fbpx
ราษฎร์ธรรมนูญ

ราษฎร์ธรรมนูญ

สมชาย ปรีชาศิลปกุล เรื่อง

ปทิตตา วาสนาส่งชูสกุล ภาพประกอบ

 

ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ ‘ราษฎรทั้งหลาย’ ที่เกิดขึ้นและดำเนินมาอย่างต่อเนื่องใน พ.ศ. 2563 จะยืดเยื้อทอดยาวออกไปมากเพียงใด หรือจะประสบผลอันเป็นรูปธรรมบั้นปลายในลักษณะเช่นไร แต่ข้อเรียกร้องที่กระหึ่มก้องสังคมไทยในตลอดห้วงปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นหลักหมายทางความคิดที่สำคัญซึ่งได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง

อีกนัยหนึ่ง หลักหมายทางความคิดดังกล่าว หรือ ‘ราษฎร์ธรรมนูญ’ อันหมายความถึงกรอบโครงร่างทางความคิดของชุดกติกาในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับสถาบันทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอของสามัญชนอันหลากหลาย ทั้งในเชิงของกลุ่มองค์กร ปัจเจกบุคคล ทั้งที่เป็นการรวมตัวกันขึ้นในชั่วขณะหรือที่มีการเกาะกลุ่มมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

โดยกรอบความคิดดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการสะสมข้อมูลที่แพร่กระจายในสื่อสมัยใหม่ ข้อเท็จจริงที่เห็นได้ในเชิงประจักษ์ ปรากฏการณ์ความเสื่อมถอยที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง สภาพปัญหาซึ่งตอกย้ำซ้ำเติมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ก่อนตกผลึกเป็นชุดความคิดผ่านการอภิปรายถกเถียงทางปัญญาในพื้นที่สาธารณะ

หากกล่าวสรุปรวบยอดทางความคิด กรอบร่างทางความคิดของ ‘ราษฎร์ธรรมนูญ’ ประกอบด้วยหลัก 6 ประการ ดังนี้

 

หนึ่ง สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่พ้นไปจากการเมือง

 

แม้ประเด็นดังกล่าวจะเป็นประเด็นที่ 3 ใน ‘3 ข้อเรียกร้อง’ (ประยุทธ์ออกไป, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่, ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์) แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นหลักหมายสำคัญของการขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวที่ดำรงอยู่ในขณะนี้

หากพิจารณาถึงข้อเรียกร้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพระราชอำนาจในยามรัฐประหาร, การจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สิน, หน่วยงานและข้าราชบริพารที่เกี่ยวข้อง, งบประมาณรายจ่ายทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เป็นต้น ข้อเสนอดังกล่าวก็เพื่อให้เกิดการจัดวางสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นไปตามระบบรัฐสภาดังที่เกิดในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ ญี่ปุ่น เดนมาร์ก ซึ่งล้วนแล้วยังคงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้อย่างมั่นคงบนหลักการพื้นฐานสำคัญของระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ (constitutional monarchy) ตามระบบรัฐสภา

อันประกอบด้วย กษัตริย์ปกเกล้าแต่ไม่ปกครอง (the king reigns but does not rule) หรือ ‘ทรงราชย์แต่ไม่ทรงรัฐ’ และกษัตริย์ไม่อาจกระทำความผิด (the king can do no wrong) โดยมีความหมายประกอบกันว่ากษัตริย์จะดำรงเกียรติยศอยู่ในฐานะประมุขของรัฐ แต่ไม่ได้ใช้อำนาจในการบริหารบ้านเมืองด้วยพระองค์เอง หากมีรัฐบาลและรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ทำหน้าที่และรับผิดชอบในการกระทำทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลดีหรือผลเสียก็ตาม การดำรงอยู่ในลักษณะเช่นนี้จะทำให้กษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยดำรงอยู่อย่างมั่นคงและได้รับการเทิดทูนในฐานะประมุขของรัฐ

ข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์จึงมิได้เป็นสิ่งอื่นใดที่มากไปกว่าการจัดวางพระมหากษัตริย์ในเชิง ‘สถาบัน’ ให้เป็นไปตามหลักการของระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเยี่ยงนานาอารยประเทศ

 

สอง รัฐสวัสดิการที่มีคุณภาพ

 

ข้อเรียกร้องที่ก้องกังวานอย่างมากก็คือ ความไร้ประสิทธิภาพของรัฐในการบริหารจัดการปัจจัยพื้นฐานที่จะเอื้อให้ผู้คนสามารถมีชีวิตได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา ระบบสาธารณสุข ระบบสวัสดิการทั้งกับผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไป

การเคลื่อนไหวที่นำโดยกลุ่มนักเรียนเลว คือความพยายามที่ชัดเจนที่สุดในการต่อสู้กับระบบการศึกษาซึ่งกลายมาเป็นอุปสรรคกับการเรียนรู้ของเด็กเป็นอย่างมาก การให้ความสำคัญกับเสื้อผ้า หน้า ผม ผ่านการใช้อำนาจบังคับของกระทรวงศึกษาธิการและผู้บริหารสถาบันการศึกษาจำนวนมากเพื่อต้องการปกป้องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขณะที่ความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียนไทยกลับไม่ได้มีผลประเมินที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของระบบโรงเรียนนับตั้งแต่ประถมศึกษาขึ้นมาถึงระดับมัธยมศึกษาคือตัวอย่างของการทำลายศักยภาพในการใฝ่รู้และการตั้งคำถาม และเป็นผลสืบเนื่องต่อมาถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ที่การศึกษากลายเป็นเพียงการท่องจำความรู้โดยปราศจากแง่มุมของการตั้งคำถาม การแสวงหาคำตอบ

ยังไม่นับรวมไปถึงความเหลื่อมล้ำของการศึกษาที่ปรากฏชัดเจนระหว่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด, โรงเรียนในเมืองกับนอกอำเภอเมือง, มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่กับมหาวิทยาลัยราชภัฏ

ความไร้ประสิทธิภาพและความเหลื่อมล้ำในปัจจัยที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตเช่นนี้ดำรงอยู่อย่างกว้างขวางทั้งในโรงเรียน โรงพยาบาล ระบบประกันสังคม เสียงเรียกร้องจึงต้องการให้เกิดรัฐสวัสดิการที่สามารถรองรับชีวิตผู้คนได้อย่างมีคุณภาพและอย่างทั่วถึงครอบคลุมผู้คนทุกกลุ่ม

 

สาม สังคมพหุวัฒนธรรม

 

ในการเคลื่อนไหวของเหล่าราษฎรได้มีการแสดงตัวและการเรียกร้องของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลาย เฉพาะอย่างยิ่งในด้านของเพศภาวะ (gender) ชาติพันธุ์ หรือลัทธิความเชื่อ

การเรียกร้องของกลุ่มสตรีนิยม (feminist) กลุ่มเพศหลากหลาย (LGBT) ที่ต้องการให้เกิดความตระหนักในสิทธิและเสรีภาพที่ถูกละเลยและมองข้าม เช่น ความรุนแรงทางกายภาพต่อหญิง, ระบบครอบครัวแบบชายหญิงที่ปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน, การเลือกปฏิบัติหรือจัดวางสถานะของเพศหลากหลายให้ต่ำกว่าบุคคลชายหญิง เป็นต้น มีการเรียกร้องให้ต้องมีความละเอียดอ่อนและยอมรับต่อปรากฏการณ์ที่ดำรงอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง รวมทั้งต้องทำให้กฎหมายยอมรับให้ความแตกต่างหลากหลายสามารถถูกผนวกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกทางกฎหมาย

รวมไปถึงการเรียกร้องให้มีการยอมรับอำนาจในการกำหนดชะตากรรมท้องถิ่นด้วยมือของกลุ่มคนในพื้นที่ต่างๆ ผู้คนบางแห่งอาจมีความแตกต่างด้านอัตลักษณ์ ความเชื่อ ศาสนา การยอมรับความแตกต่างหลากหลายก็เพื่อให้บุคคล ชุมชน ท้องถิ่น สามารถมีวิถีชีวิตที่เป็นอิสระและไม่ต้องอยู่ภายใต้การกดบังคับหรือถูกทำให้กลายเป็นกลุ่มคนชายขอบจากอำนาจรัฐ

 

สี่ ระบบนิติรัฐที่ชัดเจน

 

ความล้มเหลวอันเป็นที่ประจักษ์มาอย่างน้อยก็มากกว่าหนึ่งทศวรรษก็คือ ระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ได้ดำเนินไปอย่างเป็นอิสระ เป็นกลาง และมีความเที่ยงธรรม

ในด้านหนึ่ง มีการใช้กฎหมายโดยฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐอย่างกว้างขวางในการบั่นทอน คุกคาม ปราบปราม ประชาชนฝ่ายที่ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย การกระทำใดๆ ที่อาจไม่ได้เป็นความผิดในยามปกติก็อาจเป็นความผิด หรือความผิดอันเล็กน้อยก็อาจกลายเป็นความผิดที่รุนแรง โดยองค์กรในกระบวนการยุติธรรมต่างให้ความร่วมมืออย่างเป็นระบบอันเป็นผลให้การใช้กฎหมายเพื่อจัดการกับผู้เห็นแตกต่างไปจากผู้มีอำนาจรัฐสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อเชื่อวัน

ในอีกด้านหนึ่ง การตัดสินขององค์กรที่มีอำนาจตุลาการก็มีลักษณะของการเลือกข้าง หรือ ‘สองมาตรฐาน’ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่เป็นอิสระหรือไม่ก็ตาม ดังจะพบว่าข้อพิพาทแทบทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะมีแนวโน้มที่สนับสนุนให้ระบอบอำนาจนิยมที่สืบทอดต่อมาจากคณะรัฐประหารเมื่อ พ.ศ. 2557 สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ ขณะที่หากจำเลยเป็นฝ่ายที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับระบอบอำนาจนิยม แม้การกระทำเพียงเล็กน้อยหรือยังไม่มีความชัดเจนในทางกฎหมายก็พร้อมที่จะกลายเป็นความผิดที่ต้องได้รับโทษอย่างรวดเร็วและรุนแรง

การทุบศาลพระภูมิที่แยกลาดพร้าวเมื่อเย็นวันที่ 2 ธันวาคม 2563 จึงเป็นปฏิกิริยาที่อาจไม่ได้มีเป้าหมายไปที่เพียงองค์กรใดองค์กรหนึ่ง หากแต่หมายถึงระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ไร้ซึ่งสภาวะ ‘นิติรัฐ’ เพื่อทำให้เกิดการตระหนักอันจะมาซึ่งการฟื้นฟูและปฏิรูปในกลไกและองค์กรเหล่านี้

 

ห้า ระบอบประชาธิปไตยที่เสมอภาคและเป็นธรรม

 

แม้จะได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 แต่ก็ดังเป็นที่ทราบกันดีว่าการมีอยู่ของรัฐธรรมนูญกับระบอบรัฐธรรมนิยมมิใช่เป็นสิ่งเดียวกัน สังคมบางแห่งอาจมีรัฐธรรมนูญโดยปราศจากระบอบรัฐธรรมนูญนิยมดำรงอยู่ควบคู่ (constitution without constitutionalism) หรือในความหมายอย่างกว้างอาจหมายถึงภาวะของการมีรัฐธรรมนูญแต่อยู่ในภาวะที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

สังคมไทยก็เช่นกัน แม้จะมีรัฐธรรมนูญประกาศใช้รวมทั้งมีการเลือกตั้งติดตามมา แต่พร้อมกันไปก็จะพบว่ามี ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งเข้ามามีบทบาททางการเมืองอย่างสำคัญ, ระบบการเลือกตั้งที่ทำให้เกิด ส.ส. ปัดเศษ, การยุบพรรคเพื่อย้ายพรรคของ ส.ส. บัญชีรายชื่อแบบประหลาดพิกล, กกต. ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งที่ไร้ประสิทธิภาพ, การดำเนินการยุบพรรคอนาคตใหม่ที่ดูราวกับจะมีการประสานงานกันเป็นอย่างดีนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนกระทั่งการยุบพรรคให้สิ้นสภาพและตัดสินลงโทษกรรมการบริหารพรรค

การเลือกตั้งอันเป็นกระบวนการที่ประชาชนคาดหวังว่าจะสามารถเป็นกลไกในการแสดงความคิดเห็นและความปรารถนาของตนเองเพื่อนำไปสู่ระบบการเมืองที่ ‘เห็นหัว’ ประชาชนก็ได้ถูกทำให้มีความสำคัญน้อยลง การปรับปรุงระบบการเลือกตั้งและองค์กรที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ด้วยความหวังว่าจะสามารถสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เสมอภาคและดำเนินการด้วยความเป็นธรรม ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการกับความเห็นต่างทางการเมืองได้อย่างสันติด้วยความเห็นพ้องจากผู้คนในการยอมรับกติกาดังกล่าว

 

หก อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎร

 

ข้อเรียกร้องทั้งหมดข้างต้นวางอยู่บนหลักการพื้นฐานที่สำคัญก็คือประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในทางการเมือง การดำรงอยู่ในฐานะของที่สถิตความชอบธรรมสูงสุดย่อมทำให้อุดมการณ์ เป้าหมาย การออกแบบโครงสร้างระบบการเมือง จะต้องรองรับต่อความปรารถนาของประชาชนเป็นที่ตั้ง ประชาชนในฐานะ ‘ส่วนรวม’ ของสังคมการเมืองจะมีความสำคัญเหนือกว่าสิ่งอื่นใด องค์กร สถาบันทางการเมืองที่จัดตั้งขึ้นเป็นไปเพื่อสนองตอบต่อหลักการพื้นฐานดังกล่าว

แม้การเคลื่อนไหวของราษฎรอาจยังไม่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการที่แสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม แต่คุณูปการอย่างไพศาลที่ได้บังเกิดขึ้นแล้วก็คือ การนำเสนอกรอบความคิดสำหรับสังคมไทยในการกำหนดกติกาในทางการเมืองที่จะต้องมีการอภิปราย ถกเถียง โต้แย้ง อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า

แนวความคิดเหล่านี้เป็นการเสนอชุดความคิดที่เป็นหลักคุณค่าอันสอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยและสังคมส่วนใหญ่ แนวความคิดเหล่านี้ไม่ได้ทำลายอดีตลงอย่างสิ้นซากหากเป็นข้อเสนอเพื่อปรับอดีตให้เข้ากับโลกในปัจจุบัน แนวความคิดเหล่านี้เสนอให้สร้างความเสมอภาคทดแทนความเหลื่อมล้ำ แนวความคิดเหล่านี้ต้องการเห็นระบบการเมืองที่เป็นของทุกคนมากกว่าเป็นของชนชั้นนำกลุ่มเดียว แนวความคิดเหล่านี้ต้องการเห็นผู้คนมีเสรีภาพและพัฒนาศักยภาพของตัวตนและชุมชนมากกว่าการกดทับของกฎหมายและอำนาจรัฐ

ไม่ว่าการเคลื่อนไหวของราษฎรจะลงเอยอย่างไรในบั้นปลาย แต่กรอบแนวคิดของ ‘ราษฎร์ธรรมนูญ’ ได้หยั่งรากและแพร่กระจายไปในสังคมอย่างกว้างขวางแล้ว ไม่ว่าจะพยายามลิดใบ ตัดกิ่ง ตัดยอด ให้เหี้ยนเตียนลงอย่างไร แต่แนวความคิดเช่นนี้ก็ยากจะสูญสิ้นหายไป คงรอแต่วันที่จะงอกงามและเจริญเติบโตขึ้นมาเท่านั้น

ไม่มีประโยคใดเหมาะสมสำหรับการจบบทความนี้มากไปกว่าการยืนยันว่า “อำนาจนิยมจงพินาศ ราษฎร์ธรรมนูญจงเจริญ”

MOST READ

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

Politics

23 Feb 2023

จากสู้บนถนน สู่คนในสภา: 4 ปีชีวิตนักการเมืองของอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

101 ชวนอมรัตน์สนทนาว่าด้วยข้อเรียกร้องจากนอกสภาฯ ถึงการถกเถียงในสภาฯ โจทย์การเมืองของก้าวไกลในการเลือกตั้ง บทเรียนในการทำงานการเมืองกว่า 4 ปี คอขวดของการพัฒนาสังคมไทย และบทบาทในอนาคตของเธอในการเมืองไทย

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

23 Feb 2023

Thai Politics

20 Jan 2023

“ฉันนี่แหละรอยัลลิสต์ตัวจริง” ความหวังดีจาก ‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ ถึงสถาบันกษัตริย์ไทย ในยุคสมัยการเมืองไร้เพดาน

101 คุยกับ ‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ ถึงภูมิทัศน์การเมืองไทย การเลือกตั้งหลังผ่านปรากฏการณ์ ‘ทะลุเพดาน’ และอนาคตของสถาบันกษัตริย์ไทยในสายตา ‘รอยัลลิสต์ตัวจริง’

ภาวรรณ ธนาเลิศสมบูรณ์

20 Jan 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save