เธอพูดภาษาพม่าที่บ้านกับพ่อแม่ และใช้ภาษาไทยที่โรงเรียน ทำให้ปรุทั้งสองภาษา
ก่อนหน้านี้เธอมีชื่อว่า ‘ประภาพร ไม่มีนามสกุล’ ใช้เวลายื่นเอกสารกว่าสิบปีเพื่อให้ได้สัญชาติไทย แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ประภาพร ปรียาภัสวรสกุล’
.เราคุยกับเชอร์รี่ในวันพม่ามีรัฐประหารมาแล้ว 3 เดือน นับเป็น 5 ปีหลังจากพม่าได้สัมผัสกลิ่นของประชาธิปไตย แต่ก็ถูกทำลายลงจากการยึดอำนาจของทหาร และยิ่งในวันที่คนหนุ่มสาวออกมาต่อสู้ทางการเมืองอย่างเข้มข้น ก็ดูเหมือนว่าทั้งไทยและพม่าจะมีเรื่องราวคล้ายคลึงกันอย่างน่าเศร้า
ความยากลำบากในการอยู่แผ่นดินอื่นเป็นแบบไหน ความเป็นคนสองแผ่นดินทำให้เธอมองโลกผ่านสายตาแบบไหน และการปกครองโดยทหารของทั้งสองประเทศนี้เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ “อยู่ที่ไหนเราก็เป็นคน” คุยกับ ‘ประภาพร’ คนพม่าสัญชาติไทย ในวันที่พม่าร่ำไห้