fbpx
Operation Chromite : เมื่อเกาหลีใต้เกือบสูญพันธุ์

Operation Chromite : เมื่อเกาหลีใต้เกือบสูญพันธุ์

วรากรณ์ สามโกเศศ เรื่อง

 

สนามบินอินชอน (Inchon) ของเกาหลีใต้เป็นที่คุ้นหูของนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวเกาหลี ในยุคก่อนที่ญี่ปุ่นจะยอมให้คนไทยเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า อย่างไรก็ดี ถ้าพลิกประวัติศาสตร์ไปเกือบ 67 ปี ก็จะพบว่า “อินชอน” แห่งนี้คือสถานที่ประวัติศาสตร์ที่ทำให้ยังคงมีเกาหลีใต้อยู่ในวันนี้

ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1910-1945 ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีทั้งประเทศ แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม 1945 หลังจากเยอรมันพ่ายสงครามไม่กี่เดือน ฝ่ายพันธมิตร ผู้ชนะ ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นหัวหอก ก็เข้าไปจัดการกับ “เมืองขึ้น” นี้ของญี่ปุ่นทันที แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างนั้น

ก่อนหน้านั้นสหภาพโซเวียตซึ่งได้ตกลง “แบ่งเค้ก” กับเพื่อนพันธมิตรในเดือนกุมภาพันธ์ 1945 เพราะมั่นใจว่าชนะญี่ปุ่นแน่นอน ก็ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น 2 วันหลังจากที่สหรัฐอเมริกาหย่อนระเบิดปรมาณูลงเมืองฮิโรชิมาในวันที่ 8 สิงหาคม 1945 และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็บุกเข้ายึดส่วนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี ฝ่ายสหรัฐอเมริกาบุกเข้ายึดพื้นที่ทางใต้ ต่างฝ่ายต่างตั้งป้อมกันทั้งๆ ที่ได้ร่วมมือกันรบกับเยอรมัน แต่เนื่องด้วยอุดมการณ์ที่แตกต่างกันมาก หลังสงครามแล้วจึงเกิดบรรยากาศเริ่มต้นของสงครามเย็น

ฝ่ายสหภาพโซเวียตสนับสนุนระบอบคอมมิวนิสต์ภายใต้การนำของคิมอิลซุง ฝ่ายสหรัฐอเมริกาสนับสนุนซิงมันรี ต่างฝ่ายต่างไม่รับรองสถานะของกันและกัน แต่ไม่มีการรบกันอย่างเปิดเผย ต่อมา สหรัฐอเมริกาลาก “เส้นขนาน 38” แบ่งคาบสมุทรเกาหลีออกเป็นเหนือ-ใต้ สหภาพโซเวียตก็เห็นชอบ ประชาชนเกาหลีจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน

การเมืองภายในเกาหลีและ “สงครามเย็น” ร้อนขึ้นเป็นลำดับ ภายใต้ความหวาดหวั่นว่าสหภาพโซเวียตจะใช้กำลังฮุบทั้งคาบสมุทรให้เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ การปลดปล่อยเกาหลีให้เป็นอิสระโดยไม่มีการแบ่งแยกจึงล้มเหลว

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 องค์การสหประชาชาติถูกก่อตั้งขึ้น โดยสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตรเป็นผู้ผลักดัน สหภาพโซเวียตก็เป็นสมาชิกใหญ่อยู่ด้วย องค์การสหประชาชาติถูกใช้เป็นเครื่องมือในการหยุดอิทธิพลของสหภาพโซเวียตในคาบสมุทรเกาหลี

อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะใช้มติองค์การสหประชาชาติที่สหภาพโซเวียตไม่ร่วมลงมติด้วยในการสร้างแรงผลักดันให้เป็นเกาหลีเดียวภายใต้อิทธิพลของโลกตะวันตก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ในวันที่ 25 มิถุนายน 1950 กองกำลังเกาหลีเหนือภายใต้การสนับสนุนของสหภาพโซเวียตและจีนอย่างไม่ปิดบัง ก็บุกข้ามเส้นขนาด 38 เพื่อฮุบทั้งคาบสมุทร

ฝ่ายใต้ ถึงแม้จะมีสหประชาชาติ (ลบสหภาพโซเวียต) สนับสนุนก็ตั้งตัวไม่ติด เกาหลีเหนือบุกเข้ายึดเมืองต่างๆ อย่างรวดเร็วด้วยกำลังพล 1.7 ล้านคน (1.4 ล้านคน จากจีน, 266,000 คน จากเกาหลีเหนือ และ 26,000 คน จากสหภาพโซเวียต) ส่วนฝ่ายตรงข้ามที่ตั้งรับ มีกำลังน้อยกว่า แค่ประมาณ 1 ล้านคน (600,000 คน จากเกาหลีใต้ และ 326,000 คน จากสหรัฐอเมริกา ส่วนที่เหลืออีกเป็นหลักพันและหลักร้อยมาจากสมาชิกแต่ละประเทศ ไทยก็ส่งกำลังพลเข้าร่วมด้วยจำนวน 1,290 คน) แถมระดมมาได้ช้ากว่า จึงถอยร่นไม่เป็นขบวน

ถึงจุดนี้ ผู้เขียนอยากเล่าถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ออกฉายเมื่อปี 2016 ชื่อ Operation Chromite  ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 1950 ในยามที่เกาหลีใต้ถูกบุกอย่างหนัก และถูกยึดพื้นที่เกือบหมดแม้กระทั่งโซลซึ่งเป็นเมืองหลวง

นายพล ดักลาส แมกอาร์เธอร์ (Douglas MacArthur) วีรบุรุษสงครามของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังดูแลงานยึดครองญี่ปุ่น ถูกส่งให้มาช่วยบัญชาการเพื่อยึดพื้นที่เกาหลีใต้คืนมาในนามของกองกำลังสหประชาชาติ

แมกอาร์เธอร์ตัดสินใจยกพลขึ้นบกที่เมืองอินชอน ซึ่งอยู่ห่างจากโซลประมาณ 27 กิโลเมตร บริเวณนี้คลื่นลมแรงมาก จนทำให้นายพลหลายคนไม่เห็นด้วย เพราะเต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่แมกอาร์เธอร์แย้งว่านั่นยิ่งทำให้เกาหลีเหนือคาดไม่ถึง

นายพล ดักลาส แมกอาร์เธอร์ (คนกลาง ถือกล้อง) ในสมรภูมิอินชอน, กันยายน 1950 | ที่มาภาพ: เว็บไซต์ Hudson Institute

 

กำลังสำคัญของแมกอาร์เธอร์ก็คือกลุ่มทหารเกาหลีใต้สิบกว่าคน ซึ่งถูกส่งเข้าไปเป็นจารชนแทรกซึมอยู่ในกลุ่มผู้นำเกาหลีเหนือมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้  

จากการประสานงานของซีไอเอ กองทัพอเมริกัน และทหารเกาหลีใต้ที่ยอมเสี่ยงตายกลุ่มนี้ (ซึ่งสุดท้ายก็ตายทั้งหมด) ทำให้กองกำลังสหประชาชาติสามารถยกพลขึ้นบกที่อินชอนได้สำเร็จ โดยมีทหารเกาหลีใต้แอบช่วยเหลืออยู่บนชายฝั่ง

เรือรบของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาโจมตีอินชอน เพื่อเตรียมขึ้นฝั่ง, กันยายน 1950 | ที่มาภาพ: เว็บไซต์ World Atlas

ศึกครั้งนี้มีชื่อว่า Battle of Inchon สู้รบกันเป็นเวลา 5 วัน (15-19 กันยายน 1950) ชัยชนะของฝ่ายสหประชาชาติในศึกครั้งนี้เป็นตัวเปลี่ยนโมเมนตัมของสงครามเกาหลีโดยแท้  ถือได้ว่าเป็นชัยชนะเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ เพราะอีก 2 อาทิตย์ต่อมาก็สามารถยึดโซลคืนมาได้  และในที่สุดฝ่ายกองกำลังสนับสนุนเกาหลีเหนือทั้งหมดต้องถอยร่นกลับไปในเวลา 3 ปีต่อมา เป็นการสิ้นสุดสงครามเกาหลี (ค.ศ. 1950-1953) 

กองทัพสหประชาชาติยกพลขึ้นบกในสมรภูมิอินชอน, 15 กันยายน 1950 | ที่มาภาพ: เว็บไซต์ boston.com

 

Operation Chromite เป็นชื่อโค้ดของปฏิบัติการที่อินชอนในครั้งนั้น ใช้เรือทั้งสิ้น 261 ลำ ใช้กองกำลังทหาร 75,000 คน ฝ่ายสหประชาชาติเสียชีวิต 222 คน บาดเจ็บ 800 คน ส่วนฝ่ายเกาหลีเหนือเสียชีวิต 1,350 คน

 

นายพล ดักลาส แมกอาร์เธอร์ ในสมรภูมิอินชอน, 19 กันยายน 1950 | ที่มาภาพ: เว็บไซต์ boston.com


เมืองอินชอนจึงถือได้ว่าเป็นเมืองประวัติศาสตร์สำคัญของเกาหลีใต้ ถ้าไม่ได้รับชัยชนะที่อินชอน ก็มีความเป็นไปได้ว่าเกาหลีใต้จะถูกยึดครองทั้งหมด ทั้งคาบสมุทรอาจกลายเป็นประเทศเกาหลีเหนือไป

ในช่วงสงครามเกาหลีครั้งนั้น คนไทยได้รู้จักเกาหลีผ่านเพลงรัก “อารีดัง” และได้ยินเรื่องราวแห่งความทุกข์ยากลำบากของคนเกาหลี ต่อมาในยุคทศวรรษ 1970 คนไทยรู้จักการพัฒนาชนบทแนว “แซมมวล อุนดอง”  วันเวลาผ่านมาถึงวันนี้ นับจากสิ้นสงครามเกาหลีก็ 64 ปี คนเกาหลีใต้มีรายได้เฉลี่ยต่อปีสูงประมาณ 5 เท่าของคนไทย 

คำถามน่าคิดก็คือคนไทยทำอะไรกันอยู่ในช่วง 64 ปีนี้

สงครามเกาหลีทำให้ฝ่ายเกาหลีเหนือเสียชีวิตประมาณ 360,000-750,000 คน ในจำนวนนั้นมีคนจีนเสียชีวิต 152,000-183,000 คน คนเกาหลีเสียชีวิต 215,000-350,000 คน และสูญหาย 120,000 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีประมาณ 686,000-789,000 คน  ส่วนฝ่ายเกาหลีใต้เสียชีวิตประมาณ 178,000 คน บาดเจ็บ 566,434 คน ในจำนวนนั้นมีคนเกาหลีเสียชีวิต 137,899 คน คนอเมริกันเสียชีวิต 36,574 คน และคนชาติอื่นรวมเสียชีวิตไม่เกิน 10,000 คน มีคนไทยอยู่ด้วย 129 คน

ไม่รู้ว่าสงครามเกาหลีทำให้มีผู้คนเสียน้ำตากี่ล้านคน ครอบครัวต้องสูญเสียลูกหลานกี่ครอบครัว ญาติพี่น้องต้องพลัดพรากจากกันกี่ครอบครัว และคนเกาหลีไม่ว่าฝ่ายเหนือหรือใต้เสียชีวิตรวมกันทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ความสูญเสียทั้งหมดนี้เป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่ และจะต้องตายกันอีกมากเท่าใด คาบสมุทรนี้จึงจะมีสันติภาพอย่างถาวร

ความสูญเสียทั้งหมดนี้คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับตอบแทนกลับมาในวันนี้หรือไม่?

MOST READ

World

1 Oct 2018

แหวกม่านวัฒนธรรม ส่องสถานภาพสตรีในสังคมอินเดีย

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก สำรวจที่มาที่ไปของ ‘สังคมชายเป็นใหญ่’ ในอินเดีย ที่ได้รับอิทธิพลสำคัญมาจากมหากาพย์อันเลื่องชื่อ พร้อมฉายภาพปัจจุบันที่ภาวะดังกล่าวเริ่มสั่นคลอน โดยมีหมุดหมายสำคัญจากการที่ อินทิรา คานธี ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก

1 Oct 2018

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save