ในห้วงเวลาที่การเมืองในสภาเริ่มกลับมาร้อนแรงด้วยข้อถกเถียงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและความขัดแย้งภายในรัฐบาลเอง การเมืองนอกสภาก็เริ่มเคลื่อนไหวจากจุดตั้งต้นในการรำลึกการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน สู่การสานต่อเจตนารมณ์คณะราษฎร
101 ชวน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มราษฎร คุยถึงย่างก้าวต่อไปของการเมืองบนท้องถนน โจทย์การแก้ไขรัฐธรรมนูญอันเป็นความหวังสู่ทางออกการเมืองไทย และหัวจิตหัวใจของนักเคลื่อนไหวการเมืองที่ผ่านเรือนจำพร้อมคดีติดตัวนับไม่ถ้วน
:: เวลาที่เหมาะสมต่อการประท้วง ::
เราออกมาประท้วงแสดงว่าบ้านเมืองมีปัญหา ทุกวันนี้สภาวะที่เกิดขึ้นที่แท้จริงในบ้านเมืองเรา ผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ ร้านอาหารต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง คนหาเช้ากินค่ำเป็นอย่างไรบ้าง แล้วเวลาไหนจึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการไล่ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าไม่ใช่เวลานี้ที่คนรู้สึกว่าเราจะอดตายกันแล้วกับการอยู่กับรัฐบาลแบบนี้ เราต้องรอให้คนอดตายกันจริงๆ เหรอจึงจะคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะกับการไล่ประยุทธ์
ในสถานการณ์โควิด โรคระบาดเป็นอุปสรรคในการต่อสู้ แต่ขบวนการของเราสามารถปรับตัวได้ มีโมเดลการต่อสู้ของหลายประเทศอยู่ ทั้งการอารยะขัดขืน การหยุดงานประท้วง หรือการประท้วงแบบอิสราเอลหรือหลายประเทศที่มีการเว้นระยะห่าง ปิดถนนและกางแขนกันวัดระยะห่างกัน 2 เมตร
ภาคประชาชนเปรียบเหมือนน้ำที่สามารถปรับรูปร่างไหลไปตามสถานการณ์ได้ แต่คำถามคือการมีอยู่ของรัฐบาล เราให้โอกาสเขาปรับปรุงการบริหารมา 7 ปีแล้วและเขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ การมีพลเอกประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งเพิ่มไปอีกหนึ่งวัน คือวันที่มีคนตายเพิ่มขึ้น ทั้งคนป่วยตาย คนอดตาย คนฆ่าตัวตาย ทั้งสังคมก็คงจะเห็นตรงกันว่าเราไม่สามารถไว้วางใจคณะบุคคลชุดนี้หรือระบอบนี้ในการจัดการสถานการณ์โควิดได้ เราจำเป็นต้องมีผู้นำคนใหม่ ผมคิดว่าหลักคิดนี้ควรจะเป็นทิศทางหลักในการขับเคลื่อนประชาธิปไตย ตราบใดที่พลเอกประยุทธ์ยังอยู่ในตำแหน่งขบวนการก็คงต้องสู้ต่อไป
มันเป็นประจักษ์พยานอยู่แล้วว่าเราไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ในประเทศนี้ถ้าเรายังมีผู้บริหารชุดนี้ เราไม่สามารถปล่อยให้ประเทศจมเข้าสู่หายนะได้ นี่คือภารกิจเพื่อประเทศ เพื่อทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีความคิดเห็นทางการเมืองยังไง แต่อยากให้ลุกขึ้นมาแล้วมองเพื่อนร่วมสังคม ถ้าคุณทำธุรกิจอยู่ แล้วภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ธุรกิจของคุณไปได้ดีหรือไม่ ภายใต้สถานการณ์โควิดขายของกันออกไหม คุณเดินออกไปหน้าบ้านได้ถามวินมอเตอร์ไซค์แถวบ้านไหมว่าตอนนี้อยู่กินกันเป็นยังไงบ้าง เรานิ่งเฉยและเพิกเฉยไม่ได้ วันนี้ภัยกำลังจะถึงตัวคุณแล้ว
การต่อสู้ของภาคประชาชนคือการต่อสู้เพื่อสร้างฉันทมติของสังคม คือการต่อสู้เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นและปัญหานี้ก็ปรากฏอยู่ในสายตาของประชาชนทั่วไปอยู่แล้วด้วย ไม่มีใครที่ไม่เดือดร้อนจากพลเอกประยุทธ์ ดังนั้นประชาชนต้องออกมาส่งเสียงให้ดังที่สุดอย่างพร้อมเพรียงกัน
ภาคประชาชนต้องรวมตัวกันแล้วออกมาแสดงเจตนารมณ์ คนที่เห็นด้วยกับเราแต่ต้องอยู่เงียบๆ เช่น นักการเมือง ข้าราชการส่วนต่างๆ ก็ต้องพิจารณาแล้วว่ากระแสเป็นอย่างนี้แล้วตัวเราจะยังไง จริงๆ ควรถามคนที่เป็นคะแนนเสียงของประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย หรือพรรคอื่นๆ ที่ตอนเลือกตั้งออกตัวมาว่าจะไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ พอมาถึงจุดนี้แล้วคุณไปกดดันพรรคการเมืองที่คุณเลือกหน่อยไหม
ประชาชนคือผู้เรียกลม ถ้าลมมา ไฟก็ไปเร็ว ถ้าไฟมาแล้วเราก็ต้องงัดแรงของประชาชนให้โฟกัสที่พลเอกประยุทธ์ ปีที่แล้วเราปักเป้าไว้ 3 ธง เราประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยได้อย่างสมบูรณ์ ปีนี้เป็นปีที่เราจะเดินตามธง เป็นปีที่เรามุ่งหน้ากับการขับไล่พลเอกประยุทธ์ เมื่อพลเอกประยุทธ์ออกไปก็จะมีอำนาจให้ประชาชนขึ้นมา แล้วก็จะมีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ด้วย
:: การต่อสู้กับองคาพยพประยุทธ์ ::
การต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้เราไม่ได้ต่อสู้กับคนคนเดียว แต่เราต่อสู้กับระบอบหนึ่ง คือกลุ่มคนจำนวนมากที่มีอำนาจในประเทศนี้แล้วค้ำชูพลเอกประยุทธ์ไว้ คำถามคือทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้ตระหนักได้ว่าถ้าเขายังสนับสนุนพลเอกประยุทธ์อยู่ แล้วประชาชนตายหมู่ เขาก็ตายด้วย ทำยังไงให้คนกลุ่มที่เป็นนั่งร้าน ค้ำยันให้พลเอกประยุทธ์รับทราบว่า ณ ตอนนี้พลเอกประยุทธ์ไม่เป็นที่ยอมรับของคนไทย และถ้าคุณยังสนับสนุนพลเอกประยุทธอยู่ คุณก็จะไม่เป็นที่ยอมรับของคนไทยด้วย กลุ่มทุนกลุ่มข้าราชการทั้งหลายที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับพลเอกประยุทธ์ต้องพิจารณาตรงนี้ ประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่ยังอยู่ในองคาพยพของพลเอกประยุทธ์
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ประจักษ์ว่าการมีผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารราชการจะส่งผลต่อชีวิตของแต่ละคนยังไง 6-7 ปีที่ผ่านมาผมมีทฤษฎีส่วนตัวว่าพลเอกประยุทธ์ไม่ใช่คนโง่ แต่ทิศทางการบริหารประเทศเขาไม่ได้ทำเพื่อคนหมู่มาก เขาทำเพื่อคนส่วนน้อย พลเอกประยุทธ์เข้าสู่อำนาจได้ด้วยกลุ่มชนชั้นนำไม่กี่คนที่สนับสนุนให้ทำรัฐประหาร เขาจึงจำเป็นต้องเอื้อประโยชน์ให้คนเหล่านั้น
กลุ่มชนชั้นนำเหล่านั้นส่งประยุทธ์มาเป็นหนังหน้าไฟ ความพิบัติทั้งหลายที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่ได้มาจากตัวประยุทธ์เพียงคนเดียว แต่เป็นความชั่วช้าที่สะสมกันมาในองคาพยพ ทุกคนทำสิ่งที่ไม่ดี ขูดรีดกันคนละนิดคนละหน่อยแต่ใช้พลเอกประยุทธ์เป็นหน้าฉาก เราก็ต้องเอาข้อมูลมาเปิดเผยมากขึ้น และชี้ให้ทั้งสังคมเห็นว่ามีวิธีการเลวร้ายอะไรที่เขาใช้พลเอกประยุทธ์ทำ
พลเอกประยุทธ์เป็นเสาหลักที่ค้ำยันเผด็จการที่ใหญ่กว่า เสาเหล่านี้จะต้องถูกโค่นด้วยพลังประชาชน นี่เป็นจุดสำคัญของขบวนการประชาธิปไตยทุกกลุ่มก้อน พลเอกประยุทธ์เป็นโครงสร้าง เป็นนั่งร้านให้กับระบอบที่ใหญ่กว่าอีกทีหนึ่ง รัฐบาลพลเอกประยุทธ์โดยการกุมอำนาจของกลุ่ม 3 ป. ที่กุมการเมืองไทยมา 7 ปีกว่า คือบทสรุปของกลุ่มอำนาจที่ยึดกันมาตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2557 ถ้าเรารื้อถอนโครงสร้างอำนาจของทหารกลุ่มนี้ได้ โครงสร้างอำนาจอีกหลายกลุ่มที่กัดกินและครอบงำไทยมายาวนานหลายสิบปีก็จะพังไปพร้อมกับพลเอกประยุทธ์ เพราะคนเหล่านี้ทุ่มกับพลเอกประยุทธ์ไว้เยอะ
:: รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยต้องเริ่มที่ประชาชน ::
องคาพยพของพลเอกประยุทธ์รวมตัวกันสร้างระบอบนี้ขึ้นมา จัดวางพรรคพวกของตัวเองไปในกลไกต่างๆ ของรัฐและกลไกที่อยู่นอกรัฐด้วย ยึดกลุ่มทุน สื่อใหญ่ และหน่วยข้าราชการต่างๆ ที่มีมหาศาล แล้วถือร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นตราประทับ เป็นกลไกที่มาปกป้องระบอบที่ตัวเองสร้างไว้อีกทีหนึ่ง เมื่อแย่งอำนาจกันเสร็จแล้วก็เอารัฐธรรมนูญมาแปะว่าใครห้ามแย่งฉันนะ
การเมืองภาคประชาชน ต่างจากการเมืองในรัฐสภา เพราะเป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวที่เอื้อให้เราได้พูดความคิด เอื้อในการพูดถึงสิ่งที่เป็นจริงของสังคม เป็นสิ่งที่สังคมควรจะได้รับอย่างอิสระและเสรีมากกว่า เราควรใช้ขุมพลังนี้ในการทำลายระบอบประยุทธ์ให้ออกไป พอระบอบประยุทธ์หรือระบอบรัฐธรรมนูญ 2560 ถูกทำลายลงไปแล้ว เราก็มาคุยกันว่าเราต้องการการเมืองแบบไหน มีโครงสร้างประชาธิปไตยอย่างไร แล้วเราจึงร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยที่เราจะสร้างขึ้น
คำถามคือเราคิดยังไงที่ร่างรัฐธรรมนูญของฝ่ายประชาธิปไตยถูกคว่ำหมดเลย ผมก็ต้องตอบว่าต้องไล่ประยุทธ์ให้ได้จึงจะแก้ปัญหา ถ้าเราไล่ประยุทธ์และพรรคพวกออกจากตำแหน่งไปหมดแล้วเราต้องชัดเจนว่าระบอบทางการเมืองหลังจากไล่ประยุทธ์ไปแล้วจะเอายังไง ทำยังไงก็ได้ให้ขุมอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นขุมอำนาจทหาร ขุมอำนาจฝ่ายศักดินา สิ่งที่อยู่เหนือทหารขึ้นไป ขุมอำนาจเหล่านี้ต้องเคลียร์ออกแล้วตั้งระบบการเมืองกันใหม่ จึงจะสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อพิทักษ์ระบบการเมืองนั้นได้ ซึ่งรวมไปถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ด้วย
รัฐธรรมนูญควรเป็นข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันในอนาคตของคนไทย ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน ความคิดเห็นของประชาชนได้รับการรับฟัง และมี ส.ส.ร. เป็นตัวแทนที่เลือกเข้ามาร่างรัฐธรรมนูญ กลไกสืบทอดอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น กกต. หรือ ส.ว. แบบที่มีอยู่ต้องยกเลิก รวมถึงต้องเปิดทางสู่การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ด้วย นี่คือความต้องการของประชาชน
รัฐธรรมนูญต้องมีกลไกรองรับสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และมันจะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีพื้นที่กลางให้พูดคุย และพื้นที่กลางตรงนี้ก็เป็นไปไม่ได้ถ้าพลเอกประยุทธ์ยังอยู่ เพราะไม่เป็นแฟร์เกม ฝ่ายหนึ่งมีอำนาจ อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีอำนาจ และที่สำคัญที่สุด เนื้อหาใหญ่ของรัฐธรรมนูญที่ต้องพูดคุยกันให้มากคือรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ป้องกันตัวเองได้ ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญของเราไม่เคยรับรองสิทธิการพิทักษ์รัฐธรรมนูญเลย และใครคือผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
กรณีที่ผมยกตัวอย่างบ่อยคือการที่กษัตริย์สเปนไม่ยอมรับการรัฐประหาร เพราะองค์กษัตริย์เป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญจะมาเซ็นรับรองการรัฐประหารได้ยังไง ประเทศกรีซมีรัฐธรรมนูญมาจากประชาชนที่เขียนไว้เลยว่าห้ามมีการรัฐประหาร ถ้ามีการพยายามจะฉีกรัฐธรรมนูญนี้เกิดขึ้น ประชาชนสามารถลุกขึ้นมาปกป้องรัฐธรรมนูญได้ สามารถปกป้องการกระทำต่างๆ ได้ แต่ประเทศไทยไม่มีการคุ้มครองสิทธิในการให้ประชาชนออกมาต่อต้านการรัฐประหารหรือต่อต้านการละเมิดรัฐธรรมนูญได้เลย ถึงเวลารัฐประหาร ทหารก็ฉีกรัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรมให้ตัวเอง
รัฐธรรมนูญต้องคุ้มครองสิทธิในการต่อต้านของประชาชน สิทธิในการรักษาประชาธิปไตยของประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการเสนอเข้าไปในสภาแล้วก็มีการปัดตกแล้ว เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องสู้เพื่อเอาพลเอกประยุทธ์ออก
:: ข้อเสนอในหลักการประชาธิปไตย ::
ในเมื่อเขาไม่ยอมให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และหมวด 2 เราก็ต้องสู้จนกว่าจะให้แก้ไขได้ หลายคนมองว่าสิ่งนี้สุดโต่ง เรายืนยันว่าข้อเสนอนี้ไม่ใช่ข้อเสนอสุดโต่ง แต่พวกคุณต่างหากที่ล้าหลัง สิ่งที่เราเสนอคือหลักการการมีประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่ด้วย เราพยายามทำให้สองสิ่งนี้ไปด้วยกันได้ ดังนั้นมันคือมาตรฐานประชาธิปไตย 10 ข้อเสนอที่กล่าวไปถ้าขาดไปสักข้อ ระบอบที่คุณสร้างขึ้นมาก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปไตยมีหลายแบบ แต่หลักการของทุกแบบคือไม่มีอำนาจไหนใหญ่กว่าประชาชน อย่าไปมองว่าเราเสนอสูง เพราะนี่คือขั้นต่ำของความเป็นประชาธิปไตย เรื่องนี้สังคมก็ต้องถกเถียงกัน
รัฐธรรมนูญที่จะครอบคลุมคนทุกกลุ่มได้ คือรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย เกินครึ่งของข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ก็เป็นการมาตามแก้ปัญหาจากการที่พลเอกประยุทธ์ให้อำนาจสถาบันกษัตริย์อย่างเกินงาม ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขสิ่งนี้ แสดงว่าคุณยอมรับว่าสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ทำนั้นถูกต้องใช่หรือไม่ ทำไมเราต้องไปประนีประนอมกับมาตรฐานที่ต่ำ ในเมื่อเรากำลังเสนอมาตรฐานปกติ เราไม่ได้ล้มล้างล้มเลิกสถาบันใด เราขอให้เป็นเหมือนเดิม ในแบบที่เป็นประชาธิปไตย
หากมีคนเสนอว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นของประชาชนกลุ่มเดียว ไม่ใช่ทั้งหมด คุณต้องยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญและยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 ต้องเปิดให้พวกผมรณรงค์กันได้อย่างเสรีเท่ากับพวกคุณ ทุกวันนี้ไม่ว่าเราจะพูดเสียงดังแค่ไหนก็โดนปิดปาก โดนยัดข้อหาบ้าง ติดคุกบ้าง พอไม่เหลือใครพูดแล้วคุณก็บอกว่าคนส่วนมากเขาไม่ได้อยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ คุณปิดปากผมไว้ คุณก็ได้ยินแต่พวกคุณฝ่ายเดียวสิ
เราต้องเริ่มต้นจากการสร้างรัฐธรรมนูญ ข้อตกลงร่วมจะเกิดขึ้นได้จากการถกเถียง ในตอนนี้บรรยากาศในการถกเถียงไม่มีเลย ใครพูดอะไรก็โดนจับเข้าคุก แล้วรัฐธรรมนูญนี้จะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร ถ้าคุณคิดว่ายุติธรรมพอก็ต้องเปิดให้มีการถกเถียงเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ได้อย่างเสรี
สิ่งที่เราเสนอไม่ได้เกินเลยไปจากประชาธิปไตยแบบมีกษัตริย์เลย เรื่องพ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หรือการโอนอัตรากำลังพลก็เพิ่งมีสมัยรัฐบาลประยุทธ์ทั้งนั้น ในส่วนที่รัฐบาลประยุทธ์ทำไม่ถูกต้องเราก็อยากจะแก้ไข ถ้าทุกคนไม่มีสิทธิพูดหรือรณรงค์อย่างอิสระแล้วจะหาฉันทมติจากสังคมได้ยังไง
สังคมที่เอื้อให้เกิดการพูดคุยที่แตกต่างหลากหลายได้คือสังคมที่ทุกคนยอมรับว่า ไม่ว่าจะคิดต่างกันอย่างไรทุกคนเป็นคนไทย ทุกคนเป็นเจ้าของประเทศนี้ร่วมกัน ดังนั้นทุกคนมีสิทธิพูด ทุกคนมีสิทธิขับเคลื่อนไปตามทางที่ตัวเองอยากได้โดยไม่มีใครติดคุก ไม่มีใครถูกทำร้าย เป็นสังคมที่มีกติกา และเป็นกติกาที่แฟร์สำหรับทุกคน เป็นกติกาที่เขียนร่วมกันทุกคนและทุกคนยอมรับในกติกานั้น ตอนนี้กติกาที่ออกมาเป็นกติกาที่ออกโดยผู้มีอำนาจฝ่ายเดียว ถ้าจะสร้างสังคมที่ทุกคนมีความสุข เราก็ต้องสร้างสังคมที่ปลอดภัยพอที่จะพูดอะไรก็ได้ในทางการเมืองแล้วไม่ถูกทำร้าย
:: ระบบ(อ)ยุติธรรม ::
ระบบยุติธรรมไทยเป็นกระบวนการที่โหดร้ายมาก คนจำนวนมากที่อยู่ในคุกเขาไม่ได้มีความผิดอะไรเลย ศาลยังไม่ตัดสินเลยแต่ไม่ให้เขาประกันตัว สิทธิการประกันตัวควรจะเป็นมาตรฐาน
ระบบยุติธรรมไทยมีความคิดว่าเอาคนเข้าคุกมากเป็นเรื่องดี หลายคนมักลืมว่าการใช้อำนาจในกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องการเมืองด้วย มันคือการใช้อำนาจต่อคน คนมีอำนาจทางการเมืองมักถูกตรวจสอบการใช้อำนาจโดยสื่อหรือประชาชน แต่คนอย่างตำรวจ อัยการ ศาล ที่มีการใช้อำนาจจับคนขังได้ จับคนยิงเป้าได้ แต่ไม่ค่อยมีใครตรวจสอบการใช้อำนาจของคนเหล่านี้ ตำรวจจะมีโควตาว่าเดือนนี้ต้องทำยอดคดีเท่าไหร่ อัยการก็จะมีวัฒนธรรมการทำงานว่าเดือนนี้ต้องส่งฟ้องคนเท่าไหร่ คนกลุ่มนี้ไม่ได้คิดเลยหรือว่าการส่งคนไปขัง การทำให้คนมีคดีติดตัวเป็นการทำลายชีวิตคน เพราะการส่งคนไปขังไม่ว่าเขาจะทำผิดจริงหรือไม่ มันก็คือการตีตราเขาว่าคุณทำผิด เราอย่าปล่อยอำนาจไว้ในมือใครโดยไม่มีการตรวจสอบ เพราะจากเดิมที่เป็นอำนาจเฉยๆ จะกลายเป็นอำนาจบาตรใหญ่
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดในเรือนจำคือผู้คุมไม่ถูกตรวจสอบ เพราะคนข้างนอกไม่สามารถเข้าไปดูได้ว่าในคุกเป็นยังไง ทำให้ผู้คุมมีโอกาสในการวางอำนาจกับนักโทษอย่างเต็มที่ มีเหตุการณ์หลายอย่าง เช่น ผมจะเอาเอกสารไปคุยกับทนายเพื่อเตรียมเรื่องการสู้คดี จะเอาเอกสารไปอ่านก็ต้องถูกตรวจสอบก่อนว่าเอกสารเรื่องอะไร เขียนไว้ว่าอย่างไร แต่คุณเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วผมสู้คดีกับรัฐ คุณจะมาขออ่านได้ยังไง แล้วผมจะสู้อะไรได้ มันคือภาวะเสพติดอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกิดขึ้น
ตอนผมไปตามนัดคดีความ ผมถามศาลว่า คุณขังผมไว้แล้วคุณจะฟ้องผมต่อ ผมต้องคุยกับทนายความก่อนว่าจะเตรียมคดีกันยังไง แต่ทนายเพิ่งติดโควิดมาศาลไม่ได้ ศาลก็ถามว่าทำไมไม่ไปจ้างทนายคนอื่น ซึ่งธรรมเนียมการว่าความก็ต้องให้คู่ความพร้อมที่จะต่อสู้ หลายครั้งคนที่ไม่รู้เรื่องกฎหมายพอโดนคดีแล้วตำรวจเรียกไปแจ้งข้อหาและเตรียมทนายให้ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ ผู้ต้องหาไม่สามารถไว้วางใจได้ ทนายแค่มานั่งฟังเฉยๆ แล้วก็อ้างว่ามีทนายแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาไปหาทนายมาก่อน เรื่องเหล่านี้เป็นกลไกในกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นอำนาจที่น่ากลัว เป็นอำนาจที่เราควรช่วยกันตรวจสอบให้มากขึ้น
:: พันธมิตรในการต่อสู้ ::
บทเรียนจากการเคลื่อนไหวสองปีที่ผ่านมา มีแนวทางประสานพลังของขบวนการประชาธิปไตยที่เต็มไปด้วยความแตกต่างหลากหลายอย่างไรให้นักประชาธิปไตยต่างความคิดทำงานร่วมกันได้
ขบวนการของพวกเรามีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันมาก ความไม่พอใจต่อพลเอกประยุทธ์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนทุกกลุ่ม หลักการที่สำคัญที่สุดคือการแสวงจุดร่วมและสงวนจุดต่าง เราต้องยึดถือหลักการเป็นสำคัญว่าเรากำลังสู้เพื่อหลักการอะไร แล้วยึดหลักการเป็นสำคัญ เราเปิดพื้นที่ให้ทุกคน มีกลุ่มผู้ปราศรัยมาจากหลากหลายประเด็น ไม่ว่าจะเรื่องระบบการศึกษา ความหลากหลายทางเพศ ผมบอกเลยว่าทำให้เต็มที่ เพราะนี่เป็นพื้นที่ที่เรามีและใช้ร่วมกัน หากเราเห็นพ้องต้องกันในสามข้อเรียกร้องหลัก ทุกคนสามารถพูดสิ่งที่ตัวเองอัดอั้นโดยสามารถขับเคลื่อนทางการเมืองไปพร้อมกันได้
ขณะนี้จุดยืนและแนวทางของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมกับ REDEM เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
เราสองกลุ่มมีแนวทางการต่อสู้เป็นของตัวเอง แต่ไม่ว่ากลุ่มไหนเราก็ต่อสู้เหมือนกัน ทางกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมจะมีจุดเด่นที่การเน้นเรื่องการเติมประเด็นและข้อมูล ยึดมั่นในการรักษาความสงบในที่ชุมนุม ทุกวันนี้เราอาจเห็นหลายกลุ่มออกมาคนละวัน คนละเวลา แต่มันคือขบวนการประชาธิปไตยเหมือนกัน คุณก็สามารถดูได้ว่าจริตการต่อสู้แบบไหนคือแบบที่คุณใช่ แต่ทุกพลังคือพลังประชาธิปไตย ตราบใดที่คุณยังเห็นด้วยกับสามข้อเรียกร้อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนถ้าอยู่ในขบวนการเดียวกันก็คือพันธมิตรกัน คือสหายที่ต้องต่อสู้ไปด้วยกัน อาจจะมีแนวทางและจริตที่แตกต่างกัน แต่ก็ให้มวลชนเป็นผู้ตัดสิน
ช่วงที่เพนกวินอยู่ในเรือนจำ คุณทักษิณ ชินวัตร กลับมาในโฉมใหม่คือ Tony Woodsome ประเมินการกลับมามีบทบาททางการเมืองครั้งนี้ว่าจะส่งผลต่อขบวนการประชาธิปไตยอย่างไร
ผมยินดีที่คุณทักษิณออกมาพูดถึงสถานการณ์ในประเทศไทย แม้คุณทักษิณไม่ได้พูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์มากนัก แต่มันก็ไม่ใช่การกดเพดาน ถ้าเพดานพังไปแล้วจะกดเพดานได้อย่างไร ตราบใดที่คนรุ่นใหม่ตั้งคำถามกับคุณทักษิณว่าคุณเห็นด้วยกับการยกเลิกมาตรา 112 หรือไม่ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับสถาบันกษัตริย์ มันสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าคุณทักษิณจะคิดเห็นอย่างไร มวลชนของเราที่ตาสว่างแล้วก็จะไม่กลับไปหลับตาอีก นี่คือโจทย์ของคุณ Tony มากกว่าว่าจะวางตัวอย่างไรในขบวนการที่มวลชนตาสว่างกันแล้วทั้งรุ่น
มวลชนเป็นผู้ตัดสินเรื่องการเคลื่อนไหว อะไรที่เสนอมาแล้วคนไม่เห็นด้วยก็ไปต่อไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรเราก็อยู่ในเรือลำประชาธิปไตย ใครพายมากพายน้อย พายแข็งขันเท่าไหร่ก็ยังอยู่ในเฉดเดียวกัน ยังร่วมต่อสู้กันไป ถ้ามวลชนกำหนดมาตรฐานตัวเองแล้วก็ไม่มีใครมาลดมาตรฐานแทนกันได้
ผมชื่นชมหลายสิ่งที่คุณทักษิณทำแล้วดี แต่ก็อยากชวนคุณทักษิณมองภาพต่อไปว่าเขาคิดอย่างไรกับหลายๆ สิ่งที่เขาพยายามจะทำทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี จนประเทศไทยมาถึงทุกวันนี้ เพราะโครงสร้างทางการเมืองที่คุณหลีกเลี่ยงยังไม่สู้อย่างเต็มที่ และอยากถามว่าคิดอย่างไรที่เรากำลังสู้กับโครงสร้างที่ล้าหลังและโหดร้ายอยู่ ซึ่งมันเคยทำร้ายคุณมาแล้ว และวันนี้คุณจะสู้กับโครงสร้างนี้ไหม