fbpx

ปวีณ พงศ์สิรินทร์: รางวัลของคนทำงานคือการลี้ภัย

ชื่อของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ เป็นที่รู้จักกว้างขวางในปี 2558 จากการทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา แต่สิ่งที่ทำให้สาธารณชนสนใจนอกจากภาพหลุมศพชาวโรฮิงญาหลายสิบศพที่ตกอยู่ในขบวนการค้ามนุษย์อันน่าสลดใจแล้ว เรื่องที่สั่นสะเทือนตามมาคือตำรวจยศสูงระดับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ต้องลี้ภัยไปออสเตรเลีย เนื่องจากเจอ ‘ตอ’ ในคดีนี้

ทีมสืบสวนคดีค้ามนุษย์ที่มีปวีณเป็นหัวหน้าทีม สอบสวนจนพบผู้ต้องหาจำนวนมากที่เกี่ยวพันขบวนการ รวมถึงทหารยศใหญ่อย่าง พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก (เสียชีวิตในเรือนจำปี 2564) โดยผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ได้รับการประกันตัว

ไม่ใช่เรื่องปกติ สำหรับตำรวจที่กำลังมีผลงานโดดเด่นแต่กลับมีคำสั่งย้ายให้ไปประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ คล้ายการส่งตัวไปในพื้นที่ของคู่กรณี

รางวัลที่ปวีณได้จากการทำคดีนี้คือการต้องลี้ภัย ปิดฉากชีวิตรับราชการตำรวจเพื่อรักษาชีวิตให้พ้นจากความตายที่รออยู่เบื้องหน้า

ชื่อของเขากลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเมื่อ รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาอภิปรายในสภา และ Al Jazeera เผยแพร่สารคดีชีวิตของเขาโดยมีการให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ามาแทรกแซงคดีของผู้มีอำนาจ อันเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาต้องลี้ภัย

101 จึงพูดคุยกับ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ถึงแรงสะเทือนจากคดีค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเขา เมื่อการตั้งใจทำหน้าที่ตำรวจอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เขาต้องจากแผ่นดินเกิด

ชีวิตของเขาสะท้อน ‘ความไม่ปกติ’ ที่เกิดขึ้นในโครงสร้างการทำงานตำรวจไทย ซึ่งทำให้การพยายามค้นหาความจริงในอาชญากรรมระดับชาติกลายเป็นเรื่องอันตรายอันมีชื่อเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงหลายรายเกี่ยวพัน

หลังจากรังสิมันต์ โรมอภิปรายเรื่องนี้ในสภาแล้วสังคมให้ความสนใจมาก คุณมองปรากฏการณ์ที่ตามมาอย่างไร

คดีค้ามนุษย์ที่ผมและทีมงานได้ไปสอบสวน มันเป็นข้อเท็จจริง เป็นความจริง ยังไงก็ลบล้างไม่ได้ จะขุดมาพูดเวลาไหนก็เป็นเรื่องจริง และเมื่อคนรับรู้เรื่องนี้อย่างละเอียดทุกขั้นตอนก็จะมีผลกระทบต่อความรู้สึกของคน คนที่มีความเป็นมนุษย์จะรู้สึกสะเทือนใจมากในสิ่งที่เกิดขึ้นและจะไม่ให้อภัยเลยกับคนที่กระทำความผิด

นี่เป็นเรื่องร้ายแรงมาก คนที่กระทำความผิดสมควรถูกลงโทษ เรื่องนี้กระทบต่อสังคม คนทั้งประเทศต้องให้คำตอบว่าจะนิ่งดูดายให้อภัยคนกระทำความผิดเช่นนี้เหรอ ในเมื่อมนุษยชาติเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดของมนุษย์

ยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นเป็นความจริงทั้งสิ้น ผมออกมาเปิดเผยทั้งที่เงียบไปนาน เพราะถ้าผมเก็บเงียบไว้ก็คือการเห็นแก่ตัวและปล่อยให้คนที่กระทำทารุณโหดร้ายกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้นยังลอยนวลอยู่ คนทั้งประเทศต้องตระหนัก โดยเฉพาะการที่บุคคลที่มีอำนาจโกหกประชาชน เขาโกหกทุกเรื่อง โกหกเรื่องนาฬิกาแล้วยังโกหกว่าไม่ได้ขอร้องเรื่องการประกันตัวในคดีนี้อีก บุคคลระดับนี้กล่าวคำโกหกครั้งแล้วครั้งเล่าและคนในประเทศยังเพิกเฉยอยู่ก็ควรมาพิจารณาว่าสังคมเราป่วยขนาดนี้หรือเปล่า

ที่ผ่านมาภาครัฐให้สัมภาษณ์โต้ตอบคุณหลายครั้ง ทั้งนายกฯ รองนายกฯ กองทัพ หรือกระทั่ง สตช. เช่นบอกว่า คุณไม่มีหลักฐาน คุณทำเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว พูดจาให้ร้ายประเทศ หรือการบอกว่าคุณไม่ได้มีอำนาจเรื่องให้ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ ทั้งหมดนี้มีเรื่องไหนที่ยอมรับไม่ได้ที่สุด

บุคคลเหล่านี้ไม่มีความสามารถในการแก้ปัญหาให้ประเทศ ปัญหาต่างๆ จึงถูกซุกไว้และมีแต่การแก้ตัว คำกล่าวอ้างของบุคคลที่พูดว่ากองทัพได้รับความเสียหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความเสียหาย ประเทศชาติได้รับความเสียหาย พวกเขาอ้างแต่สถาบัน อ้างแต่ประเทศ แต่พวกเขาเป็นบุคคลที่ทำร้ายประเทศอยู่ตลอดเวลา พวกเขาเติบโตมาจากอำนาจของผู้นำที่กระทำความผิดแล้วใช้บุคคลเหล่านี้เป็นเครื่องมือผ่านระบบราชการ เขาจึงไม่กล้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงของสิ่งที่ผมพูด แต่พยายามลดความน่าเชื่อถือของผม

ยืนยันว่าผมมีหลักฐานมากมาย สำนวนการสอบสวนคดีค้ามนุษย์และฟอกเงินมีรายละเอียดเป็นเอกสารหลายแสนแผ่น แต่ละแผ่นมีที่มาที่ไป อยากถามว่าแต่ละคนที่ออกมาพูดได้ศึกษาเนื้อหาสาระสำนวนการสอบสวนที่ทีมงานทำไว้หรือเปล่า ได้พิสูจน์จนสุดทางหรือยัง

เอกสารเหล่านั้นผมและทีมทำงานได้นำเสนอในชั้นศาล มีทนายความ อัยการ คณะผู้พิพากษาและบุคคลภายนอกไปร่วมฟังการพิจารณา ไม่เคยมีใครกล่าวอ้างว่าเอกสารเหล่านั้นเป็นเอกสารเท็จ ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาลงรายละเอียดแล้วว่ามีใครบ้างที่กระทำความผิด นอกจากนั้นถ้าพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น คดีค้ามนุษย์ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 แต่เกิดย้อนหลังไปก่อนหน้านั้นหลายปี หน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการควบคุมบริเวณชายแดนคือ กอ.รมน. ซึ่งมีผู้รับผิดชอบคือ ผบ.ทบ. แล้วผบ.ทบ.แต่ละยุค ตั้งแต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเคยเป็น ผบ.ทบ. รับผิดชอบ กอ.รมน. โดยปล่อยปละละเลยให้มีการขนคนเข้ามาขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ทั้งกองทัพจะมี พล.ท.มนัส คงแป้น เป็นจำเลยเพียงคนเดียว

ตอนผมเรียนจบใหม่ๆ เข้าร้อยเวรสอบสวนคดีครั้งแรก สิบเวรเบิกตัวผู้ต้องหาออกมาแล้วไม่ดูแลให้ดี เขาโดดหนีทางหน้าต่าง ผมโดนตั้งกรรมการสอบสวนลงโทษทางวินัยไปด้วย ขนาดผมไม่ได้ทำผิดยังโดนเลย แล้วประยุทธ์ ประวิตร อนุพงษ์ ลูกน้องทำผิดเยอะแยะ คุณไม่โดนลงโทษเหรอ คุณไม่ถูกตั้งกรรมการบ้างเหรอ ผมตำแหน่งเล็กๆ ยังโดนขนาดนั้น แล้วคุณใหญ่ระดับประเทศ ความรับผิดชอบต้องสูงกว่าผมหลายร้อยหลายพันเท่า

สำหรับ พล.ท.มนัส คงแป้น ในข้อเท็จจริงก็ไม่ได้มีสลิปโอนเงินแค่สิบกว่าล้าน แต่นั่นเป็นตัวเลขช่วงที่เราไปตรวจเจอ พอขยายมันมีเป็นร้อยล้าน ในเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์ที่เราตรวจสอบ ช่างเสริมสวยบางคนมีเงินผ่านบัญชีถึงสามร้อยกว่าล้าน ขบวนการนี้มีเงินหลายพันล้าน รวมหลายปีก็เป็นหมื่นล้าน เงินเหล่านี้ส่งไปถึงใคร ผมเชื่อว่าเงินเหล่านี้ไปซุกอยู่ในบัญชีของระดับพลเอกทั้งหลาย เขาจึงไม่ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน นี่คือเงินค้ามนุษย์ทั้งนั้น มีหลักฐานมากมายที่จะไปตรวจสอบตรวจค้น ทุกธนาคารต้องให้มีการเปิดเผยบัญชีของบุคคลที่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ทุกธุรกรรมตั้งแต่ดำรงตำแหน่งจนออกจากตำแหน่ง ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจต้องเปิดเผยอย่างละเอียด

ขณะนี้หลักฐานกองอยู่ในธนาคาร การจับกุมผู้มีอำนาจและมีอาวุธ ไม่มีคนไหนบ้ามาเป็นพยานให้หรอก ไม่มีใครเสี่ยงให้กระสุนมาปะทะตัวเองหรอก หลักฐานที่จะผูกมัดคนทำผิดได้คือ ‘กระดาษ’ เท่านั้น กรณีการจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น ถ้าเราไม่ตรวจเจอสลิปโอนเงินธนาคาร พยานที่ไหนจะกล้ายืนยันว่าพลโททำความผิด

การค้ามนุษย์คือคนขายคนเพื่อเงิน โดยไม่สนใจว่าคนที่ถูกขายจะเป็นอะไร จะสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หมดสิ้นทั้งชีวิต อยู่อย่างทุกขเวทนาทรมานรอวันตายกี่ชีวิต กี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่นชีวิตที่เขาต้องเจอชะตาแบบนี้ แต่คนเหล่านั้นกล้าทำแล้วยังกล้าโกหกประชาชนอีก

คนที่มีความเป็นมนุษย์จะรู้สึกสะเทือนใจมากในสิ่งที่เกิดขึ้นและจะไม่ให้อภัยเลยกับคนที่กระทำความผิด

หลักฐานในคดีเท่าที่คุณเห็น คิดว่าถ้ามีความตั้งใจดำเนินคดีจริงจะสามารถเอาผิดได้ถึงระดับไหน

ผมเชื่อว่าในประเทศไทยมีคนที่เก่งกว่าผมเยอะแยะ ตอนนี้ตำรวจสามารถจับได้เลย อย่างน้อยต้องจับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ (ชัยจินดา) กับทีมงานดำเนินคดีได้แล้ว ผมยืนยันว่าเขามีความผิดชัดแจ้งและเป็นความผิดอาญาแผ่นดินไม่ต้องมีใครไปแจ้งความ ใครที่มีอำนาจหน้าที่อยู่ตอนนี้แล้วไม่ทำถือว่าคุณละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บอกว่า เรื่องประกันเป็นเรื่องของศาลไม่ใช่เรื่องของตำรวจ เขาโกหก คนระดับรองนายกฯ พูดโกหกในเรื่องสำคัญแบบนี้คนไทยยังนิ่งเฉย ฝ่ายกฎหมายก็นิ่งเฉย ที่จริงแล้วการที่ผู้ต้องหามามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ในชั้นพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัว 48 ชั่วโมง เขาสามารถให้ประกันตัวได้ ถ้าสามารถให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนได้ ในชั้นศาลก็มักเห็นตามพนักงานสอบสวน คนไม่เข้าใจก็มาบอกว่าผมไม่มีอำนาจเรื่องการประกันตัว

อีกประเด็นที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ปฏิเสธว่าไม่เคยโทรศัพท์หาผม ผมก็มีหลักฐานทั้งหมด การที่เขาโทรศัพท์มาหาผมซึ่งเป็นพลตำรวจตรี ยศรองผู้บัญชาการ ตำแหน่งต่างกัน อาวุโสก็ต่างกัน ไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกัน คิดว่าเขาจะกล้าโทรมาหาผมไหมถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากใคร ไม่มีทางหรอก แล้วเรื่องสำคัญทางคดีแบบนี้ถ้าผมไม่ได้รู้จักเขา อยู่ๆ โทรมาผมจะพูดไหม ผมมีวุฒิภาวะและมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานของผมว่าสิ่งใดที่ควรเปิดเผย สิ่งใดไม่ควรเปิดเผย เมื่อคุณโทรมา คุณต้องอ้างว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณสั่งให้โทรมาและคุณมีหน้าที่อะไร ตอนนั้นเขารายงานตัวเรียบร้อยแล้วบอกว่าขอให้ช่วย พล.ท.มนัส ให้ได้ประกันตัว คดีค้ามนุษย์เป็นคดีสำคัญ ผมบอกว่าทำให้ไม่ได้หรอกครับ เพราะเป็นเรื่องเสียหายต่อประเทศชาติมาก เราจะอธิบายให้ประชาชนทั้งประเทศและสังคมโลกเข้าใจได้อย่างไรในเมื่อเขาจับตาดูเราอยู่ เพราะผู้ต้องหาตั้งแต่คนแรกถึงคนสุดท้ายเราไม่เคยให้ประกันตัวเลย พอจับนายทหารยศสูงแล้วเราให้ประกันตัวจะเสียหายมาก แล้วระดับรองนายกรัฐมนตรีสั่งให้โทรมาแบบนี้เพื่อขอในสิ่งที่เป็นวาระแห่งชาติคุณจะคิดอย่างไร

เมื่อระดับรองนายกรัฐมนตรีสั่งให้โทรมาขอในสิ่งที่เราทำไม่ได้ ผมเป็นแค่รองผู้บัญชาการที่มาดูแลเรื่องงานสอบสวนจะนิ่งเฉยได้ไหม ผมเก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้ ผมต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ผมจึงรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุวันที่และเวลาว่าใครโทรมา ยศตำแหน่งอะไร โทรมาเรื่องอะไร ลงท้ายว่าจึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา แล้วลงชื่อผม ผมแย้มหนังสือที่ทำไว้ออกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียบ้าง ปกปิดบ้าง ให้ไปค้นคว้าเองบ้าง ไม่ให้กินง่ายนัก ผมมีหลักฐานเยอะแต่จะใช้เวลาลากคอคนทำผิดเข้าคุก ถ้าไม่ใช่ศาลผมไม่จำเป็นต้องเปิดเผย

คุณมีข้อสังเกตเรื่องการเสียชีวิตในคุกของ พล.ท.มนัส คงแป้น อย่างไร

ผมออกจากประเทศมาแล้ว ผมไม่ทราบ ผมจะไม่วิจารณ์ในสิ่งที่ผมไม่รับรู้ การเป็นพนักงานฝ่ายสืบสวนสอบสวนนั้น เรื่องที่ไม่รู้ผมจะไม่พูดเด็ดขาด ผมจะพูดเฉพาะสิ่งที่ผมรู้เท่านั้น การคาดเดาไม่เกิดประโยชน์ ทุกอย่างผมพูดไปแล้วต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองและที่ผมพูดนั้นมีหลักฐานทั้งหมด

มองความคืบหน้าในคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาอย่างไรนับจากวันที่คุณออกจากประเทศไทยไป ซึ่งขณะนี้ สตช. ก็ยืนยันว่ากำลังพยายามจับกุมผู้ต้องหาอยู่

ปัญหาต่างๆ ของประเทศที่ล้นอยู่นี้เพราะทุกคนซุกปัญหาและแก้ตัวไปวันๆ มาพูดโกหกประชาชนว่าเราดำเนินการเต็มที่ ผมไม่อยากจาระไนว่าเขาจับกี่คดี จากชีวิตการรับราชการของผม 30 กว่าปี ผมทราบว่าคนส่วนใหญ่ใช้ปากทำงานไม่ได้ลงมือสอบสวนด้วยตัวเองหรอก ทุกคนก็สั่งๆๆ แต่ไม่มีทางที่จะลงไปทำด้วยตัวเอง จึงไม่มีความลึกซึ้งในการสืบสวนสอบสวน ไม่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง และเมื่อตัวเองรับใช้ในสิ่งที่ผิดพลาด ไม่ยอมรับในความถูกต้อง เขาจะมายอมรับในสิ่งที่ผมทำย่อมเป็นไปไม่ได้

ในชีวิตการทำงานของผม การที่ผมเติบโตมาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ผมทุ่มเททั้งชีวิต แทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว กว่าจะก้าวหน้าขึ้นมาขนาดนี้ต้องทำงานหนัก การทำคดีต้องมีศักยภาพ เมื่อผมออกมาแล้วก็ยังไม่เห็นคนรุ่นหลังที่มีความจริงใจ ส่วนใหญ่เป็นนักสร้างภาพทั้งนั้น จึงไม่คาดหวังว่าพวกนี้จะมานั่งทำ บรรยากาศในการทำงานเบื้องหน้าเบื้องหลังมีเรื่องให้ต้องตัดสินใจตลอดเวลา ถ้าคนที่เป็นผู้ตัดสินใจไม่มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งเพียงพอก็จะไม่กล้าจับคนสำคัญๆ หรอก ไปถามพนักงานสอบสวนแต่ละคนได้เลยว่ามีความรู้สึก ‘ปอด’ ขนาดไหน ถ้าไม่แกร่งกล้าจริงๆ ไม่มีทาง เพราะเขากลัวสูญเสียตำแหน่ง เลือกที่จะสนองผู้มีอำนาจมากกว่าจะยึดถือความถูกต้อง เขารู้ทุกคนแหละแต่ถามว่ากล้าหรือเปล่า

ตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา คุณมีวิธีคิดการทำหน้าที่ตำรวจอย่างไรบ้าง

ผมเคยเป็นจำเลยในชั้นศาล ถูกฟ้องหลายครั้ง ผู้พิพากษา-อัยการ เขาฟ้องผม โดนร้องเรียน ถูกตั้งกรรมการมาเยอะ แต่ผมสู้ พอเป็นตำรวจคุณต้องมีความซื่อสัตย์กับตัวเอง รักความยุติธรรม

ผมถูกผู้พิพากษากับอัยการฟ้อง เพราะไปจับหลานเขาในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกงนักท่องเที่ยว เขารูดบัตรเครดิตซื้อเพชรพลอยแค่สามพันบาท แต่ผู้ต้องหาไปเติมยอดเงินเบิกไปสามหมื่น ทำหลายรายก็กลายเป็นล้าน ผมไปยื่นคำร้องออกหมายจับ ผู้พิพากษาที่อนุมัติให้ออกหมายจับเขาไม่รู้ว่าผู้ต้องหาคนนี้มีญาติเป็นผู้พิพากษากับอัยการ พอเราไปจับผู้ต้องหามา ผู้พิพากษาคนนั้นก็ด่าผู้ต้องหาว่าทำลายชาติ ทำให้เสียหาย แต่ตอนหลังพอรู้ว่าเขามีญาติเป็นผู้พิพากษา ผู้พิพากษาในคดีนั้นก็กลับลำมาอัดผมทันทีเลย แต่ผมเห็นว่าคดีนี้ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ ทำให้เห็นว่าคนไทยชอบฉ้อโกงคนต่างชาติ

ตอนหลังญาติเขาที่เป็นผู้พิพากษามาด่าว่าผมเสียหาย ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้พิพากษา ก็บอกว่าผมจะจับคุณข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เขาก็บอกว่าเขาเป็นผู้พิพากษา ในเมื่อเขาเป็นผู้พิพากษา ผมก็ให้เกียรติเขา ตอนหลังเขาบอกว่าให้ช่วยหลานเขา ผมก็ไม่ช่วยเพราะเป็นคดีอาญา แล้วผู้ต้องหาให้พี่เขยที่เป็นอัยการมาต่อรองอีก ที่สุดเขาฟ้องผม เขาบอกว่าถ้าผมช่วยเขาจะถอนฟ้อง ผมเลยบอกให้เขาฟ้องมาเลย ผมจะสู้ถึงที่สุด คดีนี้ที่สุดผมชนะ ใช้เวลานานมาก ลำบาก แต่ผมยืนหยัดที่จะไม่เสียศักดิ์ศรี ไม่ยอมผู้พิพากษากับอัยการที่ทำร้ายผมขนาดนั้น ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมาจึงยืนหยัดแบบนี้ได้

ผมทำงานมาส่วนใหญ่จะถูกด่า เพราะไม่ลู่ตามลม ไม่ลอยตามน้ำ ผมจะคำนึงถึงความยุติธรรม คำนึงว่าสมัยผมเป็นเด็กก็เคยได้รับความเดือดร้อน ผมเห็นอกเห็นใจผู้เสียหาย ผู้ถูกกระทำ ถ้าเขาไม่มีเราเป็นที่พึ่ง เขาจะไปพึ่งใคร ผมตระหนักในส่วนนี้และผมไม่ไปกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น ถ้าผมกลั่นแกล้งหรือให้ร้ายใครผมคงไม่รับราชการเติบโตจนเป็นรองผู้บัญชาการหรอก ไม่งั้นคงถูกขุดคุ้ยเละเทะโดยเฉพาะเมื่อผมออกจากไทยมา 6 ปีแล้ว

ผมทำงานมาส่วนใหญ่จะถูกด่า เพราะไม่ลู่ตามลม ไม่ลอยตามน้ำ 

ตำรวจหลายคนอาจเลือกวิธีทำงานแบบ ‘อยู่เป็น’ เพื่อให้ชีวิตสบายขึ้น คุณคิดไหมว่าการที่ตัวเองทำงานแบบนี้ทำให้ชีวิตยากขึ้น

ผมรู้อยู่แล้ว รู้มาตลอด ตอนทำงานผมโดนเยาะเย้ยถากถาง พูดจาเหน็บแนมเป็นเรื่องปกติ มีแต่ก้อนอิฐ ไม่ค่อยมีดอกไม้เท่าไหร่ คนอื่นจะบอกว่าไม่คบไอ้นี่หรอก คุยไม่รู้เรื่อง

ผมคิดว่าที่ประเทศฉิบหายขนาดนี้เพราะคน ‘อยู่เป็น’ นี่แหละ นั่นคือความเห็นแก่ตัว เขาสอนกันมาว่าคำพูดที่สวยหรูเอาไว้ท่องเฉยๆ แต่ไม่ใช่เอาไว้ปฏิบัติ สำหรับผม ผมปฏิบัติจริง บางคนรู้ธรรมะมาก พูดได้เป็นวรรคเป็นเวร ยกพระไตรปิฎก วิสัชนาได้เป็นข้อๆ ละเอียดยิบ แต่ในหัวใจไม่มีธรรมะเลย ผมเจอมาเยอะ

อะไรเป็นสิ่งที่หล่อหลอมวิธีคิดการทำงานของตัวเองบ้าง

สิ่งที่ผมได้รับเบื้องต้นคือครอบครัว คุณพ่อคุณแม่สอนให้ผมเป็นคนซื่อสัตย์ แม่สอนนักสอนหนาว่าอย่าไปเอาของใคร สอนให้เป็นคนต่อสู้และอยากให้ผมเรียนหนังสือ เขาบอกว่า “จอบมันหนักนะลูก ปากกามันเบา” ผมเลยไม่ใช้จอบ ผมใช้ปากกา แต่ปากกาผมหนักมาก ประหารชีวิตคนมาเยอะ

ความยากลำบากในวัยเด็กที่ผมดิ้นรนต่อสู้ ได้เห็นความทุกข์ของคนยากจนมาเยอะ ได้เจอกับตัวเอง พ่อแม่พี่น้องที่ลำบากอดมื้อกินมื้อกันมาก็สร้างกำลังใจให้ผม ครอบครัวไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผม แต่ให้กำลังใจ เข้าใจและสนับสนุนผมตลอด รวมทั้งประสบการณ์ทีละเล็กน้อยที่ได้รับก็หล่อหลอมผมมา

ผมอยากเห็นตำรวจดีๆ เป็นแบบอย่าง แต่คนแล้วคนเล่าผมก็ผิดหวัง ผมอ่านนิยายแล้วก็อยากเป็นพระเอก เป็นคนเก่งคนดี เราคงไม่อยากเป็นตัวโกง เวลาทำงานไปแล้วเจอปัญหาอุปสรรค หนังสือพิมพ์ก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจเลว เราเจ็บช้ำน้ำใจคิดว่าจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ผมพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ผมก็ไม่ได้ดีนักหนา หลวงปู่ชาบอกว่าตัวเราเองรู้ตัวเราเองดี ไม่มีใครรู้ดีกว่าเราหรอก เหมือนมะม่วงลูกนี้หวาน ใครๆ ก็บอกว่าหวาน ถ้าเราไม่ชิมเองก็ไม่รู้ว่าหวาน แต่พอเราชิมเองจึงรู้ว่ามันหวาน ตัวเราเองเป็นพยาน เราทำดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวเรา ไม่ต้องไปโกหกใครหรอก ผมเองก็พยายามทำดีเท่าที่จะทำได้ ถามว่าลำบากไหม มันก็ลำบากมาก สะตุ้งสตางค์ก็ไม่มี บางคนบอกว่าทำไมไม่ให้พี่น้องไปเยี่ยมที่ออสเตรเลียล่ะ ผมมีตังค์ที่ไหนล่ะ

ผมงงว่าประเทศไทยต้องการตำรวจแบบไหน ผมจะเป็นตำรวจที่ดี แทนที่จะเชียร์ แทนที่จะสนับสนุน ผมมักโดนคำถามว่าเป็นไปทำไม อยู่ไม่เป็นนี่หว่า พวกคุณด่าตำรวจทุกวัน พอจะเป็นตำรวจที่ดีก็ไม่เชียร์ มาเย้ยหยันกัน แล้วคนจะมีกำลังใจได้ยังไง แต่ผมแน่วแน่และรักษาคำพูด ผมไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องจนสมควรยกย่องเป็นปูชนียบุคคลอะไรขนาดนั้น เวลาออกมาพูดเดี๋ยวก็มีคนมาขุดคุ้ย มาพูดให้ช้ำใจ ผมอาจจะมีเรื่องบ้าบอเยอะแยะที่เขาขุดมาก็ได้ แต่หลังๆ นี้ผมพยายามทำให้ดีที่สุด ตั้งใจที่สุด ตอนที่สำนักข่าวต่างประเทศมาทำเรื่องราวของผม เขาไม่ได้เชื่อผมตั้งแต่แรก เขาตรวจผมละเอียด ใช้เวลานานมาก ละเอียดอ่อนมาก

ที่ผ่านมาคุณได้รางวัลมากมายจากการทำหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ช่วงที่ทำงานได้รางวัลคุณคิดไหมว่าทำงานเพื่ออะไรหรือทำเพื่อใคร

ผมทำเพื่อปณิธานการทำเพื่อประชาชนของผม ผมรู้สึกต้องรับผิดชอบเพราะกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน รางวัลเป็นเครื่องการันตีว่าผมจะต้องก้าวหน้าขึ้นไป นั่นเป็นเรื่องจูงใจด้วยว่าถ้าผมได้เป็นพนักงานสอบสวนดีเด่นปีนี้ ผมต้องได้สองขั้นแน่เลย เงินเดือนก็จะเพิ่มขึ้น แต่การเป็นพนักงานสอบสวนผมก็ถูกโกง ผู้บังคับบัญชาไม่พอใจผม ตอนที่ได้โรงพักดีเด่นเป็นอันดับหนึ่งเขาก็แกล้งอีก ตัดชื่อผม จริงๆ ผมจะมีรางวัลมากกว่านี้อีกถ้าไม่โดนแกล้ง

โรงพักของผมเป็นต้นแบบ ผมไปหาเงินจากประชาชนมาบริจาคให้โรงพักหลายล้าน พัฒนาจนเป็นโรงพักต้นแบบเป็นที่หนึ่งของประเทศ ทุกหลักสูตรต้องมาดูงาน โรงพักมันซอมซ่อสกปรก ผมสังเวชใจตัวเองว่าทำไมเราต้องทำงานในที่สกปรก มันรกไปหมด ทำให้สวยไม่ได้เหรอ ประชาชนจะได้สบายใจ นอกจากสวยแล้วระบบการทำงานต้องดีด้วย ทุกโรงพักยึดรถมาก็เอามากองพะเนิน คุณแก้ปัญหายังไง สำนวนสอบสวนล่าช้าไหม ผมทำระบบตรงนี้ ทำให้มีความโดดเด่นในเรื่องการทำงานและได้รับรางวัล

ผมได้รางวัลตั้งแต่เป็นสารวัตร ไล่มาเรื่อยๆ ก่อนออกจากไทยมาเขายังแอบยัดรางวัลให้ผมเลย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมอบรางวัลผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นด้านการปราบปรามการฟอกเงิน ผมไม่มีเวลาไปรับรางวัลก็ห่อกระดาษส่งป้ายรางวัลมาให้ผม ในเวลาเดียวกันก็ได้รางวัลผู้ปราบปรามการค้ามนุษย์ดีเด่น มีเงินรางวัลหนึ่งหมื่นด้วย เวลาทำงานผมทำสุดกำลัง จึงเห็นผลออกมาเป็นรูปธรรม

วันนี้เมื่อมองกลับไปที่รางวัลเหล่านั้น ความหมายของมันเปลี่ยนไปไหมเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราเจอในปัจจุบัน

อย่างน้อยๆ มันก็มีความหมาย ทำให้เราภาคภูมิใจในสิ่งที่ได้รับมาโดยที่เราไม่ได้ไปโกงใคร มันมาจากความรู้ความสามารถของผมเอง พอผมเป็นแบบนี้ก็ได้มาทบทวนว่าทำไมเราจึงได้รางวัลนี้ ส่วนหนึ่งมันสร้างความภาคภูมิใจให้กับเรา แต่บางรางวัลที่เขายัดเยียดมาให้อย่างรางวัลสุดท้ายนั้น ผมไม่ได้มีความภาคภูมิใจเลย คุณมาให้แบบนี้เพื่ออะไร เพราะรางวัลที่ผมได้รับอีกด้านคือการย้ายผมไปสามจังหวัด อันนี้ผมจดจำจนตายเลย

ตอนที่มีคำสั่งย้ายไปสามจังหวัดชายแดนรู้สึกอย่างไร

ผมรู้อยู่แล้ว พอคำสั่งออกมาก็รู้เลยว่าผมโดนแน่แล้ว ก่อนที่จะมีคำสั่งโยกย้ายผมเคยขอผู้บังคับบัญชาว่าอย่าย้ายผมนะ ให้ผมอยู่ที่เดิมก็ได้ วงการตำรวจเขารู้กันว่าการย้ายแบบนั้นคือการลงโทษ คือการกลั่นแกล้ง ถ้ามีคำสั่งลักษณะแบบนี้หมายความว่าคุณขัดกับผู้บังคับบัญชา เขาไม่พอใจคุณอย่างแรง คนก็จะไปตีความเยอะแยะว่าผมขี้ขลาดตาขาว เออ อันนี้ผมปอดจริงๆ ผมรู้ว่าผมเสร็จแน่ สนามนั้นผมสู้ไม่ได้แน่นอน

การโดนแต่งตั้งโยกย้ายแบบนี้ผมรู้ว่าเป้าหมายของเขาคืออะไร ถ้าคุณโง่ดักดาน ซื่อบื้อมากก็อย่าไปเป็นตำรวจเลย ถ้าผมไม่รู้จักระวังภัยตัวเองคงไม่สามารถไปจับคนจำนวนมากได้ ตำรวจเขาสอนกันว่า รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต ต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้สำคัญที่สุด ถ้าผมไม่รักษาชีวิตไว้ วันนี้ผมคงไม่ได้มาพูดความจริงหรอก

รางวัลที่ผมได้รับอีกด้านคือการย้ายผมไปสามจังหวัด อันนี้ผมจดจำจนตายเลย

ก่อนจะมาทำคดีค้ามนุษย์ คุณรู้มาก่อนไหมว่าขบวนการมันใหญ่โตจนทำให้มีเหยื่อมากขนาดนี้

บางคนด่าผมว่าสมัยอยู่ภาค 8 มันเป็นแหล่งเลย ทำไมไม่เห็นทำอะไร ตำรวจไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ตอนนั้นตำแหน่งผมเป็นผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 คือฝ่ายธุรการ มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการก่อสร้าง การเงิน วินัยตำรวจ ตรวจสำนวน ไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่เลย แล้วคนที่มีอำนาจรับผิดชอบพื้นที่ไม่ไปทำ พอมีปัญหาเจ้านายจะเรียกผมว่า เอ็งไปทำหน่อยนะ ผมจะได้แต่ dirty job งานที่เขาไม่ทำก็ให้ผมไปทำ

ผมเป็นผู้บังคับการอำนวยการ มีหน้าที่ตรวจดูว่ามีงบประมาณเท่าไหร่ จ่ายเบี้ยเลี้ยงยังไง เงินเดือนเป็นอย่างไร เขาไม่ให้ทำอย่างอื่นเพราะไอ้นี่มันคุมไม่ได้ เขาให้ผมไปปราบแท็กซี่มาเฟียที่ภูเก็ตเมื่อปี 2557 ทั้งที่ผู้การจังหวัดภูเก็ตก็มีแต่ไม่ให้ไปทำ รองผู้บัญชาการที่รับผิดชอบโดยตรงก็ไม่ให้ไปทำ แต่ให้ผมไปทำ ตอนนั้นผมได้ยินคำว่าโรฮิงญา แต่ไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นยังไง มีผู้สื่อข่าวชวนผมว่าให้ไปทำคดีโรฮิงญาสิ ผมบอกว่าผมไม่มีอำนาจ ถ้าผู้บังคับบัญชาไม่สั่งไปผมทำไม่ได้

ตอนเป็นผู้บังคับการอำนวยการผมไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้มีตาทิพย์หูทิพย์ ถ้าเจ้านายไม่สั่งผมก็ไปทำไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นหัวหน้าหน่วย

ในคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา คิดว่าอะไรเป็นปัจจัยเอื้อให้ขบวนการใหญ่โตจนเกิดการกระทำที่ทั้งละเมิดกฎหมายและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ขนาดนี้

เงินไงครับ เงินมันเยอะ เรือประมงดัดแปลงลำหนึ่งขนคนได้สูงสุดห้าร้อยคน ขายกันหัวละหลายหมื่นจนถึงเกือบแสน เรือลำหนึ่งได้เงินหลายล้าน พอเงินเข้าไปคนก็เปลี่ยนอาชีพ จากทหารก็ไปเป็นชาวไร่ชาวนา เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ตำรวจก็ไม่สนใจ มีหน้าที่ก็ไม่ทำ ข้าราชการทุกฝ่าย พวกนี้เห็นแก่เงิน นี่คือการทุจริตคอร์รัปชันฝังลึกเข้าไป ขบวนการกระทำความผิดจึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

สภาพสังคมเราไม่แข็งแกร่งพอ จิตใจมนุษย์ไม่เข้มแข็งเพียงพอ เราไม่ได้ฝึกฝนเพียงพอ และเรามีตัวอย่างให้ข้าราชการว่า เรามีคนที่อยู่เป็นเยอะกว่าคนที่อยู่ไม่เป็น จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมขบวนการจึงมีคนเยอะแยะขนาดนี้ ที่แฉออกมายังแค่ผิวๆ ถ้ามากกว่านี้จะตะลึงเลย จะสลดสังเวชหดหู่หัวใจ เรื่องนี้ถ้าผมไม่พูดจะถือว่าเห็นแก่ตัวมาก ผมรู้ว่าการออกมาพูดผมจะโดนต่อว่าโดนขุดคุ้ย แต่ผมไม่มีความผิดอะไร

คนไทยจำนวนมากมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อคนโรฮิงญา คำพูดหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ “จะไปช่วยคนต่างชาติทำไม” คุณเห็นอะไรจากการทำคดีนี้

มนุษย์ที่เกิดมาทุกคนมีคุณค่า ไม่ว่าจะเชื้อชาติเผ่าพันธุ์อะไรก็ตาม ผมมีเพื่อนคนออสเตรเลีย เขาเป็นคนที่จิตใจงดงามมาก ผมบอกว่าผมกับคุณไม่เหมือนกันเลย สีผิวก็ไม่เหมือนกัน สีตาก็ไม่เหมือนกัน แต่เขาบอกว่าเวลากรีดเลือดออกมามันแดงเหมือนกัน เราเป็นพวกเดียวกัน นี่คือความเป็นมนุษย์ นี่คือความเท่าเทียมกัน

สำหรับคนโรฮิงญาก็มีทั้งดีและไม่ดี ไม่ใช่ว่าเลวไปทั้งหมด เขาเป็นมนุษย์ที่ได้รับความทุกข์ยากลำบากมา เราควรดูแลเขาในทางที่เหมาะสม ในที่สมควรแบบที่นานาอารยประเทศเขายอมรับ การบอกว่ามันจะทำให้เราต้องเป็นภาระหน้าด่าน แต่หลายประเทศก็ต้องเป็นแบบนี้ เหมือนกรณีสงครามยูเครนรัสเซีย ประเทศในยุโรปก็ต้องรับคนพวกนี้เป็นหมื่นเป็นแสน ประเทศไทยไม่เท่าไหร่หรอก คนจากแอฟริกา ทั้งซูดาน-แอลจีเรียก็อพยพเข้าไปในยุโรปเยอะแยะ เขาก็รับกัน แล้วใจคนไทยเป็นยังไง

ชีวิตปัจจุบันในฐานะผู้ลี้ภัย อะไรคือเรื่องยากสุดที่ต้องเผชิญ

ยากทุกเรื่อง ไม่ง่ายเลย (หัวเราะ) ผมไม่เก่งเรื่องภาษา พยายามฝึกก็ยังไม่เก่ง ลิ้นมันแข็งออกเสียงลำบาก แล้วก็จะลืมอยู่เรื่อยเลย ภาษาเป็นเรื่องสำคัญ สภาพอากาศบางทีก็หนาวทารุณมากเลย ยิ่งผมไปอยู่ใกล้ภูเขาสูง บนยอดเขามีหิมะ หน้าหนาวมันหนาวมาก หนาวกว่าที่อื่น

ตอนหลังนี้ผมไม่ค่อยอยากเจอคนไทยเท่าไหร่ เพราะความคิดไม่ค่อยตรงกัน เขาเป็นคนที่ดี แต่คุยกันแล้วเขาไม่ฟัง ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำ ผมเหนื่อยมากที่จะอธิบาย บางครั้งคำพูดไม่ดีมาทำร้ายผมอีกครั้ง ผมเลยไปเข้าร่วมกับชุมชนในละแวกบ้าน ผมได้เรียนรู้วัฒนธรรม ผมทำงานเยอะมาก เป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาลอยู่สองปี ไปอยู่ในวัดเกือบปี ทำทุกอย่าง แต่ภูมิใจว่าผมได้ทำด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ผมไปเรียน agriculture อยู่หกเดือน เรียนเครื่องยนต์กลไก เรียนขับรถแทร็กเตอร์ รถแบ็กโฮ รถฟอร์กลิฟต์ ครูสอนเรื่องพืชท้องถิ่น ยูคาลิปตัสมันดูเหมือนกันไปหมดแต่มันมีเป็นพันชนิดเลยนะ (ยิ้ม) ผมเรียนรู้ธรรมชาติของที่นี่ เรียนรู้สัตว์ประจำถิ่น สัตว์ที่จะสูญพันธุ์ ครูเขาสอนให้รู้วัฒนธรรมพื้นถิ่น การขนส่งมวลชนเป็นยังไง เขาดูแลเด็กออทิสติกดีมาก ระบบระเบียบเขาดีมาก แต่ผมคุ้นชินกับเมืองไทย ผมก็คิดถึง…คิดถึงบ้าน เวลาหนาว โอ๊ย มันหนาวจับขั้วหัวใจ หนาวกายหนาวใจ (หัวเราะ) หนาวมาก บางทีติดลบ บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้านเก่าๆ ระบบบ้านป้องกันอากาศหนาวได้ไม่เท่าไหร่

ทุกวันนี้ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองไหม

แน่นอนว่าผมกังวลตลอด ใครมาคุยด้วยก็ต้องดูว่าเป็นใครมายังไง ระมัดระวังตลอด ไม่ประมาท

จากที่เคยเป็นตำรวจยศสูง พอต้องมาทำงานโรงงาน เรื่องเหล่านี้บั่นทอนจิตใจไหม

พื้นเพผมตอนเด็กๆ ก็ตรากตรำทำงานหนักมาตลอด ครอบครัวยากจนมาก ผมคุ้นชินกับการทำงานหนัก บางคนเห็นผมตอนนี้อาจบอกว่าสมเพช เคยมีตำแหน่งขนาดนั้น แต่กว่าผมจะก้าวขึ้นไปตำแหน่งนั้นผมลำบากมาก ต้องทุ่มเทขนาดไหนกว่าจะสู้กับคนอื่นได้ บางคนตำแหน่งขึ้นเอาๆ ผมกว่าจะได้ตั้งกี่ปี ตำแหน่งรองผู้บัญชาการผมก็เพิ่งได้ก่อนจะออกจากไทยไม่นาน

ผมสู้มาทั้งชีวิต โดนกลั่นแกล้ง โดนถอนรางวัล โดนตั้งกรรมการสอบสวน โดนร้องเรียนสารพัด พอเราอายุมาก ตำแหน่งสูงขึ้นเราก็สบาย มีนายตำรวจติดตาม มีพลขับ แต่พอมาที่นี่มันคนละเรื่อง เป็นธรรมดาที่จะอดคิดไม่ได้หรอก ถามว่าลำบากไหม ถ้ารู้ว่าต้องมาลำบากแบบนี้ ผมอาจจะไม่หนีมาก็ได้ (หัวเราะ) มันลำบากจริงๆ มีเรื่องสะเทือนใจที่เป็นเรื่องส่วนตัวผมก็ไม่อยากเล่าให้ฟัง ตอนเขา (อัลจาซีรา) ถ่ายสารคดี เขาถามจี้จุดผมก็ร้องไห้ออกมาเอง ปกติผมไม่เคยเสียน้ำตาต่อหน้าคน หลังๆ นี้ผมเป็นมนุษย์เจ้าน้ำตาเลย (ยิ้ม) ตลอดทั้งชีวิตที่ไทยผมเสียน้ำตาน้อยกว่าอยู่ที่ออสเตรเลีย นั่นคือความทุกข์ของผม บางทีผมก็ร้องไห้ไม่อายใคร มีเพื่อนๆ คนออสเตรเลียช่วยปลอบใจ ให้กำลังใจ ดูแลเอาใจใส่ เขาเป็นเหมือนญาติผม บางทีผมก็ไปร่วมที่โบสถ์บ้าง ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็ฝึกฝนไป

ในฐานะที่ทำงานสืบสวนสอบสวนมา คิดว่ามีปัญหาเชิงโครงสร้างอะไรที่เป็นสาเหตุทำให้คุณทำงานไม่ได้จนต้องลี้ภัย

มีมากเลย โครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นโครงสร้างที่ฟอนเฟะ เราต้องพิจารณาเรื่องชั้นยศกันใหม่ คนที่ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนต้องมีหลักประกันในการทำงานว่าจะไม่มีใครแทรกแซง ถามว่าทุกวันนี้เขาแทรกแซงได้ไหม ได้หมดเลย นายกฯ สั่งได้ไหม รองนายกฯ สั่งได้ไหม รัฐมนตรีสั่งได้ไหม ผบ.ตร. สั่งได้ไหม พลเอก พลโท พลตรี พันเอก พันโท สั่งร้อยตรีได้หมดเลย เพราะเป็นเรื่องชั้นยศ ไม่มีหลักประกันเลยว่าถ้าตั้งใจทำงานอย่างตรงไปตรงมาแล้วไปกระทบคนใหญ่คนโต คนทำงานจะมีหลักประกันอะไรว่าเขาจะปลอดภัย เอาง่ายๆ แค่นี้ แล้วแบบนี้จะมีความเป็นธรรมและความยุติธรรมได้อย่างไร

ถ้าไม่มีพลังกายพลังใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวที่จะสู้ก็ไม่ไหวหรอก ต้านไม่ได้ ขนาดผมเป็นรองผู้บัญชาการ ผมต่อต้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้องยังถูกย้ายเลย เพราะผมอยู่ไม่เป็น ผมไม่ทำตามคุณ

ผิดหวังกับองค์กรตำรวจไหม เมื่อเราตั้งใจทำงานแต่องค์กรไม่ปกป้อง

ผิดหวังเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ผมมีปณิธาน มีกำลังใจที่จะทำในสิ่งที่ผมตั้งใจ มันผิดหวังกับสมหวังผสมกันไป บางทีผมก็ได้เลื่อนตำแหน่ง เห็นไหมขนาดนี้ผมยังขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการได้เลย ผมกระเสือกกระสนเกือบตายทั้งชีวิต คนอื่นบอกว่าผมขาดทุนนะทุ่มขนาดนี้แล้วได้แค่นี้ คนอื่นเขาไม่เห็นต้องทุ่มขนาดนี้ยังได้เลย

ผมมีความตั้งใจของผม ทุกหน้าที่เมื่อได้รับโอกาสผมจะฉวยไว้ทันทีตั้งแต่วินาทีแรกจนวินาทีสุดท้าย ผมจะไม่ปล่อย จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่พลังกายและพลังใจจะทำได้ อาจไม่ได้เก่งมากมายแต่ผมรู้ว่าควรจะเล่นกับใคร

ถ้าจะมีการปฏิรูปตำรวจ คิดว่าเรื่องอะไรสำคัญที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดกรณีแบบคุณอีก

ทุกเรื่องแหละ เรื่องปฏิรูปผมไม่ได้เก่งมากมาย ขอแค่มีความตั้งใจ รู้ว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร หน้าที่ของตำรวจคืออะไร ดูแลบุคลากรให้ดี ให้เขาอยู่ได้ แล้วไม่ต้องบ้ายศ ไม่ต้องมียศก็ได้ ขอให้ทำหน้าที่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองจริงๆ คนที่ไปเรียนรู้มาจากต่างประเทศมีเยอะแยะ ฉลาดๆ ทั้งนั้นเลย ทำไมปรับจนเละเลย มีแต่การซื้อขายตำแหน่ง มีแต่ตั๋วทั้งนั้น (ถอนหายใจ) ประชาชนเขาก็มีคำตอบเองว่ามันเละขนาดนี้ตำรวจควรจะทำยังไง เพราะทุกคนไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจังและซุกปัญหาไว้ ปัญหาเลยล้นประเทศ ออกมาแก้ตัวกันทั้งนั้นไม่เคยแก้ไขเลย

ในวันนี้หากได้คุยกับนายตำรวจที่ตั้งใจทำงานและยังรับราชการอยู่ อยากพูดอะไรกับพวกเขา

ผมไม่กล้าพูดกับเขาหรอก (หัวเราะ) ไม่ใช่ว่าผมสุขสบายร่ำรวยอะไร จะไปบอกให้เขาทำแบบผมคงเป็นเรื่องตลกมาก ยิ่งมาเห็นสภาพผมแล้วเขาคงไม่เอาใหญ่ แต่คนไทยทั้งประเทศจะเห็นเองว่าสิ่งที่ผมทำนั้นถูกต้องไหม ถ้าประชาชนเห็นด้วยว่าผมทำสิ่งที่ถูกต้องและชื่นชมยินดี แล้วมีตำรวจที่ดีอยากได้รับคำชื่นชมยินดีจากประชาชนแบบนี้บ้าง มันอาจเป็นแรงกระตุ้นก็ได้ เมื่อเขาเห็นว่าประชาชนชอบแบบนี้ อยากได้ตำรวจแบบนี้

ผมไม่อยากยกตัวเองว่าเป็นแบบอย่าง แต่ต้องเห็นว่าการทำแบบนี้จะมีประชาชนเป็นฐาน ไม่ใช่เฉพาะตำรวจ แต่รวมถึงข้าราชการทุกประเภททุกหน่วยงานด้วย เป็นเรื่องท้าทายว่าคุณจะเลือกทางไหน เราอาจคิดว่าข้าราชการที่แต่เดิมครอบครัวมีฐานะดีอยู่แล้ว เขาอาจสามารถทำสิ่งที่ถูกต้องได้โดยไม่เดือดร้อนใช่ไหม แต่ที่ผมเห็นมาคือไม่ใช่เลย ยิ่งรวยยิ่งโลภมาก

มองย้อนกลับไปแล้วสิ่งที่ทำลงไปคุ้มค่าไหมเมื่อเทียบกับสิ่งที่เจอในปัจจุบัน

ยังไงผมก็ทำอย่างนี้ จะคุ้มค่าหรือไม่ผมก็ทำอย่างนี้ ในอดีตที่ผ่านมาผมรบกับคนทั่วไปหมด ผมถูกร้องเรียน ถูกฟ้อง ก็ไม่เคยหยุด เพราะมันฝังไปในจิตใจผมแล้ว ผมไม่สนใจเพราะรู้ว่าตัวเองทำตามสิ่งที่ถูกต้องและทำตามกฎหมาย ผมไม่ได้ทำตามสนุก แต่ยึดหลักกฎหมายเหนียวแน่นมาก ผมไม่พลาดเด็ดขาด พื้นฐานความรู้เรื่องข้อกฎหมายต้องชัดเจนเสียก่อนจึงจะไม่ผิดพลาด การรวบรวมพยานหลักฐานคุณต้องมืออาชีพจริงๆ ถ้าหลักฐานแน่นหนามากเขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก

ดูสิว่ารังสิมันต์ โรม อภิปรายเรื่องกระดาษแผ่นเดียวก็ฮือฮาทั้งประเทศแล้ว สื่อมวลชนต้องไปตามต่อ ไม่ใช่มาถามผมว่าเอกสารปลอมหรือไม่ปลอม ผมจะปลอมไปทำไม ทำเพื่อให้ตัวเองเดือดร้อนเหรอ แต่สื่อมวลชนก็ไม่ไปตามต่อ จึงต้องถามว่าประเทศไทยมีเสรีภาพในการนำเสนอหรือยัง พูดได้ทุกเรื่องไหม สื่อระดับโลกได้รับความน่าเชื่อถือเพราะเขานำเสนออย่างตรงไปตรงมาจึงสร้างแรงสะเทือน

ทุกวันนี้เวลาเจอความยากลำบากยังมีความหวังอยู่ไหม มีอะไรยึดโยงจิตใจให้มั่นคงและมีกำลังใจ

ครอบครัวของผมครับ พ่อแม่และทุกคนที่อยู่ใกล้ชิดเป็นกำลังใจให้ผม ทุกคนไม่เคยตำหนิผมเลย ให้การสนับสนุนตลอดมา ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้น ผมไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร ทำอย่างเต็มใจ เต็มกำลังความสามารถ ความตั้งใจของผมไม่เคยลดลง มันอาจบั่นทอนบางช่วงบางจังหวะ เราก็รวบรวมพลังแล้วทำต่อไป พลังเหล่านี้ผมฝึกฝนมาแต่เล็กแต่น้อย อุปสรรคขวากหนามในการทำงานก็ทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ได้เรียนรู้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงของแต่ละคน ได้ปรับใช้กลยุทธ์ต่างๆ

MOST READ

Social Issues

9 Oct 2023

เด็กจุฬาฯ รวยกว่าคนทั้งประเทศจริงไหม?

ร่วมหาคำตอบจากคำพูดที่ว่า “เด็กจุฬาฯ เป็นเด็กบ้านรวย” ผ่านแบบสำรวจฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม และความเหลื่อมล้ำ ในนิสิตจุฬาฯ ปี 1 ปีการศึกษา 2566

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

9 Oct 2023

Social Issues

5 Jan 2023

คู่มือ ‘ขายวิญญาณ’ เพื่อตำแหน่งวิชาการในมหาวิทยาลัย

สมชาย ปรีชาศิลปกุล เขียนถึง 4 ประเด็นที่พึงตระหนักของผู้ขอตำแหน่งวิชาการ จากประสบการณ์มากกว่าทศวรรษในกระบวนการขอตำแหน่งทางวิชาการในสถาบันการศึกษา

สมชาย ปรีชาศิลปกุล

5 Jan 2023

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save