fbpx

[ความน่าจะอ่าน] เกิดขึ้น รักอยู่ รักไป: ‘โปรดโอบกอดมนุษย์ลูกด้วยหัวใจ’ และปล่อยมือให้ได้เมื่อถึงเวลา

“หนูเกิดมาจากความรักจริงๆ” 

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ให้เราเลือกใหม่ เราก็จะเลือกเหมือนเดิม….เลือกที่จะมีหนู (หน้า 140)

ไม่ใช่แค่หน้า 140 แต่คำว่า ‘คุณ’ ถูกแทนทับด้วย ‘เรา’ ในทุกๆ หน้าของเล่ม ‘โปรดโอบกอดมนุษย์ลูก’ หนังสือเล่มล่าสุดของ ‘พี่แหม่ม’ วีรพร นิติประภา ที่บอกไว้ในคำนำว่าอยากช่วยพ่อแม่มองหาและมองเห็นรายละเอียดระหว่างเส้นทางการเลี้ยงดูลูก

สำหรับแม่ของลูกมัธยมปลายที่วัยห่างกัน 26 ปี การเลี้ยงดูอาจจะน้อยลงหากสิ่งที่เพิ่มขึ้นคือความเป็นเพื่อน แต่การหัดเป็นเพื่อนกับคนที่คุณรักและรักคุณมากที่สุดในชีวิต มันไม่ง่ายเลย 

“คุณจำเป็นต้องทำตัวให้เขารักในฐานะมนุษย์คนหนึ่งด้วย” (หน้า 54)

ในฐานะแม่ ลูกรักเราโดยไม่มีเงื่อนไขอยู่แล้ว แต่ในฐานะมนุษย์ โจทย์ยากที่สุดคือ เราต้องเรียนรู้ที่จะเคารพซึ่งกันและกันในฐานะมนุษย์ ความสัมพันธ์แม่ลูกทางสายเลือดจึงจะขยับไปสู่การเป็น ‘เพื่อนชีวิต’ ที่เอาไว้สู้กับความเดียวดายมากมายในโลก

มันไม่ใช่แค่การบอกลูกว่า “เรามาเป็นเพื่อนกันนะ” หรือรู้จักถึงขั้นว่าเพื่อนลูกทุกคนเป็นติ่งวงอะไร แต่คือการที่เขาหันไปทางไหน เราอยู่ตรงนั้นเสมอ 

สำหรับเรา หนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่คู่มือการเลี้ยงลูก แต่คือไทม์แมชชีนพาเราลงลิ้นชักทวนเข็มนาฬิกากลับไปตรวจสอบว่า เราได้อยู่ตรงนั้นเสมอหรือเปล่า 

เคียงข้างลูกในห้วงทุกข์

“ลูกจะต้องเผชิญโลก ผ่านชีวิตและแบกเก็บความทุกข์ทั้งหลายเอาไว้แต่ข้างในใจ ไม่อาจบอกเล่า ไม่อาจแบ่งปันกับใคร ไม่อาจกระทั่งมีคุณอยู่เคียงข้าง…

ให้เกียรติตัวเองได้เคียงข้างลูกขณะที่คุณยังสามารถ ปล่อยให้เขาได้ละเลียดรสเค็มขมของน้ำตา” (หน้า 34)

5 ปีก่อน ตอนที่ลูกรู้ว่าสอบไม่ติดโรงเรียนที่อยากเข้า เราพากันเดินกลับมาที่รถ ยังไม่สตาร์ต ฟ้าข้างนอกจ้ามาก ต่างจากในรถที่ทั้งเงียบและมืด 

แต่เสียงร้องไห้ก็ทำลายความเงียบในไม่กี่วินาทีต่อมา มันเป็นเสียงร้องไห้ที่กรีดและคว้านลึกสุดหัวใจ เป็นความเจ็บปวด เป็นแผลที่แม่ พ่อหรือใครๆ ไม่สามารถทายาให้แล้วปลอบเหมือนเคยว่าเดี๋ยวก็หาย 

ไม่มีสิ่งใดๆ ในโลกที่ปลอบประโลมความฝันอันพังทลายได้–บาดแผลต้องใช้เวลา 

“ลูกต้องเข้าใจว่าทุกข์โศกเป็นเรื่องที่คนคนหนึ่งจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงคนเดียว และไม่มีใครต้องชดเชย” (หน้า 37)

มีแต่คำว่าไม่เป็นไรตลอดทางกลับบ้าน แม่รู้ดีว่ามันไม่ช่วยอะไร น้ำตาที่ไหลไปพร้อมๆ กับลูกก็เช่นเดียวกัน แต่อย่างน้อยงานครึ่งวันบ่ายที่ลาวันนั้นมันก็ทำให้เราได้อยู่ใกล้กัน ร่วมทุกข์กัน กินข้าวต้มกัน คืนนั้นเราทั้งคู่หลับไปพร้อมน้ำกลบตา แต่เราก็กอดกัน 

ลูกแม่ต้องไม่เสียใจอย่างเดียวดายตามแต่ลำพัง

เราต้องเป็นเพื่อนชีวิตของลูกให้ได้ 

ถ้าความเป็นเพื่อนคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ชีวิตคู่ยืนยาว ตรรกะเดียวกันนี้ก็น่าจะใช้ได้กับความสัมพันธ์แม่-ลูก 

“โปรดอย่ามองความรักของเขาเป็นของตาย อย่าให้ความคิดที่ว่าไม่ว่าอย่างไรเขาก็รักหรือต้องรักคุณ” (หน้า 54)

ในความหมายนี้ ความรักจึงต้องมาพร้อมความเคารพกันและกันในฐานะมนุษย์ เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตตรงหน้ามีเหตุผล มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและมีอิสรภาพ 

โดยเฉพาะอิสรภาพในการแสดงออกทางการเมือง 

วันนั้นคือวันแรกที่ลูกขอไปม็อบกับเพื่อน พักเบรกช่วงสายนางสาววัยสิบห้าส่งข้อความมาขออนุญาต 

“ดูแลตัวเองนะ” ค้นกล่องข้อความย้อนหลังพบว่าตอบไปเท่านี้จริงๆ

“ความเฉยชาต่อชีวิตเป็นเรื่องน่ากลัวที่สุดของการมีชีวิตอยู่ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยากทำอะไร มีชีวิตแบบไหนเพราะสังคมเราพร่ำสอนคนแต่สิ่งที่ต้องทำ ควรทำ โดยมองข้ามความหลงใหลใฝ่ฝัน มองข้ามความชอบ ความสนุกสนาน ความถนัด และสีสันของชีวิตไป (หน้า 85)

ตรงข้ามกับความเฉยชา สิ่งที่ลูกทำคือเห็นทุกข์ร้อนของตัวเองและผู้อื่น ยังไม่ทันเข้ามหาวิทยาลัยแต่แม่อุ่นใจเมื่อรู้ลูกว่าอยากทำอะไร อยากมีชีวิตแบบไหน ไม่มองข้ามแต่ทำตามความหลงใหลและใฝ่ฝันถึงอนาคตที่ดีงาม

“คิดถูกมั้ยที่ไปวันนี้” 

“ถูกมากค่ะ หนูได้ประสบการณ์มากเลย” น้ำตาคลอที่แม่เห็น สะอาดใสกว่าน้ำที่ฉีดใส่ชุดนักเรียนหนูค่ำวันนั้นราวฟ้ากับเหว 

ปล่อยมือให้ได้ 

“อธิบายกับลูกให้เข้าใจว่าคนสามารถรักกันและเลิกรักกันได้เมื่อเวลาผ่านไปและรู้จักกันมากขึ้น… การทนอยู่ร่วมกัน ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป… คุณพยายามแล้วแต่พบว่าการแยกทางกันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และมันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น….

โปรดให้ความยุติธรรมกับลูก พึงระลึกไว้เสมอว่าเขารักคุณทั้งสองคน และต้องการคุณสองคนเท่าเทียม” (หน้า 108)

ในวันที่ลูกยังพูดเป็นคำไม่ได้  มาตาธิปไตยเดียวที่เราใช้คือการหัดให้เรียกด้วยคำว่า ‘หม่ามี้’ แทนแม่ อาจฟังดูไร้สาระแต่เพราะต้องการทำลายมายาคติบางอย่างของแม่ที่ดี ลูกที่ดี และครอบครัวที่ดี

ไม่มีมนุษย์คนไหนดีและชั่ว 100% แม่กับลูกก็เช่นกัน  

แม่ไม่สั่งอาหารที่ชอบ แต่จะคอยกวาดกินของที่เหลือจากลูก — ไม่ใช่เรา

มีความทุกข์ท่วมแค่ไหน ไม่ปริปากบอกลูก ทรมานแค่ไหนแม่จะบอกว่าสบายดี — ไม่ใช่เรา

เชื่อฟัง ตั้งใจเรียน ใช้เวลาว่างอย่างเป็นประโยชน์ — ไม่ใช่ลูกเรา

เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม — ยิ่งไม่ใช่ลูกเรา 

แต่สิ่งที่เราทำคือ เป็นเพื่อนชีวิตซึ่งกันและกัน เพื่อนทางสายเลือดที่เห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อนต่างวัยที่โอบกอดกันในวันที่คนทั้งโลกเกลียดและเหยียดเรา 

จนมั่นใจว่าในหลายๆ พันล้านชีวิต มันต้องมีสักคนในโลกที่คอยโอบกอดกัน โดยไม่ต้องรอและร้องขอด้วยคำว่า ‘โปรด’ 

แม้ในวันที่ต่างฝ่ายต่างต้องปล่อยมือกันให้ได้ วงแขนล่องหนของเรายังตวัดรัดแน่นแต่ไม่อึดอัด 

นี่คือความหมายของชีวิตที่ดี แม้ความหมายของคำว่าครอบครัวจะไม่เหมือนเดิม 

MOST READ

Spotlights

14 Aug 2018

เปิดตา ‘ตีหม้อ’ – สำรวจตลาดโสเภณีคลองหลอด

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย พาไปสำรวจ ‘คลองหลอด’ แหล่งค้าประเวณีใจกลางย่านเมืองเก่า เปิดปูมหลังชีวิตหญิงค้าบริการ พร้อมตีแผ่แง่มุมเทาๆ ของอาชีพนี้ที่ถูกซุกไว้ใต้พรมมาเนิ่นนาน

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Aug 2018

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save